สวัสดีครับ..


นี่เป็นรีวิวแรกในรอบปีกว่าที่ผมหายไปนานมากๆๆ ก่อนอื่นขอบอกทุกคนก่อนนะครับว่า ตอนนี้ผมได้ลาออกจากงานที่สถานฑูตเรียบร้อยแล้ว จะว่าไปถ้ามันจะทำใจลำบากก็ว่าได้นะครับ แต่หลังจากที่ได้ออกเดินทางมันก็ทำให้เราได้รู้ว่าเราอยากที่จะทำอะไร อยากเดินไปทางไหน มันทำให้

เรารู้ว่าเราอยากที่จะเลือกทำอะไร และได้รู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ

และผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้าไปตามเพจผมที่ไม่ได้เป็นเพจยอดนิยมอะไรเลย ผมแค่อยากมีเพื่อนคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันสนุกๆ แลกกันดูรูปภาพสวยๆ เป็นเพื่อนกันนะครับ.. ^^



หลังจากที่ผมทำรีวิวที่นครวัด

กับรีวิวที่ปีนังแล้ว ผมก็ได้ไปวังเวียง อันนี้สนุกมาก สนุกตรงที่นั่งรถไฟฟรีนี่แหละ ไว้ว่างๆ จะทำรีวิวย้อนหลังให้อ่านเล่นๆ กันนะครับ แล้วก็มีโอกาสได้ไปอยู่ภูเก็ต 2เดือน เป็นช่วงเวลาที่สนุกมาก ไปทำงานพาสทามหาเงินเที่ยวทั่วภูเก็ตเลย แล้วก็ไปจังหวัดใกล้ๆ ที่กระบี่กับพังงามาด้วย..



แล้วหลังจากนั้นก็ไปรอบๆ ยุโรป แต่ตอนนี้เห่อมาก ยังตื่นเต้นไม่หายกับนาซ่า คือ มันไม่เคยคิดมาก่อนว่าสักครั้งนึงจะมีโอกาสได้ไปสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ จากคนที่ชอบเรื่องจักรวาล ดวงดาวและอวกาศ พอมันได้ไปสัมผัสแล้วมันไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นความรู้สึกได้เลย



พล่ามเยอะมากแล้ว ไปสัมผัสอวกาศกันดีกว่า กระสวยอวกาศกำลังจะทยานออกนอกโลกแล้ว.. ^^หลายคนคงทราบแล้วนะครับว่านาซ่า ตั้งอยู่ที่รัฐฟลอริด้า แหลม Canaveral ซึ่งเป็นจุดที่มีแรงดึงดูดต่ำที่สุดในสหรัฐอเมริกา ตอนที่เดินทางไป ผมใช้วิธีเหมาแท็กซี่แชร์กันกับเพื่อนๆ ครับ ซึ่งแน่นอนว่าผมขอเพื่อนนั่งข้างหน้าด้านข้างคนขับ

ทางที่ไปกันนั้นมันเหมือนกับมอเตอร์เวย์ของบ้านเรายังไงก็ไม่รู้ คือ ไม่เหมือนกันซะทีเดียวนะ คล้ายๆ ครับ เพราะทางมันเล็กกว่า และจากถนนหลักก็เลี้ยวเข้าถนนรอง เลี้ยวไป เลี้ยวมาจนเจอป้ายนี่แหละ



พี่แท็กซี่เห็นผมถ่ายรูปเกือบจะตลอดเวลาเหมือนกับว่าอารมณ์จะหงุดหงิดนิดหน่อยมั้ง ผมเลยต้องชวนคุยนั่นนี่ไปเรื่อยๆ พอเกิดความคุ้นเคยสักพักพี่แกก็เล่านั่นนี่ให้ฟังเยอะเลย จนรู้สึกว่าเยอะเกินไปป่าวครับพี่ ผมจะถ่ายรูป..



