กลับมาแล้วค่าทุกคน :) 

วันนี้เราจะมาเล่ารายละเอียดการเดินทางไป "เชียงคาน" ฉบับคนไม่มีรถ ในงบ 3,500 บาท 2 วัน 1 คืน กินแบบจุกๆ เน้นพักผ่อน ถ่ายรูป activity นิดหน่อยพอกรุบกริบ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ

.......Day 1.......

สำหรับการเดินทางของเรา หลังจากมีแพลนว่าอยากไปเชียงคานจังเลยช่วงวันหยุดยาวตุลาคม เราก็ได้ทำการเช็คตั๋วเครื่องบิน ปรากฎว่า ราคาตั๋วแพงมากแม่!! ด้วยความที่อยากประหยัดงบ เราก็เลยเบนสายไปทางรถทัวร์ที่จะลงที่อำเภอเชียงคานได้เลย สะดวกสบายดีค่ะ ไม่ต้องต่อรถ 

เราขึ้นรถทัวร์ของ บขส.999 จองผ่าน 12Go ในเว็บได้เลยค่ะ เสียค่าธรรมเนียมบริการนิดหน่อย ความจริงมีหลายบริษัทให้เพื่อนๆเลือกนะคะ แต่เนื่องจากเราแพลนช้า ทำให้เต็มไปหลายบริษัท ก็เลยได้บริษัทนี้มาค่ะ 

ไปก่อนเวลาเพื่อไปเปลี่ยนเป็นตั๋วใบจริงค่ะ การเดินทางไป หมอชิต เราไปลงที่ BTS สะพานควาย แล้วออกทางออกที่ 1 เพื่อไปรอรถเมล์สาย 59 ราคา 13 บาท ไปส่งในสถานี นั่งประมาณ 20 นาที (แบบรถติด) ก็ถึงแล้วค่ะ

ขึ้นรถเวลา 20.00 น. รถออกช้าประมาณ 10 นาที ที่นั่งเราว่าปกติ เค้ามีสาย USB ชาร์จให้ใต้เบาะนั่ง ประเด็นคือเราวางแผนว่าไปถึงเชียงคานประมาณตี 5 วันถัดไป เราจะขึ้นไปภูทอกเลย จะได้ไม่เสียเวลา สรุปคือ คุณพี่เค้าเลทไป ถึง 8.00 น. ค่ะ นั่งจนปวดก้น แต่ในที่สุด ก็ถึงซะที เย้!

อย่างที่บอกว่ารถทัวร์จะมาจอดที่เชียงคานเลย เราก็แค่เดินข้ามถนนมา ก็จะเจอถนนคนเดินเชียงคานในตอนเช้าตรู่แล้วค่า ซึ่งทางที่พักจะให้ check in ได้ตอนเที่ยง เราก็เลยเอากระเป๋าไปฝากก่อน ขออาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันซักนิด (ที่พักมีห้องน้ำให้น้า) ก่อนจะเดินเล่น หาข้าวเช้ากิน เนื่องจากแพลนภูทอกของเราได้ล่มตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยจ้า 

เช้านี้ ขอฝากท้องไว้ที่ ร้านสองผัวเมีย ร้านชื่อดังของที่เชียงคานกับเมนูไข่กระทะและข้าวไข่เจียว ราคาไม่แพง มีน้องแมวมาเป็นแผนกต้อนรับ ทำงานดีซะด้วย อ้อนสุด

โดนน้องตก น้องมานั่งตัก ขี้อ้อนมากกก 
หลังจากทานข้าวเช้าเรียบร้อย เราก็เห็นว่า เอ๊ะมี skywalk เปิดใหม่นี่นา พอเปิดแมพดู ก็ไม่ได้ไกลมาก แต่ไม่มีรถ เพื่อนๆสามารถนั่ง skylab ไปได้นะคะ มีหลายคัน เค้ามีเหมาอยู่ ราคาไม่น่าจะแพงมาก แต่เราตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซค์จากร้านสองผัวเมีย วันละ 250 บาท แล้วก็ขี่ไป Skywalk ท่าดีหมี อำเภอเชียงคาน ที่เค้าว่ากันว่าจะเป็น landmark แห่งใหม่ของที่นี่

