สวัสดีค่ะทุกคนนน !!!

ก่อนอื่นเลยนะคะ เราขอแนะนำตัวก่อนเลย ชื่อ อ๋อมแอ๋ม นะคะ Blog นี้เป็น Blog แรกเลยย ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ ^^

ก่อนอื่นเลย ทางเราขออธิบายก่อนว่า ทำไมถึงเลือกมารีวิวสถานที่ต่อไปนี้ เพราะส่วนตัวก็อยากจะพักผ่อน อยุธยาก็เป็นจังหวัดที่ใกล้่กับปทุมธานี คิดกับเพื่อนว่าเราจะไปเที่ยวไหนกันดี เลยตกลงกันได้ว่า งั้นเราไปเที่ยวอยุธยากันดีกว่า ไหนๆก็เอารถยนต์ส่วนตัวไปกันแล้ว ไปที่นี่ได้ครบรสเลย ได้ทั้ง ไหว้พระ เดินตลาดน้ำ แถมยังใกล้อีกด้วย ทุกคนเชื่อไหมคะว่า ทริปนี้เป็นทริปแค่ครึ่งวันเท่านั้นเอง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วแหละค่าา 555 ยังเราไปลุยสถานที่แรกกันเลยนะคะ 

Let's go !!! 

เรามาถึงอยุธยา เราก็ต้องแวะไหว้พระกันก่อนเลย เพื่อเป็นศิริมงคลต่อตัวเองและครอบครัวของเรานะคะ ^^

สถานที่แรกเลยนะคะ เราจะพาทุกคนมาที่วัดมหาธาตุก่อนเลยค่ะ เพราะว่า ก่อนเราจะไปไหนมาไหน เราก็ควรไหว้พระ ขอพรก่อน เพื่อเป็นศิริมงคลต่อชีวิตนะคะ ชีวิตจะได้ราบรื่นน 5555 ส่วนตัวของทางเราแล้ว ทำแบบนี้ทุกทริปค่าา วัดมหาธาตุก็เป็นแลนด์มาร์คที่นึงของอยุธยาเลยนะคะ ไม่ว่าทั้งชาวไทยหรือชาวต่างชาติก็มา เพราะอะไรหรอคะ งั้นเราไปชมรูปถัดไปกันเลยดีกว่าค่าาา 

นี่ไงคะทุกคนนน !!! นี่คือแลนด์มาร์คที่ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปตรงนี้ค่าา จะเล่าประวัติต้นไม้ต้นนี้ให้ฟังนะคะว่า จะบอกว่าไม่ใช่มนุษย์สร้างขึ้นก็ไม่ได้ ก็มนุษย์นั่นแหละที่ขโมยเศียรพระมาทิ้งไว้ที่โคนต้นไม้ต้นนี้ แล้วต่อมาต้นไม้ก็เติบโต จนกระทั่งเป็นแบบนี้แหละค่าา อยากให้ทุกคนได้ไปถ่ายรูปและไหว้พระกันนะคะ 

เราไปสถานที่ไหน เราก็ควรเคราพสถานที่นั้นๆนะคะทุกคนนนน 

สถานที่สวยไม่พอ แดดดีมากค่ะทุกคนน เหมาะกับการถ่ายรูปมากๆ แต่เราก็ควรสำรวมนะคะ แต่สภาพที่ทุกคนเห็นคือ หน้าของทางเราร้อนไม่ไหวแล้วค่ะ แต่เพื่อการมาเขียน Blog ให้ทุกคนอ่าน ทางเราสู้ตายค่าาา

นี่ค่าา คือโฉมหน้าของผู้ร่วมทริป แดดแค่ไหนเราก็สู้ค่ะ เรา 4 คน ไปไหนไปกันค่ะ พวกเรา 4 คน พาทุกคนไหว้พระเสร็จแล้ว งั้นเราไปลุยที่ต่อไปกันเลยดีกว่าค่ะ สถานที่ต่อไป ก็ไม่ได้ไกลจากวัดมหาธาตุเลยค่ะ งั้นเราไปกันเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลาค่ะ ^^

