ในช่วงหน้าฝนของทุกๆ ปี (กรกฎาคม - กันยายน) เป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังเบ่งบาน โดยเฉพาะ "ดอกกกระเจียว" หรือ "ดอกบัวสวรรค์" และแน่นอนว่าถ้าพูดถึงดอกกระเจียวหลายๆ ท่านต้องคิดถึงจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกกระเจียวธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุด และเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย

จังหวัดชัยภูมิมีทุ่งดอกกระเจียวอยู่ 2 แห่ง คือ ในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และอุทยานแห่งชาติไทรทอง ซึ่งผมเคยเขียนรีวิวเกี่ยวกับทุ่งดอกกระเจียวในอุทยานแห่งชาติป่าหินงามไว้แล้ว และสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://th.readme.me/p/23562

สำหรับในรีวิวนี้ ผมขอนำเสนอทุ่งดอกกระเจียวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ นั่นคือ "ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง"

ผมเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติไทรทองด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากอำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามเส้นทางหมายเลข 225 (วิเชียรบุรี - ภักดีชุมพล) ณ ปัจจุบันถนนเส้นนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุงเป็นถนน 4 เลน ในช่วงอำเภอวิเชียรบุรี (ก่อนขึ้นเขา) ซึ่งอาจต้องระมัดระวังเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย

เมื่อขึ้นเขาไปแล้วจะเป็นเส้นทางลาดยาง 2 เลน สวนทางกัน ต้องใช้ความระมัดระวังครับเพราะมีเส้นทางโค้งหักศอกเป็นระยะๆ

เมื่อเข้าสู่อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ จุดแรกที่ควรแวะพัก คือ "จุดชมวิวเขาพังเหย" ซึ่งเป็นจุดชมวิวของอุทยานแห่งชาติไทรทองเช่นกัน ณ จุดนี้ ในช่วงปกติจะมองเห็นพื้นที่ราบไกลสุดลูกตา แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนแบบนี้ก็จะมีสายหมอกพัดมาประะทะหน้าทำให้ฟินกันได้เลยทีเดียว

จากจุดชมวิวเขาพังเหย เดินทางต่อไปเรื่อยๆ อีกประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะเห็นปากทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติไทรทองด้านซ้ายมือ เมื่อแล้วซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 11 กิโลเมตร จะเจอด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยาน

สำหรับการท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่จองผ่านระบบ QueQ ก็สามารถเช็คอินได้ที่จุดนี้เช่นกัน

อุทยานแห่งชาติไทรทอง มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ ครอบคลุมหลายอำเภอในจังหวัดชัยภูมิ ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คงหนีไม่พ้นทุ่ง"ดอกบัวสวรรค์" หรือ "ดอกกระเจียว" นั่นเองครับ

แต่กว่าจะไปถึงทุ่งดอกบัวสวรรค์ จำเป็นต้องผ่านด่านลุยน้ำ เดินป่า ซึ่งท่านที่ชอบแนวนี้ ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

หากไม่แน่ใจว่ารถส่วนตัวสามารถลุยน้ำได้หรือไม่นั้น ทางอุทยานฯ มีรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อไว้คอยบริการครับ

เมื่อเดินทางไปถึงลานจอดรถตรงลานกางเต้นท์ผาพ่อเมือง (บริเวณนี้มีห้องน้า และร้านอาหารไว้บริการ) ต้องเดินเท้าไปตามเส้นทางเดินป่าอีกประมาณ 2 กิโลเมตร

ในระหว่างทางพบเห็นต้นไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะต้นปรง และต้นไม้รูปทรงแปลกๆ ยิ่งตอนเดินป่ามีหมอกบางๆ ลอยมาประทะหน้า บอกได้เลยว่าฟินมากๆๆ แต่ที่น่าแปลกใจพบเห็นได้ที่นี่ก็คงเป็น "คอนโดของแมงมุม" นี่หล่ะ มีให้เห็นตลอดเส้นทางเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีหน้าผาซึ่งเป็นจุดที่ต้องมาถ่ายรูปให้ได้ เพราะถ้าไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับหน้าผานี้ ถือว่ายังมาไม่ถึงอุทยานแห่งชาติไทรทองครับ นั่นคือ "ผาหำหด" แต่ว่าไปแล้วเดินไปที่หน้าผาตรงนี้รู้สึกได้ทันทีว่า "หด" จริงๆ ครับ

ทุ่งบัวสวรรค์ 4, 3 และ 2 เป็นทุ่งบัวสวรรค์ที่อยู่ตามรายทาง ซึ่่งสามารถแวะถ่ายรูปได้ตลอด แต่ไฮไลท์ของดอกกระเจียวที่นี่ต้องเป็นทุ่งบัวสวรรค์ที่ 1 เท่านั้น เพราะเป็นทุ่งที่กว้างใหญ่ และมีดอกกระเจียวบานมากที่สุดและสวยงามที่สุด

เมื่อเดินทางมาถึงทุ่งบัวสวรรค์ที่ 1 แล้วเห็นดอกกระเจียวที่บานเต็มทุ่ง ผมรับรองว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ ยิ่งมีหมอกบางๆ ลอยมา จำต้องเก็บภาพถ่ายเหล่านี้ไว้กันทุกคน

หากท่านได ที่จะมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติไทรทองช่วงหน้าฝนที่มีทุ่งดอกกระเจียวแบบนี้ สามารถติดตามข้อมูลอัพเดทของดอกกระเจียว ได้ทางเฟสบุ๊คของอุทยาน ซึ่งจะนำเสนอข้อมูลอัพเดทเป็นระยะๆ

อุทยานแห่งชาติไทรทองสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีครับ เพราะอุทยานแห่งชาตินี้ไม่ได้มีแค่ดอกกระเจียวเท่านั้น ที่นี่ยังมี "น้ำตกไทรทอง" ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออุทยาน และมีต้นไม้อายุพันปีให้ชมอีกด้วย

ผมกล้าแนะนำเลยว่า สักครั้งนึงของชีวิตต้องมาเยือนอุทยานแห่งชาติไทรทองนี้ให้ได้ ถ้าหากมาช่วงดอกกระเจียวบานพอดีถือว่าฟินสุดๆ เลยครับ

เที่ยวให้สนุกนะครับ ขอบคุณครับ

Location Thai

 วันพฤหัสที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.49 น.

ความคิดเห็น