สวัสดีค่ะ แมวน้ำ Seally-go-round นะคะ
วันนี้ขอรีวิวทริปสั้นๆ 1 วัน 1 คืน ไม่ไกลจากบ้านแถวพัทยา แค่ศรีราชานี่เอง แต่แทบจะไม่รู้สึกเลยว่าอยู่เมืองไทย
ทริปนี้จึงเสมือนว่าได้ไปมินิทริปที่ญี่ปุ่น ความรู้สึกมันได้จริงๆ ทั้งบรรยากาศที่พัก อาหาร ที่เที่ยว ดีงาม คุ้มค่าแก่การพักผ่อน
จริงๆแล้ว 'ศรีราชา' ไม่ได้ขึ้นชื่อ แค่ซอสพริก สวนเสือ หรือ ท่าเรือเกาะลอย ข้ามไปเกาะสีชัง แต่ 'ศรีราชา' คือ 'Little Japan' อีกที่นึง แหล่งคนญี่ปุ่นในเมืองไทย เยอะน้องๆรองจากแถวสุขุมวิทเลยทีเดียว แม้แต่ป้ายอำเภอ สถานที่ราชการยังมีภาษาญี่ปุ่นกำกับเลย
'ศรีราชา' เป็นเมืองที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และดูเหมือนจะมากขึ้นเรื่อยๆ ดูจากจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดเยอะขึ้น แหล่งช็อปปิ้ง community mall ทั้ง J-Park, Aeon Maxvalue ฯลฯ ด้วยความที่ใกล้แหล่งนิคมอุตสาหกรรมเช่น แถวแหลมฉบัง บ่อวิน ที่มีโรงงานจากญี่ปุ่นมาตั้งอยู่เยอะแยะมากมาย คนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานก็เลยมาพักอาศัยกันใกล้ๆไม่ไกลจากที่ทำงานมากจะให้อยู่ในนิคมฯเลยก็ไม่ไหว
ดังนั้น ศรีราชาจึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี คือเป็นเมืองเล็กๆที่มีสาธารณูปโภคครบ ทั้งที่พักที่กิน ที่สังสรรค์ ร้านคาราโอเกะ แหล่งสันทนาการต่างๆ ทั้งตกปลา พักผ่อนริมทะเล หรือ จะไปออกรอบตีกอล์ฟก็มีอยู่ไม่ไกล แถวเขาเขียวก็มีสนามกอล์ฟเยอะอยู่ มูลค่าการใช้จ่ายของคนญี่ปุ่นหนึ่งคนต่อเดือนที่เรือนแสนทีเดียวเชียว ศรีราชานี่ไม่ธรรมดาเลย นะเนี่ย
วันนี้เลยอยากมาจำลองวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นในเมืองไทย ที่อาศัยอยู่ที่ศรีราชาเนี่ยแหล่ะ ว่าเป็นยังไง แบบสั้นๆแค่ 1 วัน 1 คืน โดยที่พักเป็น Full service apartment ริมทะเลศรีราชา ที่ชื่อว่า 'Balcony Seaside' service apartment ริมทะเล
น้อยครั้งที่แมวน้ำจะจองห้องพักที่เป็นแบบfull service ราคาเกินหลักร้อย
อะไรกันน้าาาา...ที่ทำให้เจ้าแม่ห้องพักหลักร้อยอย่างแมวน้ำยอมจ่าย แม้ห่างจากบ้านแค่ครึ่งชัวโมง
พร้อมทั้ง แวะชมซากุระ เอ้ย ชมดอกเสลา ที่อ่างเก็บน้ำบางพระที่บานปีละครั้งช่วงเดือนมีนาคม ที่เวลาพอดอกเสลาบานเต็มต้นก็สวยงามไม่แพ้ซากุระเหมือนกันแหล่ะน้าาาา... ^^
...ทริปนี้เราจะมาพักผ่อนแบบชิลๆที่ (Little) Japan but in Thailand แถวๆศรีราชา กันนี่แหล่ะจ้า...
