สวัสดีค่าาาาา กลับมาอีกแล้วหลังจากห่างหายไปนานกับทริป #5sahaidakmhodjapan วันนี้เรากลับมาพร้อมกับชื่อทริปอันเก๋ไก๋ว่า #taiwansweetkidney ( แปลเป็นไทยว่าไต้หวันไตหวานนน นั่นเอง เผื่อใครไม่เก็ต 5555555 ) ทริปนี้เรามีขึ้นในระหว่างวันที่ 8-14 พฤษภาคม 2016 โดยมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น9คน และจุดหมายของเราในครั้งนี้คือ ประเทศไต้หวันนั่นเอง◡̈⃝

_________________________________________________



-แพลนคร่าวๆ ของเราในครั้งนี้- ♡

day1: taoyuan airport - chiang kai shek - long shan temple

http://pantip.com/topic/35163286

day2: yehliu - jiufen

http://pantip.com/topic/35167028

day3: beitou - tamsui - din tai fong

day4: taroko national park - hualian night market

day5: qixingtan beach - ximending

day6: sun moon lake

day7: taipei fish market - BKK



-สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆของทริปนี้ ( ไม่รวมค่ากินค่าช้อป )- ♡

- ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับคนละประมาณ 6,400 บาท

- ค่ารถบัสจากสนามบินเข้าตัวเมืองคนละ 125 NTD

- ค่าที่พัก 3 คืนที่ Holo hostel คนละ 1,951 NTD

- ค่าที่พักที่ mini voyage hostel ในเมือง hualian คนละ 573 NTD

- ค่าที่พัก 2 คืน ที่ triple tiger hostel คนละ 1,088 NTD

- ค่ารถไฟ HSR ไปกลับ Sun moon lake 1,015 NTD

- ค่า day pass ที่ sun moon lake 720 NTD

- ค่ารถไปไป hualian ไปกลับ 880 NTD

- ค่า taxi ไป taroko ตกคนละ 666 NTD

- ค่าเดินทางอื่นๆยิบย่อย 500 NTD

- ค่า onsen ที่ beitou คนละ 40 NTD

- ค่ารถบวกค่าเข้า yehliu geopark 100 + 80 NTD= 180 NTD

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดคร่าวๆ = 6400 + ( 7738 NTD*1.1) = 14911.8 บาท

สำหรับของเจ้าของกระทู้ค่าใช้จ่ายของกินตกวันละประมาณ 600 NTD แต่คือมีมื้อที่กินเซเว่นทุกวัน แล้วก็ไม่ได้เข้าร้านแพงๆบ่อย ส่วนใหญ่จะเสียไปกับของกินจุกจิกใน night market มากกว่าค่ะ



-การเตรียมตัว- ♡

เนื่องจากเวลาปิดเทอมของพวกเรามีไม่เยอะมากนั้น ทำให้ทริปของเราต้องตกอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งตรงกับช่วงเข้าฤดูร้อนพอดีในไต้หวัน ทำให้อากาศนั้นค่อนข้างใกล้เคียงกับในไทยเลยทีเดียว (แปลว่าร้อนถึงร้อนมาก 555555555)



การขอวีซ่า

วีซ่าไต้หวันขอไม่ยากอย่างที่คิด ยิ่งถ้าเป็นนักเรียนนักศึกษาแล้วค่อนข้างแน่นอนว่าจะผ่านฉลุย สำหรับค่าวีซ่าตอนนี้อยู่ที่ 1,700 บาทค่ะ

สถานที่ในการยื่นขอวีซ่า: สำนักงานเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมไทเป ชั้น 20 เอ็มไพร์ทาวเวอร์ 195 ถ.สาทรใต้ กทม. 10120

เอกสารที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าไต้หวัน:

- หนังสือเดินทางมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และ สำเนาหนังสื้อเดินทางด้วยนะคะ

- รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป (แนะนำว่าเป็นพื้นหลังขาวค่ะ)

- สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชนอย่างละ 1 ชุด (สำเนา+ตัวจริง)

- เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน รวมถึงเอกสารสำหรับการจองที่พัก

- หนังสือรับรองการทำงาน หรือใบจดทะเบียนการค้า หากเป็นเจ้าของกิจการ

- หลักฐานการเงินจากธนาคาร หรือสมุดบัญชีเงินฝากถ่ายเอกสารย้อนหลัง 6 เดือน (สำเนา+ตัวจริง)

