เริ่มเรื่องของการเดินทางในครั้งนี้ คือการตั้งใจที่จะไป #กิ่วแม่ปาน บนยอดดอยอินทนนท์  คือเราอยากไปมากๆๆ  มากจนเกิดการเดินทาง #คนเดียว เริ่มต้นขึ้นในครั้งนี้…………

การเดินทางไปเชียงใหม่รอบนี้  เราเดินทางโดยเครื่องบิน  [  จองโปร 0 บาท แต่ไม่ทันนะ 55  รวมค่าเครื่องแล้วโดนไป  1,600 บาท ]  จองไปช่วงกลางๆ ปี  แล้วลงวันไว้ปลายปี พร้อมบินนน  ✈️

หลังจากได้ตั๋วเครื่องบิน  ได้วันไปแล้ว เราก็เริ่มวางแพลนละว่าควรจะไปที่ไหนบ้าง  แต่ที่ๆ ต้องไปให้ได้  ก็คือ  #กิ่วแม่ปาน  และกิ่วแม่ปาน นี่ละทำเราปวดหัวมากกกกกก  เพราะแต่ละที่คืออยู่คนละฝั่งเลย เสียเวลาในการเดินทางมากๆๆ เชียววว  

[ แอบมีเสียใจเพราะเวลาไม่พอ ในวันสุดท้ายด้วยย คิดแล้วจะร้องงง ]

# 12-12-2019 #  
    เราเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยสายการบิน แอร์เอเชีย รอบ 19:30 น. แต่ดีเลย์ ไปเป็น 20:00 น. ถึงเชียงใหม่ประมาณ 21:30 น.  อากาศตอนไปถึงคือ  19 องศา  กำลังดีเลยยย ถูกใจสุดๆๆๆ  

   โดยที่พักในคืนนี้เราเลือกจองไว้ผ่าน Agoda เป็น Fellow Hostel อยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 1.3 kg. ซึ่งจากการดูใน Google Map แล้วค้นพบว่า เดินไปได้ชิลๆ สบายม๊ากกกก พอลงเครื่องเลยตัดสินใจเดินไปตาม Map เลยจ้าา

    พอออกจากสนามบิมมาแล้วระหว่างทางคืนค่อนข้างจะมืดเลยล่ะ คิดในใจ “ เอาไงดีว่ะ รถยังวิ่งเยอะอยู่เลยย เดินก็เดินนนน ” ซึ่งก็ใช้จังหวะในการเดิน เร็วเลยค่ะ ที่พักจะอยู่ข้างๆ กับ CentralPlaza  Airport ( เราก็เลือกที่จะเดินติดๆ ริมถนนเลยเพื่อความปลอดภัย )

    เย้ๆๆ ถึงแล้ววว… ที่พักเราคืนนี้


   บรรยากาศข้างในก็จะประมาณนี้เลย  เป็น  Hostel  น่าจะ 4  ชั้น   พอไปถึงคุณป้าที่ hostel ก็แนะนำห้องว่าอยู่ชั้นไหน แล้วก็ยังถามแนะนำสถานที่เที่ยวให้อีกด้วย ถามไปไหนมาไหนยังไงวางแผนการเดินทางให้อีกต่างหากเด้อ น่าร้ากกก  

     เบ็ดเสร็จสรุปแล้วเลยเช่ามอเตอร์ไซต์ผ่านทาง hostel ไป 2 วัน ร้านมาส่งให้ที่ hostel เลยย 10:00 น. ( อ่ะงง ทำไมออกช้าจัง คุณป้าเขาแนะนำมาา เราจะได้คุ้ม 55 )   hostel  ที่นี่ก็จะเป็นสไตล์ hostel ทั่วไป เป็นห้องรวมเราเลือกห้องรวมเฉพาะผู้หญิง มี 8 เตียง  [ แอบปีนขึ้นไปผิดเตียงด้วย ลงมาแทบไม่ทัน ]  

#ฝันดีคืนแห่งการเดินทาง

# 13-12-2019 #

   เช้านี้เราตื่นมาในตอน  7  โมง  ด้วยอุณภูมิ  15  องศา คืออากาศดีมากกกกกก  อาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้าแล้วไปกันเลยดีกว่าาา  ที่ hostel จะมีอาหารเช้าเป็นจำพวก  ไข่  ขนมปัง  กาแฟ โอวัลติน  ที่ต้องทำเองนะจ้ะ  หน้าตาก็จะดีประมาณนี้เลย……

