สวัสดีค่า ระวังสิ้นสุดทางเลื่อนประจำที่ กลับมาวิ่งเล่นอีกครั้ง หลังจากหายไปน๊าน นาน
วันนี้ขอมารีวิวทริปเล็กๆ ที่เกาะช้าง 2 วัน 1 คืน ค่ะ
พาหนะหลักประจำทริปนี้ คือ KTM Duke 390 ชื่อว่าน้อง "ปะวะหล่ำ" ค่ะ
*ถามพ่อปะวะหล่ำ ว่าแปลว่าอะไร พ่อมันบอกไม่รู้ เอามาจากนางเอกละคร -*-
* ภาพถ่ายของทริปนี้ ส่วนมาก ถ่ายจาก SONY Action CAM FDR-X1000VR กับ SS note2 ค่ะ
อาจจะเบลอบ้าง ชัดบ้าง รูปอาจไม่สวยนัก แต่เต็มไปด้วยความรักของคนถ่ายนะค๊าบบ 555+เราออกเดินทางจากบ้าน แถวรัชโยธินตอนประมาณ ตี 5 นิดๆ ฟ้ายังไม่สว่างเลยค่ะ
เด็กส่งแก๊สมาตรงเวลามาก เทียบหน้าบ้านก่อนตี 5 นิดหน่อยค่ะ
เราวิ่งเส้นรัชดา - เพชรบุรี - สุขุมวิท - บางนาตราด อย่าถามว่าทำไมวิ่งเส้นนี้ "กลัวหลง" คือคำตอบค่ะ
แวะปั๊ม ESSO ที่มี MCdonald ตอน 6 โมงเช้าพอดี ได้เวลามื้อเช้า เราจัดครัวซองค์กับน้ำส้มไป
ไม่มีรูปนะคะ คิดได้อีกที คือกินหมดแล้ว >///<
อิ่มแล้วก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ แวะอีกทีคือปั๊มบางจาก บ้านบึง ซดกาแฟกันอีกคนละแก้ว แก้ง่วง
แวะเสร็จแล้ว เราก็ไปต่อ
อากาศดีๆ ยามเช้า รถไม่เยอะ ชมวิวไปเรื่อยๆ
ระหว่างทาง เด็กส่งแก๊สก็ขับไป ขี่ไป
ส่วนเราก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย
ตรงไปจันทบุรีนะจ๊ะ
อย่าหลงตามจันทบุรีล่ะ เราจะไปเกาะช้าง ต้องไปตราดจ้าาา
ระหว่างทาง แซงรถทัวร์ กรุงเทพ - ตราดด้วยนะเออ
ไปก่อนน๊าาาา บายยยยยย
พอเห็นอาคารนี้ข้างทาง รู้สึกดีใจ
ใกล้ถึงแล้ว สวัสดีจังหวัดตราดค้า
พอเจอป้ายท่าเรือเฟอรี่ อ่าวธรรมชาติ ก็เลี้ยวขวาเข้ามาโล๊ดดดดด
ระหว่างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ เส้นทางสวยๆ รถไม่เยอะค่ะ
และแล้ว เราก็มายืนอยู่ ณ จุด จุดนี้ ไชโย โฮ่ฮิ้ว ยู้ฮู้
บนเรือเฟอร์รี่ ข้ามไปเกาะช้างค่ะ
ค่าเรือ 2 คน กับ 1 คัน ราคาทั้งหมด 240 บาท (ไม่รู้คนเท่าไหร่ ปะวะหล่ำเท่าไหร่ค่ะ)
ขณะนี้ เวลา 11.00 น. สิริรวมเวลาเดินทาง
จากบางนา มาจนถึงเรือเฟอรี่ข้ามไปเกาะ
เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงถ้วนค่ะขึ้นเรือแล้ว เห็นเกาะช้างอยู่ไกลๆ
เด็กเมืองหลวงอย่างเรา ตื่นเต้น กระโดดรอบเรือเลยค่ะ
บอกแล้ว ว่าฟ้าสวย ฟ้าใส
ทะเลก็ใสนะคะ มีคลื่นลมเบาๆ โอยยยย ฟินนนนนน
พอถึงเกาะช้าง เราก็แว้นต่อค่ะ
การเดินทางด้วยสองล้อนี้ดีตรงที่ เราไม่ต้องรอต่อคิวขึ้นเรือ ลงเรือเลยนะคะ
พอเทียบท่าปุ๊บ ไปโล๊ดเลยค๊า
//ขอบคุณปะวะหล่ำ >.<
และแล้ว เราก็มาถึงรีสอร์ทที่จองไว้ aana resort & spa
บอกก่อนว่า นี่เป็นครั้งแรกของเรา และเด็กส่งแก๊สที่มาเกาะช้าง
อาศัยอ่านรีวิวที่พักเอา สุดท้ายเลือกที่นี่ เพราะอยากพายเรือคายัค -*-
ถึง aana resort & spa ทั้งที จะพลาดมุมนี้ได้อย่างไร