- กรณีเป็นนักศึกษา ต้องขอหลักฐานการศึกษา และหลักฐานการงานและการเงินของผู้ปกครอง

- กรณีเป็นเด็ก ที่เดินทางกับผู้ใหญ่จะต้องแนบทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชนของบิดา, มารดาด้วย

- แบบฟอร์ม วีซ่าไต้หวัน กรอกข้อมูลครบถ้วนจากในเว็บและเซ็นต์ชื่อ 1 ชุด

(อ้างอิงจาก: http://www.flymetotaiwan.com/taiwanvisa-วีซ่าไต้หวัน/)

เอกสารแต่ละอย่างสำคัญมาก ห้ามลืมปริ้นท์ไปเลยนะคะ เพราะตอนที่จขกท.ไปขอวีซ่า เพื่อนลืมปริ้นท์เอกสารจองตั๋วเครื่องบินมา มีบริการปริ้นท์ในตึกempire แต่ว่าราคาชุดละ 300 บาทค่ะ



การแต่งกาย

สำหรับคนที่เดินทางไปไต้หวันในเดือนนี้แนะนำว่า แค่เสื้อแขนสั้นขาสั้นอารมณ์ไปชายทะเลก็เอาอยู่แล้ว 55555555 แต่ถ้าใครวางแผนไป ทาโรโกะอาจจะเตรียมเสื้อกันหนาวบางๆไปเผื่อตัวนึงได้ ที่สำคัญ อย่าลืมพกร่มหรือร่มกันฝนเด็ดขาดดดดด !



ที่พัก

แนะนำให้จองที่พักที่อยู่ใกล้ Taipei main station เพราะจะสามารถเดินทางไปต่างเมืองได้สะดวก หรือถ้าไม่มีจริงๆ ย่าน Ximen ก็เป็นอีกที่ที่พวกเราแนะนำเพราะใกล้กับแหล่งช้อปและยังถือว่าใกล้กับ Taipei main staion อยู่ ซึ่งสำหรับเว็บไซต์ที่เราใช้จองในครั้งนี้คือ www.booking.com ซึ่งจะเป็นการจองแล้วค่อยไปจ่ายเงินที่โรงแรมในวันที่เข้าพักค่ะ.◡̈⃝



ตั๋วเครื่องบิน

ทริปนี้เราเลือกใช้บริการสายการบินโลว์คอส tigerair และ nokscoot ซึ่งหารเฉลี่ยทุกคนออกมาตกคนละประมาณ 6,400 บาท (รวมน้ำหนักคนละประมาณ10โล) โดยขาไปเราแยกเป็น 2 กลุ่ม ( เพราะว่ากลุ่มที่จองที่หลังดันมีโปร nokscoot พอดี) โดยที่กลุ่มของ tigerair ถึงเวลา 00.05 น. จะเป็น pioneer สำรวจสนามบินไป ส่วนกลุ่ม nokscoot จะตามมาถึงในตอนเช้า ส่วนขากลับเรากลับ tigerair ด้วยกันทั้งหมด



ตั๋วรถไฟ

- เนื่องจากในแพลนเรามีที่เดินทางโดยใช้ High speed railway (HSR) ซึ่งการจองตั๋วล่วงหน้า หรือที่เรียกว่า Early bird จะทำให้ได้รับส่วนลดตั้งแต่ 10-35% (http://www5.thsrc.com.tw/en/) ซึ่งทำให้ราคาไม่หนีกับรถไฟปกติมาก สำหรับใครที่มีแพลนที่ค่อนข้างแน่นอนแล้ว HSR ถือเป็นตัวเลือกในการเดินทางที่ดีทางนึงเลย◡̈⃝

- สำหรับ TRA หรือ รถไฟข้ามเมืองแบบปกติ ใครที่จะเดินทางไปยังเมืองใหญ่ๆ แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าเช่นกัน เนื่องจากที่นั่งมันจะเต็ม ทำให้ถ้าเราไปจองก็ต้องไปลุ้นว่าจะได้นั่งหรือยืนตลอดสายนั้น555555 โดยวิธีการจอง ทำได้ทั้งทาง online หรือหน้า counter ตามสถานีรถไฟก็ได้ ( http://www.railway.gov.tw/en/ )