และนี่คือรถประจำตัวเราที่จะขี่น้องไปทั่ว เมืองเชียงใหม่นั่นเองง  Crick  125  

      แพลนแรกของวันนี้เราจะขี่มอไซต์ ไปเที่ยว cafe’ ในเมือง  และจุดเช็คอินต่างๆ  ตามเมืองเชียงใหม่  

คิดถูกมากๆๆ ที่เลือกมอไซต์  เพราะเมืองเชียงใหม่รถติดมาก มาก มาก มากกกกกก ค่าาาาา


#ขอพักเล่าเรื่องแพร้บบ  :  เรื่องการเดินทางในเชียงใหม่ เป็นอะไรที่เราเครียดมากกเลย ตัดสินใจยากจริงๆ ว่าจะเช่ารถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซต์  เพราะหนทางในเชียงใหม่ของเราแต่ละที่ ไกลๆ ทั้งนั้น  คิดแล้วคิดอีกก  555  สรุปแล้ว มอเตอร์ไซต์ ก็ได้ ไหนๆ ล่ะ  ลุยไปเล๊ยยยยยยย

     

          ที่แรกที่จะไปตามแพลนก็คือ  ขอไปไหว้สิ่งศักสิทธิ์ก่อน คือ วัดพระธาตุดอยคำ นั่นเอง ทางขึ้นไป  โอ๊ยยยยย  กลั่นหายใจแล้ว กลั่นหายใจอีกก เราต้องรอดๆๆ  ทางขึ้นเขาอ่ะทุกคนนน วนซ้าย วนขวา ระยะทางสั้นๆ แต่หวาดเสียว  สุดท้ายก็มาถึงยอดได้  โล่งอกสุดๆๆ เลยยย  ไหว้ ขอพร ให้เดินทางปลอดภัย อยู่สักพักก็ลงมาเพื่อไปจุดหมายต่อไป 

คนเยอะเหมือนกันนะเนี่ยยยย  เยอะจริงงงง   

       จุดหมายยย…   ต่อไปเราอยากไปกินอาหารเหนืออ มาถึงเหนือเนาะ ก็ต้องกิ๋นอาหารเหนือ แม่นกะ     

-  ร้านแรกกที่วางไว้ คนเยอะมากกกก   ผ่านก่อนละกัน  ร้านที่อยู่แถววัดอุโมงค์  จำชื่อไม่ได้

-  วัดอุโมงค์เราก็ไปนะ แต่รูปที่ถ่ายมา ไม่ผ่านสักรูปเลยย  เสียใจ 😭😭😭

       ไปจุดหมายถัดไปละกัน  อยู่โซนเดียวกันน

-  บ้านข้างวัดนั่นเอง   เป็นแหล่งรวมเรื่องชิคๆ สำหรับวัยรุ่นอย่างเรา  ก็เดินไป ถ่ายรูปไปพักใหญ่เลยล่ะ  กับที่นี่

ป้ายทางเข้านั่นเอง  ทำไมถึงชื่อว่า  “บ้านข้างวัด”  พึ่งจะสงสัยตอนเขียนคอนเท้นนี้แหละ 55

แม้เก้าอี้เหลืองยังอยู่เป็นคู่  แล้วเราล่ะ โดดเดี่ยวเกลียวใจ…

ร้านนี้งานฝีมือเพียบบบบ

ชอบอันนี้อ่าา  สวยยย มงกุฎดอกไม้

 เดินนานแล้วก็หิวอะเนาะ  หาอะไรกินดี  จนเดินไปเจอร้านนี้  มีหลายเมนูลักษณะจะเป็น ให้เราเลือกฐานก่อน เช่น ข้าว ขนมจีน หมี่ผัด ฯลฯ   ตัวทอปปิ้งก็จะมี  แกงพะแนง  แกงเขียวหวาน  แกงเผ็ด น้ำยา บลาๆ ฯลฯ

เราเลือกเป็น   #เส้นหมี่ผัดราดแกงพะแนง  ดูภาชนะของที่ร้านซิ คือจะเป็นเข่งสานที่เหมือนกับเข่งปลาทู  แล้ววางด้วยใบตอง  และอร่อยมากกกกกก   นั่งเชยชมกับความน่ารักของเจ้าพะแนง กับความอิ่มสักพัก  ถ่ายรูปอีกหน่อย แล้วก็ไปที่อื่นต่ออ…………

