หลังจากกลับมาจาก Sun moon lake เราก็แวะที่ Taipei Main Station เพื่อจะทำการจองตั๋วรถไฟ TRA ไป Hualien ในวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับเพราะไม่อยากตื่นเช้าติดกันหลายวันแต่แล้วก็มีเหตุให้เราตื่นค่ะ เนื่องจากวันที่เราเดินทางตรงกับวันเสาร์ตั๋วรถไฟไป Hualien เต็มหมดเราจึงต้องจำใจเลื่อนวันขึ้นมาหนึ่งวันเพื่อ โทโรโกะ!!!!!! เราได้ตั๋วรอบ 6.30 ค่ะซึ่งเราต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและนั่งรถไฟฟ้าเที่ยวแรกไปยัง Taipei Main Station เพื่อไปนั่ง TRA ต่อไป Hualien ค่ะ ดีที่พักเราอยู่ห่างจาก Taipei Main Station แค่สถานีเดียวจึงมีเวลานอนเพิ่มขึ้นอีกหน่อย 05.30 เสียงนาฬิกากรีดร้องดังลั่นห้องเรารีบตื่นอาบน้ำ แล้วเอาคูปองอาหารของที่พักไปแลกซื้อของ ที่ 7eleven ค่ะ

บรรยากาศ ximenting ตอนเช้าเงียบเหงาไม่มีคนเลยค่ะต่างกับตอนกลางคืนลิบลับ


หลังจากได้มื้อเช้าแล้วเราก็ตรงไปขึ้นรถไฟ TRA เลยค่ะมาถึงแบบเฉียดฉิวมากๆ รอไม่นานรถไฟก็มาจากเทียบที่ชานชาลาค่ะ


รถไฟที่นี่เค้ามีตู้โบกี้สำหรับรถจักรยานด้วยนะคะดีจัง


เราแนะนำนะคะใครที่เดินทาง TRA HSR ให้เผื่อเวลาไว้นิดๆสำหรับการเดินหาชานชาลาก็ดีนะคะเนื่องจาก Taipei Main Station เป็นสถานีค่อนข้างใหญ่ต้องใช้เวลาเดินค่อนข้างเยอะพอสมควรที่สำคัญรถไฟของที่นี่ตรงเวลามากค่ะ 6.30 ออกเลยค่ะ เมื่อรถไฟออกน้ำย่อยในท้องก็ทำหน้าที่เลยค่ะ 555+ เราก็จัดข้าวเช้าที่เราแลกคูปองมาจาก 7 ขึ้นมากินพร้อมชมวิวข้างทางไปชิลๆ


อยากจะบอกว่าวิวข้างทางระหว่างไปโทโรโกะสวยมากๆเลยค่ะ ที่ไต้หวันธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากทั้ง ภูเขา ต้นไม้ ลำธาร สวยงามมากเลยแนะนำนะคะใครมาโทโรโกะห้ามหลับนะ วิวสวยจริงๆค่ะ


ใช้เวลาเดินทางประมาณสามชั่วโมงหน่อยๆรถไฟก็พาเรามาถึงสถานี Hualien ค่ะเพียงแค่เดินออกจากสถานีเท่านั้นคุณลุง คุณน้าก็วิ่งกรูกันมาหาเราเพื่อเสนอทริปโทโรโกะเลยค่ะ คุณลุงเฉอชุน คือผู้โชคดีที่เราเลือกใช้บริการในครั้งนี้ค่ะ ลุงแกน่ารักนะคะ พูดอังกฤษไม่ได้เลยแต่ก็พยายามที่คุยกับเราดูแลเราดีมากมีทั้งน้ำทั้งขนมให้เราทานบนรถฟรีด้วยค่ะ แถมแกยังช่วยถ่ายรูปให้เราด้วย ฝีมื่อการถ่ายรูปของแกต้องบอกเลยค่ะระดับโปร จัดท่าทาง บอกมุม ลีลาท่าทางกินขาดไกด์ท้องถิ่นคนอื่นเลยค่ะ รถของคุณลุงเป็น TOYOTA WISH คันใหญ่นั่งสบายที่สำคัญรถใหม่ด้วยค่ะ ใครสนใจอินบ็อคมาหาเราได้นะลุงแกให้นามบัตรเรามาค่ะ เมื่อเราตกลงราคากับคุณลุงได้แล้วเราก็ออกเดินทางเที่ยวเลยค่ะ ที่แรกที่คุณลุงพาเราไป จุดชมวิว Quingshui (Cingshui Cliffs) มหาสมุทรแปซิฟิก Hualien


หลังจากถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้วลุงแกก็เรียกขึ้นรถพาเราไปยังจุดที่สองต่อค่ะ


ธรรมชาติสวยงามมากดูยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมากๆ ป.ล. เรื่องชื่อสถานที่เราอาจจะไม่ค่อยแม่นนะคะเนื่องจากการสื่อสารกับคุณลุงค่อนข้างยากพอสมควร แต่วันเดย์ทริปที่นี่เค้าจะพาไปเที่ยวที่เดียวกันหมดไม่ต้องกลัวว่าจะได้เที่ยวที่ดังๆไม่ครบนะคะ แต่แนะนำว่าให้รีบมาถึงท่ี่สถานี Hualien เช้าๆหน่อยจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ หลังจากเที่ยวจุดที่สองเสร็จคุณลุงก็พาเราไปทานข้าวร้านที่คุณลุงดีลไว้ (แกคงได้เงินเล็กๆน้อยๆจากเจ้าของร้าน) ด้วยความเกรงใจและชอบในการบริการของคุณลุงเราจึงไม่ขัดค่ะ ร้านที่คุณลุงพาไปกินเป็นร้านอาหารจีนค่ะเมนูอาหารก็จะถูกเลือกไว้ตามจำนวนตนแล้วเราไปกัน 4 คน ได้อาหาร 5 อย่าง ราคา 1200 TWD ค่ะก็ถือว่าไม่แพงมากแต่รสชาติอาหารจืดมากมากค่ะ ไม่อร่อย 55+ ก่อนกินถ่ายรูปเป็นที่ระทึกหน่อย นี่คือโฉมหน้าของผู้ร่วมชะตากรรมในทริปนี้ 55+

หลังจากทานอาหารเรียบร้อยลุงแกก็พาเราไปเที่ยวต่อยังจุดที่สามอันนี้จะอยู่ในส่วนของอุทยานTaroko National Park แล้วนะคะ


เราเริ่มกันต้นกันด้วย Shakadang Trail เป็นทางเดินเรียบแม่น้ำ ความยาวประมาณ 1.6 กิโลเมตรค่ะ ต้องเดินลงจากสะพาน Bridge of 100 Lions ลงไปเพื่อเดินชมวิวค่ะ

ทางเดินก็เดินไม่ยากค่อนข้างชันเล็กน้อยแต่เดินง่ายแนะนำให้ใส่ผ้าใบมาก็ดีนะคะจะได้เดินสะดวกๆ


เดินไปชมวิวไปอากาศไม่ค่อยร้อนเพราะอยู่เขาเย็นๆสบายๆ


หลังจากใช้เวลาเดินมาสักพักใหญ่เราก็ถึงค่ะ จุดที่เราสามารถลงไปสัมผัสน้ำใสๆได้อย่างใกล้ชิด

ดูยิ่งใหญ่และสวยงามมากความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่นี่ทำให้เรารู้เลยว่าจริงๆแล้วเราเป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็กๆเท่านั้น

หลังจากเราพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติจนหนำใจเราก็เดินกลับออกมาเพื่อไปที่อื่นต่อ

จุดนี้เราไม่แน่เรื่องชื่อสถาที่นะคะ ตัวสะพานที่เห็นในรูปเค้าให้เราเดินลงไปได้ด้วยนะแต่ตอนที่เราไปเค้าปิดซ่อมค่ะเสียดายมากๆถัดจากสะพานเดินขึ้นมานิดนึงจะเป็นอุโมงค์ให้เราเดินชมวิวไปเรื่อยจากจุดนี้เราต้องใส่หมวกนิรภัยเพื่อกันหินร่วง บางครั้งจุดนี้เค้าจะปิดนะคะเพื่อป้องกันอันตรายแก่นักท่องเที่ยวในกรณีที่หินอาจร่วงตกใส่ได้

หลังจากเดินมาสุดจุดชมวิวเราก็ไปเที่ยวที่อื่นต่อค่ะระหว่างทางเราเจอสะพานสีแดงเราจึงขอให้คุณลุงช่วยแวะให้เราถ่ายรูปแกก็จอดแวะให้เราแถมยังถ่ายรูปให้เรากับเพื่อนด้วย


