อยากหยุดพัก...คิดถึง เ ธ อ

เธอโฮสเทล (Thur Hostel) อยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ พักคืนเดียวก็เที่ยวได้หลายที่เลย

ขอเล่าเรื่องราวตั้งแต่เริ่มออกเดินทางเลยละกัน เราไปขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยราคาตั๋ว 200 บาท แต่เพราะมีคนเดินไปส่งเราที่ท่ารถตู้ข้างๆห้างเซนจูรีเปล่าน๊า เค้าจึงคิดค่าตั๋ว 220 บาท เราโชคดีไปถึงก็ขึ้นรถตู้ได้เลย ไม่ต้องรอนาน :-)

ระหว่างทางก็ได้ชมวิวสายฝนโปรยตลอดทาง

มาถึงเจ้าของที่พักก็ออกมาต้อนรับแบบเป็นกันเองมากๆเลย

เราพักห้องเห็นวิวทะเลเลย แต่มาถึงก็มืดแล้ว เลยมองเห็นเป็นทะเลสีดำแทน ^__^

ห้องพักวิวทะเลนี้จะมีห้องน้ำภายในห้องพัก

มีระเบียงด้านนอกที่สามารถเดินออกมานั่งด้านนอกได้ ซึ่งจะมีเพียง 2 ห้องเท่านั้น เราถ่ายรูปเล่นกันห้องข้างๆจึงเปิดประตูออกมา เราจึงได้รู้จักเพื่อนใหม่ เธอมาเที่ยวคนเดียวและมีน้ำใจให้เรา 2 คนยืมมอเตอร์ไซค์ที่เธอได้เช่าไว้ขับ ใจดีจังเลย

ทริปนี้เราได้เพื่อนใหม่เพิ่มอีกคน การเดินทางทำให้เราได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆจริงนะ...ไม่เชื่อก็ลองออกเดินทางดูจิ

หลังจากที่เดินทางมาหลายชั่วโมง เราก็เริ่มหิว เลยปรึกษาเจ้าของที่พักว่าจะกินอาหารที่ไหนดี เจ้าของที่พักแนะนำที่นี่และบอกว่าราคาไม่แพง ที่สำคัญอยู่ห่างจากที่พักนิดเดียวเองค่า เดินไปก็ถึงนะ

เราสั่งอาหารไปด้วยความหิว อาหารที่นี่รอไม่นานด้วย แถมพนักงานก็บริการดี๊-ดี

สั่งอาหารไป 4 รายการ อาหารทะเลสดมากและราคาไม่แพงจริงๆ มื้อนี้หมดไป 460 บาท

กินเสร็จแล้วเราก็เดินชมวิวยามค่ำคืนกันก่อนเดินทางกลับไปที่พัก

รีบตื่นแต่เช้ามารอชมพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเล

  • ท้องฟ้าที่นี่สวยจังเลย

แว๊นไปหาวิวถ่ายรูปกันสามคนเลย

ที่นี่สะพานสราญวิถี...สะพานสีแดงสดใส...ยื่นไปในทะเล...อยู่ริมอ่าวประจวบ

  • มองจากสะพานนี้จะเห็นเขาช่องกระจกอยู่ด้านบน...อีกแป๊ปนึงพวกเราจะขึ้นไปกัน

  • สะพานสีแดงตัดกับท้องฟ้าและน้ำทะเลสวยจัง ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกซักนิด

เราไปส่งเพื่อนใหม่ขึ้นรถไฟ เพราะเธอจะเดินทางไปเที่ยวชุมพรต่อ ไม่ได้ลางานล่วงหน้าไม่งั้นตามไปเที่ยวด้วยแล้ว

อยากจะนั่งรถไฟไปให้สุดสายถึงสุไหง-โกลกเลย

ขอบคุณมิตรภาพดีๆที่มีให้กัน

เราแวะไหว้ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ก่อนเดินทางเที่ยวต่อไป

จากศาลหลักเมืองมานิดเดียวก็ถึงเขาช่องกระจกแล้ว


  • นี่คือ "รอยยิ้ม" จากลิงทักทายรึเปล่า?

