คนละ1,000นิดๆก็นอนเต็นท์หรูแบบฟินๆได้

🏕นอนเต็นท์หรูแนวซาฟารีมีอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี เลยบรรยากาศดีมากอยู่ริมหน้าผา ด้านล่างมีแม่น้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนในหนังผจญภัยเลย🎞 ที่นี่คือ

Hintok River Camp @ Hellfire Pass

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อยทางเข้าเดียวกันกับช่องเขาขาด
บริเวณรีสอร์ทกว้าง มีต้นไม้ร่มรื้นทั้งรีสอร์ท การตกแต่งจะใช้วัสดุจากธรรมชาติมาตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศ🌳
⛺️ห้องพักจะเป็นเต็นท์ทั้งหมดเลย มีอยู่ 2 Type คือ
- Superior
- Deluxe
เต็นท์สวยมากมีห้องน้ำในตัวเรื่องความลำบากลืมไปได้เลย บริเวณเต็นท์กว้าง มีพื้นที่ระเบียงด้านหน้าสุดชิล อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเยอะ มีแอร์เย็นช่ำๆ เต็นท์ทั้ง2แบบจะคล้ายๆกัน แค่เต็นท์ก็ถ่ายรูปชัตเตอร์รัวๆแล้ว

ที่นี่มีกิจกรรมให้เล่นอีก ไม่ว่าจะล่องเรือ ล่องแพ ปั่นจักรยาน และที่เป็นไฮไลท์เลยคือสระแช่น้ำธรรมชาติสวยมากจริงๆ🌿 อยู่ริมหน้าผาด้านล่างเป็นน้ำตกสุดไพรเวทในแคมป์ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย💦 มาที่เดียวครบจบทั้งบรรยากาศเต็นท์และแพริมน้ำได้รูปกลับไปเยอะแน่นอน📸❗️ที่สำคัญเตรียมชุดให้เข้ากับธีมแคมป์ปิ้งให้พร้อม

🍽สำหรับมื้ออาหาร ที่นี้เริ่มต้นทุกการจองจะรวม
อาการเช้า และ อาหารเย็น
ส่วนหากใครอยากทานอาหารกลางวันด้วยก็มีตัวเลือกเพิ่มเช่นกัน เพิ่มเพียงไม่กี่บาทก็ได้อาหารครบ 3 มื้อแล้ว
ไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างก็คือการทานอาหารเย็นบุฟเฟ่รอบกองไฟ🔥มีอาหารไทยและบาร์บีคิวปิ้งย่าง แต่โชคร้ายไปเจอฝนตกก็จำเป็นต้องไปทานที่ร้านอาหาร

🎉ส่วนใครอยากไปเรามีส่วนลด 10% มาแจก
Promocode : Goway10

วิธีจอง
1. เข้าลิงก์จองตรงของโรงแรม https://bit.ly/32DdXcj
2. กรอก Promocode ที่ช่อง Promotion Code
3. ระบุวันเข้าพักพร้อมชำระเงิน

จองได้ตั้งแต่วันนี้ – 20 ก.ค.2563
เข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ต.ค.2563

📌ใครสนใจติดต่อเข้าไปได้เลยตามรายละเอียดด้านล่าง
🌐เว็บไซต์ : https://www.hintokrivercamp.com/th/
📱Facebook : https://www.facebook.com/hintokrivercamp
☎️เบอร์ติดต่อ : 081-7543898
🗺GPS : 14.353397, 98.929545
📥Direct Booking link : https://bit.ly/32DdXcj

อ่านรีวิวต่อได้ที่ด้านล่างเลย >>

เริ่มจากทางเข้ารีสอร์ทตกแต่งได้สวยงามอลังการ มีรั้วรีสอร์ทประดับตกแต่งด้วยไม้ทั้งหมด และมีรถเก่าที่อยู่ด้านหน้าเป็นเหมือนรถสำรวจป่าแบบสมัยก่อน 

เราไปเช็คอินเข้าพักกันดีกว่าตรง Reception ก็ยังคงตกแต่งในสไตล์ไม้ให้เข้ากับธรรมชาติ พนักงานบริการดีเยี่ยมเลยแนะนำเราทุกอย่าง ทางด้านข้างของรีสอร์ทจะเป็นที่นั่งชิลๆริมหน้าผา มองเห็นภูเขา สายหมอก และแม่น้ำแคว ได้อย่างกว้างไกล

บริเวณรีสอร์ทจะแบ่งเป็นชั้นล่างเป็นแพนั่งเล่น ส่วนด้านบนภูเขาจะเป็นโซนของเต็นท์พักทั้งหมด จะมีบรรไดขึ้นลงตามไหล่เขา เตรียมขากันไว้ดีๆจะต้องขึ้นลงบรรไดบ่อยๆ ไฮไลท์ด้านล่างที่ห้ามพลากเลยคือสระน้ำธรรมชาติ ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาทุกคนที่มาจะต้องเล่นไม่งั้นมาไม่ถึง

