สวัสดีจ้า...แมงน้อยมารายงานตัวกับทริปต่างประเทศทริปแรกในชีวิต แมงน้อยเลือกไปฮ่องกง เพราะคำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว อยู่ในงบที่สามารถควบคุมได้ สถานที่เที่ยว อาหารการกินหลากหลาย ดูน่าสนใจ อยากลองหาประสบการณ์ชีวิตในต่างแดนดูสักครั้ง เลยทำการบ้านมาเกือบครึ่งปีในการจัดโปรแกรม ศึกษาข้อมูลจากเว็บไซด์ต่างๆ โดยเริ่มกำหนดวันเที่ยว จองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมราคาประหยัด (Expedia.co.th) แพลนสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไป รวมถึงจองตั๋วสถานที่เที่ยวในราคาถูก (เว็บไซด์ฮ่องกงแฟนคลับ ที่มีลุงเด้งและป้าไก่คอยอัพเดทสถานที่เที่ยวที่กินตลอดเวลา) ใครที่กำลังมีแพลนจะไป แมงน้อยมาเขียนรีวิวประสบการณ์ให้ชมแล้ว เก็บข้อมูลแล้วตามกันไปเลยจ้า…
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนไป
- เช็คอุณหภูมิสำหรับช่วงเวลาที่ไป เพื่อเตรียมเครื่องแต่งกายให้ถูกกาลเทศะ
- เตรียมอุปกรณ์ต่อพ่วง เพราะปลั๊กไฟไม่เหมือนบ้านเรา
- อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว ควรเตรียมไปให้ครบ เพราะที่ฮ่องกงจะราคาสูงมาก (กรณีที่พักไม่มีให้)
- เตรียมแลกเงิน สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ (หน่วยเป็นดอลล่าฮ่องกง) เปรียบเทียบธนาคารหรือสถานที่ที่ซื้อได้ในราคาถูก
- สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์และคาเธ่ย์แปซิฟิก มีบริการ in-town check-in ที่สถานี Hong kong และสถานี Kowloon ซึ่งจะสะดวกในวันสุดท้ายที่เรา Check out ออกจากโรงแรมแล้วต้องเที่ยวต่อ โดยไม่ต้องแบกกระเป๋าไปไหนต่อไหนให้เป็นอุปสรรค ยกเว้น สายการบินแอร์เอเชียที่ไม่มี แต่จะมีสถานีรับฝากกระเป๋าแบบคิดเงิน
- เตรียมซื้อบัตรต่างๆ ในราคาประหยัด เช่น บัตรแอร์พอร์ตเอ็กเพรสแอร์เวย์ / บัตรเข้าดีสนีย์แลนด์ / บัตรเข้า Ocean park / บัตรขึ้นกระเช้าหนองปิง (ซื้อจากฮ่องกงแฟนคลับ ได้ราคาถูกกว่าที่อื่น)
- ไม่ควรนำ Notebook ไปด้วย เพราะโหลดใต้เครื่องไม่ได้ เป็นอุปสรรคในการเดินทาง หนักมาก แถมไม่มีเวลาได้เปิด เนื่องจากโปรแกรมเที่ยวแน่นสุดๆ
- ถ้าเที่ยวเองแนะนำให้เตรียมรองเท้าผ้าใบที่ใส่สบาย เพราะที่นี่เดินเยอะมาก วันละหลายสิบกิโล แทบจะหาคนอ้วนในฮ่องกงไม่เจอ (สำหรับคนไม่ค่อยชอบเดิน ถ้าไปเอง แนะนำให้ออกกำลังกายก่อนไป เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินและเดิน)
เรื่องควรรู้ในฮ่องกง
- บนเครื่องแอร์จะแจกใบขอเข้าเมือง แนะนำให้กรอกให้เสร็จตั้งแต่บนเครื่อง พอไปถึงจะได้เข้าคิว ตม.ได้เลย (ยื่นใบพร้อมพาสปอร์ต) เจ้าหน้าที่จะถามว่า your name ให้เราพูดชื่อตัวเองให้เจ้าหน้าที่ฟัง เค้าจะมองหน้ากับรูปในพาสปอร์ต ถ้าไม่เคลียร์เจ้าหน้าที่ก็ถามเยอะ ถ้าเคลียร์ก็ผ่านไวจ้า
- โหลด App. i-sim พร้อมลงทะเบียนล่วงหน้า ไปถึงสนามบินก็สามารถไปหารับซิมฟรี ใช้อินเตอร์เน็ตได้ฟรีตลอดในช่วงที่เที่ยวในฮ่องกง
- มี 7-11 เยอะมากตามสถานที่ต่างๆ เยอะกว่าเมืองไทยซะอีก ราคาของไม่แพงมาก
- ซื้อบัตร Octopus ติดตัวไว้ เพราะใช้ขึ้นรถเมล์ ซื้อของใน 7-11 , Food court หรือตาม Supermarket ได้สะดวก (ซื้อได้ที่สถานี MRT ทุกสถานี)
