เริ่มต้นเช้าวันแรกที่หาดใหญ่ เราก็เดินหาของอร่อย เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ร้านแรกที่เราไปคือ "โชคดี แต่เตี้ยม" ที่มีแค่ที่นี้เท่านั้น ไม่มีสาขานะจ๊ะ
พอไปถึงร้าน โอ้วแม่เจ้า ! คิวยาวมาก แต่เพื่อความอร่อย เรารอค่ะ
ระหว่างรอ ก็สั่งอาหารไปพลางๆ พอได้โต๊ะ จะได้จัดสะเลย แบบว่าหิวมากกก ณ ตอนนั้น 55
รอคิวได้ไม่ถึง 20 นาที พี่เจ้าของร้าน ที่เป็นคนรันคิวก็เรียกเราไปนั่ง หลังจากได้อาหารแล้ว ก็เริ่มปฏิบัติการจัดให้เรียบ!! เรียบจริงๆ ถ่ายรูปมาทันแค่ บะกุดเต้ เท่านั้น (- - )"
หลังจากอิ่มอร่อยในมื้อแรกแล้ว เราก็ไปลุยกันต่อที่ตลาดกิมหยง เพื่อซื้อของฝาก
จริงๆ ตอนแรก กะเอาไว้แวะเป็นที่สุดท้ายขากลับ แต่กลัวไม่ทันเวลา เดี๋ยวจะตกเครื่อง เลยจัดกันมาก่อน ทั้งอินทผาลัม แมคคาเดเมีย มะม่วงเบา อื่นๆ (มั่วแต่ช้อปเพลิน เลยไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศมาให้ดูเลย)
หลังจากช้อปปิ้งเสร็จแล้ว เราก็ขับรถเข้าตัวเมือง เพื่อเดินทางต่อไปยัง good mountain cafe
ถ้าใครไม่ชินทาง ต้องขับระวังหน่อยนะ เพราะทางมันค่อนข้างชัน แต่พอมาถึงร้านแล้ววิวสวยมว๊ากกกกก
เรานั่งกันข้างในห้องกระจก เพราะดูฟ้าฝนกำลังมืดครึ้มมาเชียว เข้ามาก็สั่งอาหารรอ แล้วรีบออกไปถ่ายรูปข้างนอก ก่อนน้องฝนจะมาหา เดี๋ยวจะอดได้รูปสวยๆกันพอด
บรรยากาศสวยมากก เห็นวิวโดยรอบทุกมุม และเห็นน้องฝนที่กำลังมาด้วยยยยย
ว่าแล้ว เราก็รีบถ่ายภาพกันรัวๆ ทุกมุมสวยหมด (ภาพคู่หน่อยละกันเนอะ)
อันนี้จำชื่อไม่ได้แล้วอ่า ผัดคั่วพริกทะเลอะไรสักอย่าง แหะๆ
ส่วนอันนี้แกงเหลือง คือ แกงเหลืองใต้ของแท้ เครื่องแกงเข้มข้น กลิ่นสมุนไพรมาเต็ม รสชาติเผ็ดจัดจ้านมาก และอร่อยมากเช่นกัน อิอิ
"กินคาว ไม่กินหวาน สัญดานไพร่" เพราะคำนี้แหละ ทำให้ตบท้ายด้วยของหวานตล๊อดดดดดด 5555
ถ้าใครมีโอกาสมานะ แนะนำเลย สตอเบอรี่ปั่น กับ ชอคโกมินต์ จัดว่าเด็ดดดดด
หนังท้องตึง หนังตาหย่อน ได้เวลาออกเดินทางไปยังโรงแรม เพื่อทำการเช็คอิน พวกเราพักในตัวเมือง เป็นโรงแรมติดทะเลสาบสงขลา เพื่อที่จะได้เดินทางไปยังร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ง่ายๆ
พอเก็บของเสร็จแล้ว ก็ลุยต่อจ้าาาาาาา มิสสมิหลา มาแล้ววววว 5555
มาถึงสงขลาทั้งที จะไม่มีดูสัญลักษณ์ของที่นี้ได้ยังไง มีตำนานด้วยนะ อยากฟังไหม ?? แต่อยากเล่าอ่า 555 ฟังหน่อยเนอะ อิอิ
