ทริปนี้เป็นทริป slow life จริงๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไรเลย นอกจากช่วงเช้าที่ออกจากกรุงเทพฯ แค่นั้น เริ่มต้นเดินทางด้วยรถเมล์ขสมก.ไปที่สถานี Airport Rail Link และเปิดโลกเรามากที่เพิ่งรู้ว่าวันธรรมดาเที่ยวแรก 5:30 เราไม่ต้องรีบร้อนอีกต่อไป
รอบนี้มาสุวรรณภูมิอีกครั้ง เช้าๆ คนเยอะเหมือนกันนะนี่ โหลดกระเป๋าเสร็จเราก็มานั่งกินมื้อเช้า กินเยอะหน่อยตื่นเร็วและหิวมาก ชอบเลาจน์ในช่วงนี้มาก ขนมมาในห่อ ลดการสัมผัสกับสิ่งไม่พึงประสงค์ และขอชมที่มีแอลกอฮอล์ให้ล้างมือหลายจุดมาก
อิ่มแล้วก็เดินออกเลย คนเริ่มเยอะมากแล้ว และเป็นโชคดีที่มาเจอแสงสวยๆ ที่ gate A1
เช้านี้คนไปเชียงใหม่น้อยมาก ที่ gate เลยถ่ายรูปสวย
ขึ้นเครื่องมาก็มีเจลล้างมือให้อีกครั้งก่อนเข้่าไปที่นั่ง อย่างที่บอกคนไปเชียงใหม่น้อยก็เลยนั่งกันห่างมาก
ช่วงนี้งดบริการอาหารบนเครื่องแจก snack bag แทน
พอไม่ต้องบริการอาหารก็เลยถึงก่อนกำหนดเวลาพอสมควร ดอยสุเทพมัวมาก
ความตั้งใจแรกจะไปกินสะเต๊ะเนื้อใต้ต้นข่อย แต่พอไปถึงหมดอล้วเก็บร้านเรียบร้อยไปแล้ว นั่งหัวเราะในรถกับคนขับ grab กดต่อไปที่กาดหลวงท่ารถตู้ไปแม่กำปองแทน ฝากกระเป๋าเสร็จก็เดินมาที่ A&C Bakery เห็นคนเชียงใหม่หลายคนบอกใช้ได้เลย ราคาถูกด้วย
พอได้เสบียงสำหรับเดินทางไกลแล้ว ก็มาแวะก๋วยจั๊บช้างม่อย เราชอบร้านนี้
เดินทะลุวัดแสนฝาง
เดินต่อมาจิบยาธาตุที่สล่ามองโอสถ เราชอบมาร้านนี้เพราะมันคือสภายาธาตุ เรารู้หลายๆ เรื่องเกี่ยวกับเชียงใหม่ที่ร้านนี้ แก้วละ 5 บาทมาหลายปีแล้ว
นั่งคุยกันพอสมควรเราก็เดินไปที่เลาจน์ของรถตู้น้ำพุร้อนสันกำแพง ถึงเวลารถตู้ก็มารับที่หน้าเลาจน์ ตามไปอ่านทริป แม่กำปอง...อีกครั้ง ได้เลย รีวิวไว้แล้ว
กลับจากแม่กำปองเรามาแวะร้านกาแฟ มนตรี ตามคำแนะนำของพี่ศักดิ์ รถตู้แม่กำปอง กาแฟหอม คนเยอะ สมราคาคุยไว้จริงๆ
ออกจากร้านมนตรี เราก็เดินต่อเพื่อจะไปโรงแรมที่เราจองไว้ ที่เลือกเดินเพราะจะไปหาที่ส่งพัสดุกลับกรุงเทพฯ และหาของกิน เดินจนมาเจอร้านกาแฟ ฅนจร Slow bar coffee ร้านน่ารักริมทางที่ราคาน่ารักมาก เราสั่ง Ethiopia Guji Halaka กาแฟดี เราชอบออกเปรี้ยวก็ได้สมใจ กาแฟดีเกินราคาไปมาก
แช่น้ำเสร็จก็ออกไปต๊ะต่อนยอนสักนิด คูเมืองช่วงนี้กำลังสวยด้วยดอกไม้
