สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพกัน ขับรถไม่ไกลแค่ 2 ชม. เท่านั้นเองจ้า
สถานที่ก็คือ พัทยา นั่นเอง เอาจริงๆ แค่พัทยาก็เก๋ได้เด้อแถมไม่แพงด้วย
รับรองมีรูปกลับมาลงอีกครึ่งปีแน่นอน 555+
สถานที่ที่ไปครั้งนี้
- พักที่ Hotel J Residence Pattaya ห้องพักพร้อมอาหารเช้า 2 วัน 1 คืน
- รับประทานอาหารเที่ยงที่ ป๋า เย็นตาโฟ
- คาเฟ่ Papa Beach Pattaya
- เดินเล่นถ่ายรูปชายหาดพัทยากลาง
- ห้าง Terminal 21 Pattaya
เราพักที่ Hotel J Residence Pattaya เป็นห้อง Deluxe Pool Access
ตอนนี้มีโปรราคา 1899 รวมอาหารเช้า ความดีงามของห้องนี้คือ
เราสามารถกระโดดลงเล่นน้ำหน้าห้องเราได้เลยจ้าพี่จ๋าาาา
บรรยากาศข้างหน้าบริเวณล็อบบี้ มีน้ำใบเตยเป็นเครื่องดื่มสำหรับต้อนรับ
และเราสามารถเดินไปเติมเองได้ด้วยจ้า กินคุ้มเลย 555
เรื่องความสะอาดไม่ต้องห่วงจ้ามีเจลล้างมือให้กดด้วย
มาค่ะเรามาดูห้องที่เราพักกัน เราได้ห้องเบอร์ 116 ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง รวมถึงไดร์เป่าผมด้วยจ้า เหมาะกับผู้หญิงอย่างเรามาก ไม่ต้องแบกมาให้หนัก
แกล้งๆ ทำท่าเปิดผ้าม่านในห้องก็สวยเด้อ ไม่เชื่อมาลองดูจ้า
นั่งเล่นหน้าห้องก็บรรยากาศดีมาก คิดว่าเป็นการตากแดดฆ่าเชื้อเนอะ 5555
มุมตรงข้ามห้องพักค่ะ
Hotel J Residence Pattaya ยังมีอีก 2 ตึก ซึ่งเดินถึงกันหมด และมีสระว่ายน้ำให้เล่นด้วย โดยสระน้ำจะเป็นสระน้ำเกลือทั้งหมด โดยความดีงามของสระน้ำเกลือนะคะมันจะอ่อนโยนต่อผิวหนัง เส้นผม และดวงตาค่ะ ดีกว่าสระคลอรีนมากๆ จ้า โดยจะมีทั้งสระเด็ก สระของผู้ใหญ่
แถมมีเสื้อชูชีพให้เราใส่ด้วยน้า
และบริเวณหน้าโรงแรมจะมีป้ายบอกเวลารับส่งไปยังสถานที่ต่างๆ สะดวกมากจ้า
มีแผนที่ประกอบมาให้ดูกัน ขอบคุณรูปจากในเพจค่ะ
Hotel J Residence Pattaya
นอกจากนี้ยังมีบริการสำหรับเด็กๆ ด้วย คือ KIDS CLUB และ สำหรับคนรักสุขภาพ คือ FITNESS
ซึ่งจะอยู่อีกตึก เราสามารถไปใช้บริการได้จ้า
หลังจากเช็คอินเสร็จแล้ว เราก็ออกไปหาอะไรกินกันค่ะ ซึ่งเป็นร้านบรรยากาศแบบง่ายๆ ราคาไม่แรง
แถมอร่อยด้วยค่ะ และอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่เราพัก พอไปถึงคนเยอะมากด้วย แสดงว่าอร่อยแน่นอนค่ะ
ชื่อร้าน ป๋า เย็นตาโฟ เมนูที่ต้องสั่งคือ เย็นตาโฟหม้อไฟ กับ ข้าวมันไก่เลยค่ะ อร่อยมากๆ
