ตราดเป็นจังหวัดเล็กๆบ้านเกิดผมเอง แต่แฝงไปด้วยแง่ประวิติศาสตร์ และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์รอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนอยู่ 

   หลังจากที่ผมย้ายที่ทำงานมาอยู่พัทยาจนใกล้จะครบปีก็คิดถึงทะเลที่บ้านซะงั้น จริงๆก็ได้อยู่ติดทะเลเหมือนกันแต่ความรู้สึกของทะเลไม่เหมือนกัน เวลาที่ผมรู้สึกเหนื่อยกับงานหรือไม่สบายใจ ผมมักจะกลับบ้านไปแล้วหนีไปเที่ยวเกาะช้างเกือบทุกครั้ง มันเป็นที่ที่ผมรู้สึกว่ามันได้ชาร์จแบตเตอรี่ในตัวเรา มันคือบ้านเรา มันสบายใจ แต่รอบนี้พิเศษหน่อยตรงที่มีเวลาหยุดหลายวัน ผมจึงอยากลองเปลี่ยนไปพักที่เกาะหวายแทน^^

เกาะหวายเป็นเกาะเล็กๆเกาะหนึ่งในหมู่อุทยานแห่งชาติเกาะช้าง ความพิเศษของเกาะหวายที่ผมอยากจะพูดถึงเลยก็คือสวยครบจบในเกาะเดียว (สำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาตินะครับ เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆจะไม่ครบครันเหมือนเกาะใหญ่ๆ) จะสวยยังไงเดี๋ยวตามอ่านกันด้านล่างได้เลยนะครับ 

การไปเกาะหวายครั้งนี้ผมเลือกพักที่เกาะหวายพาราไดซ์ รีสอร์ท สถานที่ยอดฮิตในหมู่นักรีวิวทั้งหลาย การจองแสนจะง่ายมากนะครับ จองที่พัก+ตั๋วเรือไปกลับกับทางที่พักได้เลยครับผ่านทางเฟสบุ๊คของที่พัก สำหรับเรือที่ใช้เดินทางจะเป็นของบริษัท Sea tales ท่าขึ้นเรือจะเป็นท่ากรมหลวงชุมพรครับ ท่าเดียวกับคนจะเดินทางไปเกาะหมาก ต้องดูรอบเวลาเรือออกให้ดีนะครับเพราะเหมือนจะมีวันละรอบหรือสองรอบเท่านั้นเอง ถ้าตกเรือมานี่แย่เลย

เรือที่นั่งไปจะเป็นเรือ Speed Boat ครับ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจากฝั่ง นั่งโต้คลื่น ชมวิวเกาะช้างเพลินๆ พอเราไปถึงช่วงเกาะช้างใต้ ผ่านเกาะง่าม เราก็จะเห็นเกาะสวยๆ ที่อยู่หลังเกาะช้างเต็มไปหมดเลย น้ำทะเลก็สีเข้มขึ้นเรื่อย ลมเย็นกระทบหน้าบอกเลยฟินนนนน ^^

ความปรทับใจแรกเมื่อมาถึงเกาะหวายก็คือวิธีการลงจากเรือไปบนเกาะฮะทุกคน เนื่องจากวันที่ผมไปถึงน้ำทะเลลงต่ำ ทางพี่ๆจึงต้องนำแพไม้ท่อมารับนักท่องเที่ยวจากเรือ พอก้มมองนำทะเลคือใสมากมองเห็นแนวปะการัง และปลาตัวเล็กว่ายไปมาตั้งแต่อยู่บนแพเลยครับ

ในส่วนของที่พักผมเลือกพักที่ เกาะหวาย พาราไดซ์ อย่างที่บอกไป และนี่คือบ้านพักในตำนานของที่นี่ บ้านพัก P.1 ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ได้นอนหลังนี้ฮะ 5555555

ผมปล่อยตำนวนไว้แล้วมาพบกับความเป็นจริงนี่คือบ้านพักของผมในคืนนี้ครับ P.18 อยู่ด้านหลังบ้านตำนานหลังบนนั่นหละฮะทุกคน

และนี่คือภายในบ้านพักของเราครับ สิ่งอำนวยความสะดวกมีไฟ 1 ดวง หมอน ผ้าห่ม และมุ่งสำหรับกันแมลงครับ

มีสิ่งหนึ่งนะครับที่อยากจะแนะนำสำหรับคนมาพักที่นี่นะครับ คือพัดลมมือถือ อันนี้ช่วงชีวิตผมได้จริงๆไม่อย่างนั้นผมนอนไม่หลับแน่ กลางคืนค่อนข้างร้อนอบอ้าว เหนียวตัวนิดๆครับ