จุดหมายต่อไปเราจะไป Cafe’  ที่อยู่แถบคูเมืองงง แต่ แต่ แต่!!!!   มันไม่เป็นอย่างที่คิดค่ะทุกค้นนนนน  Cafe’ แถบนี้คือคนเยอะมากกก  แทบไม่มีที่จอด  ขี่วนอยู่ร้านนึง  3 รอบบ  จนแบบเราตัดใจ  

เออ!!!   ไปที่อื่นก็ได้ เสียเวลามากกก   ขี่เข้าซอยนั้น  ออกซอยนี้ เป็นว่าเล่น  มันน่าจะเป็น โซน  oldtown.   จนไปเจอ  Pate Cafe’  แวะนี่กินกาแฟสักแก้วดีกว่า  

ปรากฎว่าเป็นร้านเล็กๆ น่ารักมากเด้ออ   กาแฟดีย์ 

แอบเจอหนุ่มหล่อด้วยยย  ระทวยหัวใจ แต๊ๆ ก๋าาาา

โซนในร้านก็จะประมาณนี้นร้าาาา  

เห็นกาแฟแล้วหิวว ~~   ขอตัวไปชงกาแฟแพร้บบนึงงง 

15  นาทีผ่านปายยยยย…………

กลับมาต่อล่ะ

ต๊ะเอ๋ 😳😳  นี่เราเองงงงง  สวัสดี๊ 

หลังจากนั่งพัก จิบกาแฟ ก็พร้อมออกเดินทางด้วยเจ้าสองล้อเช่นเคยย

คราวนี้เรามุ่งหน้าไป  ถนนช้างม่อย  จุดเช็คอินที่ใครๆ ก็ต้องปายยยย

ไปกันนน  Let go!!!!!

มาถึงแล้ววววววว    พร๊ามมมมม!!!!  เชิญรับชมม  

เราเสียใจอีกแล้ววว  ที่จะไม่มีรูปเราเลยย 5555

รถแดงง ของดีเมืองเจียงใหม่  บรึ๊นนนน

รถตุ๊กตุ๊ก  ก็จอดได้พอดิบ พอดี๊

ตรงข้ามร้านจักสาน   จะเป็นอีกหนึ่งคาเฟ่  ที่เป็นจุดเช็คอิน………

@BREWGINNING CAFE’ 

เป็นคาเฟ่ที่ชั้นบนมีที่นั่งจิบกาแฟดูบรรยากาศ  นั่งคุยกัน  มีเพลงฟัง  และๆๆๆ  เราไม่ได้ขึ้นไปอีกเช่นเดิมมม  คนเยอะแยะมากมายยย  5555  มาเชยชมรูปตรงเคาเตอร์กาแฟละกั๋นเน้ออ  

แดงเฉิดฉายมากกกกก

น้อนๆ หัวหมุนเลย  ออเดอร์เยอะ  ไฟติ้งน้ะ พี่รอแก้วของพี่อยู่  อิอิ 

เมนูก็ราคากลางๆๆ  

เครื่องชงกาแฟคือใหญ่โตมากกกกก

บาริสต้าก็จะน่ารักๆๆๆ  หน่อยนุงงงง

มุมนี้ ศิลปะล่ะมั้งงงงง

น้อนผู้หญิงน่ารักมากกเลยยยยย

แก้วเรามีชื่อด้วยนะ  55  และนี่ก็เป็นจึดสุดท้ายแล้วสำหรับในเมืองงง   ถัดไปเราจะพาขี่เจ้าสองล้อไปเมืองจอมทอง  เพื่อเตรียมตัวขึ้น กิ่วแม่ปานตอนเช้ากันนน

ภาพข้างล่างเป็นภาพระหว่างทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อไปแถววัดพระธาตุศรีจอมทอง  ระยะทางประมาณ  70  kg.   ใช้เวลาประมาณ  1  ชั่วโมงนิดๆๆ  ก็ถึงละ  หกโมงเย็นพอดีเข้าที่พัก  ซึ่งที่พักอยู่ตรงข้ามวัดพระธาตุศรีจอมทองเลยย

@หนอนเหนือ   ชื่อที่พักเราคืนนี้  พี่เขาก็ใจดี ถามสารทุกข์สุขดิบต่างๆ นาๆ น่ารักมากกกก  แนะนำที่กิน ที่ขึ้นรถให้อย่างดี แถมยังหาทางให้เราไปกิ่วแม่ปานได้สะดวกอีกด้วยยย

