บางช่วงเวลาของชีวิต ก็ช่างวุ่นวายและซับซ้อนเหลือเกิน


เหนื่อยจนท้อ แต่ก็ไม่อาจจะถอยได้...เพราะทุกเรื่องราวยังคงต้องดำเนินต่อไป

สิ่งที่นุ้ยทำได้คือการหยุด ... แล้วนำตัวเองออกมาจากจุดนั้น

..ไม่ใช่เพื่อการหลีกหนี ..แต่เป็นการพัก เพื่อต่อเติมกำลังใจ แล้วรอคอยวันเริ่มใหม่เมื่อพร้อม....

.

.

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา...มีเรื่องราวให้เครียดมากมายหลายด้านจนนุ้ยอยากจะหนีไปให้ไกลแสนไกลนักแต่ด้วยภาระหน้าที่ ที่ยังคงต้องดำเนินต่อไปการงานที่ยังต้องรับผิดชอบอีกมากมาย ทำให้นุ้ยก็ไม่อาจละทิ้งไปได้

นุ้ยจึงใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ปลดปล่อยอารมณ์ตัวเอง ให้ล่องลอยไปกับสิ่งที่รักกับใครสักคนที่อยู่ข้างๆ

แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะไม่ได้ไกลมากนักจากความเครียดที่มีอยู่

แต่สถานที่แห่งนี้ กลับทำให้นุ้ยรู้สึกมีชีวิตชีวา ผ่อนคลายได้อย่างคาดไม่ถึงThe MangrovePanwa Phuket

นุ้ยขับรถออกมาจากตัวเมืองไม่ไกลนัก มุ่งหน้าไปทางแหลมพันวาเพียงครู่ ก็ถึงปลายทาง


The Mangrove Panwa Phuketเป็นรีสอร์ทขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ตั้งอยู่บริเวณใกล้อ่าวยนต์และจุดชมวิวเขาขาดมีเพียง 32 ห้อง เท่านั้น

ขณะที่เลี้ยวรถเข้าไปจอดเหลือบมองไปเจอล็อบบี้ก็แอบคิดในใจเล็กๆ ที่นี้ชั่งดูเรียบง่ายจัง

ล็อบบี้เป็นแบบเปิดโล่งลมพัดโกรกได้เป็นอย่างดีเนื่องจากตั้งอยู่บนเนินมีเพียงเคาเตอร์ ที่คอยให้บริการลูกค้า และโซฟาตัวยาว วางขนาน 2 ฝั่งของล็อบบี้

น้ำฝรั่ง .. เป็น Welcome Drink ที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้มากยามแดดร้อนๆ แบบนี้หวานเย็น มีกลิ่นหอม เตะจมูกชื่นใจคะ

จากความรู้สึกที่ว่าที่นี้ช่างดูธรรมดา แต่เมื่อผ่านล็อบบี้เข้ามาเหมือนได้เจอโลกอีกใบรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ที่สามารถทำให้นุ้ยลืมเรื่องราวต่างๆ ไปได้ชั่วขณะ

นุ้ยรีบเอาข้าวไปเก็บที่ห้องแล้วคว้ากล้องออกมานั่งริ่มทะเล

อยากจะกรี๊สให้สุดเสียงเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่อัดอั้นมานานพอสมควร....แต่ทำได้เพียง กรี๊สในใจ แล้วอ้าแขนออกรับลมทะเล

นั่งเล่นอยู่ริมทะเลพักใหญ่พอให้ชื่นใจนุ้ยเริ่มออกเดินเล่นไปตามมุมต่างๆ ของรีสอร์ท



มีกิจกรรมให้ทำอย่างมีเรือแคนนู ให้พายเล่นด้วย

แม้จะเป็นรีสอร์ท ริมทะเล แต่ที่นี้มีต้นไม้ใหญ่ ให้ร่มเงา



มีพื้นที่สวนเต็มบริเวณหน้าหาดสีเขียวของต้นหญ้าทำให้คลายร้อนได้เยอะเลยทีเดียว

ผ่านไปสักพักใหญ่ทางรีสอร์ทได้เปิดห้องพักให้นุ้ยเข้าไปชมไปดูที่ Type แรกกันเลยคะ เป็น Type เริ่มต้นของที่นี้คือ Deluxe Pavilions


