สวัสดีค่ะ ที่นี่ อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะอ่างทองครั้งที่สองของเราที่ได้มาเยือน
โดยทิ้งระยะห่างจากครั้งแรก 1 ปีกว่าๆ ครั้งแรกมาหน้าฝน ครั้งที่สองมาปลายฝนต้นหนาว
ครั้งแรกมาแล้วมีความรู้สึกว่ามันยังไม่สุดบ้างล่ะ ทำให้เรามีโอกาสที่จะอยากขึ้นมาอีกในครั้งที่ 2 และก็เป็นครั้งที่สมใจเราแล้วจริงๆค่า

ก่อนมาในครั้งแรกเราหาข้อมุลจากอินเตอร์เน็ตล้วนๆ หาโปรแกรม One Day Trip จากเกาะสมุย
จนมาเจอทริปนี้แหละที่คิดว่าถูกและคุ้มสุดๆ สำหรับเรา ครั้งแรก เราออกตังค์จ่ายค่าทัวร์เอง
พอกลับไปก็ทำรีวิวและส่งไปให้เจ้าของทัวร์ดู ครั้งที่สองเราจึงได้มีโอกาสมาสมุยอีกครั้ง และได้ปีนมาจนถึงจุดนี้อีกครั้งฟรีๆ
นี่เป็นเหตุของการใส่หัวข้อ SR ของเราในครั้งนี้นะคะ

จ่าย 900 กับวิวเกิน 90 ล้าน One Day trip อช.หมู่เกาะอ่างทอง

One Day Trip ทัวร์หมู่เกาะอ่างทอง ทะเลใน เราจองไปกับ www.samuileisure.com

มี 2 แพ็คเก็จค่ะ โปรแกรม A เสื้อชูชีพไม่รวม พายเรือคายัค 900 บาท และโปรแกรม B ที่รวมพายเรือคายัคด้วยจะราคา 1300 บาทค่ะราคานี้รวม ค่ารถตู้ VIP รับส่งยังโรงแรมที่พัก ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มที่มีกินกันตลอดบนเรือ อาหารกลางวัน ค่าประกันอุบัติเหตุ ค่าเข้าชมสถานที่ อุปกรณ์ดำน้ำ ฯลฯ

รายละเอียดโปรแกรมและเวปที่เราจองไปตามนี้เลยค่าเผื่อใครสนใจรายละเอียดและต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทริป

http://www.samuileisure.com/package/view_detail.asp?code=383

ส่วนประสบการณ์การล่องเรือ One Day Trip ครั้งที่สองที่ อช.หมู่เกาะอ่างทองของเราในครั้งนี้

มันล้ำ มันสนุก มันสุดกว่าครั้งแรก เพราะได้ทั้งแผล ได้ทั้งเห็นเหตุการณ์สุดระทึกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ที่เกือบช็อกอยู่ข้างบนนั้นรอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะลูกอมฮอลล์ และนมอัดเม็ดที่อยู่ในกระเป๋าเราไปช่วยไว้ได้!!

เหตุการณ์ระทึกนี้จะเป็นอย่างไร ไปตามชมด้วยกันเลยค่าาาา


เราทำรีวิวมาให้ชมกันบ่อยๆ หากเพื่อนๆ อยากติดตามผลงาน หรือพูดคุยกับเราเชิญได้อีกช่องทางหนึ่งนะคะ ที่นี่ๆ

https://www.facebook.com/RinsaYoyoliveTravelBlogger

หลังจากรถตู้ไปรับเราจากที่พักมายังท่าเรือหาดหน้าทอน ก็ทำการเช็คอินและขึ้นเรือพร้อมนักท่องเที่ยวอื่นๆ ค่ะ

กว่า 80% บนเรือนี่ส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งนั้น คุยหลายภาษา และไกด์ที่นี่ส่วนมากก็พูดภาษาอังกฤษล้วนๆ

ปล่อยให้เรานั่งเดากันเองล้วนๆ ด้วยเช่นกัน 555



เรือออกแล้วจ้าาา ไปกันๆ ชื่นชมบรรยากาศของท้องทะเลไปกันเรื่อยๆ

นั่งเรือไปราวๆ ชั่วโมงครึ่ง ถึงเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง สองข้างทางเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยต่างๆ

วันนี้โชคดีที่ฝนไม่ตกค่ะ เพราะก่อนหน้าที่เราจะมานั้นฝนตกตลอด รวมทั้งอีกวันหนึ่งที่เรายังอยู่บนเกาะสมุยแห่งนี้ฝนก็ตกด้วยเช่นกันวันนี้จึงถือว่าเป็นวันดีของเราสำหรับออกเที่ยวเกาะแห่งนี้แบบไร้ฝน และอากาศดีอีกด้วยนะเออ