มีใครเป็นเหมือนผมบ้างไหมครับ เวลาเรารู้สึกประทับใจอะไรบางอย่าง เรามักจะมีอาการขนลุกไปทั่วร่างกาย ไม่รู้ทำไมอ่ะ.. ^^



นี่เป็นช่องขายตั๋วครับผม ซึ่งอยู่ติดกับลานจอดรถด้านหน้าเลย คือ เราต้องซื้อตั๋วก่อน แล้วเอาตั๋วไปแสดงที่ด้านหน้าครับ ส่วนราคาตั๋วนั้นอยู่ที่ 50ดอลลาร์ ราคาเดียวเที่ยวชมได้ทั้งศูนย์เลย แต่ยกเว้นอีเว้นท์พิเศษต่างๆ นะครับ เช่น ถ้าวันที่คุณไปเป็นวันที่มีการส่งชิ้นส่วนทางอวกาศบางอย่างออกไปนอกโลก ถ้าคุณต้องการชม คุณก็ต้องเสียตังค์เพิ่ม หรือเป็นการที่คุณอยากนั่งกินข้าวกลางวันกับนักบินอวกาศ อันนี้คุณก็ต้องจ่ายเพิ่มครับ.. ^^



ส่วนสิ่งที่คุณจะได้รับจากการซื้อตั๋วนั้น จะเป็นแผนที่เกี่ยวกับการเที่ยวชมครับผม..



นี่เป็นด้านหน้าทางเข้าครับผม จากคนที่ชอบเรื่องอวกาศอยู่แล้ว พอได้มาที่นี่มันเป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดมากๆ ดีใจ ประทับใจ ปลื้มใจ หลายๆ อย่างทำให้เกิดอาการตื่นเต้นมากๆ เลย ตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก เหมือนเด็กๆ ยืนรอผ่านประตูทางเข้าสวนสนุกเลย และด้วยความตื่นเต้นนี้เองที่ทำให้ผมรนรานมากๆ..


ก่อนที่เราจะเข้าด้านในหลังจากที่เราซื้อตั๋วแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้บัตรผ่านประตูเรามา แล้วเราก็ให้บัตรผ่านประตูนั้นกับเจ้าหน้าที่ ที่หน้าประตูอีกครั้ง และเจ้าหน้าที่จะขออนุญาติตรวจสัมภาระในกระเป๋าของเรา คือ เขาก็จะมีเครื่องตรวจโลหะเหมือนกับตอนที่เราจะขึ้นเครื่องบินทั่วไป แต่ก็ไม่ได้เข้มงวดขนาดนั้นนะครับ อารมณ์ประมาณทางเข้ารถไฟใต้ดินของบ้านเรา แต่เขาจะไม่ละเลยกับสัญญาณตรวจจับโลหะ โดยการขออนุญาติตรวจกระเป๋าของเราอย่างละเอียด..


แต่ด้วยความสุภาพของเจ้าหน้าที่จึงทำให้อาการตื่นเต้นของผมนั้นค่อยๆ ลดลง โดยที่เขาชวนผมคุยไปเรื่อยเลย และอีกหนึ่งความประทับใจนี้เองที่ทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ กับเจ้าหน้าที่ของที่นี่ ผมมีความรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ที่นี่ทุกคนยินดีและเต็มใจพร้อมให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่เลย :)



เมื่อคุณเข้าไปด้านในแล้ว นี่คือสิ่งแรกที่คุณจะได้เห็นครับ โดยภายในจะแบ่งสถานที่เที่ยวชมตามจุดต่างๆ เด่นๆ เช่น


Apollo Rocket Walkway, Children's Play Dome, Astronaut Memorial, Imax Theatre, Atlantis Space Shuttle และนอกจากนี้ยังมี pace Center Bus Tours ด้วย.. ^^



มาถึงตอนนี้เพื่อนที่แชร์ค่ารถที่มาด้วยกันก็หายไปไหนไม่รู้ หรือว่าเป็นเราซะเองที่หายไปจากกลุ่มเพื่อนๆ.. 5555



ก็เราต่างคนต่างสนใจอะไรที่มันไม่เหมือนกัน ผมเลยเริ่มที่ Bus Tour ก่อนแล้วกัน คือ ทัวร์นี้เราไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มนะครับ เพราะมันรวมไปกับค่าตั๋วแล้ว เขาจะขับรถบัสพาเราไปดูฐานปล่อยกระสวยอวกาศที่อยู่ห่างออกไปจาก Space Center ครับ อารมณ์ก็จะประมาณว่านั่งรถในฟาซารี คือ เขาจะไม่ให้เราลงจากรถนะครับ รถก็จะขับไปเรื่อยๆ ตามจุดต่างๆ แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่บรรยายไปตามจุดต่างๆ ครับผม เมื่อจบทัวร์ รถบัสก็จะขับกลับมาส่งเราที่เดิมครับ.. ^^



หลังจากนั้นผมก็เดินเล่นอยู่รอบๆ ครับ ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาจากหลายรัฐเลย จากที่คุยทักทายกันเขาก็เพิ่งเคยมากันครั้งแรก เพราะไม่ได้หาโอกาสมากันได้ง่ายๆ และสิ่งที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่จริงๆ คือ Atlantis Space Shuttle ครับ.. ^^