pocket wifi

เราใช้บริการของ http://wifi-taiwan.com ตกวันละ 200 NTD สามารถใช้ต่อได้ 10 เครื่อง โดยถ้าจองล่วงหน้าก่อน 21 วันจะได้รับส่วนลดอีก 15 % วิธีการรับคือ ไปรับที่ร้าน HiLife ในสนามบิน เวลาไหนก็ได้ เแต่เวลาส่งคืนต้องส่งคืนผ่าน 7-eleven ถ้าส่งผ่าน hilife หรือ familymart จะต้องเสียค่าshipping อีก 55 NTD


easy card

easy card ของไต้หวันเปรียบเทียบก็เหมือนบัตร rabbit บ้านเราที่อัพเกรดโคตรๆ 555555555 คือใช้แตะจ่ายค่ายานพาหนะในการเดินทางได้เกือบทุกชนิด ซึ่งโดยเฉพสะจ่ายค่าmrt นี่ได้ส่วนลดอีก 20% อีกตังหาก แถมฟังชั่นพิเศษอีกคือ แตะจ่ายบัตรซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้อีกด้วย ซึ่งการซื้อบัตร easy card สามารถซื้อได้ทั้งในสถานีรถไฟและร้านสะดวกซื้อแต่ถ้าซื้อที่สถานีรถไฟ ( เฉพาะสายสีฟ้า ยกเว้น taipei main station ) จะสามารถแลกค่ามัดจำ 100 NTD คืนได้ 80 NTD พูดง่ายๆคือเราจะเสียค่าซื้อบัตรแค่ 20 NTD แต่ถ้าซื้อในร้านสะดวกซื้อเราจะแลกค่ามัดจำในบัตรคืนไม่ได้เลย



ʕ´•ᴥ•`ʔʕ ·ᴥ·ʔʕ·ᴥ· ʔʕ♡˙ᴥ˙♡ʔʕ≧ᴥ≦ʔ



- #taiwansweetkidney ไต้หวันไตหวาน: day1- ni hao taiwan.♡ -


00.05 น.

สมาชิกกลุ่มแรกเดินทางมาถึงสนามบินเถาหยวนโดยสวัสดิภาพพพพพ

หลังจากผ่านตม. พวกเรารีบไปหาที่จับจองสำหรับการนอนในคืนนี้ ตามที่กระทู้อื่นๆเคยแนะนำมาว่า ให้นอนที่หน้าร้าน Starbuck (cr: http://www.1000milesjourney.com/sleeping-in-taoyuan-airport/) แต่เมื่อไปถึงก็พบว่า โซฟาทั้งหมดถูกจองไปหมดแล้ววว ฮืออออเรามาช้าไป สมาชิกทั้งห้าคนเลยต้องระหกระเหไปหาที่พักพิงในคืนนี้ จนสุดท้ายมาจบลงที่ foodcourt ตรงชั้น B1



ที่พักในคืนนี้มีปลั๊กไฟและห้องน้ำพร้อมให้ล้างหน้าแปรงฟัน เสียอย่างเดียวคือเก้าอี้เล็กและแข็งปั๊ก (จริงๆมีบริเวณที่มีโซฟาแต่ตรงนั้นจะไม่มีปลั๊ก)

นี่คือส่วนบริเวณโซฟา คือฝั่งนึงเป็นโซฟา อีกฝั่งเป็นเก้าอี้ธรรมดา


หลังจากจับจองที่นอนได้ ก็ถึงเวลาออกหากิน ที่พึ่งพิงของเราในคืนนี้คือร้านสะดวกซื้อ HiLife ในชั้นB1 ชั้นน้ำที่นี่มีให้เลือกหลายล้านอย่างมาก


ชานมยี่ห้อแนะนำ กลิ่นชาไม่แรงมาก รสนมค่อนข้างเด่นกว่ากลมกล่อมพอดี


ซาลาเปาไส้งาดำ หอมงา ไม่หวานมาก กินร้อนๆตอนท้องหิวๆ อร่อยยยยยยยย


รวมมื้อดึก(มาก)ในคืนนี้


ราเมงรสเนื้อ ยี่ห้อนี้มีเป็นแบบเนื้ออบแห้งแพคมาให้ด้วย รสชาติดีเลย


ข้าวปั้นหน้าไก่? รสชาติเบสิกพอกินให้อิ่มท้อง


น้ำยี่ห้อ hey song sarsaparilla (ชื่ออ่านยากไปอี๊ก) รสชาติเหมือนซาสี่ ปะแล่มๆซ่าๆ