ซึ่งต้องเดินย้อนกลับไปทาง Lobbyจะว่าไปแล้วก้องพักของที่สามมารถแบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ ได้เลยนั่นคือ บริเวณ หน้าหาด ซึ่งเป็นแบบ Villa ทั้งหมด และ โซนใกล้ Lobby ซึ่งไม่ติดหน้าหาดแต่เป็น Sea Viewและ Garden View

การออกแบบและตกแต่งภายในจะเหมือนกัน ทุก Typeจะมีแตกต่างกันในเรื่องของสี เฟอร์นิเจอร์และขนาดของห้อง



ซึ่งภายในห้องทุกห้อง จะมีครัวขนาดย่อมพร้อมเตาอบไมโครเวฟและยังมีเคาเตอร์บาร์เล็กๆ

ภายในห้องน้ำ แบ่งโซนเปียกและแห้ง



ซึ่งเป็นแบบแนวยาวประตูสามารถเปิดออกไปยังระเบียงได้หรือ ชื่นชมธรรมชาติ ระหว่างอาบน้ำก็ไม่ว่ากันแต่คงวาบหวิวน่าดู

เสน่ห์ของDeluxe Pavilionsจะอยู่ตรงระเบียงด้านนอกคะเพราะเมื่อเปิดประตูออกไปจะมีเก้าไม้คู่นึง ให้เราได้นั่งชิลรับลมชมวิว ที่สามารถมองเห็นบรรยากาศรอบๆ ทั้งหมดของรีสอร์ท



ท้องฟ้าสดใส ทะเลฟ้าครามอากาศยามเช้า คงสดใสน่าดูยามค่ำคืนนั่งดูดาวแค่คิดก็มีความสุขก็ลอยมา

Typeต่อมาPremierSuiteเป็น Type ถัดจาก Deluxe Pavilions ขนาดห้องเท่ากัน การดีไซน์ ตกแต่งภายในเหมือนกันมีเพิ่มเติม สีสันของหมอน ให้ดูน่ารักและ Type นี้จะเป็นแบบ Villa



ยังมีเคาร์เตอร์เบอร์และครัวขนาดย่อมไม่ต่างจาก Type แรก

ห้องน้ำ ....ดีไซน์ เหมือนกันทุกอย่าง มี Rain Shawerและฝักบัวทุกห้อง



และที่ดูเหมือนจะแตกต่างกันชัดเจน....คือDeluxe Premierมีอ่างอาบน้ำ ให้ได้นอนแช่ผ่อนคลายกันท่ามกลางธรรมชาติบริเวณระเบียงด้านนอก

นอกจากอ่างอาบน้ำ ให้นอนแช่ผ่อนคลายตรงระเบียง ยังมีโซฟา ให้นั่งชมสวน ที่โอบล้อม


ไปด้วยต้นไม้นานา ชนิดให้ความรู้สึกสดชื่นและร่มรืนมากๆ

หลังจากเดินชมห้องพัก อยู่ครู่ใหญ่มานั่งเล่นรับลมริมสระน้ำ สั่งเครื่องดื่ม มาดับกระหาย


แก้วแรก น้ำฝรั่งหวานเย็นชื่นใจแก้วนี้แอบติดใจมาฝาก Welcome drinkเลยสั่งใหม่อีกรอบ



แก้วที่สอง ออกแนวเครื่องดื่มประจำตัว... ไปไหนร้านไหน ยังไงก็ตาม มักจะถามหา น้ำแตงโมปั่นก่อนตลอด



แก้วที่สามเมนูโปรดแต่วันนี้ไม่ได้ชิมเอง เพราะแอบปันใจไปทางน้ำฝรั่งซะก่อน



ปิดท้ายของว่างยามบ่ายด้วยผลไม้รวม

ระหว่างนั่งเพลิดเพลินเหลือบสายตาบ้านหลังน้อยอยู่ใกล้ๆ กับ The M Bar



พนักงานบอกว่าที่นี้เลี้ยงกระต่ายมาตั้งแต่แรกเริ่มเปิดรีสอร์ทเลยทีเดียวปัจจุบันมีทังหมด 6 ตัว

ลุกขึ้นไปดูเป็นบ้านของกระต่ายน้อยแสนน่ารัก บ้างก็วิ่งเล่นไปมาบ้างก็กินอาหารบ้างก็นอนแอบหลบร้อน



สองตัวนอนกระหนุงกระหนิง น่ารักเชียว กระต่ายยังมีคู่ แล้วเราจะอยู่แบบไร้คู่ได้อย่างไร