- เวลาขึ้นบันไดเลื่อนที่รถไฟฟ้าใต้ดิน ถ้าไม่รีบให้ชิดขวาเท่านั้น คนที่ฮ่องกงใช้ชีวิตแบบรีบเร่งมาก จะใช้ช่องทางซ้ายมือเดินนำตลอด ใครไม่หลบมีถูกชนได้
- มี Free wi-fi ในสถานที่สำคัญเกือบทั้งเกาะ
- ซื้อบัตร MRT แบบ Day pass เพื่อต่อรถไฟฟ้าไปไหนต่อไหนได้ทั้งวัน คุ้มมาก
- คนที่ฮ่องกงใส่รองเท้าผ้าใบเกือบ 90% อีก 10% เป็นประเภทบูธ เน้นยี่ห้อ New Balance, Nike เหมือนรองเท้าประจำชาติ หารองเท้า Onisuka ไม่เจอสักคน (ไม่นับรวมคนไทยที่ใส่ไป 555)
- ตลาด Mong kok มีของราคาไม่แพง และขนมแปลกๆ น่ากิน ตลอดทั้งสาย (ถ้าท้องรับไหว)
- ย่าน Mong kok เป็นสวรรค์ของคนที่ชอบรองเท้าผ้าใบ มีร้านรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังเรียงเป็นแถบ ละลานตา ไม่ต้องหาเดินในห้างแต่ละห้างเลย
- ในดีสนีย์แลนด์ไม่ให้ใช้ไม้เซลฟี่ ไม้โกโปรก็ห้าม ควรพกน้ำดื่มเข้าไปด้วย เพราะของขายด้านในแพงมาก
- บางครั้ง การทำการบ้านร้านอาหารมาแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปได้ตามแผน เพราะบางร้านไม่มีภาษาอังกฤษ หลงบ้าง อะไรบ้าง สีสันของชีวิต
- หน้าหนาวของฮ่องกง ช่วงวันทำงาน แฟชั่นชุดทำงานที่ฮ่องกงจะอลังการแฟชั่นวีคมากๆ ถ้าแต่งตัวธรรมดามากๆ ไป อาจจะเหมือนเด็กบ้านนอกเข้ากรุงก็เป็นได้ 555
- ระหว่างที่ใช้ชีวิตที่ฮ่องกง บนถนน จะเห็นว่าเป็นประเทศที่มีสัญญาณไฟทางข้ามคนเดินเยอะมาก เสียงเป็นเอกลักษณ์ เชื่อไหมว่าฟังไปสักพัก จะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เดินไปไหนก็ได้ยินเสียงนี้ตลอดเลย...เริ่มต้นการเดินทาง โดยฝากรถยนต์ไว้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 3 คืน คืนละ 250 บาท (750 บาท) จ่ายตอนออกนะคะ แมงน้อยเดินทางกับสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ ไฟล์ท 02.10 น. ไปถึงประมาณตีห้า เวลาที่ฮ่องกงจะเร็วกว่าไทย 1 ชม. (เวลาเดินทางตอนกลางคืน มักจะนอนไม่ค่อยหลับ แถมแอร์ปลุกมาแจกน้ำ อาหารตอนตี 3 อีก 555 ง่วงแท้)
ของที่จะได้ ผ้าห่ม, หูฟัง, ผ้าเย็น, ขนม, น้ำดื่มแอร์จะแจกใบขอเข้าเมือง ถ้าว่างๆ ก็กรอกให้เสร็จบนเครื่องเลยจ้า ถึงสนามบินจะได้ไม่เสียเวลายืนกรอกอีก เอาเวลาไปยืนต่อคิวรอ ตม.ตรวจดีกว่าค่ะ
ถึงสนามบิน Chek Lap Kok (เช็ค แลป ก๊อก) แล้วจ้า สนามบินฮ่องกงสว่าง สะอาดตาดีจัง มี 7-11 อยู่หลายจุดเลยทีเดียว
เนื่องจากแมงน้อยไปถึงเช้าเกิน เคาน์เตอร์รับซิมยังไม่เปิด ก็เลยตัดสินใจไม่รับ เพราะเสียเวลารอ และถ้าไปถึงที่พักก็ยากที่จะกลับมารับอีก ก็เลยตัดใจไม่เอา และไปต่อคิวรับบัตรแอร์พอร์ตเอ็กเพรสแอร์เวย์ และบัตร MRT แบบ Day pass ที่ซื้อไว้ เพื่อขึ้นรถไฟไปลงที่สถานีเกาลูน ต่อ MRT ไปโรงแรมที่จองไว้ นำกระเป๋าไปฝากไว้ล่วงหน้า ไปเที่ยวก่อนแล้วค่อยกลับมา Check in อีกครั้งค่ะ
มาถึงสถานีเกาลูน ก็ซื้อบัตร Octopus ที่สถานี MRT เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าต่อไปยังสถานีใกล้ที่พักค่ะ แมงน้อยเลือกพักแถว Mong Kok หลังจากลงที่สถานียังต้องเดินต่อไปอีกไกล หลงไปเหมือนกัน ก็ยืนกางแผนที่เดินต่อไปเรื่อยๆ สนุกดีนะ 555
แอบเก็บภาพแฟชั่นคนทำงานสักหน่อยค่ะ
