"แล้วแต่ตัว" พาไปพักผ่อนติดเกาะ 3 วัน 2 คืน กันที่เกาะช้าง จังหวัดตราด

ในทริปนี้เราเลือกใช้บริการที่พักของ Awa Resort Koh Chang

ซึ่งตั้งอยู่บนหาดไก่แบ้ ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือเกาะช้างประมาณ 20 นาทีเท่านั้น

---

วันแรก เดินทางจากกรุงเทพ เวลา 05.00 น. ถึงท่าเรืออ่าวธรรมชาติประมาณ 10.00 น. ได้ลงเรือพอดีโชคดีมาก ระหว่างอยู่บนเรือมองเห็นเมฆฝนหนาๆมาเลย

ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีก็ข้ามถึงเกาะช้างแล้ว
แต่ด้วยยังไม่ถึงเวลาเช็คอินโรงแรมเราจึงมีเวลาขับรถเที่ยวรอบเกาะก่อนจากท่าเรือเกาะช้างเราเลี้ยวซ้ายไปชมเกาะช้างที่ฝั่งที่เป็นธรรมชาติและบ้านเรือนของคนบนเกาะ

ซึ่งระหว่างที่ขับรถเที่ยวจนถึงเวลาเช็คอินฝนก็ตกลงมาเรื่อยๆ
เราจึงเดินทางไปเช็คอินเข้าที่พัก Lobby ของรีสอร์ทตกแต่งได้ดูโอ่โถง โปร่งสบาย
ตกแต่งด้วยช่องลมลายดอกไม้สีขาวงาช้าง งดงามมากจริงๆ

จุดนั่งที่ Lobby กว้างขวาง และหมอนเยอะมาก

ประตูเข้าสู่ Lobby ของรีสอร์ท ใหญ่โต โอ่โถ่งมากๆ เลย

ได้กุญแจห้องมาแล้วพาไปสำรวจห้องพักกัน ห้องพักของเราเป็นประเภท Deluxe อยู่ชั้น 3 วิวสระว่ายน้ำ เตียงนอนเป็นแบบ นุ่ม แน่น นอนสบาย ไม่ปวดหลังเลย มาพร้อมกับหมอน 6 ใบ หมอนเยอะ ฟินมาก

ห้องน้ำแบ่งสัดส่วนเป็นอย่างดี ทั้งโซนอาบน้ำฝักบัว โซนแช่อ่าง และโซนแห้ง

ออกมาชมวิวหลังห้องนิสหน่อย

ขับรถเที่ยวเกาะมานาน
ขอนอนพักผ่อนเก็บแรงก่อนออกมาสำรวจรีสอร์ทตอนฝนหยุดกัน

แต่แล้ว!!สุดท้ายทริปวันแรกของเราเจอแต่ฝนทั้งวันเลยจ้า เราจึงเข้าใช้บริการ
นวดแผนไทยจำนวน 60 นาทีของทางรีสอร์ทที่ The Spa แทน

ไหนๆ ฝนก็ตกละขอนวดผ่อนคลายซักหน่อย
การนวดแผนไทยของที่นี่สำหรับเราถือว่ากำลังดีนวดให้ผ่อนคลายจนเกือบหลับไปหลายรอบเลย
แหะ ๆ

เสร็จแล้วเราก็ทานอาหารเย็นกันที่ห้องอาหารของโรงแรม เราเลือกเมนู Fisherman
Feast Dinner ในเซตจะมีเมนูอาหารทะเลที่รวมอาหารทะเลเอาทั้ง กุ้ง ปู หมึก หอย
,เมนูข้าวผัด, และสลัด ทานคู่กับน้ำมะพร้าวทั้งลูกและน้ำแตงโมปั่น

ก่อนกลับห้องพักเห็นรีสอร์ทเปิดไฟแล้วสวยมาก ขอแวะเก็บภาพไว้ซักใบนะ

---

วันที่สอง เช้าวันใหม่ไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร The Spoon ซึ่งเป็นห้องอาหารที่เปิดให้บริการแบบ All day Dinning อาหารเช้าจะเป็นแบบบุฟเฟต์ น่าทานทุกเมนู