ความสุข...จากสิ่งมีชีวิตเล็กๆทำให้นุ้ยเผลอลืมเรื่องราวเครียดๆ ไปได้สนิทใจและยิ้มออกมากอย่างสดใส

เวลาเดินทาผ่านไปเร็วมาก.... เผลอปล่อยอารมณ์ กับกระตายชั่วขณะเวลารู้สึกตัวอีกทีตอนท้องร้อง ชักเริ่มหิวเดินตามเสียงท้องร้องมายังห้องอาหารและจัดหนักแบบไม่ยั้งลืมอ้วน ลืมเครียดเริ่มด้วยเมนูแรกออเดิร์ฟสเต๊ะไก่เสิร์ฟ คู่ขนมปังโฮมวีต ปิ้งมาพอกรอบน้ำสะเต๊ะ และอาจาดผักสด



ออเดิร์ฟ จานที่สองสลัดแมงโกรฟดูหน้าตาจะคล้ายกับสลัดผักทั่วไปแต่ที่เพิ่มเข้ามาในสลัดจานนี้คือชีสแฮมและเนื้อกุ้งลายเสือน้ำสลัดจะมีสองแบบหยินหยาง ขาวดำสีขาวเป็นน้ำสลัดซีซ่าส่วนสีดำนุ้ยไม่แน่ใจ ต้องลองเองคะ



ต่อมาเมนูสุดโปรด ทอดมันกุ้งไปที่ไหนก็สั่ง เหนือ กลาง อีสานใต้ต้องถามหาตลอดที่นี้ไม่ทำให้ผิดหวังคะ รสชาติดีมากกรอบนิดๆ นุ่มหน่อยๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยเข้ากั๊นเข้ากัน

ต้มยำกุ้งน้ำข้น... เมนูแซ่บรสชาติถึงใจเข้มข้นดีคะกุ้งที่ใช้เป็นกุ้งลายเสือตัวโตมากๆเนื้อแน่น เต็มคำเมนูนี้ให้ใจไปเลย



ไก่ผัดเม็ดมะม่วงอร่อยชาติจะได้กลิ่นน้ำพริกเผาเตะจมูกหน่อยๆ หวานเค็มกำลังดีเนื้อไก่นำไปทอดกรอบก่อนนำมาผัดแต่เม็ดมะม่วงน้อยไปนิด



สุดท้ายของมื้อเย็นแบบนี้ปลากะพงนึ่งมะนาวเปรี้ยวแซ่บถึงใจ เหมาะสำหรับลดความด้วนดีนะแต่วันนี้ พลาดไปแล้วก่อนจะมาถึงเมนูนี้ฟาดไปซะหลายอย่างเลยทีเดียว



มื้อเย็นผ่านไปแบบหนักหน่วงทานเสร็จก็ฟ้าเริ่มมืดพอดีจะเข้านอนแต่วันก็กะไร อยู่เดินเล่นถ่ายรูปเป็นการย่อยอาหารสักหน่อย เดินกลับมาห้องที่นุ้ยพัก



ห้องที่นุ้ยพักคือ ห้องSuite Beach FrontVillasซึ่งมีอยู่เพียง 4 หลังเท่านั้น

การตกแต่งภายในห้องเหมือนกับห้องอื่นๆ ที่ได้เข้าไปชมตั้งแต่ตอนกลางวันแต่จุดเด่นคือเป็น Villasบริเวณหน้าหาดเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ได้สัมผัสผืนทราย และน้ำทะเลแล้ว



เตียงนอนเป็นแบบคิงไซด์บนเตียงมีหมอนสามสีตัดกัน ขาว แดง เหลืองเป็นการเพิ่มสีสันให้ห้องดูหวานขึ้น



ปลายเตียงมีเก้าอี้ยาวไว้สำหรับนั่ง ดูทีวี หรือวางของอีกทั้งมีโต๊ะทำงานเล็กๆริมต่าง

ภายในห้อง ยังคงมีครัวขนาดย่อมไมโครเวฟอ่างล้างจานและมีบาร์ขนาดเล็ก ให้นั่งดริ้งเช่นกับทุกห้อง



เปิดดูในตู้เย็น...มีเครื่องดื่มอยู่หลายชนิดแต่ในส่วนนี้ไม่ฟรีนะจ๊ะ



เดินผ่านทะลุเข้ายังห้องทุกห้องยึด Concept เดียวกันตกแต่งเหมือนกันทุกห้องซึ่งเป็นแบบแนวยาว แยกเป็นสามส่วนโถชำระอ่างล้างหน้า และอาบน้ำโดยประตูสามารถเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกซึ่ง ณ จุดนั้นมีเซอร์ไพรส์ อยู่



