สามประสบรีสอร์ท สังขละบุรี ที่พักวิวหลักล้าน เมืองกาญจนบุรี

          เก็บตัวอยู่กับบ้านหลายเดือนจากโควิด-19 พอเริ่มผ่อนคลายมาตรการ lock down ก็อาจจะอยากออกไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศเสียหน่อย วันนี้จะพาไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมวิวหลักล้าน เที่ยวชมชุมชนเก่าแก่ที่สังขละบุรี

          สามประสบรีสอร์ทคือที่พักที่เราเลือกกันคราวนี้ ตั้งอยู่ติดกับสะพานมอญเลย เรียกว่าวิวดีที่สุดแล้วถ้าจะให้เห็นสะพานเต็มตากว่านี้ก็ต้องไปนอนที่สะพานแล้วแหละ

          การเดินทางมาสามประสบรีสอร์ทไม่ยากครับ ขับรถมาถึงสังขละบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีสุวรรณคีรี ขับไปเรื่อยๆเจอ 7-11 แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสามประสบแล้วขับไปจนสุดก็จะถึงที่พัก

         ภายในสามประสบรีสอร์ทมีที่จอดรถรับได้ประมาณสัก 20 คัน อาคารสีเหลืองด้านหน้าเป็นที่เช็คอิน ในช่วงควบคุมโควิด-19 แบบนี้ยังต้องสแกนไทยชนะและวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าพักนะครับ ใกล้ๆกับที่เช็คอินเป็นที่พักแบบ "บ้านคอทเตจ" วิวอาจจะไม่ดีเท่าไหร่แต่เหมาะกับผู้สูงอายุที่อาจจะเดินขึ้นลงบันไดไม่สะดวก

         ที่พักของสามประสบรีสอร์ทมีให้เลือกหลายแบบมากครับ รองรับได้ตั้งแต่มาพักคนเดียว ยันเหมาบ้านทั้งหลังอยู่กัน 12 คนไปเลยก็ยังได้ วันนี้เราพักห้อง Deluxe สามประสบวิว new ห้องจะเป็นอย่างไรไปดูกัน

          ห้องพักแบบ new จะต้องไปอีกอาคารหนึ่งใกล้ๆกันนั่นแหละ ชั้นบนสุดของอาคารจะเป็นร้านอาหาร ส่วนห้องพักจะอยู่ชั้นล่างลงไปซึ่งไม่มีลิฟท์นะครับ เดินอย่างเดียวใครข้อเข่าไม่ดีอาจจะลำบากหน่อยครับ

          วันนี้โชคดีได้ห้องริมสุด ซึ่งจะได้วิวด้านข้างเพิ่มมาอีกหน่อยทำให้เห็นทั้งสะพานแดงและสะพานมอญแบบเต็มๆ ห้องพักเรียบง่ายแต่ถือว่าหรูหรามากถ้าเทียบกับโรงแรมแถวนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้ครบ ตั้งแต่แอร์เย็นฉ่ำ(เย็นมากๆ) โทรทัศน์ขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็ไม่มีอะไรให้ดูเท่าใหร่มีแต่ช่องขายของ เตียงนอนนุ่มสบาย และมีที่นั่งแบบ day bed ไว้เอนหลังพักผ่อนได้อีกต่างหาก

          ด้านนอกมีระเบียงให้ออกไปนั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ ช่วงที่เราไปน้ำแห้งไปสักหน่อย หากไปช่วงน้ำเยอะๆ น้ำจะเอ่อขึ้นมาเกือบถึงโรงแรมเลย น่าจะสวยกว่านี้อีกเยอะ

          ห้องน้ำขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กใช้งานได้สะดวก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผมมาให้เรียบร้อย มีเรื่องหนึ่งที่ต้องเตือนกันสำหรับห้องน้ำคือ สายชำระน้ำแรงมาก ยิงทีน้ำพุ่งไกลเป็นเมตรฉีดน้ำชำระแบบจ่อๆเผาขนนี่ สะดุ้งแน่นอน

          พักผ่อนถึงเย็นก็ไปทานอาหารกัน ไม่ต้องหาร้านอาหารให้ยุ่ง ทานที่โรงแรมนี่แหละร้านอาหารของเขาก็ขึ้นชื่ออยู่ ช่วงนี้ร้านจะวางที่นั่งห่างหน่อย ร้านเป็นแบบเปิดโล่งรับลมธรรมชาติซึ่งก็เย็นสบายดี นั่งดูวิวเพลินๆได้

          ด้วยความหิวเลยสั่งมาหลายอย่าง เริ่มด้วยปลาคังทอดน้ำปลาเห็นทีแรกนึกว่าเนื้อปลาจะแห้งแต่เปล่าเลย เนื้อปลานุ่มขณะที่หนังด้านนอกกรอบ ทานกับน้ำยำรสเปรี้ยวเข้ากันมากๆ อีกจานที่ชอบคือเต้าเจี้ยวกุ้งหลน รสชาติหวานมันเค็ม นวลๆ ทานกับผักแกล้มเข้ากันดี รสชาติอาหารของที่นี่รวมๆออกแนวรสจัดหน่อย ถูกปากมากๆ