ที่นอนคืนนี้ก็สไตล์เดิมเลยยยยยยยย  hostel  อีกแล้วจ้าาาาา

    สำหรับเช้าพรุ่งนี้ติดต่อรถได้เป็นรถ สองแถวสีเหลืองค่ารถก็  1,800  แต่โชคดีมากกก   ฟ้าประทาน ผู้ร่วมชะตากรรมให้มาหารค่ารถอีก  2  คน  รอดตัวไปปป หลับได้อย่างสบายใจมีรถขึ้น กิ่วแม่ปานแล้วววว

#ขอแวะเล่าเรื่องแพร้บบ

  ด้วยความที่ดื่มกาแฟดำวันนี้ไป  2  แก้วว  กาแฟเชียงใหม่มันแรงงงงง  ตี 2  นู้นนน  ถึงได้หลับบบ  แล้วต้องตื่นตี 4  เพื่อเตรียมตัวไปขึ้นรถ ตี 5  

#ฝันดีคืนแห่งการเดินทาง 

#14-12-2019#

04:00  น.  เสียงนาฬิกาปลุก  ปลุกให้เราตื่นจากที่นอน เอาล่ะพร้อมแล้วววว  อาบน้ำเตรียมตัว เตรียมของ บลาๆๆ  05:00  น.  แล้วออกไปรอรถ

         อ๋อ  เรามีรูมเมทด้วยนะ เนื่องจากว่ามันเป็นห้อง 4 เตียงเต็มหมด  แต่เราไม่เห็นใครเขาปิดม่านไม่เปิดเลยย 555 แต่มีพี่คนนึง เขาตื่นไปอาบน้ำก่อนเรา แล้วพี่เขาก็นุ่งขาวห่มขาวเราก็สงสัยเนาะ ใส่ทามมายแต่ก็ไม่กล้าถามมมม  แต่พอดีพี่เขาเริ่มบทสนทนาก่อน

         พี่สาว  :  เอ้า สวัสดีค่ะ  ไปเที่ยวไหนแต่เช้าค่ะ  แล้วมาคนเดียวหรอจ้ะ

         เรา     :  อ๋อ พอดีจะขึ้นไปดอยอินทนนท์ค่าา ไปกิ่วแม่ปาน  มาคนเดียวค่า

         พี่สาว :  แล้วมายังไงคะเนี้ย  

         เรา    :  ขี่มอไซต์มาค่ะ  จากตัวเมือง 

         พี่สาว :  หูวว  เก่งมากเลยย มาเที่ยวคนเดียวด้วย  เก่งมากๆๆ  ( ชมเราใหญ่เลย )

         เรา    :   ไม่หรอกค่ะพี่  มีคนเที่ยวคนเดียวเยอะเลยค่ะช่วงนี้  555

         พี่สาว  :  โอเครๆ  โชคดีนะจ้ะ  

         เรา    :   ขอบคุณนะคะ  ( แล้วพี่สาวก็ขอตัวไปก่อน )

         พอเราเดินออกมาถึงรู้ว่า อ่อ วันนี้วัดพระธาตุศรีจอมทอง  เขามีกิจกรรมเกี่ยวกับการสวดมนต์ ทำบุญกันแบบว่าคนแต่งชุดขาวเยอะมากๆ จริงๆๆ  
           

05:00  น.   รถมาแล้ววววววว  เป็นรถสองแถวสีแหลือง  ซึ่งก็จะมีคนขับรถ 1 คนแล้วก็พี่ผู้หญิงอีก 2 คน พี่เขามาจากชลบุรี  ตั้งใจจะมาเที่ยวกิ่วแม่ปานเหมือนกัน  ชื่อพี่นิด กับ พี่เบญ  พี่เขาชวนคุยเก่งมากกก  ไม่เหงาเลยย

สำหรับทางขึ้นยอดดอยคือแบบมืดมากก  มีแต่แสงไฟจากรถจริงๆ  มีรถมอเตอร์ไซต์ขี่ขึ้นไปด้วยนะเวลานี้   
แล้วทางก็แบบ วนขึ้นเขาจ้ะ ชันด้วยจ้ะ น่ากลัวแหละ คิดถูกมากกก  ที่ไม่ตัดสินใจขี่มอไซต์ขึ้นมาเองงงง

06:05   ถึงแล้ววว กิ่วแม่ปานนน  แต่ต้องเดินขึ้นไปอีก  ยังไม่ถึงดี  555  อุณภูมิเช้านี้ก็  9  องศาาา  หนาววว

