Day 1 https://th.readme.me/p/35119
เช้าวันใหม่ ตื่นแต่เช้า ตื่นเต้นมาก ลุ้นว่าจะเจอหมอกไหม และแล้วก็ไม่ผิดหวัง อาจจะไม่อลังการ เท่าหน้าฝน แต่ก็ไม่ต้องดิ้นรนออกไปตามหา แค่นั่งมอง ชิว ๆ ที่ระเบียงบ้านก็ได้เจอ ♥
อาหารเช้าก็จะเป็นข้าวต้ม กาแฟ
สวยสงบ อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้จัง
สาย ๆ ก็เช็คเอ้าท์ บ๊าย บาย ไว้มาใหม่นะ
แต่ช่วงที่กำลังร่ำลา ท้องนาสีทอง ก็เห็นชาวบ้านกำลังลงแขกเกี่ยวข้าว เลยลงไปดูใกล้ ๆ ซะหน่อย
ทางลงเขายากมากขาลงไปดู หัวแทบคะมำ ! ชาวบ้านเก่งกันจริง ๆ เลย นับถือ ๆ
คุณยาย แข็งแรงจัง
เนียนเลยนะเรา
ถ้าอยากมาช่วงเขียวขจี ให้มาหน้าฝน อยากเห็นทุ่งข้าวสีทองให้มาหน้านี้ สวยคนละแบบจริง ๆ
แวะถ่ายรูปนิดหน่อย กลับจริง ๆ แล้วนะ
ออกจากบ้านป่าบงเปียง ก็หิวทันทีเลย 55 แวะทานก๋วยเตี๋ยวกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว 19 เหรียญ
ถูก อร่อย ให้เยอะ ขอบอกว่าเกี้ยวอร่อยมากกกก ใครมาแม่แจ่ม ห้ามพลาดนะ
ท้องอิ่มแล้ว เติมกาแฟสดกันต่อเลย จากร้านก๋วยเตี๋ยว สัก 500 เมตร มองไปก็เห็นร้านกาแฟ (ถ้าขับรถมาเอง เราว่าขับผ่านแน่นอน ดีนะที่มากับเจ้าถิ่น เลยได้ชิมกาแฟ อร่อย ๆ ถ้าพลาดไปเสียดายแย่)
เป็นร้านเล็ก ๆ แต่ขอบอกว่ารสชาติกาแฟ ไม่เล็กเลย เทียบเจ้าใหญ่ ๆ ได้สบาย ๆ
ถ้ามาหน้านี้ ก็ต้องไม่พลาดเมนู อโวคาโดปั่น อร่อยสุดๆ
อิ่มท้องกันแล้ว ก็มาอิ่มบุญกันต่อ ไม่ไกลกัน จะเป็นวัดป่าแดด
ถัดจากวัดป่าแดด สัก 5 นาที จะเป็นวัดยางหลวง
วัดยางหลวง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 24 โดยชาวกะเหรี่ยง หรือ “ยาง” เป็นผู้สร้างวัดนี้ขึ้น สิ่งที่สะดุดตาผู้มาเยือนเป็นสิ่งแรก คือ ผนังด้านหลังของวิหาร ซึ่งมีภาพที่งดงามของพระ 3 องค์ ที่มีลักษณะของศิลปะของภาคเหนืออย่างเด่นชัด คิดว่าเป็นภาพพระพุทธองค์ และพุทธสาวก และยังมี กู่ปราสาท หรือ กิจกูฏ ตั้งอยู่หลังพระประธานในวิหารของวัด ซึ่งคนโบราณเชื่อว่าเป็นประตูไปสู่สวรรค์ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของกิจกูฏเป็นแบบพุกามจากพม่า ผสมกับล้านนาสกุลช่างเชียงแสน ซึ่งวัดแห่งนี้นับเป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับอำเภอแม่แจ่มมาอย่างยาวนาน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในพื้นที่อีกด้วย
เราพลาดอย่างหนัก เพราะประเพณีจุลกฐิน เพิ่งจัดไปเมื่อวันที่ 21-23 ตุลาคม 2563 (เรามา 26 ตุลาคม 2563) เป็นประเพณีเก่าแก่ที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น เสียดายเลย อดเห็นความสวยงาม ความสามัคคี ของผู้เฒ่าแม่แก่และคนใน อ.แม่แจ่มเลย
cr.Let's Go : เหนื่อยต้องเที่ยว
https://www.facebook.com/perma...