มินิทริปนี้เกิดขึ้นจากการเหนื่อยล้ากับการทำงานมาอย่างหนักหน่วง (เดือนนึงมีวันหยุดแค่ 2 วันเอง) จึงขอให้ร่างกายได้พักแบบผ่อนคลาย สบายๆสักวันเถอะ
แมวน้ำจึงเลือกหาที่พักไม่ไกลจากบ้านมาก เพื่อที่ว่าตื่นเช้าจะได้กลับมาเปิดร้านทำงานต่อได้เลย
เคยแอบมีลิสไว้ในใจแล้วว่าจะพักที่ไหน แต่ราคามันเกินงบไป เลยลองเข้าไปดูใน Agoda อีกที อุ๊ย ราคาดี ถูกลงกว่าที่เคยดูมา เลยตัดสินใจเลือกจองห้องพักที่ “Balcony Seaside" อยู่ศรีราชา ใกล้ดีๆ ตอนเช้าขับกลับพัทยาครึ่งชั่วโมงก็ถึง ^^
วันนี้ขับรถมาจากกทม. กว่าจะเสร็จธุระปะปัง ขับมาถึงที่พักก็ประมาณ 5 โมงเข้าไปแล้ว (ปกติ Check-in) ได้ตั้งแต่บ่าย2 พอมาถึงเค้าจะให้เลี้ยวเข้าไปจอดรถที่จอดรถด้านหน้า ที่เป็นที่จอดรถของโรงแรม
แล้วมีบริการรถกอล์ฟพาเข้าไป
ซึ่งจริงๆก็ไม่ไกลมาก ประมาณ 50 เมตร
มาถึงเช็คอิน จะมี welcome drink ให้
ส่วนนี่คือตารางการเดินรถ Shuttle bus ที่มีบริการให้กับผู้เข้าพักฟรี
รถออกทุกครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึง เที่ยงคืน โดยก่อนออก พนักงานที่ฟร้อนท์จะจดหมายเลขห้องไว้ โดยจุดที่จอดจะมีที่ Aeon Maxvalue แถวซอยโรงเรียนอัสสัมชัญ แล้วก็อีกที่ที่โรบินสันศรีราชา โดยทั้งสองจุด จะมีห้องรับรอง คล้ายๆ lounge เรียกว่า Balcony city lobby ให้ผู้เข้าพัก key card แตะเปิดประตูเข้าไป แล้วนั่งรอรถได้ ดี๊ดี เรียกว่ามาที่นี่ไม่ต้องใช้รถส่วนตัวก็แวะไปโน่นไปนี่ในโซนเมืองของศรีราชาได้สบายจัง ^^
ที่ล็อบบี้ของบัลโคนี่ ก็มีนอกจากมีเก้าอี้ให้นั่งรอสบายๆแล้ว ยังมีเครื่องทำกาแฟ น้ำเปล่าบรรจุขวดและขนมเล็กๆน้อยๆให้หยิบทานเล่นได้ด้วย
มีคอมพิวเตอร์ส่วนกลางให้ใช้
แต่ถ้าอยากใช้อินเทอร์เนทในห้องพักแต่ไม่มี device ที่นี่ก็มี iPad ให้ยืมนะจ้ะ
มีการ์ตูนญี่ปุ่นให้อ่าน (แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นนะ)
จริงๆ Balcony service apartment มีทั้งหมด 2 ที่ ทั้งสองที่อยู่ที่ศรีราชาเนี่ยแหล่ะ
อย่างที่แมวน้ำพักวันนี้ คือ 'Balcony Seaside' อยู่ติดทะเล จะที่พักเงียบๆ ขนาดกะทัดรัด เน้นการพักผ่อน แบบเงียบสงบเป็นส่วนตัว
ส่วนอีกที่นึง ชื่อว่า Balcony Courtyard อยู่แถวโรงเรียนอัสสัมชัญ ก็จะเป็นตึกๆอาคารสูงๆ ห้องเยอะกว่า เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบครอบครัว มีกิจกรรมให้ทำมากกว่า ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่า ห้องสตีม ดาดฟ้า สนามไดรฟ์กอล์ฟ สนามเด็กเล่น และที่สำคัญ มี onsen ให้แช่ แยกชายหญิงด้วย เยี่ยมเลย
ภาพห้องออนเซ็น ที่ Balcony courtyard
CR. ภาพ จาก Facebook : Balcony Thailand
https://www.facebook.com/BalconyThailand/?fref=ts
พอเช็คอินเรียบร้อย พนักงานก็พาไปส่งที่ห้อง พร้อมกับบรรยายเพิ่มเติมว่า
ในห้องมีน้ำดื่มให้ในตู้เย็น 3 ขวด ไม่พอขอเพิ่มได้ กาแฟร้อนเรามีบริการเครื่องชงอัตโนมัติที่ล็อบบี้
สบู่เหลว แชมพู ครีมนวด ใช้ไม่พอขอเพิ่มได้
แล้วในห้องมีเตาไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ครัว สามารถประกอบอาหารทานเองได้ครับ
....มีพร้อมทุกอย่างเลยดี๊ดีอ่ะ.....