วันนี้อาหารแจ่มใสออกไปสำรวจรีสอร์ท
หามุมถ่ายภาพกันดีกว่าส่วนที่พลาดไม่ได้เลยคือ สระว่ายน้ำสีน้ำเงิน ขนาดใหญ่
แต่ไม่ลึกมากสามารถเดินได้ตลอดสระ ริมสระมีศาลาและบาร์เครื่องดื่มให้บริการ

มีเกมส์เล็กๆเช่น หมากรุก Jenga ให้เล่นเพลินๆด้วยนะ ท้าดวลกันได้นะ 5555

ไปสำรวจกันต่อบริเวณอาคารที่พัก เป็นสวนและหญ้าเขียว

โซนหาด ต้องบอกก่อนว่าหาดที่โรงแรมจะไม่ลาดลงไปจนถึงทะเลนะ
แต่สามารถเดินออกไปทางขวาของหาด เพื่อไปที่หาดไก่แบ้ได้เลย

ไม่ลืมที่จะกลับไปเก็บภาพบริเวณ Lobby ด้วยนะ
ขอเอาแค่ภาพที่ถ่ายกับประตูทางเข้ามาลงแค่นี้ก่อน แหะๆ

หมดเวลาครึ่งเช้ากับการสำรวจและถ่ายภาพในรีสอร์ท ไปทานอาหารกลางวันกันกับเมนู
Signature Dish Menu ประกอบไปด้วย แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นโต และทอดมันกุ้ง
ทานกับน้ำผลไม้ปั่นสดชื่นสุดๆ

ช่วงบ่ายอากาศดีๆแบบนี้ ออกไปสำรวจเกาะช้างฝั่งรีสอร์ทกันบ้างดีกว่า
(จากท่าเรือมาทางขวา) ขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ จนไปถึงหมู่บ้านชาวประมงบางเบ้า
ซึ่งขับรถจาก Awa Report ประมาณ 20 นาที ระหว่างทางมีขึ้น-ลงเขา และโค้งหักศอก
ต้องขับด้วยความระมัดระวังนะครับ

เดินมาจนสุดท่าเรือ จะมีประภาคารบางเบ้าตั้งอยู่ สามารถขึ้นไปชมวิวได้

กลับมาพักผ่อนเล่นน้ำที่รีาอร์ทคลายร้อนกันก่อนอาหารเย็นซักหน่อย

ถึงเวลาหาอาหารเย็นกับ Thai set Dinner ลองเป็นอาหารไทยบ้าง มีเมนูปลาทอด 2
รสกับพะแนงไก่และผลไม้

---

วันที่สาม วันสุดท้ายของทริปซะแล้วว อยากอยู่เที่ยวต่อ (ได้มั้ย?) เช้าวันสุดท้ายเราไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรมาก ไปเดินเล่นฝั่งทะเลของรีสอร์ทกัน เดินลัดเลาะออกไป เก็บภาพชิงช้า พร้อมวิวทะเลสวยๆกันแบบชิลๆ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ

ปิดท้ายทริปนี้ด้วยภาพยามค่ำคืนของรีสอร์ท ที่เปิดไฟแล้วดูสวยงามมากๆเลย

เป็นทริปเที่ยวสไตล์ชิลๆ เน้นพักผ่อนตามแบบฉบับของเรา
มาเขียนแชร์เพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆได้ใช้ในการจัดทริปของเพื่อนๆกันนะครับ


การเดินทาง

เราเดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลาเดินทาง กรุงเทพ - ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ ประมาณ 5 ชั่วโมง สามารถขับรถมาที่จุดซื้อตั๋วแบบ Drive Thru ได้เลย ราคาข้ามเกาะรถยนต์ 1 คัน คน 2 คน รวม 280 บาทต่อเที่ยว เรือออกทุกๆ 30 นาที ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีถึงท่าเรือเกาะช้าง ขับรถต่ออีกประมาณ 20 นาทีถึง Awa Resort Koh Chang แล้ว

ติดตามพวกเราได้ที่ : แล้วแต่ตัว

รีวิวอื่นๆ: คลิก