เตรียมตัวล้างหน้าแปรงฟันก่อนที่สมาชิกที่เหลือจะมาถึง หามื้อเช้ากินต้อนรับวันแรกอย่างเป็นทางการในไต้หวันด้วยโจ๊กหมูพร้อมไขเยี่ยวม้าร้อนๆ ร้านแรกตรงฟู้ดคอร์ท ราคาเบาๆ 75 NTD


ส่วนคนอื่นฝากท้องไว้กันเมนูเบสิกร้านเบเกอรี่ตรงชั้นฟู้ดคอร์ทเหมือนกัน ขนมปังไส้กรอก


โมจิไส้ชาเขียว แต่ยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่


08.05 น.


สมาชิกอีก 3 คนที่เหลือเดินทางถึงสนามบินแล้วววเย่

เราพร้อมออกเดินทางงงออกจากสนามบินโดยรสบัสของบริษัท กงกวน (อ่านงี้มั้ง) ซื้อตั๋วที่ counter ชั้น B1 โดยจะมีรถออกทุกๆ 15 นาที โดยกระเป๋าเดินทางเราจะถูกติดแท๊กแล้วไปเก็บใต้ท้องรถ


เราจะไปฝากของที่โรงแรมของเราใน 3 คืนแรกก่อนซึ่งคือ Holo hostel ( http://www.booking.com/hotel/tw/holo-hotel.th.html ) ตั้งอยู่ตรง Taipei main station ทางออก M6 (แต่ความจริงคือออก M5 แล้วข้ามถนนจะใกล้กว่า) ที่พักจะอารมณ์เป็นตึกอพาร์ตเม้นนิดนึง


หลังจากเก็บของเสร็จก็ถึงเวลาเอ๊กส์พลอร์ไทเปกันแล้ว จุดหมายแรกของเราคือ Chiang Kai-shek Memorial Hall เป็นแลนด์มาร์กที่ต้องเก็บเวลามาไต้หวัน มีความกว้างมากกก เห็นนักท่องเที่ยวอยู่แค่ประปราย เพราะวันนั้นแดดร้อนมากก
วิธีการเดินทาง: นั่ง mrt แล้วลงสถานี Chiang Kai-shek Memorial Hall

เดินขึ้นไปข้างบนอาคารขาวๆ ที่มีรูปปั้นของท่านเชียงอยู่ จะมีการแสดงเปลี่ยนกะของทหารประจำการทุกชั่วโมง


ภาพมุมสูงมองลงมา เห็น landscape กว้างๆ ดูยิ่งใหญ่ดี


เก็บ landmark ด้วยภาพโพลารอยด์กันหน่อย ◡̈⃝


เดินกันได้แปปเดียว ทุกคนก็เหนื่อยแล้วจากอากาศที่ร้อนมาก ถึงเวลาหาของกิน เราเดินสำรวจรอบๆบริเวณนั้น


เจอร้านอาหารไต้หวันร้านนึงอารมณ์เป็นเหลาหน่อย เลยขอประเดิมอาหารจีนมื้อแรกของทริปนี้ (打咔生猛活海鮮 - 羅斯福路一段43號 - http://4sq.com/Q1QKnc) ขาหมูสไตล์ไต้หวัน จานใหญ่มาก ที่นี่เค้าจะเน้นกินมันหมูซะเป็นส่วนใหญ่ แต่รสชาติถือว่าดีเลย จิ้มกับน้ำจิ้มที่ใส่กระเทียม ทำให้ไปตัดความเลี่ยนได้ เข้ากันกำลังดี


วุ้นเส้นผัดซัมทิงเป็นรสชาติที่ไม่ค่อยคุ้นเคย อร่อยดีเหมือนกัน แต่เส้นจะมีความเยิ้มน้ำมันเบาๆ


landmark ที่ต่อไปที่เราจะไปคือ Longshan temple
วิธีการเดินทาง: ขึ้น mrt ลงที่สถานี Longshan temple พอขึ้นมาบนดินปุ๊ปก็เจอวัดปั๊ปเลย

พอเข้าไปในวัด ก็ไหว้พระขอพรกันตามพิธี เท่าที่สังเกตมา ที่นี่จะมีวิธีไหว้ คือ เค้าจะแจกธูป 3 ดอกให้ แล้วเราก็ไหว้ตามจุดที่เค้ากำหนดให้ 3 ที่ซึ่งแต่ละที่เราก็จะโยนธูปลงปักกระถาง 1 อันตามจุด