ห้องที่พักวันนี้เป็นห้องแบบ Studio ราคาถูกสุด จองจาก Agoda ราคา พันหกกว่า บวกภาษี แล้วเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 1,990 บาท รวมอาหารเช้า (เคยดูเมื่อหลายเดือนก่อนราคาอยู่ที่ประมาณ 2,400) มีเครื่องใช้ไม้สอยให้ครบทุกอย่าง ห้องก็กว้างขวาง เรียกว่า อยู่สบายเลยล่ะ
เตียงนอน สะอาดสะอ้าน น่านอน zZZZZ
โซน pantry อ่างล้างจานขนาดใหญ่ ภาชนะ จาน ชาม ช้อนส้อม มีพร้อม
มีไมโครเวฟ ตัวดูดกลิ่น หม้อ กระทะ เตาไฟฟ้า ครบมาก ได้การล่ะ เดี๋ยวเราออกไปซื้ออะไรมาทำกินดีกว่า
ส่วนของห้องน้ำ ส้วมชักโครกของที่นี่ทุกห้อง เป็นแบบชักโครกแบบญี่ปุ่น มีปุ่มฉีดน้ำหลังทำภารกิจเสร็จ หรือ เป่าลมอุ่นก็มีด้วยนะ แต่ประตูไม่มีตัวล็อกและตรงอ่างอาบน้ำ มีเพียง...แค่กระจกใสบางๆที่กั้นห้องน้ำเท่านั้น....555 ยังดีที่พอมีม่านสีขาวขุ่นไว้กันโป๊ เซ็กซี่มาก ถ้ามากับคู่รักก็โอเคนะ แต่ถ้าเป็นเพื่อนเป็นญาติก็ต้องวานให้ออกไปข้างนอกห้องรอก่อนระหว่างอาบน้ำ ^^
โซนดูทีวี กว้างมาก นั่งสบายมาก
นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว เดี๋ยวเราไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำของโรงแรมกันดีกว่า
จ่ายตังแล้ว... ต้องใช้สาธารณูปโภคให้ครบ เพื่อความคุ้มค่า 555เก็บของเสร็จเรียบร้อยเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมลงเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำกัน
สระว่ายน้ำของที่นี่อยู่ชั้น 1 ซึ่งต้องเดินผ่านห้องอาหารลงมาได้ทางเดียว เป็นสระว่ายน้ำไม่กว้างมาก มีฟิตเนสอยู่ด้านข้าง เรียกว่า ออกกำลังกายกันได้แบบชิลๆ สบายๆ
ห้องฟิตเนส วิ่งไปชมวิวไป
ส่วนวิวก็เป็นวิวทะเล แต่ว่าน้ำทะเลตรงด้านหน้านี้ เป็นกระชังหอย กระชังปลา เลยไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ หาดทรายก็เช่นกัน มีเศษเปลือกหอยเยอะ ทางบัลโคนี่จึงแก้ปัญหาด้วยการ กั้นขอบสร้างหาดทรายเทียมขึ้นมา เป็นทรายละเอียดให้เด็กๆเล่นก่อกองทรายกันได้
ที่ตักทรายของเด็กๆก็มีไว้ให้เล่นด้วย รวมถึงห่วงยาง ชูชีพของคุณหนูๆก็มีไว้ให้ใช้ด้วยเช่นกัน