ใช้เวลาสักใหญ่กับการเดินหาที่พัก "โรงแรม Dorsett" เมื่อมาถึง ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี รู้สึกอุ่นใจมาก เพราะที่พักติดกับแหล่งชุมชน ร้านอาหารเพียบ ใกล้ 7-11 ไม่อดตายแว้วววค่ะ
ปล.ภาพที่พักได้มาหลังจากที่เข้ามา Check-in ชอบมากทั้งห้องและวิว และที่ชอบมากที่สุดคือ มีบริการให้มือถือพร้อม wi-fi ติดตัวไปไหนก็ได้ด้วย แจ่มสุดๆ
อุปกรณ์ที่ให้ --> แปรงสีฟัน,ยาสีฟัน, หมวกอาบน้ำ, สำลีคัตตอลบัท, อุปกรณ์เย็บผ้า, ครีมอาบน้ำ, แชมพู, สบู่ล้างมือ, ครีมทาผิว, ไดร์ฟเป่าผม, น้ำเปล่า 2 ขวด, ชา กาแฟฟรี (ครบครัน)
นี่ไงมือถือพกติดตัวฟรี wi-fi
ฝากของเสร็จแล้วก็ขอลองท้องด้วยมื้อเช้า ตั้งใจเดินหาร้าน "Sea View Congee" บนถนน Mong kok สรุปไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ เพราะไม่มีป้ายชื่อภาษาอังกฤษเลยค่ะ แต่หน้าร้านคล้ายๆ กับที่ดูในเว็บ ก็เลยเลือกทานร้านนี้แล้วกัน เผื่อจะได้ตามแผนต่อไป
พิกัด สาขาที่ 1 : G/F., 103 Argyle Street., Mong Kok, Kowloon
สาขาที่ 2 : Shop B, G/F, 72 Bute Street, Mong Kok, Kowloon
เมนูอาหารมีภาษาอังกฤษด้วย แต่บางทีเมนูซ้ำๆ ก็เยอะเกิน ที่นี่ถ้ายังไม่ถึง 11.00 น. จะเป็นเมนูอาหารเช้าทั้งหมด ประเภท โจ๊ก ซุปมักกาโรนี ขนมปัง ไส้กรอก ไม่มีอาหารมื้อหนักเลย ทานไป 3 วัน เริ่มเอียนนิดหน่อย
แมงน้อยเลือกทานโจ๊กไข่เยี่ยวม้า กับปลา สั่งปาท่องโก๋ 1 ตัว และเลือกติ่มซำมา 1 อย่างค่ะ
ปลาท่องโก๋ ที่นี่จะยาวมากเป็นฟุตลองเลยทีเดียว ถ้าไม่หั่นมาเด็ดกันสนุกเลยค่ะ ซึ่งโจ๊กเค้าเนื้อละเอียดเนียนมาก
เนื้อทุกอย่างละเอียดไปหมด แทบจะละลายในปาก ปาท่องโก๋กรอบนุ่ม อร่อยดี
เรียกเมนูอะไรจำไม่ได้ค่ะ ชี้ที่รูปเอาค่ะ ตัวเนื้อแป้งนี่อร่อย ส่วนตัวกุ้งด้านใน เนื้อแน่นๆ สรุปอร่อยใช้ได้จ้าอิ่มท้องแล้ว สถานีต่อไปคือ Nong Ping 360 เดินทางโดย MRT จาก Mong kok ไปลงที่ Lai King => ต่อรถไฟสายสีส้มไปลงที่ Tung Chung แล้วออก Exit B จะเจอห้าง Citigate Outlates คือจุดที่ไปขึ้นกระเช้าค่ะ
ช่วงที่ไปอากาศหนาวมากค่ะ ขอโดปกาแฟที่ห้างก่อนไปขึ้นกระเช้าสักหน่อย
ตอนเห็นสภาพอากาศแล้วทำใจไว้เลยค่ะ ว่าท้องฟ้าหม่นแน่นอน อาจจะมีหมอกจนแทบไม่เห็นอะไร ตอนเดินไปขึ้นกระเช้าเห็นแถวแล้วท้อแทนมาก ถ้าไม่ทำการบ้านมา รับรองว่าต้องมายืนต่อคิวซื้อบัตรเป็นชั่วโมงแน่นอน แต่พอซื้อบัตรมาล่วงหน้าแอบยิ้มในใจและเดินไปรับบัตรอย่างภาคภูมิใจ 555 แถวสั้นมาก จนแทบไม่มีคนก็ว่าได้ (โปรดสังเกตุช่องที่ 14)
ปล.ช่วงนี้มีเทศกาลหมู่บ้านคิตตี้ จะหมดเดือนมี.ค. 59 ดีใจที่ไปทัน อิอิ
แมงน้อยเลือกกระเช้าแบบคริสตัล ราคาจะสูงกว่าปกติ ตั๋วจะได้เป็นกระเช้าคิตตี้ด้วย น่ารักจัง
ถ้าคนไม่เยอะ ทางเจ้าหน้าที่จะให้ขึ้นแบบไพรเวท แต่คนเยอะก็ต้องยอมนั่งไปกับคนอื่น
ก่อนขึ้นเค้าจะมีการถ่ายรูปไปทำของที่ระลึกด้วย ถ้าถูกใจก็จ่ายเงินติดไม้ติดมือกลับบ้านไปค่ะ
--
กระเช้าคริสตัลจะพิเศษตรงที่พื้นเป็นกระจก มองไปเห็นพื้นด้านล่าง
--
แมงน้อยทึ่งคนสร้างกระเช้าจัง คือแบบว่าทำได้ไง โยงสายเคเบิ้ลได้ยาวขนาดนี้ได้ไง รับน้ำหนักไงไหว
ระหว่างที่นั่งไปรู้สึกว่า ราคาแพงๆ ที่จ่ายมันคุ้มค่านะ บวกกับวิวตลอดระยะเวลาที่นั่งไป สวยงามมากถึงแม้ว่าหมอกจะเยอะไปหน่อย สีฟ้าหมองไปหมด
--
เก็บภาพบรรยากาศมาฝากกับเพื่อนร่วมกระเช้าค่ะ