ภายในตึกนี้จะเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับยานแอตแลนติสทั้งหมด ตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าจะมีคำคม หรือคำปลุกใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ไปตลอดทาง แต่สำหรับผมมันคือข้อความที่สร้างแรงบันดาลใจมากๆ คือ มันทำให้ผมรู้สึกประทับใจในความพยายามมากๆ ก่อนที่จะประสบความสำเร็จขนาดนี้ ต้องผ่านความพยายามมากๆ อุปสรรคต่างๆ จะผ่านไปได้ ถ้าเรามีความพยายาม และนอกจากนั้น เราต้องมีความเชื่อ เชื่อว่ามันจะสำเร็จ และมันก็จะสำเร็จ..



ตลอดเวลาภายในอาคารจะเปิดดนตรีบรรเลง สร้างแรงบันดาลใจมาก อธิบายไม่ถูกอ่ะ ดนตรีประมาณตอนกระสวยอวกาศกลับสู่พื้นโลกอย่างปลอดภัยในหนังฮอลลีวู้ดอย่างไง อย่างงั้นเลย.. 5555



เมื่อเดินมาถึงสุดทาง (ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นสุดทาง) เราจะเจอกับห้องโถงกว้างๆ แล้วก็มีหนังให้ดู ก็นั่งดูซะเพลิน (แถมได้รับแรงบันดาลใจอีก) แล้วพอหนังจบก็มีเจ้าหน้าที่ออกมาจากด้านข้าง แล้วประตูที่อยู่ใต้จอก็เปิดออก จะมีห้องด้านในอีกหนึ่งห้อง เจ้าหน้าที่จะขอความร่วมมือ ถ่ายรูปห้ามใช้แฟลชและห้ามถ่ายวีดีโอในขณะชมภาพยนตร์.. ^^



และหลังจากที่หนังจบ ม่านด้านหลังถูกเปิดขึ้น สิ่งที่เห็นด้านหน้าคือยานแอตแลนติส!!



โอ้โห.. น้ำตาจะไหล ไม่คิดว่าจะได้เห็นของจริง มันอธิบายเป็นความรู้สึกไม่ได้นอกจากคำว่าประทับใจ.. ^^



ภายในจะเป็นนิทรรศการต่างๆ เกี่ยวกับยานแอตแลนติสครับ มีการจำลองสถานการณ์ให้เราเล่นด้วย สนุกมาก.. ^^



แล้วก็มีซีมูเรชั่นให้เราสัมผัสประสบการณ์การเป็นนักบินอวกาศด้วย โดยที่ซีมูเรชั่นนี้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่นๆ นะครับ เราสามารถเข้าได้เลย เพราะมันรวมไว้ในตั๋วที่เราจ่ายตอนเข้ามาแล้ว แต่เราต้องฝากกระเป๋าไว้ข้างหน้าทางเข้าซีมูเรชั่นนะครับ โดยที่ด้านหน้าจะมีตู้ล็อกเกอร์ให้เก็บของครับ..



ส่วนทางออกของอาคารจะเป็นที่ขายของที่ระลึกครับผม.. ^^



สำหรับผมนั้นเงินค่าเข้าไม่ใช่ประเด็นครับ ตอนแรกชวนเพื่อนไปกันหลายคน แต้พื่อนหลายคนก็ส่ายหน้าเพราะบัตรแพงแล้วยังมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องเงินไม่สำคัญเท่าความรู้ และการที่เราจะหาโอกาศไปสัมผัสกับประสบการณ์แบบนี้มันหากันไม่ได้ง่ายๆ ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าไม่ไปคราวนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกทีเมื่อไร..



ถ้าคุณมีความฝัน จงรีบทำความฝันนั้นให้สำเร็จนะครับ อย่าเพิ่งกลัวว่าจะไม่สำเร็จ ลองดูก่อน ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไงว่าไม่สำเร็จ



สุดท้ายนี้ขอฝากเพจของผมด้วยนะครับ อยากมีเพื่อนคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวไว้คุยกันครับผม.. ^^



https://www.facebook.com/Matthewlensstory/



ปล. ภาพถ่ายจากรีวิวนี้ไม่มีการแต่งภาพหรือเพิ่มเติมสี แสงหรืออื่นๆ แต่อย่างใด มีเพียงการย่อขนาดของรูปภาพเท่านั้น..

Matthewlensstory : Be A Part Of My World

 วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 09.37 น.

ความคิดเห็น