มาถึงพิกัดแรกแล้วค่าาา สำหรับคนที่ซื้อทัวร์โปรแกรม B 1300 บาท ที่ได้พายเรือคายัคด้วยจะถูกปล่อยลงไปก่อนนะคะ
จะมีการพายเรือไปลัดเลาะตามแก่งหิน ลอดถ้ำก็ว่าไป อ้อมีถุงกันน้ำแจกให้กับทุกคนด้วยสำหรับใส่ของมีค่าระหว่างลงเรือ

ส่วนคนที่ซื้อทัวร์โปรแกรม A รวมทั้งเราด้วยที่ได้มาฟรีในโปรแกรมนี้ ได้นั่งเรือหางยาวเข้าไปในเกาะแม่เกาะกันค่า

ซึงจะพาขึ้นไปดูจุดชมวิว มีวิวของทะเลสาบน้ำเค็ม (ทะเลใน) กลางหุบเขาอันงดงามรอให้เราได้ไปเยือนด้วยตาตัวเองกัน

ส่วนคนที่พายเรือคายัคก็จะมาจอดรวมกันตรงนี้นะคะ ถอดเสื้อชูชีพกองๆ ไว้แล้วพากันเดินขึ้นไปสำรวจด้วยตาตัวเองกันเล้ย

ทางเดินจะเป็นบันไดสูงต่ำหลายขั้น ทำทางเดินอำนวยความสะดวกไว้ให้แล้วอย่างดี และมีจุดชมวิวอีกหลายจุดในแต่ละหว่างทางเดินนั้นๆ

เรามายืนกันตรงนี้ก่อน ทะเลในชั้นล่างสุดที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนของสีน้ำเขียวๆ

ทะเลใน เป็นรางวัลของการไต่ความสูงขั้นแรกของทริปขึ้นมาจนถึง จุดชมวิมของเกาะแม่เกาะ

เพราะภาพเบื้องหน้าคือผืนน้ำสีเทอร์คอยส์ ที่ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาสูงชัน

จนก่อเกิดเป็นทะเลในขนาดใหญ่กว่า 200 เมตร ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของหินปูน

ก่อให้เกิดรูปลักษณ์คล้ายปากปล่องภูเขาที่มีผืนน้ำสีสวยขังอยู่ด้านใน ระดับน้ำของทะเลในนี้ขึ้นลงทุกวันไม่ต่างจากทะเลด้านนอก เพราะมีช่องอุโมงค์ใต้น้ำเป็นทางเชื่อมต่อ

นอกจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ให้เกิดความงดงามผสมผสานระหว่างกลุ่มเกาะหินปูนและท้องทะเล
เมื่อยืนอยู่บนจุดชมวิวแล้วมองพ้นทะเลในออกไป
ยังจะได้ชื่นชมภาพทะเลกว้างที่ประดับประดาด้วยกลุ่มเกาะหินปูนเป็นหย่อมๆได้จนจดเส้นขอบฟ้าไกล

โอ้วววว ฟินาเล่สุดๆ

ต้องพากันขึ้นมาดูชัดๆ ในมุมสูงค่ะทะเลในจะสวยเป็นอย่างมาก สดชื่นคำรบหนึ่ง สบายใจกับธรรมชาติสร้างอีกคำรบสอง

สำหรับเรานะ เมื่อได้มาอยู่นิ่งๆ ได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้ เราก็สบายใจมากแล้วจริงๆนะคะ

พอได้เวลาที่ไกด์บอก ก็พากันกลับขึ้นเรือ เวลานั้นเที่ยงวันแล้วค่ะ พากันทานอาหารกลางวันของทางทัวร์บนเรือกันเลย
ซึ่งอาหารกลางวันจะเป็นแบบถาดหลุมขนาดใหญ่ กับข้าวก็ไม่ขี้เหร่นะคะ มีผักมีเนื้อผลไม้ทานกันกันอิ่มแน่ๆ
ครั้งนี้เราไม่ได้ถ่ายภาพรายการอาหารมาให้ค่ะ ลืมเลย แฮ่