ประมาณ 25 นาที ก็มาถึงหมู่บ้านหนองปิง กับธีมคิตตี้ แมงน้อยเก็บภาพมาไม่หมด เพราะคนเยอะมากค่ะ
แถมฝนลงเฉยเลย เสียใจนิดหน่อย กลัวกล้องเปียกด้วย
ของที่ระลึกน่ารักมาก แต่ราคาสูงไปหน่อย ไม่กล้าซื้อเลย
ระหว่างรอฝนหยุด มีตู้กาชาปองให้กดด้วย แต่การ์ตูนไม่ค่อยน่ารักเท่าไร
เก็บภาพบรรยากาศหมู่บ้านคิตตี้ให้ชมค่ะ
ฝนตกไม่หยุดเลยค่ะ เลยไม่ได้เก็บภาพบรรยากาศตอนไปไหว้พระใหญ่มาฝาก อีกอย่างเริ่มง่วงแล้ว เพราะไม่ได้นอนทั้งคืน
เลยอยากรีบกลับไป Check-in ที่โรงแรม นอนพักซักสองชั่วโมงแล้วค่อยลุยต่อค่ะ ระหว่างทางก็เก็บภาพบรรยากาศน่ารักๆ ไปเรื่อยค่ะ
กลับมาถึงห้าง Citigate ร้านนี้มีเสื้อผ้าสวยมากเลย แต่ราคา ฮือ ซื้อไม่ลงทีเดียว ขนาดเป็น Outlets นะนี่
สถานีต่อไป แมงน้อยจะขึ้นไปชมความสวยงามของ Victoria Peak จะต้องนั่ง MRT ลงสถานี Hong Kong ออก Exit D
แล้วขึ้นรถเมล์สองชั้นที่ท่ารถตึก Exchange Square นั่งสาย 15 ขึ้นไปถึง The Peak (ตรงนี้ใช้เวลาพอสมควรค่ะ)
ลงสถานีปลายทาง จอดตรงห้าง The peak galleria ขึ้นไปชั้นบนสุด ก็ไม่ต้องเสียตังค์ขึ้นรถรางไปดูวิว
เพราะที่นี่ก็เห็นเหมือนกัน ชั้นบนมีเหมือน art in paradise ด้วยค่ะ
เก็บภาพบรรยากาศรอบๆ ห้าง The peak มาฝากค่ะ มีอะไรๆ น่ารักเต็มไปหมดเลย
ที่เห็นแถวยาวๆ น่าจะเป็นแถวที่ต่อขึ้นรถรางไปดูวิวด้านบนนะคะ
มีขนมเป็นเลโก้ต่อๆ เป็นเรื่องราวด้วย น่ารักจัง
ที่ห้าง The peak tower มีร้านอาหารชื่อดังอยู่ด้วย แมงน้อยไม่ได้ลอง เพราะว่าเกินงบค่ะ แต่เก็บบรรยากาศมาฝาก
ร้าน Bubba Gump เป็นร้านต้นตำรับมาจากอเมริกา จากเรื่อง Forest Gump ที่ Tom Hangs เล่น
ภายในร้านจะเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ส่วนจุดที่ขายของที่ระลึกก็น่ารักและราคาสูงมากเช่นกันค่ะ (คนรอเยอะเชียว)
เที่ยวจนหิว มื้อเย็นนี้แมงน้อยเลือกไปที่ "ภัตตาคาร Ho hung kee" บนห้าง Hysan Place โดย MRT สถานี Causeway Bay Exit F2
ขึ้นไปบนห้างโดยบันไดเลื่อนไปชั้น 2 และขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 12 ค่ะ แมงน้อยจะไปลองผัวซีอิ๊วเนื้อ ที่ได้รางวัล Michelin one Star
อาหารออกไวมาก ประทับใจ
เหมือนกุยช่าย แป้งบาง ก็อร่อยดีค่ะ
บะหมี่น้ำเกี๊ยวกุง น้ำซุปจืดสนิท เหมือนยาจีน คือไม่ค่อยถูกปากเท่าไร
ผัดซีอิ๊วเนื้อ จานละ 105 เหรียญ ใหญ่อลังการมากค่ะ เห็นสั่งแทบทุกโต๊ะ พอได้ชิม อร่อยสมกับที่ได้รางวัลจริงๆ
กว่าจะมาถึงห้างแต่ละที่ใช้เวลาเหมือนกัน และหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จ
ก็เป็นเวลาเกือบห้างปิดแล้วค่ะ เลยไม่ทันได้ดูอะไรเลย ก็เก็บบรรยากาศใน ห้าง Hysan Place ที่เดินผ่านไปเรื่อยๆ ค่ะ
กว่าจะถึงที่พักเกือบเที่ยงคืน เดินต่อรถ MRT เยอะมากๆ ปวดขาไปหมดเลย หมดแรง หมดสภาพกันเลยทีเดียว
อากาศก็หนาวมากๆ ค่ะ ก่อนนอนต้องทานยาดักไว้ด้วย เผื่อลุยในวันรุ่งขึ้น
(ปล.ก่อนมาไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ เสื้อผ้าบางตัวแทบไม่ได้ใส่เลย ต้องใส่เสื้อหนาวหนาๆ ตลอด
แต่ดีที่ตอนเดินเที่ยวไม่ร้อน แค่ภาพไม่สวยเท่านั้นเองค่ะ)
เริ่มต้นตอนเช้าวันที่สองด้วยกันเติมพลังกันก่อน วันนี้แมงน้อยไม่มีแพลนร้าน กะว่าเจออะไรน่ากิน ไม่แพงมากก็ทานเลย
ปรากฎว่า ร้านทั้งหมดขายอาหารเช้าอย่างที่บอก ไม่พ้นโจ๊ก ติ่มซำ ซุป ขนมปัง ประมาณนี้ค่ะ