หลังจากกินอิ่มแล้วเราก็ไปหาที่ถ่ายรูปกันค่ะ
ซึ่งคาเฟ่ยอดฮิตตอนนี้ที่ไม่ว่าใครจะมาพัทยาก็ต้องเช็คอินถ่ายรูป นั่นก็คือ Papa Beach Pattaya ค่า
แต่ทางเรานั้นคิดมาแล้วว่าจะหาร้านอาหารราคาเป็นมิตรกินมาก่อนให้อิ่มซึ่งก็คือ ป๋าเย็นตาโฟ
แล้วไปสั่งแค่น้ำที่คาเฟ่พอ แต่ก็ยังโดนไปหลายบาทอยู่ดี
เนื่องจากโซนยอดฮิตที่ต้องลงไปถ่ายต้องสั่งคนละ 1 เมนูนั่นเองค่ะ
มีเซอร์วิสชาร์จอีกนะ แต่เพื่อรูปอะเนอะ เดียวคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง 5555
บรรยากาศในร้านจ้า ถ่ายรูปได้ทุกมุมเลย
สุดท้ายมุมยอดฮิตต้องมาถ่ายเด้อ เดียวมาไม่ถึง
หลังจากถ่ายรูปเสร็จเราก็กลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้อง แล้วออกมาเดินเล่นแถวชายหาด หาที่ถ่ายรูปเล่นกันค่ะ ซึ่งระยะทางไม่ไกลจากที่พักเลย ประมาณ 1 กิโลเท่านั้น สิ่งที่เราเตรียมมาก็คือ ผ้าเมตรที่สั่งจากช้อปปี้ และ กระเป๋าปอกระเจาแสนเก๋ของมูจิถ้าจำไม่ผิดน่าจะราคา 99 บาทเท่านั้นเอง ที่สำคัญน้องกระเป๋าเขามีเรื่องราวเด้อ ความรักษ์โลกอะเนอะ แต่ราคาเป็นมิตรน่ารัก แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่าน้องของหมดไปแล้วน้า
สาระนิดนึง : ปอกระเจา เป็นพืชที่เป็นมิตรต่อโลก จากความสามารถที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าพืชประเภทอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกันได้มากกว่า 5-6 เท่านั่นเองจ้า
เมื่อเราหาที่เหมาะๆ ได้แล้วก็ปูผ้าแล้วนั่งโล้ดดดดด โพสต์ท่าถ่ายรูปวนไปค่ะ 55555
หลังจากถ่ายรูปเล่นเสร็จเราจะกลับไปพักผ่อนที่ห้อง และอาหารค่ำคืนนี้เราวางแผนว่าจะทานกันที่โรงแรมเลยค่ะ คือห้องอาหาร aroma cafe เนื่องจากตะลอนมาทั้งวันแล้วเหนื่อย
ขี้เกียจออกไปข้างนอกแล้ว โดยเราต้องเดินมาอีกตึกนึงของโซนโรงแรมค่ะ
ซึ่งเราก็บอกพี่ๆพนักงานว่าขอนั่งโซนข้างนอกริมสระน้ำ เพราะบรรยากาศดีมาก
เริ่มต้นเมนู ค็อกเทล สั่งมาพอเรียกน้ำย่อย 555555
แก้วด้านบนสีเขียว คือ J Verdant (เจเวอร์แด๊นท์) แก้วสีส้มด้านล่าง คือ J Sunlight (เจซันไลท์)
เมนูแรก สปาเก็ตตี้ไข่กุ้ง กุ้งตัวใหญ่มากจ้า มันจะมีความกรึบๆของไข่กุ้งเวลาเราเคี้ยวด้วย อร่อยมากๆ จานนี้ราคา 220 บาทจ้า
เมนูต่อมา คือ ข้าวผัดกิมจิ ราคา 110 บาท มาพร้อมกับไข่ดาว และมีกิมจิเป็นเครื่องเคียงเพิ่มด้วย