ห้องน้ำข้างสระน้ำ มีผ้าเช็ดตัวสำหรับว่ายน้ำ บริการให้
ทะเลฝั่งนี้เป็นฝั่งตะวันตก ช่วงห้า-หกโมงเย็นจึงเป็นเวลาที่ดีสำหรับการพักผ่อนไป ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินไป
พี่ฝรั่งคนนี้ชิลสุดๆ
อากาศร้อนๆ โดดน้ำเล่นกันดีกว่า
ช่วงโพล้เพล้นี่แสงสวยดี จริงๆสระว่ายน้ำไม่ต้องใหญ่มาก ขอแค่ได้ลงไปแช่น้ำเล่นก็เพลินแล้ว สดชื่นนนน
อุ๊ย ออกไปว่ายน้ำเล่นแป๊บเดียว กลับมาห้อง แอบมีเอาของว่างมาวางไว้ให้ที่ห้องด้วย น่ารักจัง
เริ่มหิวแล้วอ่ะ เดี๋ยวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดไปหาอะไรกินกัน และถึงแม่เราจะมีรถส่วนตัวมา แต่แน่นอนว่าเราไม่ขับออกไปแน่ เพราะเราจะลองใช้บริการรถshuttle bus ฟรีของทางบัลโคนี่ไง ฮี่ๆอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย พร้อมออกไปให้อาหารเย็นแมวน้ำกันแล้ว เย่ๆๆๆ หิวๆๆๆ
การจะขึ้นรถShuttle bus ของ Balcony ก็แค่ลงมารอที่ล็อบบี้ แจ้งเบอร์ห้องกับพนักงานต้อนรับ แล้วบอกจุดที่เราจะไปลง
แมวน้ำขอไปลงที่ Aeon โดยรถรอบต่อไป จะมาตอนทุ่มครึ่ง อีกไม่ถึง 15 นาที นั่งรอสบายๆ
มุมนี้สวยดี ช๊อบชอบ
อ่านหนังสือพิมพ์รอพลางๆ งืออๆๆๆ อ่านไม่ออก
'คุณผู้หญิงคะ รถมาแล้วค่ะ' ...พนักงานต้อนรับส่งเสียงเรียกให้ไปขึ้นรถ
อ่อ คุณผู้หญิง คือ แมวน้ำ เอง ใช่มั้ย ไม่ชิ๊นไม่ชิน ไม่เคยมีใครเรียกแบบนี้ ^^
รอบนี้มีพี่ญี่ปุ่นที่พักที่นี่ไปด้วยอีก 4 คน เสียงคุยกันในรถ ยิ่งทำให้นึกว่านี่จริงๆเราอยู่ญี่ปุ่นใช่มั้ย อย่ามาหลอกว่ากันเลยว่าอยู่ศรีราชา
ในส่วนของรถ shuttle bus คือดี เบาะใหญ่กว้าง ลืมวินรถตู้เบาะเสริมสี่ห้าแถวไปได้เลย
แล้วยิ่งกว่านั้น เบาะเป็นเก้าอี้ไฟฟ้ามีนวดๆตรงเอวด้วย เหยยยย...ดี
นี่ขอเช่าไปเที่ยวเชียงใหม่หน่อยได้มั้ย นั่งสบายมากเลยอ่ะ
ขับมาไม่ถึงสิบห้านาทีก็มาถึงที่ Aeon ศรีราชาแล้ว สบายจัง รถไม่ต้องขับ มีคนรับส่งถึงที่
ที่ Aeon Maxvalue ศรีราชา แมวน้ำยังไม่เคยแวะมาก่อน เคยไปแต่ที่ J-Park ตอนที่แวะครั้งนั้น คนกำลังฮิต คนเยอะมากกกก....