แมงน้อยก็เลือกร้านนี้ "Man Wah Restaurant"
เมนูอาหารอยู่ที่ใต้กระจกบนโต๊ะ รสชาดอาหารจืดมาก ชานี่ก็จืดสนิท 555 ไม่ถูกปากเท่าไร
ซุปมะเขือเทศหมูแดง
ซุปมักกะโรนีเนื้อ
ระหว่างทางเดินไปขึ้นสถานี Mong kok ก็เจอร้านค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตลาดปลาทอง
ย่านขายรองเท้าแฟชั่น อลังการมาก เป็นแถวยาวเลยทีเดียว
สถานีต่อไปในวันนี้ แมงน้อยจะตะลุยดินแดนดีสนีย์จ้า จะต้องขึ้น MRT Mong Kok ต่อ Laiking ต่อ Sunny Bay
สุดท้ายก็ต่อสายสีชมพูไปลงสถานี Disneyland Resort เป็นรถไฟสายสั้นๆ รับ-ส่งเฉพาะดีสนีย์แลนด์ค่ะ รถไฟน่ารักมุ้งมิ้งกันเลยทีเดียว
แมงน้อยซื้อบัตรมาแล้ว ก็นำหลักฐานมารับบัตรเข้าชมได้เลย พอดีเผลอทิ้งแผนที่ไปแล้ว ขอเก็บภาพบรรยากาศมาฝากแทนนะคะ
จุดวางแผนที่แต่ละภาษา
ร้านขายของที่ระลึกย่อยจะมีอยู่ทั่วในดีสนีย์แลนด์ ซึ่ง Shop ใหญ่จะมีประจำแต่ละสถานี แนะนำว่าถ้าเป็นของเล็กน้อย
ออกมาซื้อ Shop ย่อยจะได้ไม่เสียเวลาต่อคิวนานจ้า ของน่ารักมากๆ ค่ะ แต่ราคานี่ก็จ่ายไม่ไหวอีกและ 555
(ขอชื่นชมด้วยสายตาและภาพถ่ายก็พอเนอะ)
วันนี้โชคดีมากเลย เจอดาราการ์ตูนเยอะดี บางคนมาไม่ถึงรอบของเค้าก็ไม่เจอนะคะ แต่ละรอบก็ต้องยืนต่อคิวถ่ายรูปค่ะ
แมงน้อยเห็นแถวแล้วไม่เอาดีกว่า เลยขอเก็บภาพดารามาฝากแทนค่ะ
ไปถึงเจอมิกกี้ มินนี่ออกมาพอดี ตื่นเต้นๆ ยืนดูมินนี่เค้าดุ๊กดิ๊ก แอ็คท่าเก่งมาก ยอมใจเลยทีเดียว
ดูแถวสิค่ะ
เดินต่อๆ หนทางอีกยาวไกล
ยังไปไม่ถึงไหน ก็เจอกับดักอีกแล้วคราบบบ
จัดวาฟเฟิลสักหน่อย หูทั้งสองข้าง ข้างนึงเป็นช็อกโกแลต อีกข้างเป็นน้ำผึ้งค่ะ อร่อย... (50 HKD)
กาแฟร้อนๆ ดับหนาวสักแก้ว (30 HKD)
เจออะไรถ่ายได้ก็ถ่ายไปเรื่อยค่ะ
โซน Tomorrow land มีเครื่องเล่นเด็กๆ แต่โซนที่ให้เข้าจัดแสดง Space mountain ปิดปรับปรุงค่ะ (อดดูเลย)
Storm Trooper ออกมาแอ็คชั่นโชว์ตัว
โซน Small world น่ารักมาก มีเสียงเพลงโชว์ตุ๊กตาแต่ละชาติออกมาจากปราสาทด้วย แถมข้างในต่อคิวขึ้นรถไปชมในปราสาท
สีสันน่ารักมากๆ ชอบสุดๆ ค่ะ
ไปต่อๆ ค่ะ อีกเยอะ
เข้าไปดูดินแดนหมีพูร์
ขวัญใจเด็กผู้หญิง แอลซ่ากะแอนนา
ดินแดน Toy story
วู้ดดี้...
ชิปกะเดล
นางโชว์เต้นและร้องเพลงดีสนีย์ เหมือนตอนฟังในหนังเลย
ล่องเรือผจญภัย มีลำที่เป็นไกด์ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน
ขึ้นรถไฟผจญภัย ชอบอันนี้มาก หมีกดระเบิดถ้ำ รถไฟมีเดินหน้า ถอยหลัง ลุ้นระทึก กรี๊ดกร๊าด ตื่นเต้น มาแล้วต้องลองค่ะ
เสียดายที่โซน Mystic point ปิดปรับปรุง เห็นเค้าว่าน่ารักมาก ต้องไปเก็บข้อมูลจากเว็บ จากรีวิวคนอื่นๆ แทนค่ะ
เดินไปก็หิวจัดไก่ทอด เฟรนฟรายไปอีก 1 รอบ
จริงๆ ก็เที่ยวไม่ครบนะคะ ส่วนนึงเพราะคนเยอะ ต้องต่อคิวเข้าโซนนู้นนี่ แถมแมงน้อยก็เหนื่อยด้วยเลยเที่ยวเท่าที่ได้ ซึ่งมันก็ยังไม่คุ้มกับค่าบัตรสักเท่าไร อดดูไปตั้งหลายจุด ซึ่งมีทิกพิเศษด้วยการใช้สิทธิ์ Fast Pass เป็นตู้ที่กดบัตรออกมา เมื่อถึงเวลาก็สามารถไปเล่นได้โดยไม่ต้องรอคิว ช่วยประหยัดเวลาได้ค่ะ
เครื่องเล่นที่มีบริการบัตร Fast Pass ก็มี
- Buzz Lightyear Astro Blasters
- Space Mountain
- The Many Adventures of Winnie the Pooh
- Fantasy Gardens
