พิษโควิด-19 ทำเอาหลายๆทริปที่วางไว้ล่มไม่เป็นท่า รวมถึงทริปญี่ปุ่นที่วางแผนกันมาครึ่งค่อนปีก็ยังต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด แต่ไปเจอที่หนึ่งที่พอจะชดเชยความคิดถึงญี่ปุ่นได้บ้าง เพราะบรรยากาศได้ความเป็นญี่ปุ่นมากๆ ไปดูกันครับว่าเป็นอย่างไร
Mayu Bangkok อยู่ภายในซอยสุขุมวิท 49/2 เข้าจากซอยสุขุมวิท 49 หรือ สุขุมวิท 51 ก็ได้ โดยเข้ามาในซอยประมาณเกือบ 500 เมตร จะมีซอยย่อยเล็กๆอีกซอยหนึ่ง Mayu Bangkok จะอยู่ในซอยนั้น หากนำรถส่วนตัวมาเอง ที่จอดรถของโรงแรมรองรับได้ประมาณ 4 คันเท่านั้น อาจจะจอดยากเสียหน่อย
ด้านหน้าของ Mayu Bangkok จะเป็นเหมือนบ้าน 2 ชั้นธรรมดาเท่านั้น แต่มีประตูแบบญี่ปุ่นและการตกแต่งโดยใช้ไม้ไผ่เป็นส่วนประกอบ
เข้ามาด้านในจะเจอกับสวนที่จัดแบบสวนญี่ปุ่น ก่อนถึงพื้นที่ต้อนรับจะมีตู้ให้เก็บรองเท้าและเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะของโรงแรม ช่างเหมือนญี่ปุ่นเสียจริง
พื้นที่บริเวณนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือส่วนต้อนรับและพักคอย และมีห้องอาหารอยู่ด้านใน การตกแต่งก็ญี่ปุ่นมากๆ เช่น ผ้ากิโมโน ตุ๊กตาญี่ปุ่นแบบต่างๆ รวมถึงร่มแบบญี่ปุ่นบนเพดานด้วย
ระหว่างรอห้อง พนักงานซึ่งบริการดีมากๆ ก็นำน้ำชาและผลไม้มาให้ทาน นั่งทานไปมองสวนญี่ปุ่นไป ส่วนผลไม้ที่มาให้ชิมเรียกว่า "หยางเหมย" หรือ "ยัมเบอรี่" ทีแรกจะแกะเปลือกเพราะนึกว่าเป็นลิ้นจี่ แต่พนักงานบอกว่ากินได้เลย รสชาติเปรี้ยวหวาน สดชื่นมากๆ
ห้องพักเรียบร้อยแล้ว ไปดูห้องพักกันครับ เดินเข้ามาด้านในจะเจอสวนกลางอาคารที่ตกแต่งเป็นญี่ปุ่นมากๆ ตกแต่งด้วยหินและต้นไม้เป็นหย่อมๆได้บรรยากาศจริงๆ ถ้าเดินลึกเข้าไปด้านในจะไปทะลุกับออนเซ็น Kashikiri ซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของเดียวกัน
เปิดห้องมาว้าวเลย เป็นห้องแบบเสื่อญี่ปุ่นหรือ "ตาตามิ" ที่นอนเป็นแบบ "ฟุตอง" หรือฟูกแบบญี่ปุ่นนุ่มๆกับผ้าห่มที่นุ่มไม่แพ้กัน ดูดวิญญาณดีนัก ขนาดห้องไม่ใหญ่โตมากนักแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ ที่สำคัญคือมีชุดยูกาตะให้เปลี่ยนด้วย จะได้เข้าบรรยากาศเต็มที่ แต่ชุดที่มีวันที่ผมไปออกจะใหญ่ไปหน่อยเลยไม่ได้เปลี่ยน Wifi ในห้องก็เร็วใช้ได้ดู Youtube หรือ Netflix แบบ FullHD สบายๆ
ห้องน้ำขนาดพอประมาณ โถสุขภัณฑ์เป็นแบบญี่ปุ่นคือมีปุ่มชำระเลยไม่มีสายชำระมาให้ อ่างล้างหน้าเป็นเหมือนหินทั้งก้อนที่เอามาขุดข้างในออกสวยดี ส่วนสบู่ แชมพู ก็เป็นของ Kashikri ออนเซ็นที่อยู่ติดกันนี่เอง
เปิดประตูห้องพักไปด้านหลังจะเจอกับไฮไลท์ของที่นี่ นั่นคืออ่างแช่ออนเซ็นเป็นอ่างไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ผู้ใหญ 2 คนขดๆหน่อยก็พอจะลงพร้อมกันได้อยู่ แต่นั่งแช่คนเดียวสบายตัวกว่า วิวด้านหลังไม่มีอะไรให้ดูครับ เป็นกำแพงไม้ไผ่แล้วก็อาคารฝั่งตรงข้าม
แน่นอนว่าน้ำในกรุงเทพมันไม่มีน้ำแร่จากใต้ดินหรอก เป็นการเปิดน้ำอุ่นแล้วเอาผงแร่ที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้ใส่ลงไป นานๆได้นอนแช่น้ำอุ่นๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกันครับ ผ่อนคลายดีมากๆ
เดินกลับออกไปด้านหน้าจะมีสระว่ายน้ำไว้บริการด้วย แต่สระเล็กนิดเดียวครับ ลงสัก4-5คนก็เต็มสระแล้ว เหมาะกับการจุ่มตัวสบายๆมากกว่าว่ายน้ำจริงจัง
ห้องพักไม่ได้รวมอาหารเช้าไว้ ถ้าต้องการก็ซื้อเพิ่มได้ซึ่งผมก็ซื้อครับ ห้องอาหารสำหรับอาหารเช้าก็เป็นห้องที่ติดกับพื้นที่ต้อนรับนั่นแหละ เป็นที่นั่งแบบยกสูงเป็นเบาะ ใครข้อเข่าไม่ดีอาจจะลำบากหน่อยครับ
เห็นอาหารที่เตรียมไว้ให้ถึงกับตะลึง ชุดใหญ่มากเป็นอาหารแบบญี่ปุ่นเลยครับคืออย่างละนิดอย่างละหน่อยแต่กว่าจะกินหมดก็เล่นเอาอิ่ม ครบทั้งแซลมอนย่าง ของต้มต่างๆ เครื่องเคียง ข้าวสวย อิ่มยาวกันเลยทีเดียว
Mayu Bangkok เป็นที่พักที่ผมว่าเจ๋งมาก ที่พักแนวเรียวกังแบบญี่ปุ่นแท้ๆแบบนี้ในกรุงเทพหาไม่ง่ายครับ และที่นี่ทำบรรยากาศออกมาได้ดีจริงๆ การบริการก็ดี เรียกว่าใครคิดถึงญี่ปุ่นมาที่นี่ทำให้หายคิดถึงไปได้มากเลย...หรือจะทำให้คิดถึงกว่าเดิมก็ไม่รู้นะครับ
Pratuneung
วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.55 น.