พอถ่ายรูปสะพานเสร็จเราก็ไปเที่ยวต่อค่ะจุดนี้เหมือนเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาตฺิของอุทยานเป็นเส้นทางสีเขียวแต่เราไม่ได้เดินนะคะเนื่องจากพี่ที่มาด้วยเค้าค่อนข้างเมื่อยและเวลาเราเริ่มจำกัดแล้วเราจึงเก็บภาพบรรยากาศด้านหน้าไว้อย่างเดียวค่ะ


สวยและเขียวชอุ่มอากาศเย็นสบายเหมือนยุโรปเลย ^^

หันมองนาฬิกาอีกทีสี่โมงเย็นแล้วคุณลุงจึงเร่งพาเราไปเที่ยวที่ๆเราอยากไปมากที่สุดของที่คือ วัดฉางชุน (Eternal Spring Shrine)ค่ะ

วัดฉางชุนเป็นจุดชมวิวแห่งแรก เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บนยอดผาที่ตระหง่านอยู่เหนือหุบเขา เบื้องล่างมีน้ำพุใต้ดินผุดขึ้นมาเป็นธารน้ำไหล ตอนที่เราไปทัวร์จีนมาลงพอดีค่ะเราไม่สามารถเข้าถึงที่ถ่ายรูปได้เลยบวกกับเลนส์ที่เราใช้เป็นเลนส์ฟิกทำให้ได้ภาพไม่ค่อยสวยเสียดายมากๆ ตั้งใจว่าจะต้องกลับไปอีกให้ได้ค่ะ ในเมื่อเราเก็บภาพไม่ได้เราจึงใช้สายตาและหัวใจซึบซับบรรยากาศเก็บเอาไว้แทนแล้วเราก็ออกเดินทางไปยังสถานที่สุดท้ายของวันเดย์ทริปในครั้งนี้

ก็คือชายหาด Chishingtan หรือ Qi Xing Tan ชายหาดที่นี่เป็นทรายสีดำค่อนข้างเม็ดใหญ่ไม่ละเอียด น้ำค่อนข้างลึกแต่ใสเราถ่ายรูปไปไม่เท่าไหร่ฝนก็เทลงมาเลยค่ะจึงเก็บภาพที่นี่ได้นิดเดียว

หลังฝนเทเราก็พากันวิ่งขึ้นรถหลบฝนบวกกับเวลา 17.50 แล้วคุณลุงจึงพาเราไปส่งที่สถานีรถไฟเพื่อต่อ TRA ไทเป เรามาถึงที่สถานีรถไฟ 18.20 คุณลุงแกบริหารจัดการเวลาเที่ยวดีมากๆ เรียกว่าใช้เวลาคุ้มค่ามากแถมไม่เร่ง ไม่บ่นด้วยเวลาที่ต้องรอเรานานๆ น่ารักมากๆ ถึงเวลาต้องบอกลาคุณลุงเราเคลียค่าใช่จ่ายที่ตกลงกับคุณลุงไว้ก่อนหน้า คุณลุงก็ใจดีให้ POSTCARD แถมเรามาอีกคนละใบ พร้อมกับประโยคภาษาอังกฤษประโยคแรกในทริป I LOVE THAILAND!!!!!!! ใครจะwxเที่ยวโทโรโกะอยากได้รถพาเที่ยวอินบ็อคหาเราได้นะคะราคาไม่แพงค่ะ (ป.ล. ลุงแกเคี้ยวหมากด้วยนะคะเผื่อใครไม่ชอบในรถจะมีกลิ่นหมากนิดๆบอกไว้ก่อน)

*****สรุปนะคะโทโรโกะสำหรับเราสวยงามในความทรงจำมากๆอยากกลับอีก ธรรมชาติที่นั่นสวยงามดูยิ่งใหญ่ อากาศดี สดชื่น ค่าเดินทาง ค่ารถเที่ยววันเดย์ทริป ไม่แพงคุ้มค่ามากๆ ถ้ามีโอกาศมาเที่ยวไต้หวันยังไงรับ โทโรโกะ ไว้พิจารณาด้วยนะคะรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ถ้าชอบรีวิวกดบวกให้กำลังเราหน่อยนะคะขอบคุณค่ะ



ฝากเพจเล็กๆ แชร์ที่กิน ที่เที่ยว ที่นอน ของเราด้วยนะคะ https://www.facebook.com/Travelholic.lifeisjourney/

พบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ ^^

ความคิดเห็น