เที่ยวโดยเรื่องราว EP.1 

“แค่เราก้าวออกไปที่อีกที่ๆนึง ก็เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรเหมือนกันแล้ว” คำนี้ผุดขึ้นในหัวตอนทุกครั้ง ในตอนที่เราออกเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด ณ อีกฟากของประเทศ และคงเป็นอีกหนึ่งคำที่สามารถอธิบายความหมายของมันได้เป็นอย่างดี

 เหมือนความรู้สึกแรกที่เซอร์ไพรส์กับกลิ่นกะปิเคยตาดำสุดอเมซิ่ง ทั้งหอม ทั้งหวน ชวนอยากจะดมทั้งวัน (เอิ่ม....แต่มันก็ยังคงเป็นกะปินะ)  วิวทิวทัศน์รอบข้างที่แปลกตา เรียงรายไปด้วยต้นจาก ซึ่งบ่งบอกถิ่นฐานของพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และแน่นอนเราอยู่ที่อัมพวา ของขึ้นชื่อที่เป็นเหล่าพี่ๆหน้างอคอหัก ที่เนื้อนุ่มแสนนุ่ม รสชาติที่เค็มกำลังพอดิบพอดี ทั้งได้เรียนรู้อีกว่า ปลาทูโป๊ะไม่โป๊ะ ปลาทูสดรสชาติจะเป็นเช่นไร อันนี้ต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทางเจ้าถิ่นประจำคลองโคน ที่ให้ทั้งสาระเอย บ้างไม่มีสาระเอย จนกลายเป็นสีสันที่ทำให้ทริปนี้สนุกขึ้นไปอีก


ครั้นถึงบ้านริมคลองโฮมสเตย์ จึงใคร่เปิดเมนูน้ำพริกกะปิแนมปลาทู ผัก และไข่เจียว ที่มาของความสมบูรณ์แบบบนโลกใบนี้ เคยที่เหล่าแม่ๆช่วยกันทั้งหมักทั้งปั่น ผสมกับความรักและความตั้งใจ (เอาจริงๆนะคะ มันหอมมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก) แถมแม่ๆที่นี่ยังน่ารักมาก ให้เราได้เข้าไปใช้ครัวบ้านๆทำอาหาร ให้เรากินมะพร้าว(เกือบ)หมดทั้งสวน น่ารักจนถึงขั้น เอาเสื้อของเราที่เราเรียกเรียกมันว่าใหญ่ขนาดผ้าห่อควายไปซักให้ ถึงตรงนี้ต้องขอบอกว่าน้ำใสๆไหลรินออกจากตา เพราะนอกจากแม่บังเกิดเกล้าที่คลอดเราออกมาแล้ว ก็ยังไม่เคยมีใครทำให้ขนาดนี้ จุดนี้อย่างประทับใจจจจ อยากเขียนรีวิวให้คะแนนล้านดาวไปเลย

หากไม่คิดว่าตัวเองอ้วนฉุเหมือนน้องหมูที่เพิ่งจะอิ่มลำข้าว ก็คงจะคิดว่าชาติก่อนฉันคงเป็นลิง ที่เก็บมะพร้าวเกือบหมดทั้งสวนของแม่ๆมากินเป็นแน่แท้

พอตะวันลาลับ....ก็ถึงช่วงเวลาการเดินทางของพระจันทร์ แสงสว่างรอบตัวเราค่อยๆมืดลงและถูกแทนที่ด้วยแสงของโคมไฟสีอบอุ่น (แน่นอนถ้าฉันมีแฟน การจับมือเดินไปที่พักคงโรแมนติกน่าดู)  ที่นี่อบอวนไปด้วยบรรยากาศที่ลุ่มลึก ตกกลางคืนความเย็นของบ้านริมแม่น้ำทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ภาพที่ทอดผ่านจากตัวโฮมสเตย์ออกไปยังดินเนอร์ริมแม่น้ำที่มีเพื่อนๆของเราขมักเขม้นกันอยู่  (โอ้แม่เจ้าว้อยยยย ฟินโคตร) เป็นมุมที่ดีสำหรับการใช้เวลาเพลิดเพลินกับวิวต่างๆรอบๆตัว (ยกเว้นซะแต่ว่า ถ้าเพื่อนเรียกให้ไปทำกับข้าว อย่ามัวกินแรงชมนกชมไม้55555)



มาถึงไฮไลท์อันเป็นดินเนอร์สุดแสนพิเศษ ถูกออกแบบโดยเพื่อนร่วมเดินทางที่เป็นนักจัดการการโรงแรมตัวพ่อ มือหนึ่งความเป๊ะปังอลังการด้านคาวหวานอาหารฝรั่ง ที่เนรมิตรโต๊ะแบบ fine dining พร้อมไวน์ชั้นเลิศ ท่ามกลางอาหารบ้านๆ ที่ขนาดซอมเมอลิเย่ยังตกใจ บนโป๊ะท่าน้ำเก่าๆ แต่หากออกมาดูดีระดับมิชลิน พันล้านดวง ถึงตรงนี้การนั่งทานข้าวไปด้วย ดื่มด่ำบรรยากาศริมแม่น้ำ ดูน้ำขึ้นน้ำลง ชมหิ่งห้อยหน้าโฮมสเตย์ที่เปิดไฟส้มสลัวๆไปด้วย ยิ่งรู้สึกถูกเติมเต็มด้วยความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก และอยากเอ่ยคำว่าขอบคุณมากๆที่อยู่ด้วยกันตรงนี้


Best foods with good companies ทานอาหารกับเพื่อนที่รู้ใจยังไงก็อร่อย สิ่งสำคัญที่จะทำให้การเดินทางสมบูรณ์แบบสำหรับแก้มคือคนร่วมเดินทางที่หลงใหลในการทำสิ่งเดียวกัน  ให้เราได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ และหลบพาใจช้ำๆมาพักจากความวุ่นวายในที่เจอในแต่ละวัน มาถูกโอบกอดไว้ด้วยความห่วงใยและความอบอุ่น แถมเป็นทั้งตากล้อง เป็นคนขับรถ เป็นคนพาช้อปปิ้ง (อย่างที่คำที่เคยบอก ระฆังดีไม่ตีก็ดัง แต่ถ้าระฆังพังๆขอบรัยจ้าาาา)

 ‘ความเป็นไทย’ ถึงคล้ายแต่แตกต่าง แม้กิจกรรมหรือสิ่งที่เราได้ทำที่บ้านริมคลองโฮมสเตย์เป็นกิจวัตรที่ดูไม่แตกต่างจากที่บ้านต่างจังหวัดเท่าไหร่ ตื่นนอน ทำก้บข้าว ออกไปทำงาน กลับบ้าน ทานอาหารด้วยกัน แล้วก็เข้านอน แต่สิ่งที่ดูจะแตกต่างออกไปคงเป็นสถานที่ใหม่ๆ คนใหม่ๆ ที่นอนใหม่ๆ แต่ให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอย่างทุกๆครั้ง ทริปนี้เลยเหมือนการที่ได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านในบรรยากาศที่แตกต่าง กับคนรู้ใจ สบายใจ ความเครียดและความเหนื่อยล้าจากงานที่เราโอบมันไว้อยู่ทั้งปี

ตอนนี้.....มัน"คง"ถูกปลดปล่อยไว้ที่ไหนสักแห่งของอัมพวาแล้ว

  #เที่ยวเมืองไทย #การท่องเที่ยวชุมชน #สมุทรสงคราม #อัมพวา

wiphasanee Somnasaeng

 วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 01.37 น.

ความคิดเห็น