ถ้าพูดถึงจังหวัดแพร่ คนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงวัดพระธาตุช่อแฮ แล้วก็...แล้วก็จะนึกอะไรไม่ออกอีก เลยพาลคิดว่าเมืองแพร่มีแค่พระธาตุช่อแฮเท่านั้น

ผมก็เป็นคนนึงครับที่เคยมองเมืองแพร่แบบนั้น นึกออกแค่พระธาตุช่อแฮกับแพะเมืองผี (แพะเมืองผีนี่เพิ่งรู้ทีหลังด้วยซ้ำว่าอยู่เมืองแพร่) แต่เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปใช้ชีวิต slow life ที่เมืองแพร่ถึง 7 วัน 7 คืน ได้เตร็ดเตร่ไปรอบเมืองแพร่ท่ามกลางอุณหภูมิ 40 กว่าองศา ถึงกระนั้นแพร่ก็ยังน่ารักจนอยากพาใจไปพักที่เมืองแพร่อยู่ดี

ผมไปเที่ยวมาหลายที่เหมือนกัน แต่สำหรับกระทู้นี้ ผมจะขอคัดเฉพาะ 12 สถานที่เด็ด ๆ ที่ผมขอร้องว่าห้ามพลาด

ส่วนรีวิวฉบับเต็มจะตามมาในเร็ว ๆ นี้ครับ

และนี่คือ 12 สถานที่น่ารักที่ทำให้อยากพาใจไปพักที่เมืองแพร่ครับ

**********

1. เริ่มต้นทริปที่ 'วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร'


'วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร' อยู่ใจกลางเมืองแพร่ เราสามารถเที่ยวตัวเมืองแพร่โดยเริ่มต้นจากวัดนี้เลยก็ได้

เดิมทีวัดพระบาทมิ่งเมือง ฯ เป็น 2 วัดคือ วัดพระบาท และ วัดมิ่งเมือง ภายหลังจึงรวมเป็นวัดเดียวกัน ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนีซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแพร่

นอกจากนี้ยังมีรอยพระพุทธบาทและพิพิธภัณฑ์ของเก่า เชิญชมได้ตามอัธยาศัยครับ

**********

2. ถ่ายรูปที่ 'ศาลหลักเมืองแพร่'



ไม่ไกลจากวัดพระบาทมิ่งเมือง ฯ ออกจากวัดมาแล้วเดินผ่านหน้าโรงเรียนนารีรัตน์ก็จะพบกับ 'ศาลหลักเมืองแพร่'

คนอื่นอาจจะรู้สึกเฉย ๆ แต่ผมชอบศาลหลักเมืองแพร่นะ ดูเป็นศิลปะร่วมสมัยดี ด้านหน้ามียักษ์เฝ้าประตูศาลสองตน ตนนึงเฝ้ายามอย่างแข็งขันแต่อีกตนนึงหลับ เป็นหลักเมืองเล็ก ๆ ที่เข้าไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลง่าย ๆ

อ้อ ถ้าใครผ่านมาตอนกลางคืนลองแวะถ่ายรูปได้ เปิดไฟสวยมากกกกก

**********

3. สัมผัสเรื่องเร้นลับที่ 'คุ้มเจ้าหลวง'


จากศาลหลักเมืองแพร่ แค่ข้ามถนนมาก็จะพบกับ 'คุ้มเจ้าหลวง'

คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองแพร่ ภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 ยุคต้นที่สวยงาม แต่ภายในก็เต็มไปด้วยเรื่องราวเร้นลับน่าขนลุก แต่เดิมเป็นคุ้มของเจ้าหลวงเมืองแพร่ ใต้ถุนเป็นที่คุมขังนักโทษ ซึ่งแน่นอนว่ามีการบาดเจ็บล้มตายกันมากมาย ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยเรื่องราวเร้นลับ ลองถามน้อง ๆ ที่พาชมคุ้มเจ้าหลวงก็ได้ครับว่าที่นี่มีเรื่องสยองขวัญอะไรบ้าง แล้วน้อง ๆ จะพรั่งพรูเรื่องราวต่าง ๆ ออกมาอย่างเมามันเลยทีเดียว

และถ้าอยากเข้าไปชมใต้ถุนอาคารที่เคยเป็นที่คุมขังนักโทษ อย่าเดินหันหน้าเข้าไปตรง ๆ นะจ๊ะ ให้เดินถอยหลังเข้าไป ไม่งั้นอาจจะพบกับเรื่องราวบางอย่างก็เป็นได้

**********

4. พักสายตาที่ 'ร้านขนมเส้นป้าดา'



ออกจากคุ้มเจ้าหลวง เดินผ่านสวนสุขภาพไปทางด้านหลังก็จะพบกับขนมเส้นที่อร่อยที่สุดในสามโลก

'ร้านขนมเส้นป้าดา'

ป้าดาไม่ได้เป็นอะไรกับกระเป๋าแบรนด์ดัง Prada แต่เป็นเจ้าของร้านขนมเส้นที่ชาวแพร่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลำขนาด!!