ส่วนAeonนี้ ที่ตั้งอยู่ในเมืองศรีราชาเลย แถวๆโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา คนไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ร้านอาหารญี่ปุ่นเยอะมาก ไม่รู้จะเลือกร้านไหนดี แต่ร้านที่คนเยอะสุด Shakariki 432 แต่ไม่ได้อยากนั่งกินจริงจังอะไรขนาดนั้น เพราะกะว่าจะซื้อกับข้าวไปทำกินในห้อง ให้ได้ใช้หม้อกระทะที่เค้ามีไว้ให้ซะหน่อย (แม่ครัวแมวน้ำเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง เห็นหม้อกระทะ เตาเครื่องครัวพร้อมๆไม่ได้ คันมือ อยากทำอาหาร)
ขอสำรองพื้นที่กระเพาะให้พอมีช่องว่างไว้สำหรับอาหารทำเองคืนนี้ เลยกะว่าขอเลือกร้านที่เป็นอาหารจานเดียวง่ายๆดีกว่า จะได้ไม่เยอะเกินไป
งั้นเอาร้านนี้แล้วกัน Sukiya ร้านข้าวหน้าเนื้อแบรนด์นำเข้าจากญี่ปุ่น ในไทยมีหลายสาขาเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ลอง
เอาร้านนี้แหล่ะ นั่งเลย วันนี้วันอาทิตย์แถวนี้ค่อนข้างเงียบ ร้านเลยดูโล่งๆ
ตกแต่งร้านด้วยลายแบบญี่ปุ่นๆ
อาหารไม่ซับซ้อนมาก จะเป็นตระกูลข้าวหน้าเนื้อ ข้าวหน้าหมูย่าง ราเมน ข้าวหน้าแกงกะหรี่ ราคาไม่แพง
แมวน้ำสั่งมา 2 เซ็ท คือ ชุดข้าวหน้าเนื้อ + ข้าวหน้าแกงกะหรี่+มิโซะซุป+ชาเขียวเย็น เพิ่มไข่ออนเซ็น และอีกเซ็ทเป็นข้าวหน้าหมูย่างโปะไข่ออนเซน เพิ่ม ไก่คาราเกะ มิโซธซูปและชาเขียวเย็น
ไหนพี่บอกว่าพี่จะกินเบาๆ แล้วซื้อกับข้าวไปทำกินที่ห้อง แล้วที่สั่งมาคืออะไร
รสชาติและปริมาณอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว ทั้งหมดนี่ราคา 334 บาท แต่อิ่มจนแทบคลานออกจากร้าน
ลองเข้าไปอ่านในเฟซบุคเพจของร้านมา เรื่องรสชาติไม่มีปัญหา ปัญหาอยู่ที่การบริการและพนักงาน ยิ่งเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น เรื่องมารยาทและการบริการคือหัวใจสำคัญเลย ทีมHR คนมีการเทรนนิ่งพนักงานให้ดี ไม่งั้นจะเสียแบรนด์ไม่ใช่เพราะลูกค้าไม่ชอบอาหาร แต่เป็นเพราะการบริการไม่ประทับใจ
แต่สาขาที่อิออน ศรีราชานี้โอเคเลยค่ะ พนักงานสุภาพ บริการดีจ้า ^^
ก่อนกลับ ก็มีเดินย่อยที่ร้านไดโซะก่อน สาขานี้ใหญ่ของเยอะดี แล้วก็ไม่วายแวะ MaxValue ซูเปอร์มาร์เก็ต ซื้อของไปทำที่ห้องตามเจตนารมณ์เดิมที่ตั้งไว้ แม้จะอิ่มจนไม่สามารถกินอะไรได้อีกก็ตาม เอาน่า เพิ่งแค่สองสามทุ่ม ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล
ซื้อของเสร็จเราก็มารอรถ shuttle bus มารับ ที่ ห้อง City Lobby ซึ่งก็จะมาทุก ครึ่งชั่วโมงเหมือนกัน
วิธีการเข้าไปใช้ห้อง City Lobby ของ Balcony ก็คือ
