เชื่อว่า "สเต็ก" เป็นหนึ่งในเมนูโปรดของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นสเต็กเนื้อ ไก่ หมู หรือปลา และทุกวันนี้ในกรุงเทพก็มีร้านสเต็กเปิดอยู่มากมายเต็มไปหมด บนห้างก็มี นอกห้างก็มี เฟรนไชส์ก็มี ระดับราคาก็แตกต่างกันออกไป แต่พูดถึงเมนูสเต็กแล้ว มีร้านหนึ่งที่คอสเต็กน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี หรือถ้ายังไม่เคยไปลองล่ะก็… แนะนำให้ไปจริงๆ เพราะว่าเมนูของทางร้าน ทั้งสเต็กเนื้อส่วนต่างๆ เนื้อ Dry Aged หรือแม้แต่เมนูอื่นอย่างเช่นปลาแซลมอนหรือปลากะพงนั้น ล้วนแล้วแต่จะพลาดไม่ได้เลยเชียวค่ะ 😋

Arno’s Butcher and Eatery ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 20 ค่ะ ร้านสเต็กคุณภาพ บรรยากาศก็ดี มีที่จอดรถ มีที่นั่งทั้งโซนในห้องแอร์และไม่แอร์ และยังมีห้องส่วนตัวสำหรับจัดเลี้ยงด้วยนะคะ เป็นห้องใหญ่สำหรับมากันเป็นกลุ่มใหญ่ได้เลย

พอเราเข้ามาในร้านแล้ว นอกจากจะมีเมนูเป็นเล่ม เราจะมีเบอร์โต๊ะ และต้องเข้าไปเลือกเนื้อเองในห้องที่มีตู้โชว์เนื้อชนิดต่างๆ พร้อมกับราคาและปริมาณ บางเมนูมีตัวอย่างจานให้ดูด้วย

มีเนื้อชนิดต่างๆ พร้อมราคาติดไว้ให้เห็นชัดเจน ถ้าไม่แน่ใจในเมนูเนื้อหรือสงสัยอะไร สามารถสอบถามกับทางพนักงานที่ประจำอยู่ในห้องนั้นได้เลยค่ะ

นอกจากเนื้อสัตว์แล้ว ทางร้านยังมีเมนูทานเล่นอื่นๆ ทั้งสลัด ผักรวม เฟรนช์ฟรายส์ ขนมปังกระเทียม ฯลฯ ด้วยกัน สั่งอาหารแจ้งเบอร์โต๊ะแล้ว ก็กลับมานั่งรอค่ะ ว่าแล้วก็อย่ารอช้า มาดูหน้าตาอาหารกันเลยดีกว่า

เมนูอาหารที่เราอยากแนะนำ ^^

เนื้อ Tenderloin Dry Age ของโปรดค่ะ ^_^

Tenderloin Dry Age 45 วัน (ราคา 240 บาท/100 กรัม)

เมนูนี้ดีจริงๆ ไม่อยากให้พลาดด้วยประการทั้งปวง ไปกี่ครั้งก็ต้องสั่งเพราะอร่อยมาก ใครชอบเนื้อส่วน Tenderloin ที่นุ่มและไม่มีมันเลยต้องลองนะ ที่เราสั่งมาเป็น 45 Days Dry Age (ซึ่งก็คือเนื้อที่ผ่านการบ่มเนื้อดิบไว้ 45 วัน ซึ่งจะเพิ่มความนุ่ม กลิ่นหอม และรสชาติให้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง ไม่ได้มีแค่ระยะเวลา 45 วันด้วยนะ เพราะยังมีเนื้อ Dry Age ที่ถูกบ่มไว้นานกว่านั้นให้เลือกด้วยค่ะ ที่ตู้เนื้อจะติดป้ายบอกไว้ชัดเจนเลย) ทางร้านเสิร์ฟมาแบบจานร้อน ให้เราเลือก Grill ตามความสุกที่ชอบได้เอง ถ้าชอบสุกหน่อย ระดับ Medium well ถึง Well done ก็กริลล์ไว้บนจานนานหน่อย แต่ถ้าชอบ Rare ถีง Medium ก็ใช้เวลาน้อยลง ตามความชอบได้เลย ^^ รสชาติดี ฉ่ำ นุ่ม ไม่มีมันค่ะ

แนะนำทริคเล็กๆ : บนโต๊ะจะมีเกลือหิมาลายันอยู่ ก่อนทานโรยเกลือไปสักนิดค่ะ ยิ่งฟินไปอีกกก

ปลากะพงกับซอสเลมอนเคเปอร์ (ราคา 500 - 600 บาท)

ปลามาทั้งตัวเลย ^^ เนื้อปลาอร่อย ฉ่ำ ไม่แห้ง อาจจะจืดนิดนึงแต่เค้ามีซอสเลมอนเคเปอร์แยกมาในถ้วย มีรสเปรี้ยวหน่อย กินกับซอสก็ดี แต่จะโรยเกลือหิมาลายันเพิ่มความเค็มสักนิดก็ได้ ผักกับมันฝรั่งที่วางเคียงมาด้วยก็รสชาติดีค่ะ

แซลมอนสเต็ก (480 บาท)

เนื้อปลาชุ่มฉ่ำมากๆ ไม่แห้ง กลมกล่อม เสิร์ฟมาพร้อมชีสซูเฟล่และซอสพริกไทย ชีสซูเฟล่ตัวนี้จะนุ่มๆ ฟูๆ ส่วนชิ้นแซลมอนหนาอยู่เหมือนกันนะ

ขนมปังกระเทียม (130 บาท)