เดินต่อมาที่ข่วงสามกษัตริย์
เดินต่อมาที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เราไม่ได้มาเลยตั้งแต่วิหารหลวงพ่อโตบูรณะเสร็จ และได้เห็นชั้นวางรองเท้าด้านข้างบันไดทั้ง 2 ด้านแล้วนะ อย่าถอดรองเท้าตรงบันไดเลย วางที่ชั้นเถอะ ถ่ายรูปหน้าวิหารมาจะได้ไม่ติดรองเท้า และจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุจากการสะดุดรองเท้าด้วย ทางวัดก็มีชั้นแล้ว คนเข้าวัดก็ช่วยปฏิบัติตามเถิด
ออกจากวัดพระสิงห์ตรงไปที่กาดหลวงตุนของกิน ก่อนกลับโรงแรม พอมาถึงห้องก็เลยรู้ว่าซื้อเยอะเกินไป
คืนนี้ไม่ได้ไปไหนแล้ว และชอบแสงจากหน้าต่างห้องพักมาก เสียดายนิดเดียวที่กระจกมีคราบ
เช้าวันรุ่งขึ้นเราขึ้นมาชมวิว และตั้งใจจะรอจนถึงเวลาให้บริการสระว่ายน้ำ ออกกำลังกายยามเช้าสักนิดด้วย
แต่มีอันต้องเสียอารมณ์มีลุงคนหนึ่งมาสูบบุหรี่ข้างสระว่ายน้ำ บรรยากาศยามเช้าเสียหมดเลย กลับห้องทันที ที่ห้องแสงก็สวยใช้ได้เลย
ออกมาร้านกาแฟ Third place สักนิด ร้านนี้ดีสำหรับคนชอบอบเชยเลยนะ กาแฟหอมอบเชย เราชอบ
เก็บของเรียบร้อยแล้วก็ลงมาใช้บริการฟิตเนสสักนิด
ความตั้งใจของทริปนี้คือจะนอนไม่ซ้ำโรงแรมเลย วันนี้ย้ายไม่นอน Sridonchai Heritage มาถึงก่อนเวลาเช็คอิน เราเลยฝากกระเป๋าแล้วออกเดินเล่นใกล้ๆ แถวนี้สักนิด เริ่มที่ร้านทับทิมกรอบเจ้อ้วน ร้านนี้ไม่เคยผิดหวังกับมะพร้าวกะทิเลย อร่อย
เดินมาย้อนมาลอง Magokoro มาเร็วไปเร็ว เพราะโดนแย่งที่นั่ง ไม่สนุกที่จะอยู่ต่อ มารยาทเล็กๆ น้อยๆ ในการเข้าร้านทุกร้านทั่วโลกไม่มี แย่ที่สุด
เดินต่อมาที่ร้านข้าวซอยเฟื่องฟ้า ข้าวซอยเนื้อที่นี่ไว้ใจได้
เดินต่อมาจิบยาธาตุคลายหัวร้อนสักนิด
เดินต่อมาอีกนิดมาชิมกาแฟที่ร้าน Doppio ปกติถ้าทัวร์จีนลงเราจะไม่เคยได้กิน
ได้เวลาเข้าที่พักแล้ว Sridonchai Heritage ด้านนอกก็เป็นตึกแถวธรรมดามาก เราได้ห้อง 402 เปิดห้องเข้าไปภาพตรงปกมาก ห้องดูดี ใหญ่
สักพักฝนตกหนักเลย พอฝนหยุดแสงสาดเข้าห้องสวยมาก
ได้เวลามาสำรวจ Fine Day At Night Bazaar ปิดถนนทุกวันศุกร์เปิดเป็นถนนคนเดินตั้งแต่ 4 โมงยันยัน 4 ทุ่ม ถนนคนเดินนี้ของกินเยอะมาก โรงแรมในเส้นนั้นก็ออกร้านในราคาย่อมเยาว์ มีหลายโซนให้ได้เลือกตามชอบ เช่น โซนของกินมีทุกชาติรวมถึงอาหารเมือง โซนของฝาก เสื้อผ้า ของ handmade ของมือสอง รวมไปถึงโซนนวดราคาถนนคนเดิน