"วันดีคืนดีนางเงือกจะมานั่งหวีผมบนชายหาดด้วยหวีทองคำ วันหนึ่งบังเอิญว่ามีชายชาวประมงเดินผ่านมาทำให้นางเงือกตกใจ รีบหนีลงทะเลไปโดยลืมหวีทองคำไว้ ฝ่ายชาวประมงเห็นดังนั้นก็เก็บหวีทองคำไว้และเฝ้าคอยนางเงือกที่หาดนั้นเสมอ แต่นางเงือกก็ไม่เคยปรากฎกายให้เห็นอีกเลย"
มื้อเย็นตอนแรก แพลนไว้ว่าจะกินอาหารทะเลแถวหาดสมิหลา แต่เนื่องด้วยเราตะเวนกินกันมาทั้งวัน เลยหาอะไรเบาๆ เเทน สายยำก็มาจ้าาาาา แซ่บลืม ปลาร้านัวๆ ร้านในตัวเมือง ชื่อ "ซันก้ามปู สงขลา"
เช้าวันต่อมา เรากินอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วก็ขึ้นเขากันที่ "เขาตรังกวน" ไปไหว้พระ และชมวิวสวยๆ
เจ้าหน้าที่น่ารักมาก ให้การต้อนรับถึงประตูเลยทีเดียว
ส่วนค่าขึ้นกระเช้ามาข้างบน คนละ 30 บาทเอง ได้ไหว้พระ และชมวิวสวยๆ ด้วยนะ
เห็นหลังแล้วอยากเห็นหน้า .........
เห็นหน้าแล้วอยากหงายหลัง !!!!!!! (เล่นเองเจ็บน้อยสุด 5555)
ขากลับลงมาจากเขา กะจะไปกินอาหารทะเลที่หาดสมิหลา หลังจากที่พลาดเมื่อวาน
แต่เห็นร้าน "ข้าวมันไก่ ประนอม สงขลา" คิวยาวเชียว น่าจะอร่อย ก็เลยแวะก่อน โดยรวมก็อร่อยนะ
ส่วนตัวชอบน้ำจิ้มมากกกกก ลืมถ่ายรูปอีกแล้ว (- -)" ไม่ค่อยหิวแหละ ดูออก 55555
หลังจากนั้นเราก็ไปต่ออาหารเที่ยงกันที่ "วนิดา ซีฟู้ด" ติดหาดสมิหลา วิวสวยใช่ได้ อาหารก็โอเค อร่อย
หมึกไข่ ตัวโตๆ สดๆ
ส้มตำทะเล ที่ยกกันมาทั้งทะเลเลยยยย อิ่มจุกๆ ฟินๆ กันไป
ยังมีต้มยำปลากระพง ห่อหมกทะเล โอ๊ยยยย น้ำลายไหลลลลลล
ขากลับเราไปแวะที่ อเมซอน ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้
ที่นี้ติดสนามบิน พวกเราเลยนั่งชิวๆ กันไป รอเครื่องใกล้ออก ค่อยไป
ลืมบอก เรามาเที่ยวครั้งนี้ ตรงกับงานรับปริญญาของ ม. สงขลา พอดี เลยหารถเช่าไม่ได้เลย
แต่โชคดีได้เจ้าถิ่นใจดี น่ารัก บริการทุกระดับประทับใจมาก ต้องขอบคุณเจ้าถิ่นที่น่ารักด้วยนะคะ
ที่ทั้งพาเที่ยว และให้ใช้บริการรถด้วย ร้ากกกเลย
และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง เดินทางกลับกรุงเทพฯ
ปิดท้ายทริปสวยๆ ด้วยชานมไข่มุกที่ระดับความสูง 30,600 ฟุตเหนือน้ำทะเล
ก็อร่อยดีนะ หวานน้อย รสชาติกำลังดีจบทริป สงขลา 2 วัน 1 คืน
ไว้เจอกันใหม่นะ สงขลาาาาาาาาาาา
Travelism เที่ยวไปเรื่อย
วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.47 น.