การจะขึ้นไป skywalk จะต้องขึ้นรถที่ทางนั้นจัดให้ คนละ 20 บาทกับที่หุ้มรองเท้า ใส่ตอนขึ้น skywalk ราคา 30 บาทค่ะ 

ก็ตื่นเต้นๆอยู่น้า ตอนที่เราไป เค้าจะให้บัตรคิว เข้าครั้งละ 50 คน รอไม่นานมากค่ะ ระหว่างนั้นก็ไหว้ พระใหญ่ภูคกงิ้ว ที่อยู่สถานที่เดียวกันก่อนได้ค่ะ เราว่าระบบจัดการค่อนข้างโอเคเลย ทุกคนก็ให้ความร่วมมือ ใส่หน้ากากอนามัยตลอด (ยกเว้นตอนถ่ายรูป)

หลังจากไป skywalk มาเรียบร้อย ขี่กลับเชียงคานอีกประมาณ 30 นาที ก็ได้เวลา check in เข้าที่พักพอดี เย้! สำหรับที่พักของเรา คือ มุ้ยฟัง เกสเฮ้าส์ โชคดีมากที่ตอนจองได้ห้องชั้น 2 ติดริมโขงมาในราคา 2,200 บาท เราว่าคุ้มเลยนะ เพราะที่พักจะอยู่ท้ายซอย ค่อนข้างเป็นส่วนตัว คนไม่พลุกพล่านเท่ากลางซอยที่เป็นถนนคนเดินค่ะ ถ้าใครอยากจองก็เสิช facebook ลองไปติดต่อสอบถามได้เลยค่ะ เราติดต่อทางไลน์ ตอบเร็ว แนะนำดี ประทับใจค่ะ 

วิวจากในห้องนอนก็ประมาณนี้เลยค่ะ ตอนพระอาทิตย์ตกสวยมา 
หลังจากนี้ก็คืออาบน้ำอีกรอบ แล้วนอนเลยค่ะ เพลียมาก 5555555 นั่งบนรถทัวร์ค่อนข้างแคบ ทำให้ปวดขา นอนไม่ค่อยหลับ เราแพลนว่าตอนเย็นจะเดินเล่นแถวๆนี้ กับไปหาอะไรทานที่ถนนคนเดิน

หลังจากนอนพักผ่อน ก็เย็นแล้ววว ตื่นมาเจออะไรแบบนี้ คือดีมาก อากาศวันที่เราไปจะประมาณ 24-25 องศาตอนเย็น อากาศดีมาก โล่งปอดสุดๆ เย็นแล้ว ไปเดินเล่นดีกว่าค่ะ 

ตอนเย็นเริ่มคึกคักแล้ว นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางมาถึง ปั่นจักรยาน ขี่สกู๊ตเตอร์ ถ่ายรูปกันสนุกสนานเลยค่ะ

แสงเย็นสวยมากกกกกก

หลังจากเดินเล่นมาซักพัก ก็จะเริ่มหิวหน่อยๆ อยากจะบอกว่าที่ตลาดคือของกินเยอะมาก เมี่ยงคำ พิซซ่าเวียดนาม โรตี ปาท่องโก๋ โค้กวุ้น เบียร์วุ้น ข้าวเปียกเส้น ไอติม คือเยอะแยะตาลายไปหมด เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมา เพราะกำลังจริงจังกับการกินอยู่ อิอิ

ปาท่องโก๋ยัดไส้ ของเด็ดของดัง ต้องมาลอง เราสั่งไส้กล้วย กับสังขยา ไส้แน่นๆเลย ชิ้นละ 30 บาท

สำหรับวันแรกก็จะประมาณนี้ ส่วนวันพรุ่งนี้มีตักบาตรข้าวเหนียวตอน 6 โมงเช้า ของเราซื้อชุดตักบาตรกับทางที่พัก ชุดละ 60 บาท ค่ะ