ภาพบนนี้เป็นจุดที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น คนยืนรอถ่ายเต็มเลยยทีเดียวว


              เริ่มมม!!  ทางช่วงแรกๆ ก็เดินง่ายๆ นะ ราบๆ ขึ้นๆ ลงๆ นิดหน่อยยย  ผ่านไปสิบนาทีเท่านั้นแหละ เริ่มเดินเร็วขึ้น เริ่มหายใจไม่ทัน เริ่มเหนื่อยย  โอ๊ยยย  หอบเป็นหมาา พูดเลยย  เดินไปเรื่อยๆ  พักไปเรื่อยๆๆ  ยิ่งในช่วงที่เป็นบันได  ยิ่งโคตรเหนื่อยย  เหนื่อยจริงๆ สำหรับเรา 55  เพราะเห็นใครหลายๆ คนที่เดินไหวว และหลายคนที่เหนื่อยเหมือนเรา  แต่พี่นิดกับพี่เบญ  นี่ชิวเลยจ้ะ พี่เขาก็ถามตลอดว่าเป็นไงบ้างง  หายใจลึกๆๆ  หายใจทางปากกก  คอยรอเราตลอด 

             ระหว่างทางก็จะมีเขาแซงเรา เราแซงเขา   ยาวๆ ไป ถึงแม้เราจะเหนื่อยเพียงใดเราก็จะชะแว๊บ ถ่ายรูปเก็บไว้บ้างได้นิดหน่อยย  เหนื่อยจัด ถ่ายได้ไม่เยอะ มัวแต่หอบ แหกๆๆ   

พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้วววววว

อ่ะ  แดดส่องใบไหม้  แวะถ่ายแพร้บบบบ

นี่แหละ  ไอทางแบบเนี้ยย  ทำให้เราเหนื่อย 55
ไม่ได้มีแค่นี้นะ  มันจะมีขากลับที่แบบเป็นบันได้ชันนนน  อย่างสูงเด้อออ

หนทางยังอีกยาวไกลล  ทั้งๆ ที่เหลืออีกไม่กี่ร้อยเมตร

เย้!!  ถึงแล้ววว  อันนี้เป็นสันเขานร้าาาาา  

เห็นไหมๆๆ  ทุกคนนน  มันสวยมากกกก

สวยสุดๆ ไปเลยยย  พี่นิดกับพี่เบญ ก็ถ่ายรูปให้สวยมากๆๆๆ

ถ่ายดอกไม้บนกิ่วแม่ปานสักหน่อยยยย  555

ดูซิคนเยอะมากกกกก

ต้องแอบบ เข้าซอกกก  จะได้ไม่ติดคนนนน  5555

มาดู เขากับหมอก  ดีกว่าาาาา  555

ดูเจ้าหมอกสิ  แง๊ สดชื่นนนน  นี่แดดออกแล้วนะ แต่อากาศก็ยังเย็นอยู่เลยยยย 

ตอนนี้เวลาประมาณ 7 โมงเช้าคร้าาาาา



หูวว  ภาพล่างนี่อย่างเท่ห์  ทางไปตรงนี้มันสโลฟลงไปนร้าา  ต้องทรงตัวดีๆ เชียวล่ะ 

ต่อไปเป็นจุดมหาชนนนน  เป็นสะพานที่ทอดออกไปนิดหน่อยยย  ต่อคิวถ่ายกันวนไป  55

นี่ไงพี่นิดกับพี่เบญเองงงงงง

หลังจากอยู่บนนี้ประมาณ ชั่วโมงหน่อยยๆๆ  ก็เริ่มเดินลงกันจร้าาา  เริ่มสายย แดดก็ร้อนนนน  โอ๊ยยย

ความร้อนนน ตามไปทุกที่จริงๆๆๆ 

และแล้วก็ถึงเวลาเหนื่อย หอบเป็นหมาอีกแล้ววววววววว   กว่าจะมาถึงจุดหมายยย  555  

แต่มีความสุขมากกก  สนุกมากกกก  เยิฟๆๆๆๆ

           หลังจากลงมาจากดอยอินทนนท์  ก็เขาก็พาแวะจุดขวามือ เป็นอุทยานอะไรสักอย่างไม่รู้ววว  ที่ต้องเสียค่าเข้าอีก  จะเสียซ้ำซ้อนอะไรไม่รู้ ขนาดอยู่ในอุทยานนะเนี้ยยย  ถ้าถามว่าเข้าไปทำอะไร  ไปกินโจ๊กกับเข้าห้องน้ำ แค่นั้นแหละ 555    หลังจากนั้นคนขับรถก็พาวนไปดูไร่สตรอเบอรี่ และซื้อสตรอเบอรี่ชาวบ้านกลับสระบุรี  555  แล้วลงมาถึงที่พักประมาณ  สิบโมงง

