พูดถึงเกาะเกร็ด ทุกคนคงจะนึกถึงของกินอร่อยๆในที่ให้ทุกคนได้เดินไปชิมไปในตลาดใช่มั้ยคะ
แต่ถึงอย่างนั้นเกาะเกร็ดแห่งนี้ก็ยังมีคาเฟ่อันแสนลึกลับซ่อนตัวอยู่ในสวนด้วยนะ
คาเฟ่แห่งนี้มีชื่อว่า "GLASTRON Club House and HIP CAFE'"
ซึ่งเราบังเอิญไปเจอคาเฟ่ลับแห่งนี้นั้นซ่อนตัวอยู่ในสวนผลไม้แห่งนึงข้างคลอง บนเรือนไทยอันแสนเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี
บรรยายากาศจะเป็นยังไงนั้นตามมาดูเลยดีกว่าค่ะ
เมื่อเดินผ่านสวนผลไม้ ไม่ต้องกลัวหลงเลยล่ะ เพราะมีป้ายบอกทางอยู่ปากทางเข้าพร้อมเจ้าของผู้แสนอัธยาศัยดีคอยเชื้อเชิญให้ทุกคนเข้าไป
ส่วนบรรยากาศนั้น สงบร่มรื่น และสุดขลังเหมือนมีมนต์สะกดกันตั้งแต่สัมผัสทางเข้าเลยล่ะ
เมื่อเดินเข้ามาข้างในตัวคาเฟ่ถึงกับต้องร้องว้าวกับความสวยงามของตัวบ้านเรือนไทยเก่าแก่อายุร้อยกว่าปีที่เห็นตรงหน้า
เมื่อบวกกับบรรยาศรมรื่นริมคลอง ลมเย็นๆที่พัดผ่านมาตลอดเวลาแล้วนั้น เหมือนเราได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อร้อยปีที่แล้สจริงๆเลยล่ะ
พี่เจ้าของเรือนไทยก็ชวนพูดคุยพร้อมเล่าประวัติเรือนไทยให้ฟังอย่างสนุกสนานเป็นกันเอง ประหนึ่งว่าเรามีไกด์ส่วนตัวกันเลยทีเดียว
ซึ่งถ้าใครแค่อยากเข้ามาถ่ายรูปก็ได้เหมือนกันค่ะ พี่เจ้าของก็ยังคงใจดีเป็นไกด์คอยพูดคุยให้เหมือนเดิม
ซึ่งขอบอกเลยว่าคาเฟ่นี้นั้น ด้วยมนต์สเน่ห์แห่งคาวมขลังและความอลังการ ปราณีตของเรือนไทยเก่าแก่ ทำให้มันช่างดูสวยไปทุกมุมเลยล่ะ
แค่เข้ามาถ่ายรูปก็คุ้มแล้วจริงๆค่ะ
เมื่อมองออกไปนอกคาเฟ่ เราก็จะได้พบเจอกับบรรยากาศแบบนี้
ลมเย็นๆที่โชยมาตลอดเวลา เพลงเพราะๆที่เปิดคลอไว้ นั่งมองเรือผ่านไปผ่านไป
ทำให้แทบไม่อยากไปไหนเลยล่ะ
ซึ่งที่นั่งจะมีให้เลือกสองโซนค่ะ
โซนแรกจะเป็นโซนเอ้าดอร์ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการบรรยากาศชิวๆริมคลอง และคู่รัก เพราะมันโรแมนติกมากกก
ส่วนโซนที่สองจะเป็นโซนอินดอร์ มีที่นั่งมีหมอนอิงบริการสบายๆ แถมได้หลบแดด นั่งยาวๆได้ไม่เบื่อเลยล่ะ
มุมเด็ดของโซนเอ้าดอร์ก็จะเป็นตรงนี้เลย
ได้ทั้งนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินทางด้ารซ้ายของตัวเรือไทยและใกล้ชิดกับบรรยากาศริมคลอง
ทั้งชิว ทั้งโรแมนติก จะพาเพื่อนมานั่งชิวหรือพาคนรักมาเดทก็เวิร์คค่ะ
อาหารที่นี่นั้นก็มีเป็นเครื่องดื่มทั่วไป กาแฟ ชา ชานาม ชาเขียว
ของหวานก็มีเป็นจำพวกโรตี ขนมปังปิ้ง
ถ้าใครหิวมาก อาหารจานเดียวเค้าก็มีบริการนะคะ
ขอบอกว่าน่าทานทุกอย่างเลยล่ะ ราคาก็ไม่แพง ซึ่งเครื่องดื่มจะตกอยู่ที่ประมาณ 55 - 90 บาท
ของหวานและอาหารจานเดียวเริ่มที่ 45 ไปจนถึง 150 เท่านั้นเอง
และแล้วเมนูที่สั่งก็มาถึง วันนี้เราสั่งเป็นโรตีกล้วย กับชานมและชาเชียวค่ะ
เครื่องดื่มจะไม่หวานมาก มีกลิ่นหอมอ่อนๆของชา เมื่อกินคู่กับของหวานอย่างโรตีกล้วยกรอบนอก นุ่มในแบบนี้แล้วนั้น ลงตัวมากๆเลยล่ะ
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มตกดินก็มีสวมวิญญาณคุณท่าน ออเจ้าในร่างนางแบบ นายแบบกันได้เลย
บอกแล้วค่ะ ว่ามุมถ่ายรูปที่นี่น่ะ เด็ดจริงๆ รับรองได้รูปสวยๆกลับไปแน่นอน
นั่งมองพระอาทิตย์ตกที่อีกด้านนึงพร้อมกับฉากหน้าเป็นดงตาลและดอกหญ้า
ช่างสวยอะไรแบบนี้ ว่ามั้ยคะ
นั่งกันจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีก็พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ได้เวลากลับบ้านกันซะแล้วสิ
ใครที่อยากมานั่งชิว หรือมาสัมผัสบรรยากาศย้อนเวลาร้อยปีกับเพื่อน หรือคนรู้ใจ ก็สามารถมาได้ที่เกาะเกร็ดทุกวันเสาร์ - อาทิตย์เลยนะคะ
ซึ่งคาเฟ่แห่งนี้จะเปิดตั้งแต่เช้าไปจนถึงประมาณหกโมงเย็นเลยล่ะ
อย่าลืมมาสวมวิญญาณออเจ้ากันนะคะ
In The Conner of This World
วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13.50 น.