สวัสดีค่ะ เนื่องจากมีโอกาสได้ไปเที่ยวกระบี่ และไปพักที่ Krabi Tipa resort อ่าวนาง ซึ่งเป็นรีสอร์ทสวยๆ สะดวกสบายในการเดินทาง ทำเลดี เพราะอยู่ติดถนนอ่าวนาง และก็ไปทริปดำน้ำ 4 เกาะ ด้วยเรือหางยาว เลยขอเอามารีวิวให้ได้รับชมกัน เผื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการวางแผนเดินทางไปเที่ยวกระบี่ กันค่ะ

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราเดินทางจาก กรุงเทพฯ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ซึ่งเป็นสายการบินที่มี ห้องรับรองพร้อมอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับพักผ่อนรอเวลาเครื่องบินออก

บรรยากาศการรอเครื่องบิน บริเวณ Gate สนามบินสุวรรณภูมิ นั่งรอเครื่องไป ชมเครื่องบินไป แถมยังมีสัญญาณ wifi ฟรีให้ใช้บริการ

แผนการเดินทางของเราในวันแรกนี้เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราจึงตัดสินใจไปน้ำตกร้อนกันก่อน แล้วจึงกลับมาแวะทาน ขนมจีนอร่อยๆ ที่ร้านโกจ้อย แล้วจึงไป Check in เข้าที่พัก ที่ Krabi tipa Resort Ao nang.

พอบินมาถึงกระบี่ รับรถเช่าที่ได้จองไว้แล้ว ก็เดินทางไปเที่ยวน้ำตกร้อนคลองท่อมเพื่อแช่น้ำร้อน กันก่อนเลย

น้ำตกร้อนคลองท่อม เป็นน้ำตกที่ไหลมาจากทางน้ำร้อน บริเวณที่ลงแช่น้ำ เป็นแอ่งน้ำตามธรรมชาติ ลงไปแช่แล้วสบายตัวมากๆ แต่แนะนำว่าไม่ควรแช่กันนานเกินไป เรามีกระบี่ทีไรก็ไม่พลาดที่จะมาแช่ตัวที่น้ำตกร้อนแห่งนี้ เป็นธรรมชาติดีชอบมากๆเลยค่ะ

แช่น้ำเหนื่อยจากน้ำตกร้อนแล้ว เราก็ไปแวะทานขนมจีนโกจ้อย ร้านนี้เค้ามีชื่อเสียงมานาน เป็นรู้จักของทั้งคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว เมนูของร้านก็ไม่มีอะไรมาก ขนมจีน กับไก่ทอด แล้วก็น้ำยาตามใจชอบ มีทั้งน้ำยาป่า แกงไตปลา หากใครสั่งเป็นแกงไตปลาก็จะมาเสริฟให้เป็นหม้อแบบนี้ พร้อมขนมจีนหนึ่งจาน หากใครสั่งน้ำยาแบบอื่นๆ ก็จะตักน้ำยาราดใส่ขนมจีนมาให้เลย ส่วนตัวเรานั้นชอบแกงไตปลามากกว่า อร่อยเด็ดแบบทางใต้เค้าเลย อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ของร้าน ที่เรียกว่า ถ้ามาแล้วไม่ได้ทานถือว่ามาไม่ถึง คือ ไก่ทอด ที่ทางร้านจะทอดแล้วให้เราเลือกหยิบใส่จานได้เอง ไก่ทอดร้อนๆ กับขนมจีน แกล้มด้วยผักสดต่างๆ ทานแล้วติดใจ เห็นภาพแล้วก็หิวอยากทานอีก

อิ่มอร่อยเรียบร้อย เราจึงขับรถไปอ่าวนางกัน สำหรับโรงแรม กระบี่ ทิพา รีสอร์ท นั้นเป็นโรงแรมที่หาง่ายไม่ยาก สัญลักษณ์ของโรงแรมที่เห็นได้เด่นชัดคือ ป้ายทางเข้าโรงแรมหลังคาสีฟ้าแบบนี้

