สวัสดีเพื่อนๆ อีกครั้งค่ะ แมงน้อยขอรายงานตัว ภารกิจพิชิตปางอุ๋งในครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี ด้วยความฟินกับสถานที่และบรรยากาศที่ปางอุ๋ง เลยอยากให้มาฟินกันต่อกับรีสอร์ทท่ามกลางไร่ชาแห่งนี้ สวรรค์บนดินที่ ลีไวน์ รักไทย รีสอร์ท


รู้จักที่นี่เพราะคุงแฟนถูกใจ ปักหมุดไว้ค่ะ และสืบเนื่องมาจากการขึ้นปาย ไปปางอุ๋ง ต้องผ่านมาหลายร้อยโค้ง รวมตั้งแต่เชียงใหม่ถึงปายด้วย เป็นทั้งหมดประมาณ 1,864 โค้ง จนต้องไปรับใบประกาศนียบัตรผู้พิชิตโค้งที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนกันเลยทีเดียว

(รายละเอียดรีวิวฉบับเต็มทริปจะเพิ่มให้ในภายหลังนะคะ) จากการทำการบ้านท่องเที่ยว การเดินทางจากปายมาปางอุ๋ง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ด้วยหนทางโค้งที่เหวี่ยงไปมาจนเพลีย+อ้วก เพื่อไม่ให้คนขับรถเหนื่อยจนเกินไป เลยเลือกหาที่พักแถวปางอุ๋งสักคืน กะว่าตอนเช้าเราจะได้ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ปางอุ๋งเช่นกัน ตอนแรกก็ดูที่พักในโครงการพระราชดำริปางตอง ถูกหน่อย แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะที่นี่ ลีไวน์ รักไทย รีสอร์ท ถึงแม้จะอยู่ไกลจากปางอุ๋งประมาณ 10 กิโลเมตร ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับแมงน้อย เพราะอะไรนะเหรอ?ลีไวน์ รักไทย รีสอร์ท ที่พักสไตล์บ้านดินฉบับจีนยูนนานท่ามกลางไร่ชา วิวพาโนราม่า มองเห็นพระอาทิตย์ตกทุกหลัง ที่นี่จะใช้ชื่อชาแต่ละชนิดเป็นชื่อห้องพักแต่ละหลังค่ะ โดยห้องที่พักได้ 2 คนจะมีห้องเดียว ชื่อว่า "ห้องชานางงาม" ราคา 1,500.- ส่วนห้องอื่นจะเป็นห้องใหญ่ ราคาสอบถามได้ที่รีสอร์ทค่ะ โดยก่อนมาถึงที่รีสอร์ทเราจะผ่านจุดเด่นหลักๆ ต่อไปนี้


ทางแยกเพื่อเข้าไปยังโครงการในพระราชดำริปางตอง ทางเดียวกับลีไวน์ รักไทย รีสอร์ท

ยินดีต้อนรับสู่ "บ้านรักไทย" (แม่ออ)


ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรรักไทย


ถึงแล้วค่ะ "ลีไวน์ รักไทย รีสอร์ท" (ปล.ยืมภาพที่ถ่ายในช่วงเช้ามาให้ชม เพราะแสงสวยกว่าเยอะเลย)

ด้วยความที่แมงน้อยลงจากปายช้า ขับรถเร็วก็ไม่ได้ แถมเพลิดเพลินในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และปางอุ๋ง ทำให้เรา Check in ที่รีสอร์ทช้ามาก


เกือบจะ 6 โมงเย็นแล้ว โชคดีที่รีสอร์ทมีร้านอาหารด้วย (ร้านชื่อดัง การันตีจากรายการต่างๆ) แมงน้อยก็เลยไปฝากท้องมื้อเย็นที่นี่

ร้านอาหารลีไวน์ รักไทย เป็นร้านอาหารค่อนข้างใหญ่ จัดสรรได้อย่างลงตัว มีร้านกาแฟด้านหน้า และร้านขายของฝากแบบเต็มสตรีม

วันนี้คงไม่ได้เก็บภาพบริเวณห้องพัก เพราะว่ามืดแล้ว เลยพาไปทานอาหารที่ร้านอาหารก่อนละกันนะคะ

บรรยากาศภายในร้านค่ะ

เมนูอาหารมีทั้งเป็นชุด และอาหารตามเมนู ราคาไม่ได้ถูกมากเท่าไร แต่มาถึงร้านอาหารก็เลยสั่งไปไม่กี่อย่างค่ะ

ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ พนักงานก็นำชายอดน้ำค้างมาเสิร์ฟใฟ้ฟรี พร้อมสอนวิธีการทานชาด้วย ชารสชาดดีและหอมสุดๆ เลยค่ะ


หลังจากได้ชิมแล้ว ติดใจเลยอ่ะ น้ำหวานอะไรที่ว่าอร่อย ตอนนี้ก็เทียบชาไม่ได้แล้ว ฟิน!!!