- Mickey's PhilharMagic
- Festival of the Lion King
ปล.รอบนี้เดินพาเหรดดึกมาก ประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งแมงน้อยก็ลังเลว่าจะไปดู Symphony of lights หรือดูพาเหรด เพราะเวลาไล่เลี่ยกัน
สรุปแมงน้อยจะไปดู Symphony of lights แต่ต้องเปลี่ยนจุดดูเพราะ Avenue of star ปิดปรับปรุง และสุดท้ายปรากฎว่ามัวแต่ไป
ตื่นเต้นอยู่ในห้าง The one ไปไม่ทันอยู่ดี อดทั้งพาเหรด ทั้งแสงสีแสงบนน่านน้ำ เสียใจนิดหน่อย รู้งี้รอขบวนพาเหรดยังดีเสียกว่าค่ะ เศร้าแพร็พ
เก็บความชีช้ำใจกับภาพหัวค่ำที่ดีสนีย์แลนด์แทนไปก่อนนะคะ
แมงน้อยขอตัวไปพักก่อน ไว้จะมาต่อให้จบ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
หลังจากที่ตัดสินใจไปดู Symphony of lights และพลาดเพราะจำเวลาผิด คิดว่าเป็นเวลา 20.15 น. ก็เลยโอ้เอ้ นึกว่ายังไม่ถึงเวลา นั่งชิวกินขนมอยู่ที่ร้านนี้ค่ะ "Dimsum icon" เป็นร้านที่อยู่ในแพลน ตั้งใจมากินเพราะน้องไข่ขี้เกียจ (Gudetama) เลยแท้ๆ แต่พอมาถึงแอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะว่าธีมไข่ขี้เกียจไม่มีแล้ว ซึ่งธีมร้านเดิมเค้าเป็น Little Twin star เสียดายเนอะ แต่ก็ยังดีที่ยังมีเมนูน่ารักอื่นๆ ให้ลองสั่งทานค่ะ
จากดีสนีย์แลนด์ก็ดิ่งมาลงที่สถานีนี้เลย
พิกัดของเราอยู่ที่ห้าง The One เดินอีกแล้วจ้า ช่ายว่าจะถึงง่ายๆ อยู่ประมาณชั้น 3 ข้างบันไดเลื่อน
หากหาไม่เจอให้อ่านป้ายแนะนำร้านอาหารในห้าง จะมีเลขที่ชั้นอยู่ แล้วเดินตามไปเรื่อยๆ ค่ะ (แมงน้อยก็จำไม่ได้เหมือนกันอ่ะ)
ร้าน Dim Sum icon
ถึงแม้จะไม่เมนูไข่ขี้เกียจ แต่หน้าร้านก็มีของที่ระลึกเจ้าไข่ขี้เกียจให้เลือกซื้ออยู่นะคะ
เซ็ทน้ำชากับกาน้ำน่ารัก
ติ๊กรายการอาหารให้พนักงานเลยค่ะ อย่าแปลกใจที่พนักงานส่วนใหญ่เป็นคนแขก เพราะย่านนี้คนแขกอยู่เยอะมากๆ เลย
พอไม่ได้กินเซ็ทไข่ขี้เกียจที่ตั้งใจไว้ ก็เลยสั่งมาไม่เยอะ กะว่าจะไปกินขนมเล็กๆ น้อยหลายอย่างข้างนอกค่ะ
อาหารไม่ได้น่ารักอย่างเดียว รสชาดอร่อยด้วย เริ่มที่ก๋วยเตี๋ยวหลอด พักหลังเริ่มจะจับได้ว่า ก๋วยเตี๋ยวหลอดที่นี่จะมีแค่แป้งห่อกุ้ง
แป้งนุ่มอร่อย และกุ้งตัวใหญ่เนื้อแน่นมากๆ ค่ะ
น่าจะเป็นฮะเก๋า
ซาลาเปาไส้ไหล ถ้าเป็นไข่ขี้เกียจเค้าจะเจาะรูตรงก้นนะคะ เป็นไส้ช็อกโกแลต เห็นแล้วฮามาก (แต่ก็นั่นแหละค่ะ ไม่ได้กิน)
แต่อันนี้ก็น่ารักน้า ว่าไหมค่ะ
แล้วก็ได้เสื้อไข่มาเฉยเลยค่ะ 555
เก็บภาพร้านน่ารักในห้าง The one และห้างย่านนั้นมาอีกเล็กน้อย
อันนี้ทองคำจริงๆ นะคะ
อิ่มแล้ว จ้ำค่ะจ้ำ เพื่ออะไร ตอนนั้นนึกว่าตัวเองยังทัน Symphony of lights (ไม่ได้รู้อะไรเลยแก)
ไปถึง... ทำไมคนเดินออกมาเพียบเลย กำ!!! อยากร้องไห้ การแสดงเพิ่งเลิก มันแค่แป็ปเดียวเองนะ ทำไมไม่มีรอบสองให้แก้ตัวเลยเหรอ ฉันวิ่งมาเพื่ออะไร เล่นแค่วันละรอบเองนี่นะ พรุ่งนี้ก็อยู่ดูไม่ได้ ต้องกลับแล้ว ยิ่งเห็นยิ่งเศร้า เก็บภาพบรรยากาศงานเลี้ยงเลิกรามาฝากค่ะ
เสียใจ...กลับไปโต้เต๋ย่าน Mong Kok ที่เหมาะกับเธอละกัน ย่านจิมซาจุ๋ยเค้าเป็นมหานครแห่งสีสันแฟชั่น เรากลับไปเดินตลาดนัดของเราเถอะนะ คอตก....ไปลุยย่าน Mong Kok กันค่ะ บ้ายยย
แวะซื้อของฝากเพื่อนบ้านสักหน่อย ฝากลูกชายไว้ให้เค้าเลี้ยง ร้านน่ารักอยู่ทั่วสถานีรถ MRT