เราไปดูห้องพักกันดีกว่าเราจองเต็นท์แบบ Deluxe สามารถพักได้สูงสุด 3 ท่าน มี 1 เตียงใหญ่ และ 1 เตียงเล็กสำหรับนอนคนเดียว เต็นท์พักแทบจะเหมือนห้องพักปกติเกือบทุกอย่างเลย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แอร์ พัดลม ตู้เย็น ไดร์เป่าผม ผ้าเช้ดตัว ยกเว้น ทีวี แต่เมื่อเรามาพักผ่อนทั้งทีทีวีก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ใครที่มาพักจะใช้เวลาอยู่กับเต็นท์และถ่ายรูปเยอะแน่นอนเพราะเต็นท์สวยมีของใช้ตกแต่งให้ดูคลาสสิค

ในส่วนของห้องน้ำกว้างขวางมากแบ่งเป็น 3 ส่วน ทางซ้ายคือห้องสุขา ทางขวาเป็นห้องอาบน้ำ ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้าและห้องสำหรับแต่งตัว สำหรับใครที่เขินกลัวว่าจะเป็นห้องอาบน้ำที่ไม่มิดชิดมาที่นี่ไม่ต้องห่วงมีประตูกันกับผ้าม้าน และสำหรับคู่รักที่ไม่เขินกันก็สามารถเข้าใช้ห้องน้ำแบบแบ่งเป็นส่วนๆได้แต่ละห้องก็จะมีผ้าม้านกั้น

หน้าเต็นท์ห้องพักห้องเราจะมีเปลชิงช้าให้ด้วยไม่เหมือนกับเต็นท์อื่นๆ จากที่เห็นรู้สึกจะมีแค่หลังเดียวคือหลัง 116 และได้เห็นวิวภูเขาจากหน้าห้องด้วย ส่วนเก้าอี้และโต๊ะหน้าห้องจะมีเหมือนกันทุกเต็นท์ นั่งชิลๆหน้าเต็นท์คือชิลมากฟังเสียงสายลมพัดต้นไม้ ฟังเสียงนกจากธรรมชาติ สูดอากาศดีๆ เป็นการพักผ่อนที่ดีมาก

ด้านหลังเต็นท์เราจะเป็นเต็นท์สำหรับมาพักเป็นครอบครัว จริงๆภายในเต็นท์จะเหมือนกันเลยเพียงแต่ว่าอยู่ในรั้วเดียวกัน แต่ดูเต็นท์สวยสง่ากว่าหลังอื่นเพราะด้วยยกเต็นท์สูงขึ้นด้วย

หลังจากไปดูห้องพักเสร็จเรามาทานอาหารกลางวันที่ห้องอาหารดีกว่า เราจองมาเป็นแบบรวมอาหาร 3 มื้ออาหารรสชาติดีเลยให้เยอะ แต่วัตถุดิบยังไม่หลากหลายเท่าที่ควรมีเพียง หมูกับไก่ ส่วนตัวอยากให้มีเมนูปลาสักนิดนึง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จองมาเพราะราคาแพ็กเกจไม่แพงเลย

หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จไปเดินชมโซนด้านล่างริมแม่น้ำกันดีกว่า จะบอกว่าบรรยากาศดีมากมีที่นั่งเล่นริมน้ำ ที่อยากเห็นมากที่สุดคือสระน้ำธรรมชาติที่ไหลมาจากบนเทือกเขา สะอาดและสระน้ำใหญ่กว่าที่คิด เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็ว่าได้ใครมาแล้วไม่ได้เล่นถือว่ามาไม่ถึง

แค่ทางลงยังถ่ายรูปสวยเก๋เลย ถ้าตอนน้ำลงไม่สามารถข้ามสะพานนี้ได้เลยสะพานจะเอียงมากในตอนเช้า

โต๊ะและเก้าอี้โซฟานั่งเล่นริมน้ำมีหมอนให้ด้วยเห็นละอยากนอนเลย

อีกฝั่งจะเป็นเก้าอี้นอนอาบแดด ใครไม่อยากอาบแดดก็ให้มาช่วงเช้าหรือช่วงเย็น สามารถนอนเล่นอ่านหนังสือชิลๆได้เลย เป็นสถานที่ ที่นอนอ่านหนังสือดีที่สุดก็ว่าได้

ตรงเลยนี้สระน้ำธรรมชาติสีเขียวมรกต ที่น่าแช่มากที่สุดอยากจะแช่ทั้งวันเลยสวยงามมาก