ระหว่างรออาหารยังคงถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย

ตอน Check in ต้องมีการมัดจำค่ากุญแจห้องด้วยนะคะ 200.- (ปล.กุญแจจะใหญ่และหนักไปไหน อิอิ)


อาหารสำหรับ 2 ท่าน ที่สั่งในวันนี้ ได้แก่...
ข้าวเปล่า 15.-

ยำใบชา 130.- : แปลกดี แต่อร่อยใช้ได้ค่ะ เผ็ดได้รสชาด แนะนำเลย


เห็ดหอมน้ำมันหอย 160.- : รสชาดโอเค มีรสเผ็ดนิดหน่อย เห็ดนุ่มดีค่ะ


ซุปจงเปา 200.- : อยากได้เมนูน้ำมาซดสักหน่อย มีแต่ชามใหญ่มาก ไม่มีชามเล็ก แต่ก็ยอม มาถึงตกใจเลย ชามใหญ่เท่าหม้อ ทานเกือบไม่หมด


เมนูนี้สมุนไพรล้วนๆ ด้านล่างเป็นเครื่องเทศ เผ็ด แซ่บ แปลกดีค่ะ

ทานอาหารเสร็จ ก็เก็บภาพตอนหัวค่ำอีกสักนิด ก่อนขึ้นไปยังห้องพัก
เค้ามีขายโปสการ์ดด้วยนะ

ร้านขายของฝากพรุ่งค่อยแวะเข้าไปดูกัน


พนักงานที่นี่ทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วยค่ะ น้องร่าเริง ยิ้มน่ารักจัง



มีบริการให้เช่าชุดถ่ายรูปด้วยนะตัวเอง อิอิ


ทางเดินไปยังห้องพัก ห้องชานางงามไม่ไกลเท่าไรค่ะ

กลับมาที่ห้อง อากาศ ณ ตอนนั้น 7 องศาเจ้า คนไม่เคยเจออากาศหนาวขนาดนี้ แอบมึนหัวเล็กน้อย คล้ายจะเป็นไข้ ต้องอัดยาตามระเบียบ


เก็บภาพในห้องมาฝากด้วยค่ะ

คูปองอาหารเช้า


ชุดอุปกรณ์ในห้องน้ำค่ะ


แอบมาส่องดาวสักนิดหน้าห้อง แต่อยู่นานไม่ไหวค่ะ จะหนาวไปหนายยย ส่วนระเบียงที่อยู่หน้าห้อง นี่นั่งไม่ได้เลยนะคะ น้ำค้างแรงและหนาวมาก

จะบอกว่าในห้องไม่มีแอร์ เพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้เลย แต่...แม่เจ้า!! เครื่องทำน้ำอุ่นใช้ระบบโซล่าเซลล์ เครื่องติดแต่ร้อนแป็ปเดียว น้ำเย็นอีกแล้ว กรี๊ดๆ อาบๆ อยู่ตกใจเลย ตายล่ะ ฟองแชมพูบนหัวชั้นจะจัดการอย่างไรกับมันดี จะไม่อาบต่อก็ไม่ได้ ลองเปิดใหม่ ก่อนจะเย็นก็ต้องร้อนใช่ไหม เอาว่ะ อาบแบบเปิดๆ ปิดๆ ก็ได้ว่ะ 555 จะบร้าตาย (คือว่าได้รับคำเตือนมาว่าเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้พลังงานโซล่าเซลล์มักจะเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นมานอนพักอะไรแบบนี้ ควรอาบก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หรือซักแห้งเหมือนตอนขึ้นภูไปเลย 555

ตอนนอนอากาศหนาวมาก ที่นอน หมอน ผ้าห่มเปียกเลย นอนไม่หลับจริงๆ เช้ามามึนหัวนิดนุง อัดยาพาราซ้ำไปอีก
(ปล. ดีนะ เมื่อวานไปปางอุ๋งมาแล้ว ทางขึ้นชันและแคบ เลยตัดสินใจว่าคงไม่ไปแล้วในตอนเช้า เพราะหากจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นจะต้องออกจากที่พักก่อนตีห้าค่ะ แต่มันก็เป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะเปิดม่านมา วิวหน้าห้องสวยมากอีกแล้วครับท่าน ไม่ต้องไปดูที่ปางอุ่ง ถึงแม้ว่ามันคนละฟิวส์ก็ตาม
มึนขี้ตาแล้วลุกไปเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆ อีกเช่นเคย บางทีก็งงตัวเองว่ามาเที่ยวนี่ลำบากไปไหม อิอิ