มาถึงแล้วจ้า ตลาด Mong Kok
หลังจากภาพนี้แมงน้อยไม่มีมือถือกล้องแล้วจ้า ตาลายอยากจะดูของ เพราะสินค้าอยู่ในราคาที่เราจับจ้องได้
ขอตัวไปช็อปแพร็พ เพื่อเพื่อนๆ มากันจะได้ลุ้นบ้างอะไรบ้างนะคะ เห็นสะหมด เดี๋ยวไม่ตื่นเต้นเนอะ
หลังจากช้อปเต็มไม้เต็มมือ ก็มาบริหารกระเพาะกันต่อค่ะ
เริ่มที่ไอศครีมเรนโบว์ อร่อยมาก อร่อยทุกชั้น บนสุดรสมิ้นเย็นๆ สีชมพูรสซากุระหอมหวาน สีเขียวชาเขียวเข้มข้นมัจฉะ สีขาวเนียนนุ่นรสนม ว้าว! ฟิน
เห็นกินแต่ของเย็นๆ อากาศตอนนั้น ยังหนาวอยู่นะคะ แต่แบบว่าไปถึงตรงนั้นแล้วอ่ะ มาถึงก็ต้องกิน กิน และกินค่ะ
ชานมที่นี่เป็นยังไง อร่อยอ่ะสิ ไข่มุกเม็ดเล็กกว่าบ้านเรา ค่อยๆ พอง เหนียวหนุบหนับ โอ๊ย! อิ่มจุง
และก็เจอร้านนั้น ร้านนี้ ติดๆ กันเลย ยอมรับว่ากินไม่ไหวแล้วจริงๆ ปวดขา อยากกลับไปพัก
เตรียมลุยดินแดน Ocean Park ในวันพรุ่งนี้ค่ะ
กลับมาถึงห้อง หมดสภาพ แต่อยากอวดของเล่นที่ได้มาจากตลาด เป็นตุ๊กตาหน้ารถ ไม่แพงมาก 555 งานสวยดี
ไม่รู้จะมาเจอแถวคลองถมบ้านเราหรือเปล่า ไม่ได้ไปเดินนานและ ตอนนี้ติดอยู่หน้ารถ ดุ๊กดิ๊กๆ ฮาดีค่ะ
การเดินทางสองวันของแมงน้อย เริ่มออกฤทธิ์วันสุดท้าย น่องระบม ตื่นสายเบย กว่าจะแพ็คของเก็บ Check out ออกจากโรงแรม
ปาเข้าไป 10 โมงเช้า ก็เลยพึ่งร้านโจ๊กข้างโรงแรม หน้าตาหน้าร้านไม่ได้ต่างกัน แต่รสชาดไม่โดนเท่าร้านแรก
ร้านนี้ออกแนวข้าวต้มมากกว่า แต่แป้งห่อปาท่องโก๋อร่อยมากค่ะ (กินติ่มซำไป 3 วัน เริ่มเอียน ยังไม่มีข้าวตกถึงท้องสักเม็ด
เริ่มนึกถึงส้มตำ ต้มยำกุ้งสุดๆ เลยอ่ะ)
และก่อนจะไปเที่ยวต่อ โดยไม่มีอุปสรรค แมงน้อยขอไปใช้บริการ in-town check-in ฝากกระเป๋าโหลดขึ้นเครื่องที่สถานีเกาลูนก่อนค่ะ
(สบายตัวและทีนี้)
ก่อนจะไปที่ Ocean Park แมงน้อยขอแวะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดหวังต้าเซียนก่อนค่ะ
ไม่ว่าจะอยู่สถานีไหนก็ตาม เราต้องลงที่สถานีนี้จ้า
วัดนี้อยู่ติดสถานี MRT เลย เดินออกมาก็ถึงวัดและ คนเยอะมาก
หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าไป Ocean park กันค่ะ
โดยสาร MRT ลงสถานี Admiralty ออก Exit B เดินตามป้าย Bus to Ocean Park จะเห็นที่จอดรถบัสสาย 629
เป็นรถบัสที่วิ่งตรงไปที่ Ocean Park เลยค่ะ (ใช้เวลาเดินทางพอสมควร)
ต้องบอกเลยค่ะ เป็นวันสุดท้ายที่เหนื่อยสะสมมาก การเลือกมาสวนสนุกสองวันติด ทำให้ล้า แถมที่นี่บัตรจะราคาถูกว่าดีสนีย์แลนด์
จึงมีทัวร์เยอะ (ทัวร์จีนบวกทัวร์แขก) และเป็นวันเสาร์ด้วย จะเล่นเครื่องเล่นก็ต้องต่อคิว อย่างละเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วที่นี่สถานที่กว้างใหญ่ มีหลายโซน ทั้งอควอเรี่ยม สวนสัตว์ เครื่องเล่น เดินวันเดียวก็อาจจะครบได้ แต่ต้องมาตั้งแต่สวนสนุกเปิดเลยค่ะ
บอกได้คำเดียวว่า ดีสนีย์ว่าเที่ยวไม่คุ้มแล้ว มาที่นี่บัตร 100 ดูไป 30 เอง เพราะสภาพของแมงน้อยเองนะคะ
เลยขอนำภาพมาฝากยาวๆ เลยค่ะ
หากใครเผลอติดของมา ก็มีล็อกเกอร์ฝากของนะคะ ประมาณ 40 HKD
การจะข้ามไปแต่ละโซน จะเลือกไปโดยกระเช้าชมวิว หรือ Ocean express ก็ได้ค่ะ ลักษณะเหมือนเรือดำน้ำ ขณะเดินทาง
มีเรื่องราวบนรถด้วย ก็น่ารักดีเหมือนกัน (แต่ละจุดต้องต่อคิวยาวเป็นกิโล เห็นแล้วเพลียเลย)