โดยภาพรวมของรีสอร์ทก็จะมีร้านอาหารซึ่งถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมส่วนกลาง สำหรับนั่งทานอาหาร อ่านหนังสือ รวมไปถึงชาร์จแบตด้วย ด้างข้างมีสนามวอลเล่ย์บอลชายหาดด้วย ที่นี่ใช้ปั่นไฟฟ้าเอานะครับจึงทำให้มีช่วงจำกัดเวลาให้ใช้ไฟเริ่มประมาณช่วงเย็นๆในแต่ละวัน อย่าลืมพกแบตสำรองมากันด้วยนะ

จะบอกว่าอาหารบนเกาะอร่อยมากกกกกกก ให้เยอะอยู่ครับ มีน้ำ น้ำอัดลม เบียร์ ขนมต่างๆขายไม่ต้องกลัวอดครับ กำเงินไว้อย่างเดียวพอ 5555 จ่ายอีกทีต้อนเช็คเอ้าท์ ส่วนอาการราคาถือว่าไม่แพงนะครับ กับรสชาดและปริมาณที่ได้รับ น่าตาประมาณนี้

สำรวจรอบเกาะกันบ้างนะครับ ที่ชอบที่สุดก็คือ หน้าหาดของที่พักของเราสามารถดำน้ำดูปะการังได้เลย ขอบอกอันนี้ห้ามพลาด คือมันฟินมาก แต่ช่วงที่ผมดำน้ำก็กลืนน้ำไปหลายอึกเหมือนกันกว่าจะเข้าที่เข้าทางกับอุปกรณ์ แต่พอได้แล้วเพลินมากฮะ ร้องเพลงไปดูปะการังไป :o

ในส่วนของชายหาดบนเกาะนั้น เราสามารถเดินเล่นไปได้เรื่อยๆเลยครับ ระหว่างทางก็จะผ่านรีสอร์ทต่างๆซึ่งสามารถเดินผ่านได้เลยครับ ถือโอกาสจองไว้ก่อนถ้าครั้งหน้ามาอีกจะได้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น เส้นทางในการเดินส่วนมากจะลัดเลาะตามแนวชายหาดไปเรื่อย มีต้นไม้ร่มรื่น เหมือนผมได้ใช้วิชาเดินทางไกลลูกเสือตอนเรียนเลยครับ มีวิวให้ดูเพลินตามาก 

ความสมบูรณ์ของป่า มีมอสขึ้นขอนไม้แน่นเป็นพรมเลย

ระหว่างทางที่เดินไปเรื่อยๆก็จะแอบส่องที่พักอื่นๆบนเกาะด้วย อันนี้คือดีอยากนอนหลังนี้

แลนด์หมาก แห่งหนึ่งของเกาะหมากนะครับ จะเป็นศาลาที่แสดงเกี่ยวกับการอนุรักษ์ปะการัง ด้วยความอยากรู้เลยว่ายน้ำแล้วปีนขึ้นไปดูกันหน่อย สิ่งที่พบก็คือขี้นกเต็มพื้นเลยลงมา 

ยิ่งเดินไปไกลเท่าไหร่ หาดทรายยิ่งขาว น้ำทะเลยิ่งใสขึ้นเรื่อยๆ แค่เห็นสีน้ำทะเลกับทรายขาวๆบอกเลยว่าสวรรค์ชัดๆ

สุดทางเดินก็จะเป็นหน้าผาหินครับ เห็นทะเลไกลสุดตา

และอีกกิจของเราที่พลาดไม่ได้เลยนะครับ ก็คือการชมวิวพระอาทิตย์ตกบนเกาะหวาย โดยทางขึ้นจะอยู่แถวเกาะหวาย พาราไดซ์ เลยครับถ้าจำไม่ผิดข้างๆบ้าน P.23 ที่เป็นทางน้ำ555 หลังจากลัดเลาะขึ้นไปบนเขา ไม่นานนักพอเหงื่อซึมๆ เราก็จะได้พบกับวิวหน้าผา สำหรับชมพระอาทิตย์ตกกัน สำหรับใครมาเป็นคู่บอกเลยว่าวิวดีมาก โรแมนติกมาก ถ้าไปคนเดียวแบบผมก็แอบดูเค้าแทนจะได้ไม่เหงานะครับ :D

รีบมาก่อนพระอาทิตย์ตก เพราะเดี๋ยวคนมีคู่เค้ามากัน ตาร้อน 555555

ระหว่างทางเจอดอกไม้บนเขาสวยแปลกตา


สำหรับผมตอนแรกตั้งใจว่าจะมา Slow Life นอนอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ปล่อยใจไปเรื่อยๆแบบที่เค้าทำกัน สรุปผมดูหนังได้ครึ่งเรื่องแค่นั้นจริงๆ เวลาที่เหลือกลายเป็นผมทำกิจกรรมทั้งหมดที่เล่ามา มันมีความสุข สนุก ได้โดนแดดแบบชนิดไม่กลัวดำ 555 ได้เล่นทะเล ได้อยู่กับตัวเอง นี่แหละคือความสุขที่ผมได้รับกลับไปจากที่นี่.........


TERA

 วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.37 น.

ความคิดเห็น