วันที่ไปมีงาน Chiang Mai Holi festival 2021 สาดสีกันสนุกมาก แดนซ์กันกระจาย เราใส่หน้ากากตลอดที่ยืนถ่ายรูปในงาน และอยู่ไม่นานมากนัก
เดินมาทักทายป้าเดและลูกสาวป้าสักนิด เราไม่ได้มาเชียงใหม่นาน แต่ป้าเดกับพี่ลูกสาวป้าก็ยังจำกันได้ พูดคุยกันนิดหน่อยระหว่างกินโรตักล้วยไข่ชีสไม่ใส่น้ำตาล
กลับที่พักก็ต้องตกใจอีกครั้ง ซื้อเยอะอีกแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น เราเดินไปร้านสะเต๊ะใต้ต้นข่อยอีกครั้ง วันนี้เราแต้มบุญยังพอมี ได้ 20 ไม้สุดท้ายมากินจนได้ เราอยู่เป็นคนสุดท้ายของร้านเลยได้คุยกับพี่คนขายด้วย พี่แกบอกไว้ใครไม่กินเนื้อโทรมาสั่งไก่ได้นะ สั่งล่วงหน้าสัก 2 วัน
เราเดินย้อนมากินกาแฟที่ร้าน Trailer Coffee ร้านน่ารัก หน้าสุริวงศ์บุคส์เซ็นเตอร์ กาแฟหอมๆ กับบรรยากาศดีๆ ท่ามกลางต้นไม้
เดินมาแวะถ่ายรูปที่วัดช่างฆ้อง (วัดร้าง)
เดินต่อมาที่วัดช่างฆ้อง มาถึงด้านบนโบสถ์มีงาน แล้วเราก็ปลื้มกับหอไตรมาก
กลับที่พัก ฝากกระเป๋าไว้ก่อนจะเดินต่อมาชิมก๋วยเตี๋ยวเรือท่าแพ สั่งทุกอย่างชามเล็กหมด เราอยากชิมหลายๆ อย่าง เนื้อตุ๋นดีงามมาก เลิฟร้านนี้
เดินต่อมากินกาแฟที่ร้าน Gateway Coffee ร้านนี้กาแฟไว้ใจได้
เดินทะลุไปทะลุมาไปโผล่ที่วัดอู่ทรายตำ มาสักการะพี่สิงห์หยก
เดินวนกลับมาที่วัดอุปคุต
มาปิดท้ายที่ร้าน Pate Chiangmai แล้วเห็นป้ายข้าวหน้าเนื้อออสเตรเลียสไตล์เวียดนาม แถมยังเป็นฮาลาลด้วย เราเลยเลือกเดินเข้าไปลองชิม ตอนไปร้านเงียบเลยมีเราโต๊ะเดียว อาหารรอไม่นาน ข้าวหน้าเนื้อมาก่อน เราชอบความนุ่มของข้าวมาก เข้ากับเนื้อที่ผัดออกเค็มกินแกล้มกับผัดผักลงตัวมาก อีกจานเป็นพิซซ่าเวียดนาม แป้งบาง เหนียวนุ่ม รสชาติลงตัวกินง่าย
ตั้งใจจะไปสนามบินเลย จะไปโหลดกระเป๋าก่อนแล้วออกมาเดินเที่ยวถนนคนเดินวันเสาร์ แต่ช่วงนี้จะเปิดเคาน์เตอร์ 2 ชั่วโมงก่อนบินเท่านั้น สรุปเราอดไปถนนคนเดิน ต้องมานั่งในเลาจน์ฆ่าเวลาแทน
กลับแล้วนะเชียงใหม่ แล้วเราจะกลับมาอีก
จบทริปต๊ะต่อนยอน...ที่เชียงใหม่แบบได้เติมพลังชีวิตมาก
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันพฤหัสที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 06.23 น.