พระตำหนักอากาซากะ
พระตำหนักอากาซากะ (State Guest House, Akasaka Palace) เป็นสถานที่รับรองแขกสำคัญของประเทศ ทั้งกษัตริย์และประธานาธิบดีจากทั่วโลก เป็นพระราชวังแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่มีการสร้างในแบบนีโอบาโรก ตั้งแต่ปีค.ศ. 1909 เป็นการรวบรวมทรัพยากรที่มีอยู่ในญี่ปุ่นทั้ง สถาปัตยกรรมญี่ปุ่น งานศิลปะ งานฝีมือในสมัยนั้น เพื่อแสดงถึงความเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบสมัยใหม่ที่สร้างในสมัยเมจิ จนกระทั่งปี 1974 มีการซ่อมแซมและต่อเติม เพื่อให้เพียงพอต่อการรับรองบุคคลสำคัญของประเทศ และได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นในปี 2009
![](/f/36217/5fe4b0159281c273b4bff8a6.jpg)
เมื่อเดินออกมาจากสถานี Yotsuya ก็จะพบเห็นต้นไม้สูงใหญ่ริมสองข้างทาง ที่คอยเป็นร่มเงาในฤดูร้อน และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองในฤดูใบไม้ร่วง เดินต่อมาอีกไม่นานก็จะพบกับอาคารหลังใหญ่ที่มองเห็นมาแต่ไกล ดุจปราสาทในเทพนิยาย
![](/f/36217/5fe4b058864ddc73bf631814.jpg)
ความสูงใหญ่ อลังการของประตูหน้า ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าภายในนั้นจะอลังการขนาดไหน
![](/f/36217/5fe4b070864ddc73bf631815.jpg)
แต่ทางเข้าพระตำหนักอากาซากะนั้นไม่ใช่ตรงนี้ เราต้องเดินไปอีกนิด และเข้าทางเข้าทิศตะวันตก ซึ่งเป็นที่จำหน่ายตั๋วเข้าชม สำหรับการเข้าชมของที่นี่นั้น สามารถเลือกชมได้โดยแบ่งเป็น
อาคารหลัก/สวน: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน | นักศึกษา 1,000 เยน | นักเรียนมัธยม 500 เยน | นักเรียนประถมเป็นต้นไป ฟรี
อาคารหลัก/อาคารญี่ปุ่น/สวน: ผู้ใหญ่ 2,000 เยน | นักศึกษา 1,500 เยน | นักเรียนมัธยม 700 เยน | นักเรียนประถมเป็นต้นไป
อาคารญี่ปุ่น/สวน: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน | นักศึกษา 1,000 เยน | นักเรียนมัธยม 500 เยน | นักเรียนประถมเป็นต้นไป ไม่สามารถเข้าชมส่วนนี้ได้
สวน: บุคคลทั่วไป 300 เยน | นักศึกษาเป็นต้นไป ฟรี
เนื่องจากวันที่เราไปนั้นค่อนข้างเย็นแล้วจึงเข้าได้เฉพาะบริเวณสวนเท่านั้น
![](/f/36217/5fe4b0d09281c273b4bff8a7.jpg)
บริเวณสวนนั้นจะเป็นบริเวณโดยรอบตัวอาคารหลักทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยเราต้องเดินไปตามแนวทางที่กำหนดไว้คือ เริ่มจากด้านหลังที่มีน้ำพุขนาดใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ ล้อมรอบไปด้วยต้นสน และดอกไม้ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล
![](/f/36217/5fe4b0ea9281c273b4bff8a8.jpg)
![](/f/36217/5fe4b0eb9281c273b4bff8a9.jpg)
ดอกไม้ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล และฉากหลังของพระตำหนัก
![](/f/36217/5fe4b10a9281c273b4bff8aa.jpg)
จากนั้นก็เดินกลับมายังด้านหน้าของตัวอาคารหลักที่มีความยิ่งใหญ่อลังการ ตามสไตล์ของสถาปัตยกรรมตะวันตก ที่ทำให้เราตัวเล็กลงไปเลย
![](/f/36217/5fe4b1209281c273b4bff8ab.jpg)
ด้านหน้านอาคารหลัก
![](/f/36217/5fe4b1349281c273b4bff8ac.jpg)
ประตูด้านหน้ามีการออกแบบอย่างสวยงาม
![](/f/36217/5fe4b156864ddc73bf631816.jpg)
นอกจากนี้ลานด้านหน้าอาคารหลังยังมี food truck ที่จำหน่ายอาหาร เราแอบเห็นว่ามีคนสั่งเป็นเซ็ตคล้ายกับ afternoon tea ด้วย ให้อารมณ์เหมือนกำลังจิบน้ำชายามบ่ายในพระราชวัง!
![](/f/36217/5fe4b1709281c273b4bff8ad.jpg)
ที่มารูปภาพ: geihinkan
เนื่องจากเราไม่ได้เข้าไปในตัวอาคารมาจึงนำภาพภายในอาคารจากเว็บไซต์ของพระตำหนักอากาซากะมาให้ชมกัน
ในการเข้าชมด้านในของอาคารหลักและสวนนั้นไม่ต้องจองล่วงหน้า สามารถซื้อบัตรที่จุดขายบัตรได้เลย แต่หากอยากชมส่วนของอาคารญี่ปุ่นด้วยนั้นจะแบ่งเป็นรอบๆและต้องจองล่วงหน้าก่อนที่นี่
![](/f/36217/5fe4b1a4864ddc73bf631817.jpg)
![](/f/36217/5fe4b1a5864ddc73bf631818.jpg)
นอกจากนี้ก่อนกลับก็สามารถแวะนั่งพักผ่อนหรือซื้อของฝากของที่ระลึกได้ที่ The Akasaka Palace Tourist Lounge ใกล้กับประตูทางออก
![](/f/36217/5fe4b1a5864ddc73bf631819.jpg)
![](/f/36217/5fe4b1a6864ddc73bf63181a.jpg)
ของฝากน่ารักน่าซื้อไปซะทุกชิ้น
หากมีโอกาสแวะมายังสถานี Yotsuya ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำอีกแห่ง ที่ได้บรรยากาศความเป็นตะวันตกใจกลางโตเกียว
ฝากติดตามบทความอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับประเทศญี่ปุ่นได้ที่ Japankuru
แล้วเจอกันนะ!
Pin Chan
วันพฤหัสที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 22.34 น.