ข้ามไปเจอโซนเครื่องเล่น สนุกดีเหมือนกันนะ พักขาแล้วไปกรี๊ดกันค่ะ
ใส่เสื้อโค้ทแล้วไปลุยด้านในกันค่ะ
เหนื่อยมากแล้วค่ะ ขอขึ้นกระเช้ากลับไปหาอะไรทาน และเตรียมขึ้นเครื่องกลับบ้านเราดีกว่า
มื้อสุดท้าย แมงน้อยขอเลือกไปทานที่สนามบิน เพราะว่าหมดสภาพค่ะ
ข้าวห่านย่างและไก่ต้ม รสชาดปานกลาง ไม่ค่อยถูกปากเท่าไร
เค้าจะให้กริ่งมาที่โต๊ะด้วย เวลาอาหารเสร็จจะมีเสียงกริ่งดัง เพื่อให้ไปรับอาหารที่เคาน์เตอร์ค่ะ
ข้าวแกงกะหรี่เนื้อ หอม อร่อยมาก มาแบบเดือดฝุดๆ ด้วย
ระหว่างรอขึ้นเครื่อง ขอจัดช็อกโกแลตส้มเมนูใหม่จาก Mc สักแก้ว อร่อยจุง
ที่สนามบินมีจุดบริการน้ำดื่มฟรีด้วยค่ะ
พอเข้ามาหน้าเกต เจอโซนที่มีทีวี และเบาะนั่งเล่น นอนเล่นไว้บริการด้วย น่ารักดีเนอะ
กลับมาถึงไทย ประมาณตี 1 มีเงินเหลือด้วยนิดหน่อย นอกจากของกินตัวเอง ของฝากเพื่อน ก็ยังมีของเล่นลูกชายมาด้วยค่ะ คิดถึงมาก
ต้องเอาไปอวดเค้าสักหน่อย
สรุปทริปนี้เป็นประสบการณ์ที่สนุกและเหนื่อยดีค่ะ อยากกลับไปซ่อมใหม่ เพราะรู้สึกว่าพลาดไปหลายอย่างที่ตั้งใจไว้
โดยขอสรุปย่อๆ ดังนี้
- ฮ่องกง ควรมีเวลาไปเที่ยว 4-5 วัน (จริงๆ ก็อยากไปนานกว่านี้ แต่ลางานยากจัง)
- หากมีเวลาเที่ยวเท่าแมงน้อย แล้วอยากไปทั้ง Disneyland และ Ocean park ควรไป Ocean park ก่อน เพราะเดินทางไกลกว่า กว้างกว่า เครื่องเล่นโหดกว่า จะทำให้คุ้มมาก ส่วน Disneyland ควรเลือกวันสุดท้าย เพราะเดินทางสะดวก
หากเล่นไม่ทันจะต้องรีบไปสนามบิน ก็ไปได้ไม่ยากขึ้น MRT อย่างเดียว ซึ่งแมงน้อยเลือกไป Ocean park วันสุดท้าย หมดแรง แถมต้องรีบกลับ กลัวรถติด เพราะโดยสารรถบัสออกไปนอกเมือง
โปรแกรมและร้านอาหารที่แพลนไว้แล้วไม่ได้ไป
- Snoopy world อยู่คนละโซนกับที่พักที่เที่ยว (Sha tin Exit A > New Town Plaza ชั้น 3)
- วัดนางชี / สวนสวย Nan Lian Garden (MTR สถานี Wong Tai Sin > Diamond Hill -> Exit C2 (ถัดจากวัดหวังต้าเซียนเพียง 1 สถานี)
- ห้าง K11 Central Tsim Sha Tsui
- ห้าง 1881 heritage Tsim Ta Tsui exit 16
- ร้านปู Under bridge spicy crab สถานี Causeway bay exit C
- ร้านติ่มซำ Tim Ho Wan สถานี Hong kong > ห้าง IFC Mall/Apple store ชั้น 12A
- ร้าน Majesty Seafood Restaurant สถานี Mongkok exit E1 ออกจาก MTR ร้านขาวมือ ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 3
- Allegretto Viva Espresso กาแฟฟองนม 3D สถานี Tsim Sha Tsui > China Hong Kong City Tower 3
- Gong Cha ราชา ชานมไข่มุก
- Oddies วาฟเฟิลบอล Shop 1F, G/F, 149 Wan Chai Road, Wan Chai
- Symphony of lights 20.00 pm. ที่ Avenue of star สถานี Tsim Sha Tsui
ขอบคุณสำหรับการติดตาม หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ได้บ้างนะคะ
ติดตามผลงานพาเที่ยวเมืองไทยในจังหวัดอื่นๆ ของแมงน้อยได้ที่หน้าโปรไฟล์ pantip ขอบคุณค่ะ
ถ้าไปหลายวัน ไม่มีโปรแกรมพิเศษอะไรก็น่าไปค่ะ ไปดูบรรยากาศ อารมณ์ก็เหมือนสวนสัตว์บวกสวนสนุก เครื่องเล่นก็ต้องรอคิวเหมือนดีสนีย์ แต่ถ้าเจอทัวร์จีนก็อาจจะเบื่อนิดหน่อย พวกนี้เสียงดัง ชอบแซงคิว ที่นี่คนจีนเยอะมาก เพราะค่าตั๋วไม่แรงเท่าดีสนีย์ค่ะ
Malang Lunla
วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.32 น.