เราแตะ key card ของห้องพักเราที่หน้าประตู แล้วก็เข้าไปนั่งเล่น wifi ฟรี รอรอบรถมารับได้เลย ในห้องนี้ก็มีเครื่องทำกาแฟ น้ำเปล่า และขนมกรุบกริบให้ทานเล่นระหว่างนั่งรอได้
พอรถมารับพนักงานของ City Lobby ก็จะบอกเราว่ารถมารับแล้วค่า เชิญขึ้นรถได้เลยค่ะ
ใช้เวลาเดินทางกลับประมาณ 10 นาที ก็ถึงที่พักแล้ว
กลับมาก็นั่งดูทีวีไปเรื่อย แต่ภารกิจของเรายังไม่จบ คือ ถ้าคืนนี้ไม่ได้ใช้ครัวในห้องพัก คงนอนไม่หลับแน่ๆ ว่าแล้วก็จัดการเอาวัตถุดิบต่างๆออกมา เปิดลิ้นชัก หยิบกระทะ หม้อ ตะหลิว มาให้พร้อม
เมนูที่จะทำวันนี้คือบะหมี่ผักโมโรเฮยะต้มยำกุ้งราดไข่เจียวปูอัด คือเรามาธีมญี่ปุ่นขนาดนี้ เราจะมาทำผัดเผ็ด ผัดกะเพราไม่ได้
วัตถุดิบที่ได้มา มีบะหมี่โมโรเฮยะกึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำ (เพราะเป็นเมนูไม่ต้องใช้เครื่องปรุงเยอะ จะได้ไม่ต้องซื้อ) ใส่กุ้ง เติมผัก และสาหร่ายวากาเมะ ไข่ไก่ ปูอัด
ซื้อมายั่งกับไม่ได้กินอะไรมาก่อน แต่เราแค่อยากทำพอเป็นพิธีเท่านั้นแหล่ะ ที่เหลือใส่ตู้เย็นไว้ เดี๋ยวกลับเอาไปทำกินเองต่อที่บ้าน
(เอามาทำได้ตั้งหลายเมนู ได้แก่ ข้าวผัดปูอัดกุ้ง ซุปมิโซะใส่เห็ดเข็มทองกับวากาเมะ แล้วก็ผัดผักบอกชอย)
ว่าแล้วก็ลงมือเปิดเตาเลย ใส่น้ำลงหม้อต้มเส้น ใส่ผัก ใส่กุ้ง ส่วนอีกเตา ตีไข่ใส่ปูอัดลงไป
เทบะหมี่ใส่ชาม แล้วจัดวางให้สวยงาม แล้วราดด้วยไข่ข้นปูอัด ก็จะได้ราเมนลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ชามนี้นี่เองงงง!!!!!!
กินไป นั่งดูทีวีไป ขนาดอิ่มแล้วยังอร่อยเลย 555 ยี้... ชมตัวเอง
สนุกง่ะ อยากมีเตาไฟฟ้าบ้าง ปกติที่บ้านเป็นครัวไทย ใช้แต่เตาแรงดันสูง555
....อิ่มแล้ว นอน(อืด)ได้.......
zzzzzzzzzzzzzzZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ......
Ohayo !!!
สวัสดีเช้าวันใหม่ที่สดใส
ตั้งนาฬิกาปลุก 6 โมงเช้า ต้องรีบตื่นเพราะว่าเดี๋ยวก่อนจะกลับไปเปิดร้าน ต้องแวะไปดูดอกเสลาที่อ่างเก็บน้ำบางพระก่อน
รีบอาบน้ำเก็บสัมภาระแล้วไปให้อาหารเช้าแมวน้ำกันที่ห้องอาหารกัน ที่นี่ ห้องอาหาร จ่อย ขายอาหารอีสานรึเปล่าเนี่ย บักจ่อย 555
ไม่ใช่จ้า ห้องอาหาร JOI ต่างหากล่ะ
ห้องอาหารเช้าที่นี่เปิดบริการบุฟเฟต์อาหารเช้ากันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง คือ ตี5 ถึง 10 โมงเช้า เช้ามากกกกก..... เช้าที่สุดตั้งแต่เคยนอนโรงแรมมา ปกติทั่วไปก็ 7 โมงเช้า
ที่เปิดตั้งแต่ตี5 เพราะว่า คนญี่ปุ่นที่พักที่นี่ต้องทานก่อนออกไปทำงาน เลยต้องเปิดครัวกันตั้งแต่เช้ามืด