นั่นคืออ่างจากุซซี่ ....ให้นอนแช่ผ่อนคลายรับลมกันริมระเบียงแต่ก็ออกจากวาบหวิวไปสักหน่อยมีเพียงระแนงไม้ที่กั้นไว้

ถ่ายรูปในห้องเสร็จ พอได้ช่วยย่อยอาหารไปได้บ้างออกมาเดินเล่นรับลมยามค่ำคืน



ตลอดทางเดินเปิดโคมไฟสว่างไสวบรรยากาศสงบเงียบ คืนฟ้าเปิดริมทะเลแบบนี้เดินควงคู่กันไป....สุขยิ่งกว่าสิ่งใดแล้ว

นุ้ยเดินเล่นออกมาจนถึงห้องอาหาร อีกรอบ(สงสัยจะเริ่มหิวอีก)



ห้องอาหารของที่นี้แบ่งออกเป็นสองส่วนแต่อยู่ติดกันนั่นคือส่วนของห้องอาหาร และบาร์

ทั้งสองส่วนจะเป็นแบบเปิดโล่ง รับแสงรับลมได้สัมผัสบรรยากาศ ริมทะเลจริงๆ



ด้านหน้าของห้องอาหารเป็นสระว่ายน้ำที่ทอดตัวยาว ขนาดคู่ไปกับห้องอาหาร

และในขณะเดียวกัน ก็ ทอดตัวยาวขนานคู่กับหน้าหาดโดยมีสนามหญ้าขวางกั้นไว้บรรยากาศค่ำคืนนี้ดีจริงๆ ฟ้าเปิด เห็นดาวสดใส



ก่อนเข้านอนแวะไปหาเครื่องดื่มสักกรึ๊บให้พอกระปรี่กระเปร่าซาบซ่า ด้วย mojito



และเพิ่มเบาหวานอีกสักนิดด้วยน้ำสับปะรดปั่น

ค่ำคืนอันแสนหวานได้ผ่าน....ตื่นเช้ามารับวันใหม่เจอบรรยากาศแบบนี้เข้าไปเริงร่ารีบออกมาเล่นตรงเบียง



ได้กาแฟร้อนๆ สักแก้ว .....สำหรับเช้านี้ก็เพียงพอกับความสุขสมองปลดโปร่งรีบคว้าโน้ตบุ๊คมาลุยงานนั่งเขียนรีวิว เติมเต็มช่วงเวลา



นุ้ยว่า สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เหมาะเพียงแค่สำหรับการพักผ่อนแต่ยังเหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการแรงบันดาลใจต้องการจินตนาการปล่อยอารมณ์ ให้ล่องลอยไปธรรมชาติงานต้องออกมาดีแน่ๆ

เช้านี้ ต้นไม้ใบหญ้าดูสดใสบางครั้งทำไมมองไป แล้วรู้สึกเหมือนมีชีวิต



ดอกไม้หลากสีสันยิ่งทำให้ผ่อนคลาย



มองไปทางไหน....ก็สดชื่น

พึ่งรู้สึกตัวเอง...ว่างบางครั้งเราก็อ่อนหวานเหมือนกันนะนั่งมองดอกไม้แล้วยิ้ม



แต่ด้วยช่วงเวลาที่เร่งรีบกับการงานที่แสนเครียดทำให้บางสิ่งบางอย่างในตัวเองขาดหายไป



ลองหยุด.....แล้วหันมาดูแลหัวใจตัวเองสนใจตัวเอง...แล้วจะรู้ว่าความสุขจริงๆ แล้วอยู่ที่ไหนเก็บดอกไม้มาฝากก่อนไปกินข้าวเช้ากันคะ

สำหรับอาหารเช้าของที่นี้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์...ในช่วงหน้าโลว แบบนี้อาหารมีในประมาณพอดี ไม่ได้เยอะมาก



