เมื่อกลางเดือนเมษาที่ผ่านมา เราเราก็คงได้คุ้นเคยและสัมผัสกับอากาศที่เกือบแตะ 40 องศา มากันแล้วถ้วนหน้า ครั้นจะหนีออกนอกประเทศไปสัมผัสลมหนาวนั้น เงินใบบัญชีก็ส่งเสียงด่ากลับมาว่าไม่เจียมตัวหน่อยหรอหนู อ่ะ งั้นเราไปหลบร้อนไปใกล้ๆกรุงเทพกันก่อนก็ได้ ไปกัน

' เมืองจันท์ มันเดย์ '

เราเริ่มเดือนทางในเช้าวันจันทร์ ก่อนเดินทางแน่นอนว่าเราต้องค้นหาเส้นทางที่จะทำให้เราไปถึง 'ชุมชนริมน้ำจันทบูร' ที่ที่เราใฝ่และว้อนท์มาก หลังจากสะสางงานเรียบร้อย ถ้าพูดจันทบุรีนี่ส่วนใหญ่คนจะรู้จักแค่โบสถ์สวยๆที่อยู่ที่เมืองจันท์ทั้งนั้น (แต่ต้องนับนี่เป็นคนส่วนน้อยนะ เพราะเพิ่งรู้ตอนไปเองนี่แหละ) และก็เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สวยที่สุดในไทยด้วย แต่ใกล้ๆกันนั่นแหละ มันก็จะมีชุมชนเก่าๆชุมนึง ที่แบบ.. แม่เจ้า.. ให้ตายเถอะ ขอแบบนี้ทุกจังหวัดในไทยได้ไหม

มายลเมืองกันเพลินๆเร็ว

เราไปนั่งสเกตภาพในโบสถ์ด้วยแหละ คือข้างในสวยมากจริงๆ

ตึกรามบ้านช่องคร่าวๆที่ชุมชนริมน้ำจันทบูร จะเห็นว่า เฮ่ย มันไม่เห็นไทยเลยนี่นา ก็เพราะช่วงนั้นเราได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกพอดี ในช่วงรัชกาลที่5 ที่ท่านโปรดศิลปะตะวันตกแบบมากๆ อาคารบ้านเรือนเลยยังคงให้เห็นอยู่ถึงทุกวันนี้ สร้างแบบ ชิโนโปรตุกีส ใครไม่เคยได้ยินชื่อนี้ก็ให้อภัย นี่ก็เพิ่งรู้จักนี่แหละ แหมะ มีสาระจนน่าตกใจ เห็นตรงโค้งๆตรงประตูนั่นไหม เก่าไหม เก่ามาก แต่ชัตเตอร์นี่ลั่นไม่หยุด ทุกมุม ทุกซอก ทุกซอย สวยอย่างน่าตกใจ สิ่งที่ประหลาดใจตอนกลับมาคือ เรามีภาพของหลืบตึกและมุมบ้านเยอะมาก มันเหมือนสิ่งที่เขามีอยู่มันน่าจดจำไปซะทุกสิ่ง

เราว่าที่นี่เป็นความเก่าที่เก๋าแบบตามกาล ไม่ใช่เก่าแบบบรรจงสร้างขึ้นมา จากบ้านเรือนที่ดูเก่าแก่บวกกับโทนสีที่บางบ้านก็ซ่อมแซมให้เข้ากับยุคสมัย บางบ้านก็ยังปล่อยให้คราบรอยต่างๆยังทำหน้าที่ปีนป่ายตามผนังอยู่ แต่โดยรวมคือมันเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน

อีกอย่างที่เราชอบมาก คือ ความเรียบง่ายของการดำรงอยู่ของลุงป้าน้าอาทั้งหลาย การออกมาทักทายพูดคุย นั่งคุยกันในศาลาเอนกระสงค์เรื่องฉันจะเอาปลาไปขายแถวนี้ก่อนนะ แกอย่าเพิ่งไปไหนนะตาทองเดี๋ยวกลับมาคุยใหม่ ตรงข้ามศาลาเอนกประสงค์มีสนามหมากรุกที่คาดว่าจะมีคุณลุงระดับเทพฟาดเซียนกันอยู่ มีร้านน้ำชาขายอยู่ข้างๆเอาไว้จิบยามกระหายหรือเพิ่มน้ำตาลให้ร่างกายตอนใกล้จะแพ้ หน้าบ้านบางบ้านก็เปิดขายของที่เป็นตำนานของบ้านหลังนั้น จากการสืบทอดตั้งแต่รู้เก่าก่อนนู้น บางบ้านก็เปฺิดขายของที่ระลึก จริงๆมันดีนะ เพราะมีอยู่ไม่กี่ร้านไม่ต้องแย่งกันขาย เอาจริงๆมันดูสมถแบบมีความสุขมากนะ

แล้วเราโหยหาอะไรกันอยู่?

เราเห็นการกลับมาของยุคหนุ่มสาวที่เฟื่องฟูในกรุงเทพจากธุรกิจการทำร้านกาแฟและคาเฟ่ต่างๆ ที่เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่วัยรุ่นอย่างเราเราหลงไหลเป็นเอามาก ที่นี่ก็มีคาเฟ่นะ สวยด้วย ดีด้วย มันทำให้เรามองเห็นว่าเจนเนอเรชั่นของคนแก่เก่าแต่ก่อนกับเจนเนอเรชั่นของเราในยุคนนี้มันไปด้วยกันได้ คาเฟ่อยู่ร้านตรงข้ามอาหารตามสั่ง ก็แวะเวียนมาหากันเรื่อยๆ มันไม่ได้แย่งกันขายเหมือนธุรกิจที่ต้องแย่งกันในกรุงเทพอย่างที่เคยเห็น

แด่ความชิคของหนุ่มสาวและความน่ารักของลุงป้า


พยายามจะให้ดูรูปเยอะ จนลืมใส่เวิร์ดเลย 5555


มาดูบ้านเมืองอันเป็นโลเคชั่นที่ดีของเรากันอีกที
อันความงามนั้นน่ะ

เรายังใช้ปากกาเก็บความทรงจำมาไว้บนกระดาษไว้ด้วย กันลืม

ตอนแรกคิดว่าอากาศจะไม่รุนแรงเหมือนในกรุงเทพ หรืออาจจะคิดไปเองก็ได้มั้ง ต้องขอยาดมเลยทีเดียว

การเดินทางออกนอกกรุงเทพครั้งอาจไม่สมบุกสมบันสักเท่าไร จริงๆคล้ายการพักผ่อนนะ แต่ไปถึงบ้านช่องแถวนั้นเหมือนควักมือเรียกตลอดเวลา เดี๋ยวๆ ทำไมมันหลอนๆ ไม่ใช่ๆ หมายถึงเรียกให้มาดูว่าบ้านแต่ละบ้านนี่มีดีเทลแตกต่างกันยังไง เช่นแบบ ฉันมีหน้าต่างลายนี้แต่คุณทางนู้นเค้ามีอีกลายนึงคุณลองไปเดินๆดูกันสิ อ่อแต่ก่อนไป ถ่ายรูปฉันก่อนนะอ่ะ หนึ่ง สอง ซั่ม ประมาณนี้

จริงๆเราก็เคยเห็นภาพอะไรเก่าๆทำนองนี้มาเยอะอยู่ แต่แบบเจอของจริงเข้าไปนี่ ภาพที่เคยเห็นมานี่โระทิ้งไปเลย

ที่นี่ไม่ได้มองได้แค่มุมเดียวแน่นอน ถ้าได้ไปเอามุมมาเผยแพร่จักเป็นพระคุณยิ่ง

แต่เดี๋ยวนะ นี่ยังสงสัย คนเมืองจันท์เค้าพูดฮิกันไหม แบบฮิยาวยังงี้ ฮิ......

Kanyarat Mainoy

 วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 00.15 น.

ความคิดเห็น