อาหารที่นี่ก็เป็นอาหารไทย สากล ผสมกลิ่นอายญี่ปุ่น คือ ชอบมาก รสชาติดีมีหลากหลาย
ทั้งสลัดบาร์สดๆ
แฮมเบอร์เกอร์
อาหารกับข้าวแบบต่างๆ เช่น ผัดหน่อไม้ฝรั่งผัดเบคอน กับ กุ้งทอดมาโย
ไก่อบ กับ เต้าหู้ทอดแบบญี่ปุ่น
แซลมอนย่าง กับ ชิกุวะสอดไส้ชีส
ผัดผักรวมกุ้ง ข้าวผัดหมู
แกงกะหรี่หมู กับ สปาเก็ตตี้ผัดพริกกระเทียม
หรือ จะเป็น omelet / American breakfast ก็ทำกันสดๆใหม่
ขนมปังปิ้ง พร้อมท็อปปิ้งไฮโซ ทั้ง นูเทลล่า เนยถั่ว แยมSmuckers
นอกจากนี้ยังมีไข่หวาน ข้าวปั้นสามเหลี่ยมไส้ปลาแห้ง ข้าวสวยญี่ปุ่น มิโซะซุป
และที่ปลาบปลื้มก็คือ บรรดากิมจิ ผักดอง ยำสาหร่าย ก็มีให้
นอกจากนี้ก็มีเครื่องดื่ม น้ำผลไม้ น้ำ ซีเรียล และผลไม้สด
เป็นมื้อเช้าที่แลดูจะทานเยอะและเช้ากว่าปกติ เพราะอาหารถูกใจ
ข้าวราดแกงกะหรี่ แซลมอนเทอริยากิ กับผักดอง มันดีจริงๆ เสียดาย คือต้องรีบกินรีบกลับ เลยยังไม่ได้ทานบางอย่างเลย
วิวดีด้วย มองลงไปก็เห็นสระว่ายน้ำ กับทะเลยามเช้า
มีโต๊ะนั่งทานที่ระเบียงด้านนอกด้วย
อิ่มมาก อร่อยด้วย ถึงแม้แกงกะหรี่จะรสชาติไม่จัดมาก แต่พอแกล้มกับแซลมอนกับผักดอง และมิโซะซุปก็จัดว่าดีงามตามท้องเรื่องจริงๆ
อิ่มเรียบร้อยก็ได้เวลาเช็คเอ้าท์แล้วหล่ะ
รู้สึกว่าเวลาที่มีมันน้อยไปไงไม่รู้ ...ยังไม่พอออออ.... อยากอยู่ต่อออออ....อยู่ต่อเลยดีม้ายยยย....
ไม่ได้ๆ โตแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานจึงจำเป็นต้องกลับก่อน ถ้ามีโอกาสคงได้กลับมาอีกแน่นอนจ้า เลิฟยูว Balcony Seaside
:::: กล่าวโดยสรุป สำหรับการเข้าพักที่ Balcony Seaside :::
คือ ประทับใจมากๆ
ปกติไม่เคยได้ใช้บริการโรงแรม หรือรีสอร์ทระดับหลายๆดาว เลยไม่ค่อยมีประสบการณ์รับการบริการแบบ Full service
เพราะปกติเป็นสายโฮมสเตย์ ที่พักหลักร้อย นอนห้องพัดลม ไม่มีอาหารเช้า ก็ไม่ซีเรียส ไปแวะตลาดกินข้าวเหนียวหมูปิ้งเอา แต่พอได้มาพักที่นี่ทำให้รู้สึกว่า ในราคาห้องพักพันกว่าๆ เกือบสองพัน(ไปกันสองคน หารสองแล้วเฉลี่ยคนละพัน)ที่มีสาธารณูปโภคครบ รวมอาหารเช้าด้วย พร้อมทั้งได้รับการบริการอันดีเลิศ คุ้มค่ากับเงินที่หยอดกระปุกมาไว้ใช้จ่ายสำหรับการพักผ่อนจริงๆจ้า
ใครสนใจมาใช้ชีวิตสไตล์ญี่ปุ่นในเมืองไทย อยู่ใกล้ๆแค่ศรีราชานี่เอง ห้องพักfull service ขนาดนี้ กับราคาเท่านี้ หาไม่ได้ในญี่ปุ่นนะเนี่ย
แต่เดี๋ยวก่อน ทริปยังไม่จบ เดี๋ยวเราไปชมซากุระ แบบไทยๆ กันก่อนกลับ ^^
ก่อนจะตีรถกลับบ้านที่พัทยา ทริปเรายังไม่จบง่ายๆ
