มาแล้วจ้าทริปเที่ยวครั้งแรกของปี 2563 ดีใจน้ำตาจะไหล ฮ่าๆ เกริ่นนำก่อนละนะ เพราะโควิด19 ทำพิษ ทำแผนเที่ยวที่เราจองไว้ตอนปลายเดือนมีนา 63 พัง รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินปิดจังหวัดทุกจังหวัดและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งอีก 2 วันเราจะเดินทางไปเชียงใหม่ตามตั๋วบินที่จองไว้ เลยต้องเสี่ยงทำเรื่องขอเครดิตเงินคืนเพราะสถานการณ์โควิด (ตอนแรกคิดว่าจะเสียเงินฟรีไปแล้ว แต่โชคยังดีที่แอร์เอเชียรับคำร้องและเราเลือกเป็นเครดิตเงินคืนไว้บินเที่ยวหน้าได้) ผ่านไป 5 เดือน พอการแพร่เชื้อเริ่มน้อยลง รัฐบาลไฟเขียวให้เที่ยวได้ เราเลยต้องมาหาเที่ยวบินใหม่ และต้องเสียเงินเพิ่มค่าตั๋วอีก 1,600 บาท ( 2 คน) จากเดิมฉันจองได้เที่ยวละ 450 บาทต่อคน ช่างน่าเจ็บใจ คำนวณแล้วบินเที่ยวละ 800 กว่า ต่อคน
ให้รถจากโรงแรมมารับที่สนามบินเลยจ้า เขาแจ้งว่าเที่ยวละ 100 บาท รอรถไป 20-30 นาที ขนาดเมล์ยืนยันกับโรงแรมแล้วนะว่าไฟลท์บินถึงกี่โมง เครื่องลงกี่โมง จนต้องโทรไปตามรถที่โรงแรมถึงจะเพิ่งออกมา(มารู้ทีหลังว่าช่วงนี้ส่งฟรีเลยให้อภัยได้) ถึงโรงแรมเพื่อนมารับก็ออกไปกินข้าวกับเพื่อน พอกลับมาถึงโรงแรมจัดการเช่ารถมอไซต์โดยให้ทางโรงแรมเป็นผู้ติดต่อให้เราเลือก wave 125 ราคาคันละ 250 /วัน ค่ามัดจำ 3,000 บาท เราเติมน้ำมันไป 50 บาท แว๊นได้สบายๆ ทั้งวัน
ขี่มอไซต์ไปวัดศรีสุพรรณ ใกล้ๆ ที่พักก่อนเลย ยามเย็นมีคนมาเที่ยวแค่ 5 คนเอง
ไปต่อกันที่วัดโลโมฬี
เช้าวันรุ่งขึ้น ไปต่อกันที่วัดอุโมงค์
และไปแวะเดินเที่ยวถ่ายรูปที่บ้านข้างวัด ไม่ไกลจากวัดอุโมงค์
บ่ายก็แว๊นไปเที่ยว "บ้านสวนกาแฟ" หลังวัดพระธาตุดอยคำ เราไปถ่ายรูปอย่างเดียวเพราะคนเยอะแล้วราคาอาหารค่อนข้างสูง
จากนั้นแวะไปไหว้พระ ทำบุญที่วัดพระธาตุดอยคำ
ตกเย็นก็ไปแวะถนนคนเดินวัวลาย ช่วงที่ไปคนน้อย เดินสบาย ของขายพอควร เราได้อ่องปูมา แพ็คละ 150 แบบกระปุกก็ 150 เยอะกว่า แต่กลัวไม่อร่อยเลยเอามาชิมก่อน เดินมาเจออีกร้าน 3 กระดอง 30 บาท โคตรเซ๊ง
ได้ผ้าปิดปากมาผืนละ 25
กระเป๋าใส่ของ 3 ใบ 75 บาท
น้องช้างตัวละ 5 บาท
ชอบน้องช้างมาก ซื้อมาใส่ตู้โชว์เป็นโขลงเลย ตัวละ 35 บาท
เช้าวันอาทิตย์ก็ไม่ได้ไปไหน อยากตื่นสายเลยนอนกลิ้งที่โรงแรมรอเวลาไปขึ้นเครื่อง
ร้านอาหารแต่ละมื้อที่เราทานเชิญติดตามชมได้ตอนต่อไปค่ะ
Emmy Journey
วันพฤหัสที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 11.05 น.