ลืมบอกไป จากอ่าวธรรมชาติมาถึงเกาะช้าง ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ไม่เกินนี้ค่ะ
จากท่าเรือบนเกาะ ไปรีสอร์ทประมาณ 10 กิโลเมตรค่ะ
เราอยากบอกว่า ที่นี่สวยสมคำร่ำลือค่ะ
ลอบบี้น่ารักมาก มาถึงมีน้ำตะไคร้เย็นๆ มาเสิร์ฟค่ะ หายเหนื่อยเลยทีเดียว ^^
มองจากลอบบี้ลงมา ได้วิวนี้เลยค่ะ
มาถึงที่พัก แต่ยังเข้าพักไม่ได้ เช็คอินได้เวลา 14.00 น. ค่ะ
เราเลยฝากกระเป๋า ไปเที่ยวบนเกาะกันค่ะ
สำคัญคือ หาอะไรกินด้วย หิวมากกกกก ก.ไก่ล้านตัว
เราไปแวะทานข้าวกันที่ ท่าเทียบเรือบ้านบางเบ้า ค่ะ
เราไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ไม่รู้เลยว่าจะมากินอะไรดี เดินไปเรื่อยๆ ก็แล้วกันค่ะ
ท่าเทียบเรือนี้ เค้าทำเหมือนเป็นตลาดเล็กๆ เลยค่ะ ของขายกระจุกกระจิก
มีทัวร์เกาะขายด้วย เหมือนว่าจะเน้นชาวต่างชาตินะคะ ^^
มีที่พักเล็กๆ ที่ท่าเรือนี้ด้วยนะคะ
เราเดินไปแบบไม่เบื่อเลยค่ะ ระหว่างทางน่ารักมาก
เราเลือกร้านชาวเล ซีฟู๊ดค่ะ
อย่าถามว่าเลือกเพราะอะไร ไม่รู้ค่ะ เดินเข้ามั่ว >.<
ราคาอาหารเราว่ากลางๆ ค่ะ ไม่แพง ไม่ถูก (ราคากลางๆ ของแหล่งท่องเที่ยวนะคะ) รสชาติเฉยๆ ถึงเฉยมาก
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม หว๊าน หวาน เราลืมบอกเค้าไป ว่าไม่ต้องหวานก็ได้ เราหวานอยู่แล้ว 555
กินอิ่ม สบายใจ แวะซื้อขนมที่ 7-11 ตรงหน้าท่าเทียบเรือ กลับไปกินซักหน่อย
ราคาของใน 7-11 ที่นี่ อัพราคาไม่มากค่ะ ของที่ฮอตฮิตอาจจะอัพมากหน่อย
เด็กส่งแก๊สบอกเราว่า น้ำอัดลมเพิ่ม 4-5 บาทนี่แหล่ะ เราจำไม่ได้
รู้ว่าคำนวณแล้วหยิบโค๊กขวด 2 ลิตรมาเลย -*-
พอกลับมาถึงรีสอร์ท เชคอินได้พอดี เราก็ขึ้นรถกอล์ฟไปที่พักกันค่ะ
//เด็กส่งแก๊สขี่ปะวะหล่ำตามมา
ที่พักที่จองมาเป็น AANA Grand deluxe ค่ะ
เป็นห้องคู่ (มีทั้งหมด 6 ห้อง) ตึกละ 2 ห้องค่ะ
type นี้จะอยู่ชั้นล่าง ชั้นบนเป็น top view villa ซึ่งวันที่เราไปพัก เต็มค่ะ T^T
มาเกาะช้าง ก็ต้องมีช้างสิคะ ช้างคู่ด้วยนะเออ
มาเปิดหน้าต่างชมวิวกันสักหน่อยนะคะ
เตียงนุ่ม หมอนนิ่ม มีมุ้งด้วยค่ะ แต่เราไม่ได้กางนะ กลัวทำของเค้าพัง
อุปกรณ์ที่มีให้ในห้องน้ำ
แชมพู ครีมอาบน้ำ โลชั่นทาผิว << ทุกอย่างกลิ่นตะไคร้ค่ะ
หมวกคลุมผมอาบน้ำ คอตตอนบัด ไดร์เป่าผม
มีอ่างอาบน้ำ น้ำร้อน-เย็น (เราอาบน้ำเย็นอย่างเดียวเลย)
อ้อ มีสายชำระนะคะ ฮ่าๆ
ปล. เราชอบมะพร้าวที่ใส่คอตตอนบัต หมวกคลุมผมมาก น่ารักอ่ะ
ออกมานอกระเบียง ส่องสาวๆ กันหน่อย
เอาล่ะ ได้เวลาไปเล่นน้ำ
ที่ AANA นี้ เวลาจะไปเล่นน้ำทะเลที่หาดทรายขาว จะต้องพายเรือคายัคไปค่ะ
พายเรือไปตามคลองพร้าว พายไปเรื่อยๆ จะเจอทะเล
โหววววว มันอเมซิ่งมากนะเธอ แบบพายเรืออยู่ดีๆ ออกทะเลเฉยเลย กรี๊ดดดดดด
เราอยากพายเรือก็จริง แต่เราพายไปเป็นหรอกนะ ภาระจึงตกอยู่ที่เด็กส่งแก๊สของเรานั่นเอง ฮ่าา
ถึงทะเลแล้ว เย้!!!