จ๊ะเอ๋ !!! มาเจอทางเราก่อนเลย ยืนถ่ายรูปสวยๆกับป้ายตลาดน้ำอโยธยา 555 ที่พาทุกคนมาที่นี่ เพราะที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่นึงที่ทุกคนต้องมา ย้ำว่า ทุกคนต้องมานะคะ สถานที่นี้ มีทุกอย่างครบเลยค่ะ งั้นเราไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าตลาดน้ำอโยธยามีอะไรที่หน้าสนใจบ้างง ^^ เอ้ะๆ ลืมแจงเรื่องราคาค่ะ คนไทยเข้าฟรีนะคะ ทางตลาดน้ำมีนั่งเรือด้วยนะคะ คนไทยเพียง 20 บาท ชาวต่างชาติประมาณ 50 บาทค่ะ แต่ทางเราไม่ได้พาทุกคนนั่งเรือนะคะ ทางเราไปก็ครึ่งวันแล้วค่ะ แต่ถ้าทุกคนไป ก็อยากให้ลองไปนั่งเรือชมวิวกันนะคะ สวยมากๆ 

 นี่เลยค่ะทุกคนน !!! 

เดินเข้าตลาดน้ำไป จะเดินผ่านน้อง ๆ ไม่ได้เลยนะคะ น้อง ๆ ทำหน้าตาอ้อนวอนมากค่ะ ทางเราก็ใจอ่อนมาก ๆ เลยค่ะ เลยเลี้ยงนมน้องกันคนละขวดกับเพื่อน ๆ ตกขวดละ 20 บาท ไม่แพงเลยนะคะ เป็นราคามาตรฐานมาก ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะงานวัด ที่มีน้องแพะ ก็จะราคานี้นะคะ 

เดินเข้ามาอีกนิด ก็จะเจอสินค้ามากมายเลยค่ะ ทางเราเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว พ่อค้า แม่ค้า ที่นี่น่ารักกันมาก ๆ เลยค่ะ เป็นกันเองสุด ๆ สินค้าแต่ละอย่างก็ไม่แพงนะคะ สามารถจับต้องได้ค่ะ แต่ส่วนทางเรานั้น เน้นแต่ของกินค่ะ ไม่ได้มีแค่ของกินนะคะทุกคนน งั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีอะไรที่หน้าสนใจบ้าง

มีตะกร้าสานที่ชาวบ้านสานเองแล้วเอามาขาย ราคาถูกมาก ๆ เลยค่ะ จะซื้อใช้เอง หรือ ซื้อไปฝากพ่อแม่เราก็ได้นะคะ สวยมาก ๆ ราคาเพียง 3 ใบ 100 เท่านั้นเองค่ะ 

เดินไปอีกนิดเราก็จะเจอผลงานของคนหูหนวกค่ะ เขาวาดสวยมาก ๆ ทางเราก็ไปยืนชมอยู่สักแป๊ปนะคะ เกรงใจเขา เพราะเขาต้องใช้สมาธิมาก ๆ เลยค่ะ เขาก็ขายผลงานนะคะ อุดหนุนกันได้นะคะทุกคนน ^^ 

ตลาดน้ำอโยธยาแห่งนี้ไม่ได้มีแค่สินค้านะคะ ยังมีการแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สมัยก่อนด้วยนะคะ ถ้าทุกคนไปก็อยากจะให้ไปชมนะคะ 

อย่างที่บอกนะคะ พ่อค้า แม่ค้าที่นี่น่ารักมากก กอไก่ล้านตัวไปเลยค่ะ แต่อย่างว่า มาอยุธยาทั้งที่ จะพลาดสายไหมได้ไง ใช่ไหมคะ ในตลาดน้ำก็มีหลากหลายร้านมาก ๆ ให้เลือกเลยค่ะ แต่ที่สะดุดร้านนี้ก็คือ แป้งหอมมาก เดินผ่านไปแล้ว ต้องเดินกลับมาใหม่เลยค่ะ เพราะแป้งของเรา ผสมนมด้วยค่ะ รสชาติคือแบบ หวาน หอม นุ่ม มาก ๆ แม่ค้าก็ใจดี ให้ชิมจนกว่าจะอิ่มเลยค่ะ 555 แต่ทางเรากับเพื่อน ๆ คนละชิ้นก็พอแล้วค่ะ อ้วนไม่ไหวแล้วค่ะ 5555

มีของหวาน ก็ต้องมีของเปรี้ยวค่ะ 555 ร้านนี้อร่อยมาก ดองได้ถึงพริก ถึงขิงมาก ๆ เลยค่ะ ราคาก็ไม่แรงนะคะ จับต้องได้ค่ะ 