แม้จะลืมถ่ายภาพอาหารมา แต่เราไม่ลืมถ่ายภาพอาหารสายตามาฝากกันนะเออ

นี่ไง อาหารสายตาของหนุ่มๆ หรือสาวๆ ตาร้อนกันผ่าวๆ เราด้วยก็เช่นกัน

ได้เวลาเรือใหญ่พามาเยือนอีกพิกัดหนี่งแล้วค่า ในบริเวณของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
เราเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า "เกาะวัวตาหลับ" ซึ่งเป็นที่ตั้งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองประจำการอยู่ที่นี่
มีบ้านพัก มีเต้นท์นอนให้เช่า มีร้านค้าสวัสดิการ ร้านอาหาร ห้องน้ำเพียงพอรองรับกับนักท่องเที่ยวหลากหลาย
อยู่ที่ว่า ใครต้องการทำกิจกรรมอะไรกันบ้างของทริป ระหว่างดำน้ำตื้น ไกด์บอกว่าไม่ค่อยสวยนะคะ
เราก็ไม่สนจะดำอ่ะ เพราะเราตัวดำอยู่แล้ว เกี่ยวป่าว 555

กิจกรรมที่น่าสนที่เราชอบถึงกับอยากมาอีกเป็นครั้งที่สองเพราะไฮไลท์อยู่ตรงนี้เลยค่า

เราเลือกเดินป่า เดินขึ้นไปชมวิวสวยๆ มุมสูงของ อช.หมู่เกาะอ่างทองที่ยังมีความอุดุมสมบูรณ์อยู่มาก

เกาะวัวตาหลับ ภูมิประเทศเต็มไปด้วยเขาหินปุน สูงชัน จึงมีสัตว์ป่าอยู่หลายชนิด ตอนไปครั้งแรกก็เจอ

ไปครั้งนี้ก็ยังเจออีก เจ้าค่างแว่น แต่ไม่เจองูเหลือมนะ ขอเหอะ เราไม่ถูกกะงูจริงๆ 555

ค่างแว่นถิ่นใต้เป็นสัตว์ป่าที่พบเฉพาะเกาะวัวตาหลับเพียงแห่งเดียวด้วยนะคะ


เดินกันผ่านหินแบบนี้เลย ทั้งยุงอีกมาตามกัดขาในช่วงเวลาเราพักเบรค

ขอพักหน่อยก็ไม่ได้นะ แงๆ

ด้วยระยทาง 500 เมตรเท่านั้น แต่ 500 เมตรที่บอกนี้ เราใช้เวลาไต่ขึ้นเป็นชัวโมง !!

อะไรมันจะมากขนาดนั้นน่ะ ก็เพราะว่า ทางขึ้นเป็นหินสูงชัน ต้องไต่และจับเชือกเส้นเดียวปีนขึ้นไปนะสิ

100 เมตรแรก เราก็เจอมุมนี้แล้วล่ะ สวย สงบนิ่ง

ที่ชมวิวแต่ละจุด 100 เมตร 300 เมตรแรกจะทำทางเดินยื่นจากโขดหินแแทรกออกจากดงไม้

เพื่อให้ได้เห็นจุดชมวิวอย่างถนัดตา ถ้าระหว่างทางขึ้นมาแล้วฝนตกนี่ไม่อยากจะคิดเลยนะคะ

ว่าจะลื่นแค่ไหน แค่ตอนที่เราเดินไปและละจุด เป็นโขดหินและป่าชื่น บางจุดค่อนข้างลื่นพอสมควร แต่มันส์ดีอ่ะ อิอิ

อีกมุมหนึ่งไกลๆ มองถึงความสวยงาม ณ เวลาแล้วค่อยเดินต่อ ไปต่อกันน่ะ

อีกไม่กี่เมตรเอง ฮึบๆ

แต่ ณ เวลาก็มีนักท่องเที่ยวอื่นๆ เดินสวนลงมาบ้างล่ะ เขาไปถึงกันแล้วหรือว่า ถอดใจหรือป่าว เราก็ไม่รู้ได้

รู้แต่ว่า พอเราถึง 100 เมตรสุดท้าย เพื่อนรีบเดินลงมาบอกว่า ขอเบอร์เจ้าหน้าที่ทัวร์หน่อย

ดีนะเรามีแต่เบอร์เจ้าของทัวร์ที่ติดต่อไว้ เลยให้ได้ แต่คลื่นดีแทค ตายสนิทค่ะพูดเลย

ใช้ได้แต่ เครือข่ายทรู และ Ais เท่านั้น

ณ เวลานั้นอีกเราต้องรีบเดิน รีบทำเวลา เพราะเพื่อนบอกว่า มีอะไรในกระเป๋าหวานๆไหม
มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผู้ชาย ร่างกายขาดน้ำตาลหรือ น้ำตาลในเลือดต่ำติดค้างอยู่ข้างบน อึ้งล่ะสิเนี่ย
เราล้วงๆ กระเป๋าแดงว่าพอมีไรหวานๆ ได้บ้างไหม ยังมีฮอลล์เม็ด และนมอัดเม็ดจิตรลดา
ที่เรายังไม่ได้แกะกินช่วยไว้ได้ส่งให้เพื่อนรีบตามเอาไปช่วยเขาได้ทันเวลา

