เนื่องจากหลังตั้งกระทู้รีวิวก่อนหน้า ซึ่งเป็นทุ่งแสลงหลวงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ทำให้อยากกลับไปอีกครั้ง ประกอบกับมีน้องที่รู้จักชวนไปทุ่งแสลงหลวงด้วย เลยเกิดเป็นทริปนี้ขึ้นมาครับ

รีวิวที่แล้ว https://th.readme.me/p/35341


Day 1 : กทม. - อช.ทุ่งแสลงหลวง

8.00 น. ออกจากอนุเสาวรีย์ชัย ขึ้นทางด่วนไปลงบางปะอิน ออกพหลโยธินไปทางสระบุรี และเนื่องจากรถติดตั้งแต่ต่างระดับบางปะอิน ตร.ทางหลวงจึงเปิดเลนพิเศษให้วิ่งฝั่งขาเข้าได้ รถติดเป็นระยะ ๆ พอเข้าทล. 21 ก็เริ่มคล่องตัว

11.00 น. แวะทุ่งทานตะวันบริเวณริมทล. 21 หลังจากลงเขามาแล้วจะเจอทุ่งทานตะวัน ประมาณ 4-5 ที่ได้

จากนั้นขับมาเรื่อยๆ แวะทานข้าวเที่ยงที่อ.ศรีเทพ แล้วเข้าตัวเมืองเพชรบูรณ์ไปรับสมาชิกอีกคนที่สถานีขนส่ง พร้อมแวะซื้อวัตถุดิบทำอาหารที่ตลาดใกล้ ๆ ขนส่ง

16.30 น. ถึงด่านเก็บเงิน อช.ทุ่งแสลงหลวง ซึ่ง ณ เวลานั้น คิว walk-in ได้เต็มแล้ว หากไม่ได้จองผ่านแอพ QueQ มาก็จะไม่สามารถเข้าอุทยานฯได้ครับ

  • ค่าเข้าอุทยานฯ 40 บาท/ท่าน
  • รถยนต์ 30 บาท/คัน

เมื่อเข้าไปข้างในแล้ว เราเลือกกางเต็นท์บริเวณลานสนามหญ้า เนื่องจากจะได้ดูดาว และบริเวณป่าสนเต็มหมดทุกพื้นที่แล้วครับ

บรรยากาศตอนเย็น

หลังกางเต็นท์เสร็จ เราจึงไปติดต่อที่ทำการอุทยาน เพื่อลงทะเบียนและชำระค่ากางเต็นท์ โดยจนท.จะเก็บบัตรประชาชนไว้ (ใช้บัตร 1 ท่าน/กลุ่ม) และจะให้บัตรคิวมาเพื่อเป็นหลักฐานว่าลงทะเบียนแล้ว ซึ่งบัตรคิวนี้จะใช้ในการเช่าอุปกรณ์ด้วยครับ

  • ค่ากางเต็นท์ 30 บาท/ท่าน
  • แผ่นรองนอน 20 บาท
  • หมอน 20 บาท
  • เต็นท์ 255 บาท/หลัง

20.45 น. ทานอาหารกันเสร็จ แยกย้ายกันไปอาบน้ำ สำหรับห้องน้ำที่นี่เท่าที่เห็นบริเวณใกล้ ๆ จะมีด้านซ้ายของที่ทำการ มีห้องเดียว และด้านขวา บริเวณป่าสนครับ เป็นห้องอาบน้ำและห้องส้วม อย่างละ 3 ห้อง และที่ล้างหน้า แปรงฟัน

บรรยากาศตอนกลางคืน

อุณหภูมิ 15 องศา

หลังอาบน้ำกันเสร็จ ซักพักก็มาดูดาวกันบริเวณลานจอดฮ. ซึ่งวันที่ไปเป็นคืนเดือนมืด ทำให้ดาวเต็มท้องฟ้าเลยครับ 

หลังดูดาวไปได้ซักพักก่อนเข้านอน สังเกตเห็นว่าหมอก(หรือน้ำค้าง)เริ่มมาปกคลุมบริเวณรอบ ๆ ลานจอดฮ. และที่กางเต็นท์ ตั้งแต่กลางคืนกันเลย ซึ่งปกติจะเห็นแต่หมอกช่วงเช้า

อุณหภูมิจากเทอร์โมมิเตอร์หน้าที่ทำการ 13 องศา เวลา 23.00 น.