น่าเสียดายนิดหน่อย ที่ใเรามากันหน้าฝน
ถึงแม้ฝนไม่ตก แต่น้ำทะเลก็ไม่ใสปิ๊งเท่าไหร่ค่ะ
เราเดินเล่นทรายเฉยๆ นะ ทำไมถ่ายออกมาเหมือนวิ่งลงทะเลเลย
ด้วยเราไม่ค่อยชอบเล่นน้ำทะเล ประกอบกับวันนี้น้ำทะเลไม่ใสเท่าไหร่
เราเลยตกลงว่าจะกลับไปลงสระว่ายน้ำที่รีสอร์ทกันค่ะ
พายเรือมา ก็ต้องพายเรือกลับด้วยนะคะ
กลับมาที่รีสอร์ท ลงเล่นน้ำในสระเลยดีกว่า
จากสระว่ายน้ำ มองเห็นห้องพักของเรา เห็น 2 ตึกนั่นไหมคะ
ห้องพักเราอยู่ตึกซ้าย ห้องขวาด้านล่างค่ะ ^^
ทางเดิน ระหว่างสระว่ายน้ำกับที่พักเราค่ะ
เอาล่ะ เล่นน้ำมาหิวๆ เราก็จัดมื้อเย็นกันไป
ที่รีสอร์ทนั่นแหล่ะค่ะ ห้องอาหารชินนามอนค่ะ
เราสั่งพิซซ่าอะไรสักอย่าง กับกล้วยหอมทอด ^^
พิซซ่าเราว่าอร่อยดี แต่กล้วยหอมทอด แป้งเหมือนของคาวเลย ทั้งๆ ที่เป็นของหวาน
บรรยากาศยามค่ำคืน
พิซซ่า หน้าตาจืดๆ แต่รสชาติดีนะคะ
กล้วยหอมทอดกับไอศครีม
ทานอาหารเสร็จ ทางรีสอร์ทมีพาไปนั่งเรือชมหิ่งห้อยด้วยนะคะ
แต่ด้วยความที่มันมืด แล้วเรือโคลงเคลง เราแอบหวั่นในใจ เลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไรเลย TT^TT
หิ่งห้อยมีไม่เยอะค่ะ แต่คนที่นั่นเค้าบอกว่า เมื่อกี๊ยังเยอะอยู่เลย //ฤาหิ่งห้อยจะกลัวเรา
เช้าวันอาทิตย์ ตั้งใจจะดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน
เราตื่นมาตี 5 กว่าๆ อ้าววววว ท้องฟ้าสว่างแล้วซะงั้น นอนต่อสิครับ รออะไร
ตื่นมาอีกทีๆ สายๆ ออกไปทานมื้อเช้ากันค่ะ ทางเดินไปห้องอาหาร คือทางเดินเดียวกับไปทะเล ที่ขึ้นเรือคายัคค่ะ
แต่พอเป็นบรรยากาศยามเช้า ทำให้รู้สึกสดชื่นมากกก
อาหารเช้า เราจัดว่าโอเคนะคะ
ไม่ขาดตกอะไร อยากทานขนมปัง กาแฟ ข้าวต้ม ข้าวสวย ผลไม้ มีครบค่ะ
//พวกไส้กรอก เบคอน แฮมที่นี่ เราว่ามันไม่อร่อยนะคะ
ขนาดเด็กส่งแก๊สเป็นคนกินอะไรก็ได้ ยังกินไม่หมดเลย 555+
ที่เก๋ไก๋ของอาหารเช้าที่นี่ เห็นจะเป็นขนมครก กับกล้วยทอดราดน้ำผึ้ง
ออมเลตก็มีนะคะ จัดมาให้ครบค่ะ
ท้องอิ่มแล้ว มีพลังไปต่อได้
ที่ต่อไป เราไปน้ำตกคลองพลูค่ะ
เจ้าปะวะหล่ำพาไปเช่นเคย เจอทางคดเคี้ยว โปรดระวังนะคะ โค้งอันตรายเยอะมาก
เช้าๆ อากาศดีมากมาย สูดโอโซนเต็มปอดป่วยๆ ของเราเลยค่ะ