ส่วนเราก็ยังคงเดินๆ จับเชือกเส้นเดียวไปให้ถึงเส้นชัยสุดท้ายให้ได้ 100 เมตรสุดท้าค่อยข้างโหดค่ะ

พลาดไปก็มีสิทธิ์หล่นได้เหมือนกันนะเออ

ณ เวลานี้คือคิดว่าตัวเองไม่ควรแบกอะไรมาเยอะแยะแยะนะคะ

แต่ครั้งแรกที่เรามาไม่ได้เตรียมตัวมากนัก ดันแบกกระเป้มาอีกต่างหาก น้ำดื่มก็ไม่ได้เอาขึ้นมา

ต้องไปขอดื่มน้ำกะนักท่องเที่ยวคนอื่นเอาแหละ เกือบตาย 555

ครั้งนี้จึงไม่พลาดเราล่ะ เสบียงพร้อม ดีนะมีอะไรหวานๆ เผื่อพร้อมให้คนอืนได้ใช้อีกต่างหาก

ณ เวลานั้นเพียง 20 นาที อึ้งอีกระลอกสอง นี่เราใช้เวลาเดินมาบนนี้เกือบชั่วโมงนะ
แต่เสื้อแดงคือไกด์ที่ดูแลลูกทัวร์ทริปของเราใช้เวลาแค่ 20 นาที ปีนขึ้นมาบนนี้ทันเราได้
เพื่อดูนักท่องเที่ยวที่อยู่ในภาวะขาดน้ำตาลได้ทันพอดี แถมเดินตีนเปล่าอีกต่างหาก

ป๊าดดด ชาบูเลยค่ะ นายแน่มากกก นักท่องเที่ยวคนนั้นก็รอดเหมือนกันร่างกายมีน้ำตาลเข้าไปแล้ว เย้

แต่ ณ เวลานี้ ยังคงเหลือแต่เราน่ะ เพิ่งมาถึง ขอชื่นชมกับธรรมชาติ กับวิว มุมสูงสุดของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองแห่งนี้หน่อยอีกครั้งกับความภาคภูมิใจที่ได้ไต่ขึ้นมาจนถึงจุดสุดท้าย แม้จะถูกหินบาดหินข่วนขาลายไปหลายแผลก็ตาม

กับความงามของธรรมชาติที่เราได้มาชื่นชม ได้สูดอากาศดีดีอีกครั้งหนึ่ง

บอกได้คำเดียวค่ะว่า สวยประทับใจเรามากกกก

ความภูมิใจที่ได้มายืนบนนี้ กับความสบายใจที่ได้มองธรรมชาติที่มีความตั้งใจอยากมาที่นี่

กับความภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แม้เราจะฟังภาษาเขาไม่รู้เรื่อง

แต่เพื่อนก็มาแปลให้อยู่นะ 555 แม้กระทั่งขากลับบนเรือ นักท่องเที่ยวฝรั่งคนนั้นพูดขอบคุณเราพร้อมส่ง

นมอัดเม็ดจิตรลดาที่เหลือคืนให้ เราโบกมือ พร้อมกับยิ้มกว้างๆ คือเป็นสัญญลักษณ์ว่ายูต้องใช้ตลอดนะ เอาไปเหอะๆ


นี่คือความประทับใจระหว่างการเดินทางในครั้งนี้ของเรา ที่ที่จะเป็นอีกหนึ่งที่

ที่เราอยากนำมาแบ่งปันเพื่อนๆ ได้รู้จักกันมากขึ้น แล้วมาเที่ยวกันนะคะ



ความประทับใจกับความสวยงามของธรรมชาติที่นี้เราไม่ได้เก็บไว้คนเดียวอย่างแน่นอน

เราเอาลงเผยแพร่ ณ หนังสือท่องเที่ยว Voyage # 10 Best Destinations 2016 By 10 Best Bloggers ด้วยค่ะ ^^

ขอบคุณที่ติดตามชมค่าาา

จัดเต็มทุกรีวิว จัดเต็มทุกพื้นที่ ไม่ว่าทริปนี้ หรือทริปไหนๆ

https://www.facebook.com/RinsaYoyoliveTravelBlogger/



RinSa YoyoLive

 วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 16.24 น.

ความคิดเห็น