เพราะ อีกหนึ่งเหตุผลที่มาพักศรีราชา ก็เนื่องจากช่วงนี้ดอกเสลากำลังบานที่อ่างเก็บน้ำบางพระ ซึ่งอยู่ห่างจาก Balcony Seaside ไปไม่กี่กิโล เพื่อให้เข้าtheme ท่องเที่ยว Little Japan การเดินชมดอกซากุระ (แบบไทย) จึงต้องจัดแพครวมไปในทริปนี้ด้วย
เลยกะว่าจะแวะมาถ่ายรูปเล่นตอนเช้าวันจันทร์ เพราะถ้ามาเย็นวันอาทิตย์คนต้องเยอะแน่ๆ (แผนสูงมั้ย คริๆ)
เวลามาตอนคนเยอะๆ ถ่ายไปก็เจอแต่คน ขี้เกียจมานั่งโฟโต้ชอป
ออกจากบัลโคนี่ขับตรงมาตามเส้นสุขุมวิทมุ่งหน้าชลบุรี ทางเข้าอ่างเก็บน้ำอยู่ตรงข้ามกับวัดเขาพระพุทธบาท บางพระเข้าไปประมาณ 2 กิโล ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย เราจะเห็นทิวต้นเสลาสองข้างทาง
แต่จริงๆไฮไลท์อยู่ที่ตรงcurve ริมขอบอ่างเก็บน้ำ แต่วันที่ไป (7 มี.ค. 59) ยังไม่บานเลย (เอ๊ หรือว่ามันร่วงไปแล้วนะ) ปีที่แล้วมาดูเหมือนกันแต่ไม่ทัน ร่วงไปก่อน เพราะฝนตก ปีนี้ก็ยังไม่ออก งือๆๆ เสียดาย
แต่ไม่เป็นไร ช่วงถนนก่อนถึงทางโค้งนี้ ยังมีออกดอกบ้างแต่ยังไม่ดกมากก็ตาม เดี๋ยวใช้มุมกล้องเสยเอา 555
ดอกเสลา สีม่วงสลับดอกขาว สวยดี ลำต้นสูงมากเลย จุดนี้ต้องมุมเสยขึ้นเท่านั้น (เสยซะคาง2ชั้นเลย)
ชมซากุระ แบบไทยๆ ที่เมืองศรีราชา นี่เอง
ตอนที่ลมพัดมา ดอกปลิวร่วงลงมา นี่ชั้นนึกว่าชั้นถ่ายซีรี่ยส์เกาหลีที่เกาะนามิ ...พี่ชายยย...ชั้นร้อนนนน...
ดอกไม่เยอะมาก ต้องอาศัยเล่นใหญ่เอาเอง ^^'
เก็บดอกร่วงๆมาเล่น
บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำ สวยงาม บรรยากาศดี มีพี่ๆนักปั่นมาออกกำลังกาย
คุณลุงคุณป้าคู่นี้น่ารักมาก คุณป้าโพสท่าเก่ง คุณลุงก็บิ้วท์เก่งด้วย ถ่ายรูปกันกระนุ้งกระนิ้ง น่าร้ากกกก
(ถ้าคุณลุงคุณป้าได้อ่านกระทู้นี้ รบกวนมาโพสรูปน่ารักให้หนูดูด้วยนะคะ ^^)
รอดูต่อไปว่าดอกเสลาจะบานเยอะอีกเมื่อไหร่ ซึ่งไม่น่าจะเกินเดือนมีนานี่แหล่ะ ถ้ายังพอมีเวลาจะแวะมาดูอีกรอบ ^^
ดูเวลา...แว้กๆๆ สายแล้ว ต้องรีบบึ่งเข้าพัทยาไปเปิดร้านก่อน แหะๆ เที่ยวเพลินเกินห้ามใจ สายเลย
.... แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะคะ ^^....
ป.ล. เคยรีวิวคาเฟ่ดีๆที่ ศรีราชาไว้ครั้งนึง ย้อนไปดูได้ตามลิ้งนี้ค่า
[CR]C O M M O N R O O M ศรีราชา ...ธรรมดาซะที่ไหน ^-^
http://pantip.com/topic/34016101
ติดตามเรื่องราวประสบการณ์การออกเดินทาง และการทำอาหารสไตล์แม่ครัวแมวน้ำ ได้ที่ Facebook : Seally-Go-Round
https://www.facebook.com/seallygoround/?ref=hl
Seally-Go-Round
วันพฤหัสที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.47 น.