  • ยิ้มให้เราเสร็จก็ขอกินข้าวโพดต่อ

  • ข้าวโพดของข้าใครอย่าแตะเชียวนะ 555 ได้เห็นลิงทะเลาะแย่งข้าวโพดกันด้วย

  • แอบเห็นลิงนั่งหลับ สงสัยอากาศคงจะดี หลับสบายเลย

  • หนูน้อยหมวกแดงแอบย่องเข้าไปถ่ายรูปคู่ ลิงแอบมองแล้วอมยิ้ม น่ารักอ่ะ


  • ลิงตัวนี้สงสัยจะอาย ไม่ยอมมองกล้องเราเลยอ่า

  • ส่วนลิงตัวนี้ก็ปีนไปกินข้าวโพดบนยอดไม้สูง คิดว่าคงไม่มีลิงตัวไหนปีนมาแย่งข้าวโพดแน่ๆ

  • ลิงมากมายอยู่เต็มบันไดทางเดิน

  • หยุดพักเพื่อรอ " ลิงจั๊กๆ " เข้ามาหา

ชมวิวระหว่างทาง

วิวจากเขาช่องกระจก มองเห็นสะพานสีแดงที่เราเพิ่งเดินเล่นเมื่อเช้านี้

ได้เวลาเดินลงจากเขาช่องกระจก เพราะเริ่มหิวแล้วว

มื้อเที่ยงนี้กินบะหมี่ปูสดๆ ร้านนี้อยู่ซ้ายมือระหว่างทางไปวัดอ่าวน้อย ไม่มีชื่อร้านแต่ให้สังเกตรถจอดข้างทางเยอะๆ

  • บะหมี่แห้งชามนี้ 40 บาทเท่านั้นเองค่า มีน้ำซุปให้ด้วยล่ะ

มองเห็นวัดอ่าวน้อยอยู่ไกลๆแล้ว

มาถึงแล้ว " วัดอ่าวน้อย "


" วัดอ่าวน้อย " ทำด้วยไม้สักทองสวยงามมากเลย

เราเข้ามากราบไหว้พระในโบสถ์เพื่อความเป็นสิริมงคล

กราบพระด้านหน้าโบสถ์อีกครั้งก่อนเดินทางกลับ

ระหว่างทางมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลย

ได้มอง "เ ข า" อยู่ไกลๆ แค่นี้ก็ " สุ ข ใ จ " แล้ว

เรามากองบินรอบที่ 2 เพราะรอบแรกไม่มีหมวกกันน็อค ที่นี่เข้มงวดสุดๆ ต้องทำถูกกฎจราจรนะค๊า

แวะมาสำรวจทางขึ้นเขาล้อมหมวกและเราก็มาไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกกัน

  • จะพบค่างแว่นมากมายก่อนทางขึ้นเขาล้อมหมวก

ค่างแว่นจะมาหาเราถ้าเรามีของให้กิน สามารถยื่นให้กับมือได้เลยค่า

ค่างแว่นเฝ้ารอคนมาให้อาหาร

ค่างแว่นแม่ลูกอ่อน...ลูกค่างแรกเกิดจะมีสีทองอมส้ม

ถ่ายภาพระหว่างทางกลับจากเขาล้อมหมวก พอมาถึงจุดตรวจทหารก็บอกว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายในกองบิน

กลับมาคืนรถที่พัก...พี่หน่อยเจ้าของที่พักใจดีให้เราอาบน้ำฟรีๆก่อนเดินทางกลับ

อยากบอกว่ารัก...เ ธ อ....

แล้วเราจะกลับไปหา " เ ธ อ " อีกครั้งแน่นอน

" เ ธ อ " โฮสเทล ที่นี่บริการดีมากๆเลย ประทับใจสุดๆ

ทริปนี้เรานั่งรถตู้ไป-กลับ น่าประหลาดใจสุดๆที่คนขับรถตู้เป็นคนเดียวกันทั้งไปและกลับเลย ใครนั่งหน้ารถแล้วเห็นป้ายแบบนี้อย่าเล่นโทรศัพท์น๊า เพราะคนขับรถจะแสบตา แล้วอย่าคุยโทรศัพท์นานนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน พี่คนขับรถค่อนข้างดุอ่ะเพราะเราโดนมาแล้ว หุหุ

ความคิดเห็น