ลักษณะของขนมเส้นที่เมืองแพร่จะไม่เหมือนขนมจีนน้ำยา ขนมจีนน้ำเงี้ยว และขนมจีนแกงเขียวหวานที่พบได้ทั่วไปใน กทม. เพราะมันเป็นขนมจีนน้ำใส เหมือนก๋วยเตี๋ยวที่ใส่เส้นขนมจีน แต่อร่อยมาก ถ้วยละ 20 บาทเองมั้ง ไม่แพงเลย

นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ทีเด็ดของร้านขนมเส้นป้าดาอยู่ที่โลเคชั่นที่ใกล้กับโรงเรียนนารีรัตน์ แหล่งรวมสาวงามเมืองแพร่ ระหว่างที่กินขนมเส้นก็จะพบกับละอ่อนน้อย ๆ ขาว ๆ น่ารัก ๆ แวะเวียนเข้ามาชิมขนมเส้นป้าดาอย่างไม่ขาดสาย สร้างความเพลิดเพลินในการรับประทานอาหารได้ดีทีเดียว

**********

5. มุมสวย ๆ ใน 'วัดพงษ์สุนันท์'



หลังจากอิ่มอร่อยกับขนมเส้นป้าดา ให้เดินมาทางถนนคำลือ ผ่านด้านหลังคุ้มเจ้าหลวง ด้านซ้ายมือจะพบกับ 'วัดพงษ์สุนันท์'

แวบแรกที่ผมเดินเข้ามาในวัดนี้ ผมถึงกับอุทานว่า โอ้โห สวยอะ

นอกจากพระพุทธรูปในวิหารที่สวยงามแล้ว ยังมีพระนอนองค์ใหญ่สีทองอร่าม พร้อมเจดีย์ที่อลังการมาก ๆ

**********

6. จิบกาแฟหอม ๆ ที่ 'Slope Coffee บ้านเบ้ววว'


ระหว่างที่อยู่แพร่ ผมตระเวนกินกาแฟหลายร้านนะ แต่ร้านกาแฟในเมืองแพร่ที่ผมชื่นชอบที่สุดคงเป็นร้านนี้

'Slope Coffee บ้านเบ้ววว'

แวบแรกที่เข้ามาในร้านนี้ จะรู้สึกเหมือนอยู่ใน Inception คือมันรู้สึกเอียง ๆ ยังไงไม่รู้ ภายหลังค่อยมารู้ story ของร้านคือจริง ๆ แล้วบ้านมันเอียง เลยตั้งชื่อร้านว่า Slope Coffee

เอาจริง ๆ แค่ความคิดสร้างสรรค์ในการตั้งชื่อร้านก็กินขาดแล้ว ลองใจเขาใจเราบ้าง สมมติเราเป็นเจ้าของร้าน ถ้าบ้านเราเอียง เราก็คงจ้างผู้รับเหมามาซ่อมแซมแล้วค่อยเปิดให้บริการ ถูกมะ แต่นี่เปิดร้านเลยแล้วเอาความเบี้ยวของร้านมาเป็นจุดขาย โอ้โห ประทับใจในความแนวจริง ๆ เป็นที่มาของชื่อบ้านเบ้ววว ซึ่งเป็นคำเมืองแปลว่าเบี้ยว (มั้ง) หลังจากพยายามฝึกออกเสียงชื่อร้านอยู่หลายครั้ง ปัจจุบันสำเนียงก็ยังไม่ได้ซักที (ผมออกเสียงว่า Bell?)

กาแฟก็อร่อยเข้มข้น มีมุมน่ารัก ๆ เยอะเลย ต้องไปโดนให้ได้ครับ

**********

7. มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งที่ 'บ้านวงศ์บุรี'



ตรงข้ามบ้านเบ้ววว จะได้พบกับบ้านโทนสีชมพู-ขาวที่มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งที่สุด

'บ้านวงศ์บุรี'

สำหรับบ้านวงศ์บุรี ผมว่าแค่มาถ่ายรูปภายนอกก็มุ้งมิ้งคุ้มค่าแล้ว แต่ถ้าใครสนใจศิลปะเก่า ๆ ก็ลองขึ้นไปเที่ยวชมดูโดยเสียค่าบำรุงสถานที่ 30 บาท ผมเห็นมีคนมาถ่าย pre wedding เหมือนกัน

แวะมาถ่ายรูปเล่นได้ น่ารักดีครับ

**********

8. กินไม่ยั้งที่ 'ประตูชัย'



แหล่งรวมอาหารอร่อยยามพลบค่ำของชาวเมืองแพร่ ผมพยายามมองหาอยู่หลายทีว่าอันไหนที่เรียกว่า 'ประตูชัย'

สิ่งที่คิดไว้คือเป็นประตูโบราณขนาดใหญ่สัญลักษณ์ของเมืองแพร่ เอาจริง ๆ เห็นแต่ร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