ฮั่นแน่ !!! ไม่ได้มีเพียงแค่นี้นะคะ เราต้องเดินออกมาจากตลาดน้ำก่อนนะคะ แล้วข้ามไปอีกฝั่งค่ะ ทางเราจะพาทุกคนไปขี่ช้างกันค่ะ 

ราคาขี่ช้างนะคะ จะมี 2 ราคา ราคาแรกนะคะ จะเป็นแค่เดินชมวัดช้างล้อม เพียงคนละ 100 บาทต่อท่านค่ะ

ส่วนราคาที่ 2 นะคะ จะได้ทั้งเดินชมวัด ลุยน้ำด้วย อันนี้จะอยู่ที่ราคา 200 บาทต่อท่านค่ะ มาเที่ยวทั้งที จะเอาแค่เดินชมวัดไม่ได้นะคะ ทางเราเลือกแบบที่ 2 ค่ะ เพื่อช่วยค่าอาหารน้อง ๆ ช้าง ได้ค่ะ

ช้างเชือกนี้ ชื่อว่า พี่ยุ้ย ค่ะ พี่ยุ้ยเป็นเพศเมียนะคะ ที่เรียกพี่ เพราะ พี่ยุ้ยอายุ 25 ปี แล้วค่ะ ตัวพี่เขาใหญ่มาก ๆ แถมยังใจดีอีกด้วย ควาญช้างก็ใจดีมาก ๆ เหมือนกันค่ะ สามารถให้ข้อมูลเวลาทางเราถามนู้นนี่นั่นได้ด้วยค่ะ 

จุดแรกเลย เราจะเจอวัดของสมัยก่อนค่ะ นั่นก็คือ วัดช้างล้อมค่ะ รอบ ๆ ก็คือวัดมเหยง ค่ะ สวยมาก ๆ เลยค่ะ แดดร้อน แต่สู้ค่ะ เพราะพี่ยุ้ยยังสู้เลยยย 

อีกมุมนึงนะคะ ที่พี่ควาญช้างและพี่ยุ้ยจะพาเราแวะถ่ายรูปค่ะ ซึ่งบรรยากาศสวยมาก ๆ

อยู่บนบกเสร็จแล้ว เราก็ลุยน้ำต่อเลยค่ะ บอกเลยว่า เสียวมาก ๆ แต่พี่ยุ้ยชอบมาก ๆ แดดประเทศไทย ใคร ๆ ก็รู้ว่าร้อนเพียงใด ใช่ค่ะ ร้อนมาก 5555 ทางเราก็เพิ่งทราบเหมือนกันค่ะว่า ช้างนั้นหวงหางมาก เพราะเป็นของดี ที่ควาญช้างจะนำมาทำแหวนหางช้าง หรือ เอาหางช้างไปทำสิ่งที่เป็นศิริมงคลค่ะ 

พี่ยุ้ยส่งเราถึงที่หมายแล้วค่ะ ทางเราก็ตรงดิ่งมาเอารูปเลยค่ะ ราคารูปจะอยู่ที่ใบละ 100 บาทค่ะ แต่ถ้าจะเอากรอบรูปด้วย จะอยู่ที่ 200 บาท ค่ะ ช้างที่อยู่ข้างหลังรูป นั่นก็คือคุณยายนะคะ คุณยายแก่มากแล้ว เลยนำคุณยายมาให้อาหารแทนค่ะ ห้ามใช้แรงงานคุณยายเด็ดขาดเลยนะคะ แต่ป้อนได้แค่หญ้านะคะ กล้วยหรืออ้อย คุณยายรับประทานไม่ได้ค่ะ เพราะคุณยายไม่มีฟันแล้วค่ะ เลยขอคุณยายถ่ายรูปด้วยสักหน่อยค่ะ

จบทริปแล้วนะคะทุกคนนน 

ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยนะคะ ที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม Blog ของมือใหม่หัดรีวิวนะคะ ทางเราเองก็จะพัฒนาไปเรื่อย ๆ นะคะ ขอบคุณทุกคนมากจริง ๆ ค่ะ

และสุดท้ายนี้ อยากให้ทุกคนได้ไปลองเที่ยวดูนะคะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ ใช้จ่ายไม่เยอะค่ะ 

ฝากติดตาม Blog ของเราด้วยนะคะ ไว้ไปเที่ยวไหนแล้วจะมารีวิวใหม่นะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่ะ เยิฟ ๆ เลยยย 

Narumon Uttapap

 วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 09.53 น.

ความคิดเห็น