"ดินสอขอเขียน" ได้ยินชื่อของ "พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้" มาสักพักใหญ่ๆ แล้ว วันนี้สบโอกาสได้ไปเยี่ยมชมข้างในสักครั้ง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยสามเสน 28 จากปากซอยเดินเข้าไปประมาณ 700 เมตร ให้สังเกตด้านซ้ายมือ คอยมองซอยองครักษ์ 13 เอาไว้ แล้วเลี้ยวเข้าไปนิดเดียว จะเห็นพิพิธภัณฑ์อยู่ขวามือ

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ ก็รู้สึกได้ถึงความร่มรื่น เพราะเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เรานั่งพักกันสักพัก แล้วจึงจัดแจงซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม ในราคา 150 บาท พร้อมกับสั่งชุดชา ขอเป็นชาเย็นกลิ่นกุหลาบ ส่วนเพื่อนเราสั่งเป็นชาพยอม และสั่งขนมมากิน 1 ชุด

จากนั้นเรานั่งรอเวลาอีกแป๊บนึง เพื่อรอไกด์ เพราะที่นี่จะมีไกด์นำชมเป็นรอบๆ โดยจะแจกพัดให้นักท่องเที่ยวคนละอันก่อนเที่ยวชม

"พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้" แห่งนี้ เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของคุณ "สกุล อินทกุล" ศิลปินนักจัดดอกไม้ระดับชาติ ที่มีความตั้งใจให้พิพิธภัณฑ์เป็นที่แสดงชิ้นงานเกี่ยวกับวัฒนธรรมดอกไม้-ใบไม้ ที่รวบรวมได้มาจากทุกทวีป

การชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การเดินชมสวน และภายในบ้าน

เริ่มจากการเดินชมสวนของบ้านแห่งนี้ก่อน แม้อากาศจะร้อนไปสักนิด แต่ก็มีลมพัดมาเบาๆ เราเดินชมต้มไม้รอบๆ บ้านไปพร้อมๆ กับการฟังเรื่องราวของต้นไม้ชนิดต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน

ไกด์พาเราชมจนครบในส่วนของสวน จนมาถึงมุมที่มีการจัดเวิร์คช้อปร้อยมาลัยต่างๆ ที่นี่เปิดให้คนที่สนใจเรื่องการร้อยดอกไม้เข้ามาเรียนด้วย และวันนี้ไกด์เลยให้เรากับเพื่อนได้ร้อยมาลัยดอกรักพวงน้อย ไว้เป็นที่ระลึกในการมาเที่ยวในวันนี้

จากนั้นเรามาฟังเรื่องราวของดอกไม้ในบ้านกันต่อนะคะ เนื่องจากการจัดแสดงผลงานในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นผลงานของคุณ "สกุล อินทกุล" รวมถึงมีภาพโบราณที่หาชมยาก จึงไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ

ภายในบ้านเราได้รับรู้เรื่องราวการเดินทางของการจัดดอกไม้ตั้งแต่แรกเริ่ม พัฒนาการต่างๆ ของการจัดดอกไม้ รวมถึงเรื่องราวของดอกไม้ในประเทศใกล้เคียงอย่างญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และอินเดีย จนมาถึงผลงานการแสดง ชิ้นงานที่น่าทึ่งของเจ้าของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

ดอกไม้ทุกห้องที่จัดแสดงในบ้านหลังนี้ ล้วนสร้างความประทับใจ ตื่นตาตื่นใจให้เราตลอดทั้ง 7 ห้องเลยทีเดียว

อิ่มเอมกับความรู้จนเต็มสมองแล้ว ก็ได้เวลามาจิบชาซะที (อิอิ) โดยจัดบริเวณด้านข้างของบ้าน ไว้เป็นมุมไฮที นั่งรับลมเย็นๆ ชมความเขียวขจีของต้นไม้ไปพร้อมๆ กับการจิบชาหอมๆ เย็นชื่นใจ พร้อมขนมหลายอย่าง ได้แก่ ขนมต้ม ขนมกล้วย ไดฟุกุ ขนมเปี๊ยะ และคาลากันต์ ซึ่งเป็นขนมอินเดียค่ะ

ชาหอมๆ เย็นชื่นใจ กินคู่กับขนมหลากหลายชาติ กินไป ชมต้นไม้ไป เพลินๆ ดี หันมาดูนาฬิกาอีกที 5 โมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย เวลาผ่านไปไวเจงๆ

และนี่ก็เป็นการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ 1 วันที่สร้างความประทับใจให้เราไม่น้อยเลยทีเดียว

ติดตามเรื่องราวกินเที่ยวฉบับ "ดินสอขอเขียน" ได้ที่ www.facebook.com/EatAndTravelByTT แล้วไปแบ่งปันรอยยิ้มและความสุขไปด้วยกันนะคะ ^ - ^

Chompunut Chatnaparat

ดินสอขอเขียน

 วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.57 น.

ความคิดเห็น