ดูเหมือนเป็นอาหารทานเล่นแต่มองข้ามไปไม่ได้เลย เนื้อขนมปังอร่อยมาก นุ่ม เหนียว ชิ้นใหญ่ด้วย ทานเพลินมาก แนะนำให้สั่งมากินคู่กับหอยลายอบเนยกระเทียม เมนูนี้ขอบอกว่าถึงแม้เราจะสั่งสเต็กอยู่แล้ว แต่ไปกี่ครั้งก็ไม่ยอมพลาดเลยจริงๆ

ซีซาร์สลัด (250 บาท)

จานใหญ่ ผักสด กรอบ โรยชีส เบคอนบิทส์ กรูตอง มีไข่ต้มด้วย ราดน้ำสลัดซีซาร์สูตรพิเศษโฮมเมด อร่อยกันแบบสุขภาพดี

Baby Clam Escagot Style (170 บาท)

หอยลายอบเนยกระเทียมค่ะ หนึ่งที่มี 6 คำ ฉ่ำเนย รสชาติดีกลมกล่อม เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ดีสุดๆ มีขนมปังกระเทียมมาด้วย แต่ขนมปังกระเทียมที่มาด้วยนี้จะเป็นขนมปังกระเทียมแบบแข็งๆ ไม่เหมือนขนมปังกระเทียมที่สั่งมาในรูปด้านบนนะคะ

พาสต้าปู (490 บาท)

จานนี้เป็นพาสต้าเส้น fettuccine เส้นแบนผัดพริกแห้งแล้วก็มีเนื้อปูด้วยค่ะ มีมะเขือเทศแล้วก็ซอสไวน์ขาว ผัดมาแห้งๆ รสเผ็ดทานตัดเลี่ยนได้ จานใหญ่มากเลยค่ะ แนะนำว่าถ้ามากันแค่ไม่กี่คนปรึกษากันก่อนนะ จานใหญ่จริงๆ เดี๋ยวกินไม่หมดดด

Grilled Hokkaido Scallop (380 บาท/100 กรัม)

หอยเชลล์ฮอกไกโดตัวใหญ่มากกก เนื้อหวาน เนื้อแน่นค่ะ เสิร์ฟมาพร้อมซอสทรัฟเฟิลและชีสซูเฟล่ (ชีสซูเฟล่นี่แบบเดียวกับที่มาคู่แซลมอนสเต็กค่ะ)

มักกะโรนีอบชีสและแฮม (190 บาท)

จานนี้เสิร์ฟมาแบบจานร้อนๆ ตักลงไปจะเจอมักกะโรนีที่อบชีสมาแบบแน่นๆ กับแฮม ใครชอบชีสก็ไม่ควรพลาดแหละ ชีสสะใจมาก เอาจริงๆ เหมือนเล็กนะ แต่ปริมาณแน่นอยู่ กินชามเดียวคนเดียวคืออิ่มจ้า

ปีกไก่ทอดซอสอาร์โนส์ (170 บาท)

ปีกไก่ทอดเคลือบซอสสูตรพิเศษ เมนูนี้เราว่าธรรมดา เป็นของกินเล่น กินได้เพลินๆ

มันฝรั่งบดทอด (135 บาท)

ในเมนูชื่อว่า Mashed Potatoes ถ้าคิดว่าเหมือนเฟรนช์ฟรายส์คือผิดนะ อันนี้มันฝรั่งบดมาเนียนมาก แล้วค่อยเอาไปทอด ผิวนอกกรอบไม่อมน้ำมัน ด้านในเป็นมันฝรั่งที่บดมาเนียนๆ เสิร์ฟมากับซอสขาว อร่อยๆ แนะนำ

Nutella Lava (250 บาท)

ปิดท้ายด้วยของหวานค่ะ นอกจากไอศกรีมแมกนั่มที่วางมาด้วยแล้ว ในถ้วยก็เป็นเค้กลาวาช็อคโกแลตเข้มข้น ใช้ช้อนตักลงไปเป็นไส้ช็อคโกแลตเยิ้มๆ เลย มีผลไม้ตระกูลเบอร์รี่รสเปรี้ยวมาให้ตัดเลี่ยนด้วย ^^

ชีสเค้กซอสบลูเบอร์รี่ (245 บาท)

ชีสเค้กอร่อยมากเลย นุ่ม ละมุน ไม่มีรสเปรี้ยว กินคู่กับซอสบลูเบอร์รี่คือดีมากๆ

ในส่วนของราคาของแต่ละเมนูอาจจะสูงหน่อย แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพของอาหารแล้วถือว่าโอเคเลยค่ะ คุ้มค่า มีเรื่องเดียวที่อยากเตือนไว้ก่อนก็คือ จากที่ไปทานมาหลายครั้ง พบว่าบางทีอาหารจะออกช้าหน่อยค่ะ ยิ่งถ้าคนเยอะก็ยิ่งช้า แอบถามทางร้านมาได้ความว่าคนจะเยอะจริงๆ ในเวลามื้อเย็น ยิ่งถ้าเป็นเย็นวันศุกร์และวันเสาร์ล่ะก็ คนแน่นรถแน่นมากๆ ถ้าจะไปทานในช่วงเวลาดังกล่าว แนะนำให้โทรจองโต๊ะกับทางร้านก่อนเลยค่ะ จะได้ชัวร์ว่าไปถึงแล้วไม่ต้องรอ ^^


ติดต่อทางร้าน ได้ที่ :

Arno’s Butcher and Eatery

2090/2 ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 20 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. 10120

เบอร์โทร : 026788340

เว็บไซต์ http://www.arnosgroup.com

Facebook Fanpage : Arno's Group

Kaewta :)

 วันพฤหัสที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.30 น.

ความคิดเห็น