           อ่ออ  ลืมไปเมื่อเย็นวานพี่เจ้าของที่พักเขาถามด้วยว่าตอนเช้ามีอาหารนะ ข้าวต้ม กับ ข้าวผัด รับเป็นอะไร เราเลยบอกเขาไปว่าน่าจะลงมาจากยอดดอยเกือบเที่ยงเลยนะคะพี่ เขาก็บอกเดี๋ยวเก็บไว้ให้ค่าา  ไม่เป็นไรเลยยย เราจึงมีข้าวกินนอย่างอร่อยยย  555  ระหว่างนี้ก็ชาร์ตแบต อุปกรณ์ต่างๆๆ  และเก็บกระเป๋า เพื่อเตรียมตัวเดินทางงงง 

12:00  น.  เวลาออกเดินทางของเราเองง โดยเราจะต้องขี่มอเตอร์ไซต์ จากจอมทอง  ขึ้นไป ทางแม่แตงแบบยิงยาวเลยยยยย  เพื่อไปให้ถึงโฮมสเตย์ที่เราจะไปพักคืนนี้  ระยะทางก็  130  kg.  ใช้เวลา 2  ชั่วโมงกว่าๆๆ  โดยประมาณ  แต่ระหว่างทางเจอร้านกาแฟฟ  ก็ต้องแวะซิค่ะ  555

@The Baristro at NCU  

            เป็นคาเฟ่ที่อยู่แถวหางดง  แวะนั่งพักผ่อนอยู่พักนึง พอให้หายเมื่อยยย

The  Baristro  เขามีหลายสาขาจริงๆๆ  


ป่ะทุกคนเดินทางกันต่อออ  ยาวๆๆ ไปเลยยย แว๊นมอไซต์ไปยาวๆๆ  

- - -   🛵🛵   - - - 

ระหว่างทาง บริเวณรอบๆ สองข้างทางก็ปกตินะ  แต่ช่วงเริ่มขึ้นแม่แตงนี่ล่ะ สองข้างทางเจอแต่ป่า ก่อนจะเลี้ยวซ้ายขึ้นแม่แตงเราเห็นหลักกิโลเมตรเขียนว่า    87  กิโลถึง ปาย แล้ววว  อยากไปแหละ ถ้ามีเวลาเหลือกะจะไปเลยยย  555

            แม่แตงมีสวนส้มด้วยนะสองข้างทางง  แบบหลายสวนมากกกก  แล้วความฟินอีกอย่างคือแทบจะไม่มีรถเลยยยระหว่างทางโค้งขึ้นเขาา อากาศดี บรรยากาศดี คิดถูกมากกที่ขี่มอไซต์ขึ้นมา ได้สัมผัสบรรยากาศที่ดีๆ แฮปปี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ทางก็ไม่ถือกับว่าน่ากลัวอะไรมากนัก

            สำหรับใครที่เคยไป  อยากให้ลองหลับตาแล้วนึกถึงวันที่ได้ไปดู  ได้เสพธรรมชาติ  ได้กลิ่นธรรมชาติ  ได้เสียงของธรรมชาติ  ที่ไม่มีอะไรปรุงแต่งเลยย  มันมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูกก

16:30. น.  ถึงเขตที่พักแล้วววววว  แต่ว่าขอเลยขึ้นไปไร่ชาลุงเดชก่อนนน  คนเยอะอีกแล้ววว  555 

ข้างบนคาเฟ่คนเยอะพอสมควร เราเลยถ่ายรูปมาได้นิดหน่อย กะว่าเดี๋ยวมาพรุ่งนี้แล้วกันนน