.......Day 2.......
วันนี้อากาศเย็นแล้ววว ต่ำกว่า 20 องศาก็มา มีหมอกหนาแล้วค่า ชาวเราตื่นเต้นมาก เปิดหน้าต่างห้องคือเย็นมากกก ฟินสุด วันนี้มีตักบาตรข้าวเหนียวกันหน้าที่พักค่ะ

ดูหมอกสิทุกคน มันดีมากจริงๆ

อาหารเช้าวันนี้ทางที่พักมีไข่กระทะให้ค่ะ เติมได้ถ้าไม่อิ่ม แต่จานเดียวก็อิ่มแล้วว อร่อยมากค่า

หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ปรากฏว่าเวลาเหลือจ้าก่อนกลับ เราก็คุยกันว่าไปไหนดีใกล้ๆ แก่งคุดคู้ ละกัน แก่งคุดคู้อยู่ไม่ไกลจากเชียงคาน แค่ประมาณ 5 km. เท่านั้นค่ะ ขี่มอเตอร์ไซต์แค่ 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ 

ที่นี่เค้ามีกิจกรรมให้นั่งเรือชมวิวระหว่าง ไทย-ลาว ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที คนละ 50 บาท เราก็จัดเลย อยากชมวิวซะหน่อย 

ตอนนั่งเรือก็ยังมีหมอกให้เห็นเพลินๆ ครบ 30 นาทีพอดีเรือก็มาส่งที่ท่าพอดี ส่วนเราก็ถึงเวลากลับกันแล้วจ้า สำหรับการเดินทางกลับของเรา เราขึ้นเครื่องของ airasia แต่การเดินทางจากเชียงคานไปสนามบิน เราเลือกขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งนครชัย (skylab คิดคนละ 30 บาทไปส่งขนส่งนครชัย) รอบสุดท้ายคือ 12.30 น. บอกที่เคาท์เตอร์ว่าลงที่สนามบิน เค้าก็จะออกตั๋วให้ในราคา 65 บาท

ขอลาไปเดี๋ยวร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นที่อยู่ในตรงข้ามซอยศรีเชียงคาน 10 อร่อยอีกแล้วววววว ให้เยอะมากในราคา 40 บาท 

ขอเบลอชื่อน้า สำหรับทริปเชียงคานของเราก็จะประมาณนี้ค่ะ เดี๋ยวสรุปค่าใช้จ่ายให้ด้านล่างน้า ประทับใจกับบรรยากาศ อาหาร ที่พัก การเดินทาง (ยกเว้นขามานิดนึง เลทไป 3 ชม.) ถ้าใครมีเวลาไม่เยอะมาก แต่อยากมาพักผ่อน หาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด เชียงคานก็เป็นอีก 1 ตัวเลือกนะคะ :))


สรุปค่าใช้จ่าย
1. ตั๋วรถทัวร์ คนละ 407 บาท
2. ตั๋วเครื่องบิน คนละ 1,150 บาท
3. ค่าที่พัก 2,200 บาท คนละ 1,100 บาท
4. ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 250 บาท คนละ 125 บาท
5. ค่าน้ำมันมอเตอร์ไซค์ 30 บาท คนละ 15 บาท
6. ค่ารถนั่งขึ้น skywalk + ที่หุ้มรองเท้า คนละ 50 บาท
7. ชุดทำบุญตอนเช้าคนละ 60 บาท
8. นั่งเรือแก่งคุดคู้คนละ 50 บาท
9. นั่ง skylab ไปขนส่งนครชัยคนละ 30 บาท
10. รถทัวร์ไปสนามบิน คนละ 65 บาท
11. ค่าอาหารรวม 2 วัน 740 บาท ตกคนละ 370 บาท

รวมค่าใช้จ่ายต่อคน 3,422 บาท

✿ หวายพาไป ✿ ♡

 วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 12.05 น.

ความคิดเห็น