Day 2 : ศาลาดุสิตา - ทุ่งนางพญาเมืองเลน - วัดผาซ่อนแก้ว - อช.เขาค้อ

05.45 น. ตื่นมาเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิวศาลาดุสิตาเป็นทางลูกรัง ระยะทาง 3 กม. ก่อนถึงจุดชมวิวจะชันนิดหน่อย แนะนำควรเป็นรถยกสูงครับ แต่รถเก๋งก็มาได้ครับ

อุณหภูมิตอนเช้า 10 องศา

บรรยากาศตอนเช้า หมอกมาถึงหน้าเต็นท์เลยทีเดียว

หลังชมพระอาทิตย์ขึ้นกันได้ซักพัก เราไปกันต่อที่ทุ่งนางพญาเมืองเลน โดยเข้าไปข้างในจากศาลาดุสิตาอีก 11 กม. สภาพเส้นทางป็นทางลูกรังในป่า มีหลุมบ่อบ้าง ควรเป็นรถยกสูงเท่านั้นครับ รถเก๋งไม่แนะนำ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็มาถึง หากใครจะเข้ามาตอนเช้า แนะนำให้เตรียมอาหารเช้ามาด้วยครับ

เส้นทางก่อนถึงทุ่งนางพญาเมืองเลน

หลังจากชมบรรยากาศ ถ่ายรูปกันซักพัก เราก็กลับออกมายังลานกางเต็นท์ เพื่อเก็บเต็นท์ เตรียมไปยังจุดหมายต่อไป


หลังออกจากอุทยาน ตรงสามแยกจะมีร้านอาหารอยู่ เราจึงแวะทานข้าวกันที่ร้านนี้ แต่รออาหารนานนิดนึงนะครับ เนื่องจากมีแม่ครัวคนเดียว

จากนั้น มุ่งหน้าต่อไปยังวัดผาซ่อนแก้ว ซึ่งเราขึ้นวัดผาซ่อนแก้วกันทางที่ติดกับปั๊ม PT ทางจะวนเป็นวงกลมก่อนมาเจอวัดผาซ่อนแก้วทางซ้ายมือ (ฝั่งพระพุทธรูป) ซึ่งเราจอดรถไว้ที่ลานจอดแห่งหนึ่ง ค่าจอด 20 บาท และเดินกันต่อไปยังวัด ประมาณ 400 เมตร

ขากลับ เนื่องจากเส้นทางเขาค้อ แคมป์สน ตอนขามารถเยอะและติดมาก จึงอ้อนกลับทางทล. 12 และต่อด้วยทล. 21 และเข้าอช.เขาค้อ กันทางทล. 2258 เหมือนขามาครับ

เรามาถึงที่ทำการ อช.เขาค้อกันประมาณ 16.00 น. ซึ่งตอนแรกตั้งใจจะไปกางเต็นท์กันที่ลานกระซิบจันทร์ แต่ปรากฎว่าเต็มแล้ว จึงตัดสินใจกางกันที่ทำการอุทยานฯแทนครับ 

เนื่องจากอุทยานฯ จะอยู่ติดถนนเลย ดังนั้น อาจมีเสียงรถวิ่งผ่านไปมาบ้าง แต่พอกลางคืนก็เงียบสงบครับ

  • ค่าเข้าอุทยานฯ 20 บาท/ท่าน
  • รถยนต์ 30 บาท/คัน
  • ค่ากางเต็นท์ 30 บาท/ท่าน

Day 3 : ผาคอยเธอ - กทม.

05.45 ตื่นมาเตรียมตัวไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาคอยเธอ ระยะทางประมาณ 10 กม. ขึ้นทางพระตำหนักเขาค้อ แล้วเลี้ยวซ้ายที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จากนั้นไปอีก 7 กม. เส้นทางเป็นถนนคอนกรีตอย่างดี ค่อนข้างแคบ โค้งเยอะ จุดชมวิวผาคอยเธอจะอยู่ตรงจุดสิ้นสุดถนนคอนกรีต ซึ่งจะเป็นทางลูกรัง (ไม่มีป้ายบอกนะครับ ว่านี่คือผาคอยเธอ) ส่วนลานกระซิบจันทร์ อยู่เลยผาคอยเธอไปอีกไม่ไกลครับ แต่เราไม่ได้แวะขึ้นไปดู

หลังชมวิวกันซักพัก เรากลับไปยังอุทยานฯ เก็บของ อาบน้ำ และลงจากเขาค้อเพื่อกลับกทม.กันครับ เป็นอันจบทริปนี้


ค่าใช้จ่าย

  • ค่าแก๊ส LPG 2,000 บาท
  • ค่าอาหาร 500 บาท
  • ค่าเข้าอุทยาน และค่ากางเต็นท์ 420 บาท 

รวมทั้งหมดประมาณ 3,000 บาท

Peerawit

 วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 12.21 น.

ความคิดเห็น