เลยกลับไปที่พัก ไปจริงๆ แล้วครานี้ไม่แวะละ  5555

       ขาลงมาจากไร่ชาลุงเดช  จะมีแยกเล็กๆ ขวามือเลี้ยวเข้าไปเลยค่ะจะผ่านหมู่บ้านของชาวบ้านขึ้นไป เรื่อยๆๆ  ยิ่งเข้าไปลึกทางยิ่งแบบวังเวง ถนนคอนกรีตที่แตกขอบๆ ทาง  ขับไปเรื่อยๆ ก็เจอทางชัน ชันแบบต้องเอนตัวไปข้างหน้าเพื่อบิดส่งแรงให้รถผ่านไปได้ 555  ขับไปลุ้นไปเด้อออ  เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาาา จนเริ่มเห็นจุดหมายไกลๆ ละ หลังคาสีแดงใช่แน่นอนน  ขับขึ้นไปอีกหน่อยยยย  เย้!!!!  ในที่สุดก็ถึงแล้ววววว  ต้องแบบจอดรถดีๆ เพราะทางถนนค่อนข้างจะแคบเหมือนกัน แถมทางไม่เรียบนะจ้ะ สโลฟจ้าาาา


@ธรรมดาโฮสเตย์

         จะมีคุณป้ามาต้อนรับ  และพาไปที่พัก  เราจะได้พักบ้านหลังสุดท้ายพอดี  555  เหงาๆ อยู่นะ  ไปดูห้องพักกันนนน

ห้องน้ำมีวิวให้ดูด้วยนร้าาาา  อาบไปสดชื่นไปเลยจ้าา

       สักพักนึงคุณป้าก็เอาขันโตกข้าวเย็นมาให้  วางถ่ายรูปสักหน่อยยยย

     เมนูก็จะมี  ยำผักอะไรสักอย่างอร่อยมากกกก  ผัดกะหล่ำปลีอร่อยมากกก  น้ำพริกหนุ่มอร่อยมากกก  และต้มยำปลาอร่อยมากกกกกก   หมดนี่กินคนเดียวนะ  ป้าบอกว่าถ้ากิน  2  คนกำลังดีเลยลูกก

     แต่ลูกมาคนเดียวกินให้หมดนะ  มีหมูกระทะด้วยนะลูกก  555    แล้วๆ ป้าๆ ก็กลับไป ให้เราอยู่กับขันโตกอันบะเร่ออออ

      กินข้าวเย็น กับบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้าาา  โอ๊ยยย  ดีย์ต่อใจไปหมดซะทุกอย่างง  แถมกินหมดด้วยนะ บอกแล้วว่าอร่อยมากๆๆๆๆๆๆ

       

         เนื่องจากมีรุ่นน้องรีวิวที่นี่ไว้ว่าดาวสวยมากกกก    (เราก็มาตามน้องนี่ล่ะ )  รอช้าอยู่ใยตั้งกลล้ งไว้เลยจ้ะ รอดาวว บนเพลงครอเบาๆๆ  กับเสียงของธรรมชาติ สิ่งที่ได้มาก็ ได้แค่นี้เองงงง  

       ~  แต่เราเชื่อว่าธรรมชาติตรงหน้า  ถ่ายออกมาด้วยกล้องที่ดีแค่ไหน ก็สู้การเห็นด้วยตาไม่ได้  ~

นี่คือดาวจริงๆ นะไม่จกตาเลยยยย  

         ได้ดาวแล้วก็พร้อมเข้านอน  ระหว่างการนอน  แอบคิดด้วยนะ จะมีผีไหมเนี้ยยย  มันเงียบมากๆ จะมีเสียงธรรมชาติ  แล้วก็เสียงน้ำหยดของแท้งน้ำที่อยู่ข้างๆ  จนผล่อยหลับไป

#ฝันดีวันแห่งการเดินทาง

#15-12-2019#

            สวัสดีเช้านี้จ้าาาาา  6  โมงเช้าคือเราตื่นนน  วิวที่เห็นตรงหน้าเลยก็คือหมอกที่ลอยอยู่บนยอดเขา จะเรียกทะเลหมอกก็ได้  อากาศดีมากกกกกกก   พื้นระเบียงข้างนอกคือน้ำค้างลงจนเปียกก  นอนดูหมอกสักพักนึงงง

          พอถึงเวลาอันสมควรเราก็เก็บของทุกอย่างไปยังจุดทานอาหารเพื่อรอทานอาหารเช้า  ก็จะเป็นข้าวต้มร้อนๆ กับกาแฟสด ที่คุณป้าๆ ให้ทำเองง ซึ่งคุณป้าๆ ก็ยังไม่ข้องง