และความมหัศจรรย์ที่ไม่ควรพลาดของวัดนี้คือ ภาพสะท้อนวิหารกลับหัว
วิธีการสัมผัสความมหัศจรรย์ ภาพเงาสะท้อนพระวิหารกลับหัว คือต้องปิดประตูหน้าต่าง ทุกบาน รวมถึงไฟฟ้าทุกดวง เพื่อให้แสงลอดผ่านขอบหน้าต่างบานที่ได้องศาที่สุด ทำให้บรรยากาศรอบข้างมืดเกือบสนิท จึงจะได้เห็น (ก่อนเห็นต้องไปมองพระวิหารก่อนนะ จะได้จำภาพก่อนปิดไฟ)
ออกจากวัด ยิงยาว ก็มุ่งสู่ อ.ฮอด คืนนี้เราจะพักกันที่ สวนป่าดอยบ่อหลวง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
ณ สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน และกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูง เนื่องจากมันสวย และได้บรรยากาศคล้ายไปเมืองนอก โดยเฉพาะถ้ามาหน้าฝน เช้า ๆ จะมีหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณป่าสน และที่พัก จึงเป็นที่ดึงดูด นักท่องเที่ยว ให้ได้มาเยี่ยมชม
แต่การจะได้มาพัก ใช่ว่าใคร ๆ ก็จะสามารถมาได้นะ เพราะต้องแย่งชิง การจองทางโทรศัพท์ กว่าจะโทร.ติดก็เล่นเป็นร้อย เป็นพันสาย ไม่ได้โม้นะ 555
สนใจที่พัก หรือรายละเอียดตามนี้เลยจ้า
https://www.facebook.com/%E0%B...
แบบบ้านพัก&ราคา ณ 2563
บ้านเอเฟรม/พักได้ 4 คน/ 1,500 บาท
บ้านทิวสน/พักได้ 2 คน/1,000 บาท
บ้านแฝด/พักได้ 2 คน/ 800 บาท
บ้านปูนเปลือย/พักได้ 4 คน/2,000 บาท
ตึกป่าสน/พักได้ 2 คน/ 500 บาท
ลานกางเต้นท์ ไม่ต้องจอง เตรียมอุปกรณ์มาได้เลย ค่าบำรุงสถานที่คนละ 100 บาท
ใกล้ ๆ เดินทาง จนท.จะโทร.มา confirm ที่พัก และอาหารเย็น (เราสั่งชุดอาหารเหนือ 2 ชุด และหมูกระทะ 3 ชุดไว้ ... นี่คน 7 คนกินใช่ไหม 55)
เราเลยถามดูว่า มีห้องปล่อยหลุดจองไหม (ไม่อยากนอนโรงแรม 1 ห้องเพราะไกลกัน และโชคดีก็เป็นของเรา มีห้องทิวสน หลุดจอง 1 หลัง กรี๊ดดดด รีบทำการเปลี่ยนห้องเลย เย้ ๆ )
เช็คอิน ก็จะมีค่ามัดจำกุญแจ 500/หลัง ค่าอาหารเช้า 100 บาท/ท่าน ชุดอาหารเหนือ 450 บาท (ทานได้ 2-3 คน) และชุดหมูกระทะ 299 บาท (ทานได้ 2 คน)
หมูกระทะไม่ต้องจองล่วงหน้าเพราะมีขายตลอด 1 ชุด ทานได้ 2 ทาน ไม่อิ่มหรอก แต่สามารถเพิ่มพวกเนื้อสัตว์ได้
อันนี้ชุดอาหารเหนือต้องจองล่วงหน้า ชุดละ 450 บาท ทั้งโต๊ะนี้ 2 ชุด เบา ๆ
พาไปดูห้องพักกัน เผื่อใครจะมาจะได้เลือกที่ตรงใจที่สุด
บ้านปูนเปือย นอนได้ 4 คน เสริม 1 ที่
เราได้ห้องแรกเลย A1 บ้านหลังใหญ่มากกก ใหญ่เกินไปนะ สำหรับคน 4 คน มีห้องนั่งเล่น ด้านล่าง ห้องนอน 2 ห้อง และระเบียงบ้าน ไว้นั่งคุย มองวิวเพลิน ๆ (แต่ไม่ได้นั่งหรอกเพราะฝนตก 555)
ตามมา ๆ ไปดูภายในที่พักกัน เปิดประตูเข้ามาจะเป็นห้องนั่งเล่น
