ตลอดระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมา ได้ดื่มด่ำซึมซับบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกแห่งขุนเขาเมืองน่าน และก่อนจะอำลาจากน่านนคร ก็ได้ไปฝากท้องไว้ที่ "ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ" เมนูที่มีเห็ดเป็นวัตถุดิบหลัก

อิ่มท้อง อิ่มใจกันไป ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับ(บ้านเรา) ระหว่างการเดินทางเราจะแวะพักกันเรื่อยๆ ค่่ำที่ไหนนอนที่นั่น คืนนี้ค่ำที่จังหวัดอุทัยธานี เมืองสงบริมแม่น้ำสะแกกรัง เป็นอีกเมืองที่มีเสน่ห์ มีวิถีชีวิตของชาวบ้านที่เรียบง่าย  ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ทำให้สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้สะดวกสบาย มีจุดแวะเที่ยวแวะกินในแต่ละอำเภอหลายแห่งด้วยกัน วันนี้พวกเราแค่แวะพัก มีเวลาแวะชมเฉพาะตลาดริมแม่น้ำสะแกกรัง ตั้งใจไว้ว่าคราวหน้าจะต้องกลับมายลเสน่ห์เมืองแห่งลุ่มน้ำสะแกกรังแห่งนี้อีกแน่นอน

แม่น้ำสะแกกรัง เป็นสายเลือดหลักของจังหวัดอุทัยธานี เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านตัวจังหวัดอุทัยธานี   โดยมี    ต้นกำเนิด อยู่ในเทือกเขาโมโจกูในเขตจังหวัดกำแพงเพชร ไหลไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่บ้านท่าซุง  
ตำบลท่าซุง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี มีความยาวประมาณ 225 กิโลเมตร

เราแวะทานอาหารเย็นกันที่ร้านบ้านนอกริมนา เป็นร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ มีคาราโอเกะ ตอนแรกตั้งใจจะพักที่นี่ด้วย แต่ที่พักอยู่ใกล้กับที่ร้องคาราโอเกะ เสียงจะดังไปหน่อย ก็เลยค้นหาที่พักทางอินเตอร์เน็ต ได้ห้องพักใหม่สไตส์ลอท์ฟ ราคาเบาๆ 3 คน 800 บาทต่อคืน (ไม่มีอาหารเช้า)

ร้านบ้านนอกริมนา อาหารออกเร็วดีค่ะ รสชาติอาหารดี บรรยากาศดี ร้านใหญ่คนเยอะ 

บ้านระเบียงดาว

(ภาพจากเว็บไซด์ของบ้านระเบียงดาว)

ตอนเช้าตั้งใจจะไปใส่บาตรพระ ชมวิวทิวทัศน์ เดินตลาดเช้าและชมวิถีชิวิตของชาวบ้านริมลุ่มน้ำสะแกกรัง แต่ฝนตกตลอดทั้งคืนจนเช้า ก็เลยไปใส่บาตรไม่ทันค่ะ แต่เราไปเดินตลาดเช้าทันค่ะ

ชมตลาดยามเช้า ชาวบ้านขายผักขายปลา เป็นชุมชนที่เรียบง่ายค่ะ

มื้อเช้า ฝากท้องไว้ที่ร้านข้าวมันไก่โก๊ะตี่ ซึ่งน่าจะเป็นร้านเก่าแก่ ที่ได้รับการการันตีจากหม่อมถนัดศรีค่ะ

ร้านมุมสะแก  เป็นร้านริมแม่น้ำ มองวิวริมแม่น้ำสะแกรกรังได้สบาย ๆ มีที่นั่งจะแบ่งเป็นชั้นบนกับชั้นล่าง เราอิ่มมื้อเช้ากันมาแล้ว ก็เลยไม่ได้แวะเข้าไปในร้าน 