กินข้าวเช้ากับหมอกกกกกกกกก  แกร๊  มันดีแค่ไหนคิดดู๊ววววว

          เรากะไว้ว่าจะออกเดินทางสัก  8  โมงครึ่ง เสียดายมากที่ต้องออกเช้าา  ยังไม่ได้ชื่นชมบรรยากาศดีๆ อย่างเต็มที่เลยย  เพราะต้องขึ้นเครื่องเที่ยงง กลัวจะกลับเข้าเมืองไม่ทัน เดี๋ยวตกเครื่องมานี่งานหยาบเลยล่ะ  มีความใช่ป่ะละว่าทำไมไม่จองเครื่องกลับช่วงเย็น  นั่นก็เพราะว่าตอนเย็นเราต้องกลับมาทำงานต่อยังไง  เที่ยวก็จะเที่ยว งานก็ต้องทำนะจ้ะ   
           เนื่องจากแถบนี้ชาวบ้านเขาปลูกกาแฟกันที่พักก็มีแชกาแฟขาย เราก็จัดมาเลย   3-4 อย่าง ใบชง ใบชาด้วย ยัดจนเต็มกระเป๋าาา  555   ถึงเวลาแล้วซิ เวลาที่ต้องจากสิ่งที่ทำให้ชีวิตสดชื่นนน  เอาละออเดินทางกันเล๊ยยยยยย        

            แต่เรื่องสุดประทับใจอยู่ตรงตอนกลับนี่แหละทู้กคนนนนนนนนน  เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยยย ใครจะไปคิดว่าจะได้เจออะไรแบบนี้    ทู้กคนนนเราขี่เจ้าสองล้อฝ่าหมอกลงมาข้างล่างงงงงง  โอ๊ยยยย  หมอกแบบมองไม่เห็นถนนอ่ะแกร๊   ไปดู้ววววว  

ประทับใจช็อตนี้มากที่สุดเลยยย  มากว่าใดๆ ทั้งปวงจริงๆๆๆๆ  

       หลังจากเก็บภาพความประทับใจเหล่านี้ใส่ในความทรงจำแล้ว  เราก็ยิ่งยาวววววว เพื่อไปสนามบินเลยย ตอนแรกกะจะแวะสวนดอกไม้ แต่กลัวเวลาไม่ทัน เลยขอผ่านไปก่อนดีกว่าาาา  

       จบลงแล้วจ้าาาาา  ทริปเที่ยวเชียงใหม่คนเดียวของเราา  เราตั้งใจเขียนมากเลยยนะ เวลาผ่านมาแล้ว 2 ปี แต่เรายังจำรายละเอียดต่างๆ ได้อยู่เลยย  มันอยู่ในความทรงจำของเราเสมอ………………

      ขากลับผ่านสวนส้มม  ของถ่ายเจ้าสองล้ออีกสักหน่อยยยย   ไหนสวนส้มใช่ไหมม  อยู่ข้างหลังเราอ่าา ~~



       ขอบคุณทุกคนมากคร๊าาา  ที่อ่านเรื่องราวของเรามาจนจบบ  ปิดท้ายด้วยภาพรอยยิ้มของเรานะทู้กกคนนนนนนนนนน  ❤️  
           

สรุปค่าใช้จ่ายของทริปนี้นะทู้กคนนนน เก็บทุกเม็ดเลยเด้ออออ

ค่ารถตู้ไปกลับ 200

ค่าน้ำแตงโมสนามบิน 80

ค่าเช่ารถมอไซต์ (300*2) 600

ค่ำน่ำมัน (80+80) 160

ค่าลอตเตอรี่ 200 + 180

ค่าอาหารที่บ้านข้างวัด 70+35

ค่ากาแฟ pete 50

ค่ากาแฟ brewginning 90

ค่าครีม 60

ค่าข้าวมันไก่ที่จอมทอง 45

ค่า 7-11   100

ค่ารถขึ้น ดอย + ค่าเข้า 1000

ค่าของฝาก ชาแม่ 200 + สตรอ 150 + สตรออบ 180

ค่ากาแฟนอนเหนือ 50

ค่ากาแฟ the Baristro   85

ค่ากาแฟดริป 450 + ชาเขียว 100

(4,085)

ตั๋วบินไปกลับ 1600

ที่พักคืนที่ 1 Fellow 340

ที่พักคืนที่ 2 นอนเหนือ 565

ที่พักคืนที่ 3 ธรรมดา โฮมสเตย์ 1,300

(3,805)


            



Fai Faithafi

 วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 02.27 น.

ความคิดเห็น