แต่ก็จัดมาให้ครบ เครื่องดื่มน้ำผลไม้ชากาแฟ

โซนสลัดซีเรียล โกโก้ครั้น นมสดก็มี



ขนมเบเกอรี่ ก็มีให้เลือกทานหลายอย่าง

ส่วนอาหารหนักก็มีให้ครบนะคะ เบคอนไส้กรอกแฮมโจ๊ก ข้าวผัด



ไข่ดาวออมเล็ตสามารถสั่งได้ที่พนักงานสำหรับเช้านี้ผ่านไปแบบเบาๆ

เดินถ่ายรูปเล่นเบาๆสระว่ายน้ำตอนกลางวันสวยมาก



สีฟ้าของสระช่างตัดกับสีเขียวของต้นหญ้าอย่างเห็นได้ชัดและเป็นสีที่ตัดกันแล้วดูสดใสสดชื่น

บริเวณหมากรุกฝรั่ง (เอ๊ะ เรียกถูกหรือเปล่า)นอกจากใช้เล่นหมากรุกได้เล่น ยังใช้ถ่ายรูปได้ด้วยเป็นพร๊อพที่ดีเลยทีเดียว



หลังจากถ่ายรูปเล่นจนเหนื่อยเป็นช่วงเวลาที่เพลิดเพลินและมีความสุข อยู่ท่ามกลาง ทะเล สายลมแสงแดด และสองเรา



เมื่อแดดเริ่มแรงขึ้นนุ้ยกลับมานั่งเล่น ทำงานต่อที่ห้อง ปลดปล่อยจินตนาการไปกับบรรยากาศรอบตัวทำไปเล่นไปดูคลื่นซัดสาดต้นไม้พริ้ว ไหวจนถึงเที่ยง

และเหมือนเดิม นุ้ยแทบจะไม่อยากออกไปไหนนุ้ยเลือกทานอาหารที่รีสอร์ทเพราะเมื่อเห็นราคาแล้วโดนใจมากเริ่มจากพิซซ่าฮาวายนาถาดนี้แป้งบางกรอบ ใส่เครื่องมาแบบเยอะมากๆด้วยราคาเพียงถาดละ 200 บาทเท่านั้น



อย่างที่สองGrilled Salmonปลาแซลมอนชิ้นโต ย่างกลิ่นหอมกำลังดีจานนี้ราคา 300 บาท

และสุดท้ายด้วยจานที่สามจานนี้สุดโปรดเลยคะหอยแมลงภู่นีซีแลนด์ตัวโตอบชีส เสริฟพร้อมผักโขม และมะเขือเทศผัดน้ำมันมะกอก แต่จานนี้นุ้ยจำราคาไม่ได้แล้วสิ



ทานอาหารเสร็จ นุ้ยหันไปเจอป้าย ซื้อ 1 แถม 1 ในช่วงเวลาราคาเพียงแก้วละ 190 บาท สองแก้ว ก็ร้อย 190 บาทจะรอช้าอยู่ทำไม จัดเลยเลคะ

แก้วแรก blue margarita



แก้ว ที่สอง pink lady



นั่งจิบชิลๆ ริมสระบรรยากาศด้านหน้าเป็ทะเลแบบนี้ไม่อยากพูดว่าฟินแค่ไหน

ทางรีสอร์ท มีบริการสปาและนุ้ยเชื่อว่าสปาของที่นี้ มีเอกลักษณ์ และโดนใจใครหลายคนไม่น้อย



ซึ่งมีบริการแบบครบครันไม่ว่าจะเป็นนวดไทยนวดน้ำมันขัดสคับทำผมรวมถึงทำเล็บ

อุปกรณ์ทำเล็บสะอาด เก็บรักษาอย่างดี ไม่มีสนิม มีแอลกอฮอลเช็ดทำความสะอาดมีสีให้เลือกมากมายเลยทีเดียวนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

บรรยากาศของสปาที่นี้นุ้ยยกใจให้เลยเต็มๆ นะเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติชอบผ่อนคลาย


ด้วยบรรยากาศริมทะเลแบบนี้ทำให้เรารู้สึกสงบสบายๆลัดที่พัดโชยมาตลอดเวลา มีเสียงคลื่นคลอเคล้าเสียงเพลงเบาๆ

เสร็จจากสปานุ้ยใช่เวลาช่วงบ่ายบริเวณหน้าหาดคว้ากล้องคว้าโน๊ตบุ๊ค มานั่งรอเวลาพระอาทิตย์ตกมานั่งเล่นริมหาดปล่อยอารมณ์ตัวเองไปกับสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้า

นั่งเล่นเพียงไม่นานตะวันเริ่มคล้อย


แสงสีทองเริ่ดส่องแรงกล้ามองออกไปไกลไปเห็นพระพุทธรูปองค์ได้ชัดสายตาเด่นสง่าอยู่บนเนินเขานั่นคือพระใหญ่หรือพระพุทธมิ่งมงคีรี