ห้องน้ำอยู่ด้านล่าง แยกเปียก-แห้ง มีอุปกรณ์ให้ครบครัน (ห้องนี้น้ำไหลเอื่อย หน้าหนาวจงระวัง 55)
ห้องนอนชั้นล่าง เหมาะกับเพื่อน ๆ ลูก ๆ หรือผู้สูงวัย
ขึ้นบันไดไปชั้นบน
เจอห้องสวีท สำหรับคู่รัก ♥
กว้างมาก กว้างเกิ้น หน้าต่างสามารถมองวิวได้
สำรวจห้องพักปูนเปลือยเสร็จ ก็เดินไปบ้านทิวสน จะไม่ห่างจากบ้านปูนเปลือยเท่าไหร่ เพราะใคร ๆ ก็ต้องมาถ่ายรูปแถวนี้
(ดังนั้น ถ้าจองที่พักได้ ให้จองโซนบ้านเอเฟรม/บ้านทิวสน/บ้านแฝด รับรองไม่ผิดหวัง รองลงมาก็บ้านปูนเปลือย แต่ถ้าเต็มหมดเหลือโรงแรมแต่บอกว่าไกลอ่ะ ถ้าไม่มีที่พักจริง ๆ ก็แล้วแต่เลย เพราะทุกที่ก็สามารถเดินมาถ่ายรูปได้หมด)
มาดูบ้านทิวสนนอนได้ 2 คน น่ารักสุด ๆ ระเบียงบ้านก็สวยงาม เหมาะกับวัยรุ่นนะ เพราะบันไดขึ้นไปนอนชั้นบน คนสูงอายุอาจไม่สะดวกเท่าไหร่ค่ะ
แค่ระเบียงก็ฟินแล้ว
ห้องน้ำด้านล่าง และมีชั้นวางของ ทำอาหาร (แต่ห้ามประกอบอาหาร 55) ห้องนี้ไม่มีตู้เย็น
ห้องนอนต้องเดินขึ้นบันไดวน จึงไม่เหมาะกับผู้สูงอายุแน่นอน
สวีทไหม ต้องถามคนนอน เพราะเราไม่รู้ เรานอนที่นอนเสริม ส่วนคนอื่นนอนบนเตียง อึ่มมมม ตรูกดโทร.แทบตาย T_T
และก็ถ่ายรูปเล่นสิ เพราะมันสวย และฟ้าเปิดด้วย แจ่ม ๆ จัดไป
ที่นี่เค้าจะจำกัดเวลาเข้าไปถ่ายรูปนะคะ ถ้าไม่ได้พัก เข้าไปเที่ยวได้ ช่วงเวลา 11.00-14.00 น เท่านั้นนะ เพราะจะสงวนไว้สำหรับผู้เข้าพักเท่านั้นจ้า
จะว่าไป ก็สวยทุกมุมแหละ มองตรงไหนก็สวยหมด
อิจฉาคนมีคู่จัง
และถ้าใครพักที่นี่ ถ้าต้องการชม ทุ่งหญ้าสะวันนา ที่ดอยแม่โถ ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนรถขึ้นชม 500 บาท (แต่ถ้าใครไม่มีรถมา ก็สามารถให้ จนท.ติดต่อรถชาวบ้านมารับได้ ค่าใช้จ่าย ก็ประมาณ 1 พันบาท)
ถ้าพักที่นี่เราว่าควรไปในตอนเย็น ถ้าไปตอนเช้า จนท.ให้เช็คเอ้าท์เลย อาจพลาดถ่ายรูปหมอกก็ไม่รู้ด้วยนะเออ
ส่วนพวกเราขอไม่ไป เพราะว่าจองยากขนาดนี้ อยากอยู่ให้นาน ๆ ดื่มด่ำ บรรยากาศดี ๆ ดีกว่านะ
ตกเย็นก็ไปทานอาหารที่ห้องอาหาร ตามที่เราสั่งไว้ และเข้าที่พัก ก่อนไปถ่ายรูปนิดหน่อย ตอนกลางคืน เสียดายที่น้องไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไป เลยได้ภาพมาเท่านี้ แต่ก็คุ้มแล้ว ♥
ช่วงที่ไป พายุเข้าเวียดนามพอดี เลยทำให้มีฝนตกประปรายที่นี่ พรุ่งนี้เรามาลุ้นกัน ว่าจะได้เห็นหมอกขาว ๆ ยามเช้า เหมือนที่ในโซเชียลกันไหม ราตรีสวัสดิ์ ZZzzzzz
Day 3 https://th.readme.me/p/35443
แตงโมเนื้อทราย
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 14.34 น.