ตอนใกล้พระอาทิตย์ตกเราขอแนะนำมุมถ่ายรูปตรงนี้เลย แสงอาทิตย์กระทบกับแม่น้ำเป็นแสงที่สวยมาก

ช่วงเย็นในเวลา 6 โมง 45 เราไปทานอาหารเย็นกันดีกว่า ทางรีสอร์ทจัดสถานที่ไว้ตรงกลางสนามหญ้าของรีสอร์ท หากใครโชคร้ายเจอฝนจะต้องย้ายไปทานที่ร้านอาหาร ช่วงค่ำๆจะมีการจุดรอบกองไฟด้วยทำให้บรรยากาศเหมือนตั้งแคมป์จริงๆ อาหารจะเป็นบุฟเฟ่ บาร์บีคิว ผัดไทย หมูย่าง ไก่ย่าง และเป็นเซ็ตอาหารไทย บอกเลยว่าอิ่มจนจุกได้เยอะมากจริงๆ ที่ชอบที่สุดคือบาร์บีคิวหมู เนื้อหมูอร่อย น้ำซอสดีมาก

ในตอนเช้าเรารีบตื่นมาดูหมอกในเช้าตรู่เลย เห็นหมอกอยู่ไกลๆถ้าโชคดีหน่อยจะเจอด้านหน้ารีสอร์ทเยอะเลย ชมวิวและสูดอากาศดีๆไปด้วยสดชื่นมาก

ก่อนทานอาหารเช้าเราก็รีบมาเล่นน้ำ เพราะเราชอบเล่นตอนไม่มีคน ถ่ายรูปก็สวยไม่ต้องแย้งใคร ได้แช่น้ำมองวิวทิวเขาและหมอกในยามเช้า ไม่ร้อนด้วย หากใครเห็นเศษใบไม้รก เป็นเรื่องปกติเลยเพราะมีต้นไม้ปกคลุมสระน้ำและไม่ได้สกปรกอย่างที่เห็น

ถ่ายจากมุมโดรนออกไปทำให้รู้สึกถึงเป็นที่พักกลางขุนเขาและธรรมชาติจริงๆ

เล่นน้ำเสร็จเราก็ไปทานอาหารเช้ากันต่อ บอกเลยว่าการเล่นน้ำเป็นการเรียกต่อมหิวได้ดีมาก ปกติแล้วจะไม่ค่อยอยากทานอาหารเช้าเท่าไหร่ ทางรีสอร์ทจัดให้มาเป็นเซ็ตแบบบุฟเฟ่เลย ใครอยากทาน American breakfast ก็สามารถเลือกเมนูไข่ได้ 3 แบบ ส่วนใครอยากทานแบบอื่นก็ยังมีข้าวต้มทรงเครื่องให้ทานร้อนๆด้วย ต่อด้วยขนมปังต่างๆ ชา กาแฟ แบบไม่อั้น

เช้าสายๆเราเตรียมตัวไปปั่นจักรยานเที่ยวข้างนอกรีสอร์ทดีกว่า เค้าแนะนำมาว่า สะพานแขวนบ้านหาดงิ้ว สวยมากต้องไปถ่ายรูปให้ได้เลย อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทมากแต่ก็เล่นเอาซะขาแข็งกันเลย ระยะทางไม่ไกลเท่าปั่นขึ้นเนินเขา

ในที่สุดก็มาถึง สะพานแขวนบ้านหาดงิ้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสะพานแบบนี้อยู่ด้วย วิวก็ดีมากๆ สะพานนี้ยังคงใช้งานปกติเพราะชาวบ้านยังขับมอเตอร์ไซค์ข้ามไปมาอยู่ หากใครมาแถวนี้ก็สามารถขับรถมาชมได้เช่นกัน

จบทริปแบบปวดขา เอ้ย!!แบบสมบูรณ์ฮ่าๆ เราขอแนะนำรีสอร์ทนี้เลยที่พักสไตล์แคมป์ปิ้งใน จ.กาญจนบุรี ที่ต้องมาสักครั้งเป็นการพักในรูปแบบใหม่ นอนเต็นท์แต่ไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด ได้ถ่ายรูปสวยๆอีก บริการก็ดีอาหารกินแบบจุกๆกันไปเลย ประทับใจทุกอย่างขนาดเรามาหน้าฝนยังอากาศดีขนาดนี้แล้วถ้าหน้าหนาวหละจะดีขนาดไหน อย่าช้ารีบจองก่อนเต็มยาวๆนะ

#GoWayFinder #Hintokrivercamp #Hintok #SERENATAhotels #Thailand #กาญจนบุรี
#ที่พักกาญจนบุรี #เต็นท์ #แคมป์ปิ้ง

Go Way Finder

 วันพฤหัสที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 15.23 น.

ความคิดเห็น