ด้านหน้าโรงแรม ยังมีมินิมาร์ท เป็นสัญลัษณ์ให้เห็นสะดุดตา ไม่หลงแน่นอน

ที่จอดรถกว้างขวาง บรรยากาศด้านหน้าล๊อบบี้ ตกแต่งด้วยหลังคาสีฟ้าสวย พร้อมรถกอล์ฟ คอยให้บริการ

ระหว่างรอ Check in จะมีที่นั่งให้นั่งสวยๆสบาย ให้นั่งรอ

ช่วงรอ Check in เราจึงถ่ายบรรยากาศภายในล๊อบบี้มาให้ชมกันก่อน เป็นล๊อบบี้ที่โอ่โถงรับลมเย็น สะอาดตาด้วยการตกแต่งแบบโทน ฟ้า ขาว

ถัดจากล๊อบบี้ เข้าไปนิดหน่อยจะเป็น ร้านอาหารบาร์เครื่องดื่ม สั่งน้ำ สั่งไอศครีม มานั่งทานเล่นได้ ชิลๆ เพลินๆ

บรรยากาศหน้าห้องพักก่อนเปิดประตูเข้าห้อง

หลังจากรอ Check in ได้รับกุญแจห้องพักเรียบร้อยแล้ว ทางรีสอร์ท จะมีรถกอล์ฟ บริการพามาส่งถึงด้านบนรีสอร์ท สำหรับห้องที่เราได้พักในครั้งนี้ เป็นห้อง ดีลักษ์ ซีวิว ซึ่งอยู่ด้านบนสุดของรีสอร์ทเป็นโซนห้องพักที่อยู่บนเนินเขาทำให้ภายในห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลและเรือแล่นไป แล่นมาในทะเลได้

เตียงนอนภายในห้องเป็นเตียงขนาดใหญ่ นอนสบายมาก บนเตียงมีบริการผ้าขนหนูและที่เราชอบมากๆเลย คือ มีผ้าขาวม้าไว้บริการให้ด้วย 2 ผืน

ห้องพักตกแต่งเรียบง่ายสไตล์ไทยๆ มีโซฟาที่สามารถพับออกมาเป็นเตียงนอนได้อีกหนึ่งเตียง

ทีวีจอแบน โต๊ะเครื่องแป้ง และเก้าอี้นั่งภายในห้อง

Sofa bed สามารถทำเป็นเตียงนอนได้ ชอบมากๆเลย

บรรยากาศโดยรวมภายในห้องพักค่ะ

ภายในห้องน้ำ บริเวณที่อาบน้ำเป็นแบบ Rain Shower น้ำร้อนไหลแรงดีค่ะ

สบู่ยาสระผม มีไว้ให้เรียบร้อย

บริเวณระเบียงห้องพัก สำหรับออกมาสูดอากาศรับลมธรรมชาติ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ เขียวขจี

ที่นั่งบริเวณระเบียง

วิวด้านนอกห้องที่เต็มไปด้วยต้นไม้ มีทั้งต้นมะม่วงที่ออกลูกเต็มต้น ต้นมะพร้าว นั่งชมวิวไปมาก็มีเจ้ากะรอกน้อยกระโดดไป กระโดดมาบนต้นไม้โชว์ให้ดูอีกด้วย

พอเข้ามาภายในห้อง นอนเล่นบนเตียงมองออกไปด้านนอกห้องก็จะเห็นวิวทะเลสีฟ้าสวยให้สบายตา

ซูมภาพเข้าไปไกล้ๆให้เห็นวิวทะเล จากในห้องพัก มองเห็นเกาะ มองเห็นเรือแล่นไป แล่นมาได้อย่างชัดเจน เป็นบรรยากาศที่ดีมากค่ะ เหมาะมากกับวันพักผ่อน

นอนพักผ่อนในห้องพักสักพักก็ได้เวลาเย็นพอดี ตอนนี้ก็เป็นบรรยากาศไกล้มืดแล้ว เลยออกจากห้องพักไปสำรวจด้านนอกสักหน่อยภาพนี้เป็นภาพทางเดินลงไปล๊อบบี้

ทางเดินต่างๆนั้นมีการทำความสะอาดไว้เรียบร้อยสะอาดตา แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย

เดินลงมาสำรวจล๊อบบี้ตอนเย็นๆอีกรอบ มีเสียงเพลงฟังเบาๆ สบายๆ สำหรับใครที่อยากมานั่งพักผ่อน สั่งเครื่องดื่มเย็นๆมานั่งเล่นได้ บรรยากาศดีมากเลย

มุมนี่ตกแต่งได้สวยดีค่ะ สามารถมาถ่ายรูปเล่นได้

ด้านข้างๆล๊อบบี้ จะมีชิงช้าและเครื่องเล่นให้เด็กๆ ไปเล่นได้ด้วยค่ะ

บรรยากาศหน้าล๊อบบี้เวลาเย็นเป็นบรรยากาศที่ดีมากๆเลยค่ะ

ก่อนไปหาร้านอาหารทางตอนเย็น เราเดินไปเล่นริมหาดอ่าวนางกันก่อน จากโรงแรมสามารถเดินไปริมหาดอ่าวนางได้ไม่ไกล บรรยากาศหาดอ่าวนางตอนเย็นนั้นสวยงามมาก พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า แสงอาทิตย์ตกกระทบกับน้ำทะเลเป็นสีสันสวยงามตามธรรมชาติที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ มีผู้คนมากมายออกมารับลม ออกมาเดินเล่น บางคนก็ถ่ายรูปกับเรือหางยาวที่มาจอดอยู่ริมฝั่ง บางคนก็วิ่งออกกำลังกาย สำรวจหาดอ่าวนางไปมา ก็เจอกับกลุ่มชาวต่างชาติ วิ่งลงทะเลกันแบบนี้ เห็นแล้วก็ตลกดีท่าทางจะอยากสัมผัสธรรมชาติสวยๆ อย่างเต็มที่ เห็นแต่ละคนที่อยู่ริมหาดอ่าวนาง ท่าทางจะมีความสุขกันมาก เพราะบรรยากาศยามเย็นที่หาดอ่าวนางนี้สวยจริงๆ ค่ะ เราเองยังชอบมากๆเลย นานๆจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้ รู้สึกมีความสุขจริงๆ

สำหรับมื้อเย็นวันนี้ เราเลือกที่จะหาร้านอาหารสบายๆ ไม่ไกลจากโรงแรม ก็เลยเดินไปเรื่อยๆ มาเจอกับร้านอาหาร สส.โภชนา เป็นร้านอาหารตามสั่งแบบง่ายๆ ชมเมนู และราคาที่โชว์ไว้หน้าร้านแล้ว โอเค แวะร้านนี้เลย

พอสั่งอาหารมาแล้วก็ไม่เสียใจเลย เพราะอาหารอร่อย และราคาไม่แพง มาอ่าวนางคราวหน้า แวะร้านนี้ได้อีก เพราะเมนูอาหารนั้น เริ่มต้นที่ 80 บาท เอง เจ้าของร้านก็อัธยาศัยดี คุยไปคุยมา ลดให้อีก 10 เปอร์เซ็นต์ ด้วย ดีใจจัง

เมนูที่เราสั่งในวันนี้ จานแรกคือ ผัดแขนงหมูกรอบ อร่อยมากให้หมูกรอบเยอะด้วย

จานต่อมาเมนูเต้าหู้ทรงเครื่อง หน้าตาน่าทานเชียวรสชาติก็เยี่ยมมาก ทานกับข้าวสวยแล้วอร่อยจริงๆ

เมนูต่อไป ปลาดุกผัดเผ็ด รสชาติอร่อยมากๆ เผ็ดร้อนกลมกล่อม เป็นรสชาติผัดเผ็ดแบบทางใต้ที่เครื่องแกงจะผสมขมิ้นลงไปด้วย ซึ่งขมิ้นนั้นก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะจะช่วยเคลือบกระเพาะ และก็ช่วยขับลม

ต่อไปเป็น ปูนิ่มทอดกระเทียม เป็นเมนูโปรดของเราเลยค่ะ ทอดมากับกระเทียบกรอบๆ หอมๆ ทานกันน้ำจิ้มซีฟู๊ด หรือซอสพริกอร่อยเหาะเลย