ประตูชัยเป็นอารมณ์ประมาณ เยาวราชเมืองแพร่ คือจะมีร้านอาหารริมถนนอยู่หลายร้าน ที่พลาดไม่ได้คือเย็นตาโฟรสเด็ดที่กินเสร็จแล้วต้องลุกขึ้นฟ้อนเพราะลำขนาด สั่งลูกชิ้นหมูปิ้งร้านอ้วน ประตูชัย มาทานเล่น ๆ ปิดท้ายด้วยของหวานอาจจะเป็นไอติมซ่าหริ่มร้านแต๋วรวมมิตรหรือขนมปังสังขยานมเย็นร้านบ๊วยนมสดก็ได้ ไม่ว่ากัน

โห พิมพ์ไปพิมพ์มา นี่หิวเลยนะเนี่ยยยยย

สำหรับของกินอร่อย ๆ ที่เหลือที่ประตูชัยเมืองแพร่ คงต้องแยกไปเขียนอีกกระทู้นึงนะ เยอะจริง ๆ ครับ

**********

9. ชิล ๆ ที่ 'กาดกองเก่า'


ถ้ามาเที่ยวแพร่ให้มาเที่ยววันเสาร์ และถ้ามาเที่ยวแพร่วันเสาร์อย่าลืมมาเที่ยว 'กาดกองเก่า'

กาดกองเก่า ซึ่งก็คือถนนคนเดินเมืองแพร่นี่แหละ จัดขึ้นทุกเย็นวันเสาร์ เดินเลยบ้านเบ้วววมานิดนึง เป็นถนนคนเดินเส้นสั้น ๆ ที่น่ารักมาก ๆ ที่สำคัญคือยังคงความเป็นแพร่ในระดับสูง มีคุณตาคุณยายเอาผักมาขาย มีอาหารเมือง มีขนมอร่อย ๆ มีศิลปะกระจุกกระจิก มีการแสดงเล็ก ๆ มีสาวงาม มีเสื้อหม้อห้อม มีผ้ามัดย้อมแฟชั่น มีกลิ่นไอของความเป็นแพร่ที่ต้องมาสัมผัสให้ได้ครับ

ติดกับกาดกองเก่าคือกาดพระนอน จริง ๆ ก็คือถนนเส้นเดียวกันแหละครับ เดินเพลิดเพลินมาก

ผมชอบที่นี่ที่สุดแล้วเดินไปกลับไปกลับตั้งสองรอบแน่ะ

**********

10. สงบจิตสงบใจที่ 'วัดพระธาตุอินทร์แขวน'


ข้อ 1 ถึงข้อ 9 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองที่ใกล้กันมาก สามารถเดินไปมาได้อย่างสบาย ๆ ส่วนข้อ 10 ถึงข้อ 12 นี้จะห่างตัวเมืองออกไป แต่ก็ไม่ไกลนัก

'วัดพระธาตุอินทร์แขวน' เป็นวัดที่อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปไกลพอสมควร แต่พอขึ้นมาถึงแล้วถือว่าคุ้มค่ามาก เป็นวัดที่เงียบสงบ ร่มรื่น ทัศนียภาพงดงาม ด้านบนมีพระธาตุอินทร์แขวนที่จำลองมาจากประเทศพม่า คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักวัดนี้นะ แต่ผมการันตีว่าห้ามพลาดครับ

**********

11. ชมเมืองช่อแฮมุมสูงที่ 'วัดพระธาตุดอยเล็ง'



'วัดพระธาตุดอยเล็ง' ตั้งอยู่บนดอยเล็ก ๆ เลยวัดพระธาตุช่อแฮไปไม่ไกลนัก จุดเด่นของที่นี่คือสามารถชมเมืองช่อแฮและวัดพระธาตุช่อแฮในมุมสูง ซึ่งตามประวัติเขาใช้สถานที่นี้ในการวางแผนสร้างวัดพระธาตุช่อแฮด้วย

เมื่อเดือนที่แล้วก็มีมินิมาราธอน งานวิ่งขึ้นดอยเล็งเพ่งเมืองแพร่ ด้วยน้า

**********

12. สุดท้ายห้ามพลาด 'วัดพระธาตุช่อแฮ'


'วัดพระธาตุช่อแฮ' เป็นไฮไลท์ของเมืองแพร่ที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้มาไหว้พระธาตุช่อแฮถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองแพร่

วัดนี้เป็นวัดที่มีสเกลใหญ่มากเมื่อเทียบกับเมืองเล็ก ๆ อย่างช่อแฮ มีพระธาตุช่อแฮซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีขาล มีความเป็นพุทธพาณิชย์สูง มีเช่าเครื่องลางของขลังแบบตัดบัตรเครดิต โอนเงินทำบุญผ่าน mobile banking ด้วย เก๋มาก ๆ

**********

สำหรับหนาวนี้ใครยังไม่มีแพลนไปไหน อยากให้ลองจัดทริปแพร่-น่าน ดูครับ เดี๋ยวผมจะมารีวิวอย่างละเอียดให้ใหม่ ประทับใจจริง ๆ

และนี่แหละครับ เพราะแพร่น่ารัก...เลยต้องพาใจไปพักที่เมืองแพร่... ด้วยประการฉะนี้


อุ๊ย

ติดตามเรื่องราวกินเที่ยวสนุก ๆ ได้ที่

FB: เที่ยวกับเธอ

https://www.facebook.com/travelwithu/

ขอบคุณครับ ^^

ความคิดเห็น