          ทานอาหารเสร็จมานั่งกินลมต่อที่ห้องอีกหน่อย วิวช่วงเย็นๆแบบนี้ก็สวยไม่ใช่เล่น แต่คนที่มาทานอาหารจะมองเห็นเราได้ ก็จะเสียความเป็นส่วนตัวไปสักหน่อย

          เช้าวันต่อมาไปทานอาหารเช้าที่เดิม อาหารเช้าจะเป็นรายการอาหารมาให้เลือก แต่ขนมปังจะไปหยิบทานได้เรื่อยๆ อาหารเช้าไม่มีอะไรพิเศษ แต่ข้าวผัดจานเดียวนั่นก็เล่นเอาอิ่มยาวอยู่เหมือนกัน

          ทานข้าวเช้าเสร็จก็ออกไปเดินสะพานมอญเสียหน่อย ใครอยากใส่บาตรตื่นเช้าหน่อยนะครับ แล้วข้ามสะพานไป

          ช่วงที่ไปสระว่ายน้ำไม่เปิดให้บริการ แต่ถ้าเปิดแล้วก็น่าสนใจไม่น้อย วิวสระว่ายน้ำดีมากๆเห็นทั้งสะพานแดงและสะพานมอญ ขนาดของสระไม่ได้ใหญ่โตมากนักแต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ถัดจากสระว่ายน้ำมีห้องออกกำลังกายขนาดเล็กไว้บริการด้วย ริมสระมีห้องพักอยู่ซึ่งถ้าอยู่ห้องชั้นนี้อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวหรือเสียงดังไปบ้างครับ

          มื้อเย็นวันนี้ก็ยังฝากท้องไว้ที่เดิม มีที่นั่งด้านนอกให้เลือกนั่งรับบรรยากาศแบบเปิดโล่งด้วยนะครับ อากาศดีเชียวแหละแต่ฝนตก กลับไปนั่งด้านในเหมือนเดิมก็ได้

          วันนี้สั่งมา 4 จานเหมือนเดิมต้มยำเหมือนเมื่อวาน ส่วนอาหารที่เพิ่มมาก็เช่นฉู่ฉี่ปลาคัง เนื้อปลานุ่มแต่น้ำฉู่ฉี่น่าจะรสจัดกว่านี้อีกนิดนึง ต่อมาเป็นไข่เจียวสามประสบ พอชิมไปมันคือไข่เจียวหมูสับชัดๆ เลยถามพนักงานสรุปว่ามันก็คือไข่เจียวหมูสับนั่นแหละ แค่ฟูและกรอบมากขึ้น จานสุดท้ายเป็นกุ้งชุบแป้งทอดทานสบายๆ

          เช้าวันต่อมาไปใส่บาตรกันช่วงเช้า เดินข้ามสะพานมอญไปพระก็มาพอดีเกือบวิ่งไปต่อแถวไม่ทัน ของใส่บาตรก็หาซื้อได้แถวนั้นแหละครับ

          ใส่บาตรเสร็จหันซ้ายหันขวา หาอะไรทานเป็นอาหารเช้าแถวนี้แล้วกัน เจอร้าน "โจ๊กนั่งยอง" เอาร้านนี้แล้วกัน เข้าไปยื่นคูปองอาหารเช้าของสามประสบรีสอร์ท เขาไม่รับ(แหงล่ะ) โจ๊กนั่งยองเป็นร้านเปิดโล่งๆ มีโต๊ะเตี้ยๆกับเก้าอี้เตี้ยๆใครตัวสูงนี่ขาเกะกะแน่นอน

          สั่งอาหารไปเพียบ ปาท่องโก๋สั่งไป 2 น้องพนักงานในร้านหันกลับมาบอกว่า "ตัวมันใหญ่นะพี่" แล้วก็ชี้ให้ดูในตู้ เออ...ใหญ่จริง เอาตัวเดียวก็ได้ โรตีโรยนม อันนี้ไม่ค่อยถูกปากเท่าใหร่ อยากได้โรตีแบบกรอบๆแต่อันนี้ไม่ถึงกับกรอบ กินได้เพลินๆแต่ไม่ถึงกับว้าว ส่วนโจ๊กนี่ถูกใจ ที่ร้านวางชามหมี่กรอบไว้ที่โต๊ะเลยตักเติมได้ตามสะดวก ทานอิ่มก็เดินกลับโรงแรมข้าวเช้าย่อยหมดพอดี

          เป็นทริป 3 วัน 2 คืนที่ชอบมาก อากาศดีถึงจะมีฝนตกบ้างแต่นั่นก็ทำให้อากาศสดชื่นขึ้น แถมช่วงไม่มีฝน ฟ้าก็เป็นสีครามเข้มสวยอีกต่างหาก...แถมได้ที่พักดีๆอย่างสามประสบรีสอร์ทที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน วิวจากห้องพักที่สวยมากๆ ก็ทำให้การมาเที่ยวคราวนี้สมบูรณ์ขึ้น ราคาต่อห้องช่วงที่ไปพักอยู่ที่ 2000 บาท ถือว่าสูงกว่าที่พักอื่นๆในย่านนี้ แต่เมื่อเทียบกับสิ่งอำนวยความสะดวก มาตรฐานต่างๆแล้วถือว่าไม่แพงเลยครับ...