สรุปมื้อนี้จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มไป 400 กว่าบาท อิ่มอร่อย สบายกระเป๋ามากก่อนกลับเข้าโรงแรมกระบี่ทิพาเพื่อพักผ่อน เราได้เดินหาซื้อทัวร์ 4 เกาะ ซึ่งก็หาซื้อกันง่ายๆแถวริมถนนจะมีร้านมากมายเปิดขายทริปทัวร์ กัน ซึ่งก็จะมีทั้งทริปไปเที่ยว เกาะพีพี เที่ยวเกาะห้อง เที่ยว 4 เกาะ พายคายัค เดินสอบถามพร้อมสำรวจราคากันได้ทุกร้าน แต่ละร้านราคาก็จะแตกต่างกันไม่มากนัก หรือจะเอาให้สะดวก ก็สามารถติดต่อจาก โรงแรมกระบี่ทิพา เลยก็ได้ เพราะจะมีเคาร์เตอร์บริการ

ในตอนแรกเราตั้งใจว่าจะซื้อทัวร์ เป็นเรือสปีดโบ๊ท ในราคา 750 บาท ต่อคน แต่พอถามราคา ทัวร์เรือหางยาวแล้ว คนละ 400 บาท ก็เลยคิดใหม่ อืมมม……. งั้นเอาเรือหางยาวก็ได้ เพราะยังไม่เคยนั่งเรือหางยาวเลยสักครั้ง ไปดำน้ำที่ไหนๆ ก็นั่งแต่สปีดโบ๊ทตลอด ลองดูสักครั้งหนึ่งในชีวิต และอีกอย่างมาคราวก่อน ก็นั่งสปีดโบ๊ทเที่ยว 4 เกาะ ไปแล้ว เลยลองดูสักหน่อยจ่ายเงินถูกกว่าด้วย

พอจ่ายเงินซื้อทัวร์เรียบร้อย ทางร้านจะให้ใบเสร็จมา แนะนำว่าอย่าทำหายนะ เอาไว้ยืนยันว่าเราซื้อทัวร์มาแล้ว โดยทางร้านจะสอบถามว่าเราพักที่ไหน และก็จะนัดแนะเวลาที่รถจะมารับ คือให้เราเตรียมตัวให้พร้อม แล้วมานั่งรอที่ล๊อบบี้ ตอนประมาณ 8 โมง ถึง 8 โมงครึ่ง จะมีรถมารับพาไปหาดนพรัตน์ธารา เพื่อขึ้นเรือ ไปดำน้ำกัน

สำหรับโปรแกรมทัวร์ 4 เกาะที่กระบี่นั้นจะแตกต่างจากทัวร์โปรแกรมอื่นๆ เช่น พีพี หรือ เกาะห้อง ตรงที่ เดินทางไปเกาะได้ใกล้ๆ ทั้งการเดินทางด้วยรถจากโรงแรม(หากพักที่อ่าวนาง) ทั้งการเดินทางไปเกาะ เพราะว่า เกาะแต่ละเกาะนั้นจะอยู่ไม่ห่างกัน ซึ่งโปรแกรม พื้นฐานของทัวร์4 เกาะนี้ก็คือ 1 ไปทะเลแหวก 2 ไปเกาะปอดะ 3ให้ดูเกาะไก่ แป๊บนึง แค่วนรอบๆ 4 แวะที่หาดไร่เลย์ ชมถ้ำพระนาง ก็ประมาณนี้แหละนะ สำหรับทริป 4 เกาะ

หลังจากซื้อทัวร์แล้ว ก็กลับโรงแรมกระบี่ทิพา เพื่อพักผ่อน เลยขอตัดมาที่ตอนเช้ากันเลย พอรถมารับแล้วก็พามาเช็คชื่อกัน และพาขึ้นเรือ บรรยากาศ บนเรือหางยาว ก็เป็นแบบนี้ ภาพนี้ถ่ายจากท้ายเรือ เพราะตอนแรกนั่งผิดที่ไปหน่อยไปนั่งท้ายเรือ โอ้.. เสียงเครื่องยนต์เรือดังมากๆ เพราะฉะนั้นหากใครผ่านมาอ่านรีวิวนี้ จะไปเที่ยว 4 เกาะ ด้วยเรือหางยาว แนะนำว่า ให้นั่งด้านหัวเรือหน่อยนะ จะได้นั่งสบายกว่า