เมนูสุดท้ายที่สั่ง คือ ไส้กรอกเยอรมันรวม ราคา 220 บาท มาพร้อมขนมปังกระเทียมด้วย
สุดท้ายตบด้วยของหวานจ้าาาา
จริงๆ ทานอาหารที่โรงแรมเลยก็ไม่ได้แย่เด้อออออออ แถมอร่อยด้วย คนไม่พลุกพล่านส่วนตัวสุดๆ
พออิ่มแล้วไม่ต้องไปไหนไกลด้วย กลิ้งกลับห้องได้เลย 5555
จริงๆ เมนูแนะนำของโรงแรม คือ ขาหมูเยอรมันทอดกรอบ
หากใครมีโอกาสได้ไปเป็นครอบครัวลองสั่งดูนะคะ หรือลองไปขอดูเมนูก่อนได้จ้า
พี่ๆพนักงานใจดี น่ารักทุกคน
ค่ำคืนหลังจากทานอาหารเสร็จ ก็ออกมาเล่นน้ำหน้าห้องนิดหน่อย แล้วก็เข้านอน เป็น 1 วันที่ใช้คุ้มมากๆไปเลยจ้า
เช้านี้เราตื่นมาทานอาหารเช้าของโรงแรม ซึ่งจริงๆ ตึกที่เราพักก็มีห้องอาหารของตัวเองแต่จากสถานการณ์ช่วงนี้จึงให้ไปทานอาหารที่ห้องอาหาร aroma cafe ที่เราทานอาหารค่ำนั่นเอง
อาหารเช้าเยอะมากจริงๆ แถมอร่อยทุกอย่างเลย และเราสั่งเมนู กาแฟ กับ โกโก้ร้อนมาเพิ่มด้วยค่ะ
มีทั้งโซนอาหารไทย ฝรั่ง ผลไม้ ข้าวต้ม ขนมปัง
โซนไข่ จะมีพี่พนักงานรับเมนูที่เราสั่ง และจะนำมาให้ที่โต๊ะค่ะ
หลังจากอิ่มอาหารเช้าแล้ว เราไม่รอช้า เดินไปแจ้งพี่พนักงานที่ล็อบบี้ว่าต้องการห่วงยาง 1 อัน เค้าก็จะนำมาวางไว้ให้เราที่หน้าห้อง ซึ่งสามารถขอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เอามาเล่นน้ำถ่ายรูปกันค่ะ
ทำเป็นนอนอ่านหนังสือชิวๆ
หรือลงไปเล่นน้ำถ่ายรูปสวยๆ
หลังจากเล่นน้ำถ่ายรูปเสร็จ เราก็ขึ้นไปอาบน้ำและทำการ เช็คเอ้าท์เตรียมกลับกรุงเทพกันค่ะ ซึ่งก่อนกลับเราได้แวะไปที่ Terminal 21 Pattaya แวะถ่ายรูปกับเครื่องบินนิดหน่อยก่อนกลับ
เป็นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ที่ใช้คุ้มค่ามากๆ มีรูปลงไปอีก 1 ปีจ้า
ในส่วนของที่พักนั้น ตอนนี้ทางโรงแรมมีโปรมากมายเลยนะคะ
จองวันนี้ใช้สิทธิ์ได้ถึง 31 มีนาคม 64 เลยนะคะ นอกจากห้องติดสระน้ำแล้ว
ยังมีห้องอีกหลายแบบ ไม่ว่าจะมาเป็นครอบครัว หรือ กลุ่มเพื่อน รองรับ 1 ห้อง ได้ถึง 4-8 ท่าน
สามารถรองรับได้หมดค่ะ ลองเข้าไปดูในเพจได้เลยจ้า
ราคาไม่แพง แถมอาหารเช้าฟรี มีสระน้ำสวยๆ ห่วงยางแฟนซีต่างๆ ให้เล่นฟรีด้วยนะคะ
เข้าไปดูกันได้ที่
Facebook : Hotel J Residence Pattaya
website : http://hoteljpattaya.com/
Tel : 038-423620
Line : @hoteljpattaya
IG : hoteljpattaya
YouTube : Hotel J Pattaya
Need To Try
วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 18.48 น.