น้ำตกคลองพลู ต้องจอดปะวะหล่ำไว้ แล้วเดินเท้าเข้าไปประมาณ 500 เมตร
แอบบ่นเด็กส่งแก๊สเบาๆ พามาลำบากนะเนี่ย 555
น้ำใส และเย็นมากจริงๆ ค่ะ
แต่จขกท. ไม่ได้ลงเล่นนะคะ ตกลงไปแป๊บนึงแทบร้องค่ะ TT^TT
ปลาเยอะมากค่ะ ทั้งปลาเล้กปลาน้อย ปลาใหญ่
น้ำใสไหลเย็น เห็นตัวปลา
เห็นจริงๆ นะคะ ไม่ได้โม้...
อาบน้ำแต่งตัว ไปอยู่ที่จุดชมวิวของรีสอร์ทกันค่ะ
จากจุดชมวิวของเกาะช้างค่ะ
จากจุดชมวิว ก็เป็นเวลาบ่ายกว่าแล้ว
แวะเติมพลังมื้อเที่ยงสักหน่อย ร้าน Buffalo Bill ใกล้ๆ ท่าเรือเฟอรี่
รสชาติโอเค อารมณ์ชาวต่างชาติมากเลย
แล้วเราก็ซื้อตั๋วขึ้นเรือ ได้เวลาบ๊ายบายเกาะช้างกันแล้ว อยากบอกว่า รถรอต่อคิวขึ้นเรือเยอะมาก
โชคดีที่หนูปะวะหล่ำไม่ต้องต่อคิว เรือมาปุ๊บ ขึ้นโล๊ดดดด เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะสองล้อนะจ้ะ ฮ่า~
ค่าเรือเฟอรี่ขากลับ เท่ากับขามา 240 บาท 2 คน 1 คันค่ะ
Special Thank
เด็กส่งแก๊ส : ที่น่ารัก และใจดี ตลอดทริป เป็นเด็กส่งแก๊สที่ดูแลถังแก๊สดีที่สุดในโลก!!!
ปะวะหล่ำ : ที่พาเราทั้งคู่ไปถึงจุดหมาย และกลับมาโดยสวัสดิภาพ น่ารักมากลูกสาวพ่อ 555 (พ่อก็น่ารัก ลูกก็น่ารัก)
ขอบคุณฟ้าฝน ที่เป็นใจ เป็นการเที่ยวหน้าฝน ที่ไม่เจอฝนเลยตลอดทริป โชคดีมากกกกก
ขอบคุณทุกๆ คน และทุกๆ สิ่งที่พบเจอระหว่างการเดินทาง คุณทุกคนทำให้การเดินทางของเรามีความหมาย
ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้น ทุกการแสดงความรู้สึก ทุกแชร์ คุณเป็นส่วนนึงในการบันทึกความทรงจำของเราค่ะ
สุดท้ายนี้ มาเป็นสก๊อยเมืองกรุง ตะลุยเกาะครั้งนี้สนุกมากกกก
ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ สัมผัสบรรยากาศบนท้องถนนที่เราเคยมองข้ามไป
ปกติเวลาไปไหน เราไม่ค่อยได้มองข้างทาง แต่พออยู่บนหนูปะวะหล่ำ เราสัมผัสสองข้างทางชัดเจน
แค่เพียงตัดสินใจ มอบความไว้วางใจให้กัน ก้าวคร่อมเบาะ เกาะเด็กส่งแก๊ส แล้วไปกันเลยค่ะ
ถ้าหากว่าระหว่างทางเรามีความสุขมากพอแล้ว ปลายทางอาจจะไม่ใช่สิ่งสำคัญเลยก็ได้...
ลองให้ความสำคัญกับ "ระหว่างทาง" กันดูนะคะ
สวัสดีค่ะ ^^
กิ๊ฟซ่า ตระกูลแมว
วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.04 น.