เรือพาเรามาแวะที่แรก คือ ทะเลแหวก แต่ว่า มันไม่แหวก 555 หนำซ้ำ จากน้ำทะเลบริเวณเนินทรายที่อยู่แค่ข้อเท้าตอนลงเกาะ พอเดินเล่นไปสักพักน้ำขึ้น ไปถึงเอว คนเยอะมากๆเลย ต่างจากที่เคยมาคราวที่แล้ว ที่คนจะน้อยกว่านี้มาก

บรรยากาศบนทะเลแหวก สงสัยจะมาผิดเวลาไปนิด เลยไม่สามารถข้ามไปอีกฝั่งได้

จากทะเลแหวก เรือหางยาวจะพาเราไปดำน้ำ ตรงจุดดำน้ำไกล้ๆ กับทะเลแหวก

ปลาเต็มไปหมด เหมือนจะรู้งาน ว่าได้เวลาโชว์ตัวแล้ว

เห็นเพื่อนร่วมทริปบางคนว่ายน้ำเป็นแล้ว ไม่ใส่เสื้อชูชีพ ว่ายน้ำเล่นกับฝูงปลาสนุกเชียว

ดำน้ำไปก็ชนปลาไป ปลาเยอะจริงๆ

ขึ้นจากดำน้ำแล้ว เรือหางยาวก็จะพา มาวนให้ดูเกาะไก่สักแป๊บนึง แต่วันนี้ ท้องฟ้าไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ แดดไม่ค่อยมี เนื่องจากเป็นช่วงพายุฤดูร้อนมาเยือน แต่โชคดีที่ฝนไม่ตก บรรยากาศครึ้มๆตลอดทั้งวัน จะว่าดีก็ตรงที่ไม่ร้อน แต่ก็ไม่ดีตรงที่ถ้าแดดออกทะเลจะสวยกว่านี้

หลังจากวนดูเกาะไก่พอให้เห็นหัวไก่ สักแป๊บนึง เรือหางยาว จะพาเรามาแวะทานอาหารกันที่ เกาะปอดะ สำหรับอาหารของทริปนี้ ก็จะมีข้าวสวยกับผัดผักอีกสองเมนู มีให้ทานกันคนละจาน คือจริงๆจะเอาเพิ่มก็ได้นะถ้ามีอาหารเหลือ แต่เนื่องจากว่ามีอาหารไม่เยอะ เลยได้กันแค่คนละจานก็หมดแล้ว ใครจะไปเที่ยวแบบเราก็ลองเตรียมขนมและน้ำอัดลมกันไปเองด้วยนะถ้าสามารถเตรียมได้ เพราะไม่มีบริการบนเรือ บนเรือหางยาวจะมีให้แต่น้ำเปล่าหากจะซื้อบนเกาะก็ราคาเพิ่มจากบนฝั่ง สองสามเท่า แต่ถ้าไม่คิดมากก็ซื้อบนเกาะก็ได้ มีบริการอยู่จ้า

บรรยากาศเกาะปอดะ คนเยอะพอสมควร เต็มไปด้วยเรือหางยาวเต็มหาด

ลิงน้อยบนเกาะปอดะ มีเป็นฝูงเลยหล่ะ ส่วนเจ้าตัวนี้ กำลังนั่งโชว์ตัวริมหาด

ที่เกาะปอดะ เราเดินไปริมๆหาด หาบริเวณที่ไม่มีเรือจอด แถวๆแนวโขดหิน จะมีฝูงปลาจำนวนมาก สามารถมาเล่นน้ำหลบร้อนบริเวณนั้นได้

ได้เวลาที่ไกด์เรือนัดไว้ให้ขึ้นเรือ จากเกาะปอดะ ก็ไปต่อกันที่ไร่เลย์ ถ้ำพระนางเป็นที่สุดท้าย