แต่จากข้อมูลhttps://www.paiduaykan.com  ระบุไว้ว่า
เป็นร้านที่เปิดบริการ แบ่งเป็นชั้นบนกับชั้นล่าง โดยชั้นล่างเน้นนั่งรับลมเย็นธรรมชาติ ส่วนชั้นบนก็แยกออกเป็น 2 โซนอีก คือ โซนห้องแอร์ และโซนชมวิวด้านนอก อาหารและเครื่องดื่มของทางร้านเน้นเมนูฮาลาลเป็นหลัก อาหารส่วนใหญ่จึงเป็นประเภทเมนูไก่และเนื้อ เช่น ข้าวหมกไก่ (หุงข้าว Basmati หอมเครื่องเทศ เเนื้อไก่นุ่ม เสิร์ฟพร้อมน้ำซุป) เป็นต้น ส่วนของหวานจะเป็นโรตีซ่งทำจากแป้งมาเลย์แบบแช่แข็ง ไม่ใช่แป้งนวดสด ใครชอบกาแฟแท้ต้องลองให้ได้ เพราะกาแฟของทางร้านจะออกรสเปรี้ยว หากถามถึงราคาแล้ว เรียกได้ว่าย่อมเยาว์ เป็นมิตร และคุ้มค่ากับวิวสวย ๆ เลยทีเดียว

ร้านต้นตำหรับน้ำยาอุทัยทิพย์

เก็บวิวสวยๆ ในวันที่ฟ้าปิด ริมแม่น้ำสะแกกรัง

จากนั้นก็เดินทางกันต่อ เพราะจุดหมายต่อไปคือ จังหวัดประจวบคีรีขันธุ์ ขับไปก็หาข้อมูลกันไป ในวันที่ฝนตกจะพักที่ไหนดี ในโปรแกรมอยากจะกางเต้นท์พักที่หาดวนกร จังหวัดประจวบคีรีขันธุ์ แต่วันนี้กรมอุตุฯ แจ้งว่าจะมีพายุเข้า ซึ่งอาจจะกางเต้นท์ไม่ได้ ก็หาสถานที่พักรีสอร์ทโรงแรม สำรองเอาไว้บ้าง รอลุ้นว่าไปถึงจังหวัดประจวบฯแล้ว สภาพอากาศเป็นอย่างไรนะคะ ฝากติดตามกันต่อไปนะคะ

รีวิวก่อนหน้า คืนที่หนึ่งและคืนที่สอง จากบ้านปันสุขเพชรบุรีรมย์ สู่สุดยอดดอยแห่งน่านนคร ขับรถเที่ยวปลายฝน ตอนที่1 พักบ้านปันสุขเพชรบุรีรมย์และแคมป์หมาป่าใจดี

https://th.readme.me/p/34913

คืนที่สาม พักที่ ม่อนเคียงดาว ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน (เต้นท์โดม)

จากบ้านปันสุขเพชรบุรีรมย์ สู่สุดยอดดอยแห่งน่านนคร ขับรถเที่ยวปลายฝน ตอนที่2 พักม่อนเคียงดาว ดอยเสมอดาว น่าน

https://th.readme.me/p/34931

คืนที่สี่ พักที่ วัดสะปัน อ.บ่อเกลือ จังหวัดน่าน (กางเต้นท์)

จากบ้านปันสุขเพชรบุรีรมย์ สู่สุดยอดดอยแห่งน่านนคร ขับรถเที่ยวปลายฝน ตอนที่ 3 กางเต้นท์ลานวัดสะปัน วิวหยุดเวลาที่สะปัน

https://th.readme.me/p/34947

คืนที่ห้า พักที่ บ้านสวนดอยเปียงปุย ดอยสกาด

จากบ้านปันสุขเพชรบุรีรมย์ถึงสุดยอดดอยจังหวัดน่าน ขับรถเที่ยวปลายฝน ตอนที่4 พักบ้านสวนดอยเปียงปุย ดอยสกาด ปัว น่าน

https://th.readme.me/p/34930

คืนที่หก พักที่ บ้านระเบียงดาว อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี

https://th.readme.me/p/34981

คืนที่เจ็ด พักที่ อุทยานแห่งชาติวนกร จังหวัดประจวบคีรีขันธุ์

ฝากติดตามเพจที่นี่นะคะ

https://th.readme.me/id/Paikan...

ขอบคุณค่ะ