ตะวันคล้อยน้ำลด ...หลายชีวิตกำลังกลับบ้านแต่สำหรับอีกหลายชีวิตพึ่งเริ่มต้นการทำงาน



ชายหาดบริเวณหน้ารีสอร์ท ไม่สามารถที่จะเล่นน้ำได้เนื่องจากเป็นดินโคลนยามเย็น มักจะพบเห็นกับวิถีชีวิต ของชาวบ้านระแวกใกล้ๆ ออกทำมาหากิน

ทำมาหากิน .... คำนี้คงใช้ได้ดีกับวิถีพอเพียงแค่ท้องอิ่มหลับสบายพร้อมหน้าทั้งครอบครัวนุ้ยว่ามีความสุขกว่าชีวิตคนเมืองที่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาเป็นไหนๆ



เพราะเมื่อมองย้อนกลับมาจริง ๆ แล้วความสุขของคนเราไม่ได้อยู่ที่ ลาภเงินทองเลยแม้ แต่น้อยแต่ความสุขของเรา ..........อยู่ที่บ้าน

ยิ่งใกล้เย็น แสงตะวันยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆแสงสีส้ม ที่สาดลงมากระทบกับผืนน้ำ และผืนดินทอแสงระยิบระยับประหนึ่งว่าแม้วันนี้ใกล้ลาลับแต่ทุกเวลายังมีความหมาย ฉันยังเปล่งประกายจนนาทีสุดท้าย



ช่วงเวลาแบบนี้เครื่องดื่มเย็นๆช่างเข้ากับบรรยากาศได้ดีเหลือเกิน

แม้เวลาจะผ่านไป....แต่ฉันยังคงนั่งอยู่ที่เดิมปล่อยตัวเองให้อยู่ความรู้สึกที่ว่างเปล่าซบไหล่อันแข็งแรง ที่คอยโอบกอดเราตลอดเวลาไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์และพร้อมที่จะเดินจูงมือฉันไปในทุกๆ ทีนุ้ยว่าบางครั้งชีวิตคนเราไม่ได้ต้องการอะไรมากมายเลยไม่ได้ต้องการรถหรูๆไม่ต้องการบ้านหลังใหญ่


ต้องการเพียงแค่ใครสักคนเข้าใจและเดินไปด้วยการตลอดทางลองหยุดจากเรื่องเครียดๆแล้วหาเวลาพักผ่อนหาเวลาให้คนที่เรารักบ้างนะคะ



ความเห็นส่วนตัว



ข้อดี



1.มีความเป็นส่วนตัว โอบล้อมด้วยธรรมชาติเหมาะกับการพักผ่อนมากๆ

2.ไม่ไกลจากตัวเมืองและสำหรับคนที่ไม่เอารถมา มีรถบริการสำหรับเข้าเมืองด้วยวันละ 2 รอบ

3.ติดหน้าหาดและเห็นนวิว พระอาทิตย์ ตกสวยมาก

4.ชอบภายในห้องทุกห้อง มีครัวเล็กๆ เตาอบ อ่างล่างจาน และบาร์เล็กๆ

5.อาหารเครื่องดื่ม รสชาดดี และราคาไม่แพง



ข้อด้อย



1. หน้าหาดไม่สามารถเล่นน้ำได้(แต่มีบริการรถรับส่งฟรีสำหรับไปเล่นน้ำที่หาดใกล้)

2. ไกลจากสนามบิน

3. สระว่ายน้ำค่อนข้างจะเล็ก

4. จากุซซี่อยู่ตรงระเบียงไม่ค่อยจะเป็นส่วนตัวนัก



สุดท้าย .....ขอขอบคุณทุก ๆ การเดินทาง ที่สอนให้นุ้ยได้เรียนรู้ และรู้สึกรักทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น.....



ขอบคุณ สำหรับทุกกำลังใจ

ขอบคุณ สำหรับทุกความเห็น

ขอบคุณ สำหรับทุกไลค์

ขอบคุณ สำหรับทุกแชร์

ขอบคุณ สำหรับโหวต

ขอบคุณ สำหรับทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา

ขอบคุณ สำหรับพื้นที่การแบ่งปันแห่งนี้

และขอบคุณช่วงเวลาดีๆ ที่เดอะแมงโกรฟ ที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นในวันที่เหนื่อยล้า



สาวนุ้ย@ภูเก็ต

ความคิดเห็น