เดินลงไปเก็บภาพต้นกำเหนิดหมอก ชมกันยาวๆ เลยค่ะ

ที่รีสอร์ทปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งด้วย แต่มีไม่กี่ต้น ยังไม่เยอะเท่าไรค่ะ

พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้วค่ะ

ขึ้นมาเก็บภาพต่อที่หน้าห้องพักบ้าง สวยงามจังเลย

เริ่มมีแสงมาแล้ว ก็เก็บภาพในห้องอีกสักหน่อย ก่อนจะทำธุระส่วนตัว เก็บข้าวของ ลงไปทานอาหารเช้าที่ร้านอาหารเดิมค่ะ

วันที่ไป มีงานทำบุญรีสอร์ท ก็จะเห็นเค้าโยงสายสิญจน์ตามห้องพักแต่ละหลังด้วยค่ะ ระหว่างทางเดินก็เก็บภาพไปเรื่อย
วันนี้ฟ้าเปิด ภาพที่ออกมาก็สวยงามไปด้วยค่ะ


มีโรงบ่มไวน์ด้วย


เจอเด็กน้อยคนเดิมอีกแล้ว

อาหารชุดที่รีสอร์ทเตรียมไว้ให้ ข้าวต้มหมู-เห็ด แบบเครื่องเคียงสวยงาม พร้อมกับกาแฟ และโอวัลตินรสชาดดีร้อน ๆ ที่ขาดไม่ได้เลย
คือการได้จิบชายอดน้ำค้างฟรีอีกครั้ง ครั้งนี้ได้จิบชาโสมอู่หลงที่หวานตรงปลายลิ้นด้วย ไม่รู้จะบรรยายยังไง ว่ามันรู้สึกดีมาก
ร้านอาหารริมน้ำ ท่ามกลางหมอก อาหารรสเลิศ จิบชาพันธ์ดี คลุกเคล้าเสียงเพลงบอสซ่า บอสซัม

ชายอดน้ำค้าง


ชาโสมอู่หลง สีเข้มกว่าหน่อย


ร้านอาหารที่รีสอร์ทมืออาชีพมากๆ ค่ะ เก๋ตรงที่รีสอร์ทเปิดเพลงบอสซ่า บอสซัมน่ะ ไปพักที่เชียงใหม่ รีสอร์ททันสมัยเปิดเพลงล้านนา 555
หลังจากการตลาดที่ทำให้เราติดใจในรสชาแล้ว รับรองต้องมีของฝากเป็นชาแน่ๆ เดินเลือกกันให้งงไปเลย ชาไหนหอมกว่าชาไหนกันล่ะนี่
สรุปได้ของฝากเต็มไม้เต็มมือ แต่ขอบอกว่าของเค้าดีจริงๆ นะ คิดว่าถ้าหมดแล้วคงต้องโทรมาสั่งซื้อแน่นอน เพราะที่นี่เค้ามีบริการส่งให้ฟรี
ถ้าเกิน 1,000.- หากไม่ถึงก็คิดค่าส่งไปรษณีย์ตามจริงค่ะ
ออ! ตอนทานอาหารมื้อเย็นจะได้บิลค่าส่วนลดของในร้านด้วย 10% ด้วยนะคะ ดูละกันว่ามือโปรขนาดไหน ^^


ก่อนจะ Check out กลับลงไปพำนักพักพิงที่ปายอีกคืน ก็ขอเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ มาฝากเพื่อนๆ สักหน่อย เขียวสดชื่นดีจริงๆ
แถมฟ้าสดใส ทำให้ได้ภาพออกมาสวยหน่อย เวลาต่างกันนี่ก็ทำภาพได้คนละฟิวส์จริงๆ นะคะ
ปล. ที่นี่พอสายหน่อยอากาศก็เริ่มร้อนจัดอีกแล้วค่ะ ปรับสภาพไม่ถูกเลย

ต่อไปนี้จะเป็นภาพห้องพักท่ามกลางไร่ชาแบบยาวๆ กันไปเลยค่ะ ฟ้าใส สวยงาม เลยได้รูปมาเพียบ

ได้เวลาออกเดินทางกลับแล้วค่ะ บ้าย บาย ลีไวน์ รักไทย

สรุป เป็นที่พักอีกที่ ที่ประทับใจทุกเรื่องเลยค่ะ รีวิวนี้คงทำให้เพื่อนตัดสินใจไม่ยาก มากอดเมืองไทยกันนะคะ


แมงน้อยฝากผลงานรีวิวที่พักในปายที่เขียนเสร็จแล้วด้วยนะคะ

http://pantip.com/topic/31618168


ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ

ความคิดเห็น