ด้านขวามือเป็นบริเวณถ้ำพระนาง พอดีเรือไม่ได้ไปจอดทางฝั่งถ้ำ เราเลยไม่เดินไปที่ถ้ำพระนาง เลยเล่นน้ำกันบริเวณอีกฝั่งนึง

ก่อนถึงถ้ำพระนาง ในทะเล ก็จะเต็มไปด้วยเกาะแก่ง มากมาย เป็นวิวที่สวยมากๆเลยทะเลไทย

ภาพบรรยากาศเมื่อเรือหางยาวมาจอดเรียงกัน

ถึงไร่เลย์แล้ว ก็เล่นน้ำกันริมๆ หาด เพราะเล่นตรงกลางไม่ได้ เรือจอดอันตราย ต้องไปเล่นตรงแนวโขดหน้าผา มีปลาเยอะเหมือนกัน ธรรมชาติสุดๆ ไกด์ให้อยู่ตรงนี้นานหน่อยจนได้เวลากลับ หมดจากหาดไร่เลย์แล้ว ก็เป็นอันจบทริปดำน้ำ 4 เกาะด้วยเรือหางยาว เรือก็จะพากลับมาที่หาดนพรัตน์ธารา แล้วก็จะมีรถพาไปส่งที่โรงแรมเหมือนเดิม เป็นอันจบทริป

หลังจากกลับจากทริปดำน้ำ 4 เกาะแล้ว เราก็กลับไปพักที่ กระบี่ ทิพา อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เริ่มเย็นแล้ว วันนี้เราวางแผนจะไปหาอะไรทานกันในเมือง วันนี้เป็นวันเสาร์ จะมีถนนคนเดิน ภายในตัวเมืองกระบี่ ซึ่งมีอาหาร และขนมขายเยอะแยะมากมาย

บรรยากาศถนนคนเดินยามเย็น มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะเชียว อาหารก็เยอะ มีหลายร้านขายอาหารหลากหลายแบบทั้งอาหารทะเล อาหารใต้ อาหารทานเล่น ขนมหวาน เครื่องดื่ม ต่างๆเยอะแยะมากมาย เรียกได้ว่า ถ้ามาถนนคนเดินแล้ว ได้อิ่ม อร่อยกลับไปแน่นอน

บรรยากาศร้านค้าต่างๆภายในถนนคนเดิน ชอบร้านไหน ก็แวะซื้อ แวะชิมกันได้เลย

ภายในถนนคนเดิน นอกจากจะมีอาหารขายแล้ว ยังมีสินค้า Handmade เป็นที่ระลึกสำหรับซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย

สำหรับคนที่ซื้ออาหารเรียบร้อยแล้ว ตรงกลางตลาดจะมีโต๊ะให้นั่งทานอาหารแบบนี้ แต่คนอาจจะเยอะหน่อย

ปิดท้ายการเดินถนนคนเดินด้วย ร้านผัดไทยไฟลุกแบบนี้ จะผัดให้เห็นไฟลุกๆ กันทุกๆกระทะ คนยืนดู ยืนสั่งกันเต็มหน้าร้าน

และสำหรับใครที่อยากจะไปเดินถนนคนเดินเมืองกระบี่ จะเปิดให้ซื้อ ขาย สินค้ากันทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ ห้าโมงเย็น จนถึง สี่ห้าทุ่ม ทำเลที่ตั้งของถนนคนเดินแห่งนี้จะอยู่ บริเวณถนนมหาราช ใกล้ๆกับห้างโวค กระบี่ รับรองว่าเดินสนุกของอร่อยเพียบ ใครไปเที่ยวกระบี่ ตรงกับวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ พลาดไม่ได้เลยนะถัดมาตอนเช้า สำหรับอาหารเช้าของ กระบี่ ทิพา รีสอร์ทอ่าวนาง ภายใต้บรรยากาศธรรมชาติแสนอบอุ่น

อาหารเช้าเราจะมาทานกันที่ อาคารนี้ ซึ่งห่างจากห้องพักเราไม่ไกล ด้านบนของอาคารจะเป็นห้องแกรนด์ดีลักษ์ ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม

บรรยากาศภายในห้องอาหารเช้า ที่ถ่ายมาให้ชมนี้เป็นวันที่ 2 ที่ไม่ได้ไปเที่ยวเกาะ นะค่ะ บรรยากาศตอนสายๆ นั่งสบาย คนไม่ค่อยเยอะแล้วเพราะส่วนมากเท่าที่ทราบ จะลงมาทานกันแต่เช้าเพื่อรีบไปเที่ยวเกาะกันค่ะ

อาหารเช้ามีหลายอย่างครบ อิ่ม อร่อย ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ขาดตกบกพร่องเลย

มีที่นั่งแบบด้านนอกสำหรับ รับอากาศธรรมชาติ

บรรยากาศของไลน์อาหารเช้าต่างๆ มี ให้ตักได้หลายอย่าง ทั้งข้าวต้ม ผลไม้ ผัดหมี่ ขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก โยเกิร์ต เป็นต้น

มุมเครื่องดื่ม ชา กาแฟ

ผลไม้ ขอบอกว่า มาเที่ยวกระบี่ หรือภูเก็ต ต้องไม่พลาดทานสับปะรด นะค่ะ เพราะสับปะรด อร่อยมากๆ ทานที่ไหนก็อร่อย สับปะรดเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดภูเก็ต ทำให้มาเที่ยวแถบนี้จะได้แต่ทานสับปะรดอร่อยๆ หาซื้อง่ายราคาไม่แพงด้วยค่ะ

โยเกิร์ต และ ซีเรียล สำหรับคนรักสุขภาพ

มาดูอาหารที่เราตักกัน ไม่ได้ขาดตกบกพร่องเลย ไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ผัดหมี่ซั่ว มันบด ออมเล็ท

ไข่ลวก ทานตอนเช้า เสริมสร้างพลังงาน มื้อนี้เน้นทานไข่ค่ะ

ผลไม้ สลัดผัก ทานแค่นี้ก็อิ่มแล้วค่ะ

ต่อไปก็มาเดินสำรวจ รอบๆ รีสอร์ทกัน เต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย มะม่วง มะพร้าว ดอกไม้ หลากหลาย

ทางเดินภายในรีสอร์ท สะอาดตา มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลสวนตัดต้นไม้สะอาดมาก

ทางขึ้นห้องพักด้านหลัง สำหรับห้องพักที่อยู่ชั้นล่าง ตกแต่งได้สวยน่ารักดีค่ะ ส่วนเราพักชั้นบน เลยไม่มีแบบนี้

ที่โรงแรมกระบี่ ทิพา ยังมีห้องเด็ก สำหรับเด็กๆ ได้เล่นกันด้วยนะค่ะ

ต่อไปมาชมบรรยากาศสระว่ายน้ำสวยๆ กันค่ะ ตอนเช้าๆ ยังไม่มีคนเล่นน้ำ แต่พอตอนเย็น หลังจากไปเที่ยวทะเลมา โดดเล่นน้ำกันสนุกเลย สระว่ายน้ำก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่มีใบไม้ ตกหล่นให้สกปรกเลย

มุมนี้เป็นสระเล็กๆ สำหรับเด็ก และก็ยังมีเตียงสำหรับนอนอาบแดด เป็นมุมสงบๆ

ปิดท้ายรีวิว ด้วยสระว่ายน้ำสวยๆ ของ โรงแรม กระบี่ ทิพา อ่าวนาง ซึ่ง เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่น่าพักมากๆ เพราะ สถานที่ตั้งสะดวกสบาย อยู่ใจกลางอ่าวนาง หากไม่มีรถ ก็สามารถเดินไปซื้อขนม หาร้านอาหารนั่งทานได้สบาย มีร้านอาหารมากมายอยู่บริเวณไกล้เคียง จะเดินไปทะเลหาดอ่าวนางก็ง่าย เดินไปนิดเดียวก็ถึง โรงแรมอยู่ติดริมถนนมองหาง่าย เหมาะกับการเดินทาง จึงเป็นอีกโรงแรมที่น่าพักมาก หากใครจะมาเที่ยวที่ จังหวัดกระบี่ค่ะ