ใกล้ๆกับวัด จะมีตลาดให้เดิน ชื่อว่า Banka market ซึ่งก็จะมีร้านของกินและแผงลอยเรียงรายไปตามทางเต็มไปหมด


พวกเราเริ่มต้นกันที่ร้านของหวานร้านดังก่อน เป็นร้านที่ชื่อจะมีเลข 1920 ในชื่อ ถ้าจำไม่ผิดนะ 5555555 (龍都冰果専業家


https://goo.gl/maps/cw3WyMtCSfQ2) ตอนแรกคือเราตั้งใจจะไปกินรสมะม่วง แต่ทางร้านบอกว่าจะขายเฉพาะช่วงเดือนมิถุนาถึงสิงหา ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน(มาก)ของไต้หวันเท่านั้น เลยอดกันไปตามธรรมเนียม

เลยจัดเมนูอย่างอื่นแทนละกัน เริ่มที่เมนูแรก ราดท้อปปิ้ง 3 อย่าง แยมสตรอเบอรี่ พุดดิ้งคัสตาร์ด และ sticky rice ball

เมนูถัดมาเป็นเมนูรวมถั่ว คิดว่าน่าจะเป็นของดังของร้านนี้ เพราะแอบเห็นว่าทุกโต๊ะสั่ง ไม่เคยกินแบบนี้มาก่อนแต่ก็ยังอร่อยอยู่ดี 5555555


เดินไปในตลาดเรื่อยๆ เจอร้านนึงคนต่อคิวเยอะมาก เลยไปต่อกับเค้าบ้าง เป็นร้านขายของต้มๆกะซุปเต้าเจี้ยวมั้ง รสชาติกลิ่นออกแรงๆ มีให้เลือกหลายอย่าง แต่ที่อร่อยที่สุดแนะนำว่าเป็นหัวไชเท้า ขนาดอากาศร้อนๆกินร้อนๆยังอร่อยเลยย


แถมด้วยน้ำสักอย่างรสชาติหวานแบบจืดๆ ดูดขึ้นมามีวุ้นๆ มีกลิ่นเลมอนออกมาหน่อยๆ กินตอนอากาศร้อนๆ ก็ดับร้อนดีค่ะ


สถานที่ที่เราจะพาไปต่อ เป็นสวรรค์ของนักช้อปร้องเท้าาา มันคือ Carrefour สาขา Chung Xin ซึ่งรวบรวม outlet ของรองเท้ายี่ห้อดังไว้


วิธีการเดินทาง: mrt ลงสถานี Xianse temple ทางออก 2 แล้วเดินต่อประมาณอีกเกือบๆ 10 นาที

ซึ่งภายในจะมี shop มากมายที่ลดราคาถือว่าค่อนข้างถูกเลยทีเดียว ( cr: http://travel.sanook.com/blog/96255/ชวนช๊อป-outlet-รองเท้าผ้าใบใน/) แต่ตอนที่เราไปพวก onitsuka tiger อะไรงี้เหลือแต่ลายไม่สวยแล้ว เสียดายมากๆ แต่ทั้งจขกท.กับเพื่อนๆก็สอยกันมาได้คนละคู่สองคู่



ส่วนมื้อเย็นของเราฝากท้องไว้ที่ร้าน Sushi express ภายในคาร์ฟูร์ เป็นร้านซูชิที่มีสาขาเต็มไต้หวันไปหมด รสชาติเฉยๆ ราคาไม่แพงมากค่า



วันแรกของ #taiwansweetkidney ก็จบลงแล้ว วันนี้เป็นวันที่ยาวนานมาก ที่พักของเราคืนนี้คือ holo hostel เราเลือกพักกันแบบห้องส่วนตัว 8 เตียง 1 ห้องน้ำ ที่พักโดยรวมสำหรับคนที่นอนง่ายถือว่าโอเค แต่ว่าอาจจะมีเรื่องห้องน้ำที่ยังไม่ผ่านเท่าไหร่ (จขกท.แอบเจอเห็ดขึ้นในห้องน้ำด้วย) ส่วนเตียงก็ยังไม่ค่อยสะอาดมากเท่าไหร่ โดยรวมให้ 6 เต็ม 10 ค่า

CloudyBlueSky

 วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.34 น.

ความคิดเห็น