ได้ไปเที่ยวบาหลี เมื่อวันที่ 16-19 พ.ค. โดยได้รับการเชิญชวนจากทางคลับเมดให้ไปลองพักดู และเป็นครั้งแรกของเราที่คลับเมดครับ



Club Med เป็นรีสอร์ตหรูแบบ all-inclusive (รวมหมดทุกอย่างแล้ว) ก็คือค่าห้องที่จ่ายมานี่จะรวม ค่าที่พัก,ค่าอาหารทุกมื้อตลอดทั้งวัน,เครื่องดื่มทุกชนิดและกิจกรรมต่างๆตั้งแต่เช้าจนถึงดึกดื่น ไว้ให้หมดแล้ว และ Club Med มีทั้งหมด 80 รีสอร์ททั่วโลก อยู่ในเมืองสำคัญๆต่างๆ และในประเทศไทยก็มีที่จังหวัดภูเก็ตด้วยครับ



เอกลักษณ์อีกอย่างของคลับเมดที่ไม่เหมือนรีสอร์ตทั่วไปก็คือที่นี่จะมีเหล่าบรรดา G.O หรือ Gentle Organizer พนักงานที่มีความสามารถที่หลากหลาย จากหลากหลายประเทศและหลายเชื้อชาติ ที่ทุกคนล้วนแต่เป็นบุคลาการที่ทุ่มเทและอุทิศตนในการให้บริการแก่ลูกค้าด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยม โดยทำหน้าที่เติมสีสันแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรม ใกล้ชิดแขกและคอยให้คำแนะนำ รวมถึงสร้างความสุขให้แก่แขกที่มาเยือนซึ่งมึความพิเศษและความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองและพบเจอได้เฉพาะคลับเมดเท่านั้น


มาดูกันครับ ว่าที่นี่จะเป็นไง สำหรับเรานี่กินดื่มกันตลอดทั้งวันและปาร์ตี้ทุกคืนเลยครับ



ขอบคุณครับ



แม่ประนอม นะจ๊ะโปรแกรมเราก็ตามนี้ครับ ได้รับการสนับสนุน จากสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ และคลับเมดครับ

ตารางการเดินทางครับ


เรียนรู้กันซักนิดก่อนเดินทางครับ


ภาษาบาหลีวันละคำสองคำซักหน่อยครับ ได้เที่ยวสนุก


อีกสิ่งที่เตรียมไปสำหรับการติดต่อกับโลกโซเชี่ยว ก็คือพ๊อกเกตไวไฟ ซึ่งเจ้านี้มีของอินโดนีเซียด้วย


ก็จัดไปให้ส่งตรงมาที่บ้าน เพราะเคาเตอร์เค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดตอน 6 โมงเช้า เราไปถึงก่อนไม่ทันเค้าเปิด

เวลาคืนก็ใส่ซองที่เค้าเตรียมมาให้แล้วไปส่งไปรษณีย์เลย

ถึงเวลาก็ไปเช็คอินกันครับ


ออกตามเวลาเป๊ะครับ


ภายในเครื่องบินครับ เป็นแบบแถวข้างละ 3


ใคคอยากได้ที่นั่งกว้างๆ ตรงประตูฉุกเฉิน ไปขอตอนเช็คอินไม่เสียตังค์ครับ


นั่งดูหนังไป 1 เรื่องพอดีถึงครับ


อาหารบนเครื่องอร่อยครับ


ถึงมาเลย์แล้วครับ ก็รอต่อเครื่องไปบาหลีต่อครับ


ช่วงรอต่อเครื่อง น้องพนักงานมาเลเซียแอร์ไลน์ ได้พาเราไปลองใช้บริการที่เลาท์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากประตูขึ้นเครื่อง


ภายในก็หรูหราดี อาหารก็อร่อยครับ

พอได้เวลา ก็ขึ้นเครื่องไปบาหลีต่อกันครับ


เครื่องรุ่นแบบเดิมครับ


รุ่นนี้ครับ


หน้าตาอาหารเที่ยวนี้ครับ อร่อยถูกปากครับ กินกันตลอดๆเลยครับ


ถึงแล้วครับ


สนามบินบาหลีครับ ดูดีสะอาดใหม่ดีครับ



สนามบินงูห์ราลัย เกาะบาหลี เมืองเดนพาซาร์เมืองเอกของเกาะบาหลี

รถที่มารับเราครับ ทริปนี้มาด้วยกัน 16 คนครับ มีทัวร์พาไปเที่ยวด้วยครับ


ออกจากสนามบินก็เดินทางลงไปทางใต้สุดของเกาะ ไปเที่ยว วัดอูลูวาตู



Pura Uluwatu วัดที่ตั้งอยู่บนสุดปลายหน้าผาที่สูงตระหง่านเหนือมหาสมุทรอินเดีย เป็นวัดหลักประจาท้องทะเลที่ชาวบาหลีแทบทุกคนเคารพบูชา สองข้างของวัดมีทางเดินเลียบเลาะหน้าผาด้ชมความงามของหน้าผาสูง เห็นคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นประกายฟองสีขาวนวลตัดกับท้องทะเลสีคราม มาชมพระอาทิตย์ตกทะเล ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่ง



แล้วก็ชมระบำไฟ Kecak Dance หรือ Kecak Fire Dance เป็นการแสดงที่ปรับมาจากการร่ายรำดั้งเดิมของบาหลี โดย Wayan Limbak ร่วมกับจิตรกรชาวเยอรมันชื่อ Walter Spies คิดค้นและปรับปรุงการร่ายรำนี้ในปีค.ศ. 1930 ซึ่งเป็นการร่ายรำที่มีการใช้ไฟมาประกอบ และเดินเรื่องด้วยวรรณกรรมฮินดูเรื่องรามายณะ ซึ่งจะมีการแสดงทุกคืนเวลา 18.00 น. เป็นเวลา 1 ชั่วโมง



พระอาทิตย์ที่นี่ครับ สวยไม๊ครับ


แล้วก็มาทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารซีฟู๊ดที่หาดจิมบำรัน ร้านนี้ครับ


เอาเมนูมาให้ดูด้วยครับ


คำนวนราคากันเองนะครับ อุตราแลกเปลี่ยนที่ หมื่นละ 27 บาท


บรรยากาศครับ


อันนี้เค้าจัดเป็นเซ็ตๆให้คนละชุดครับ มีข้าวด้วยครับ


พออร่อยหน่อยครับ แต่ไม่ถูกปากเราเท่าไหร่(ความชอบส่วนบุคคลครับ อาจไม่เหมือนกัน แต่ในคณะหลายคนบอกว่าชอบครับ)

เสร็จแล้วก็ตรงดิ่งไปโรงแรมเลยครับ


ไปถึง เหล่าบรรดาจีโอไฟแรงๆก็มายืนต้อนรับกันครับ อบอุ่นตั้งแต่มาถึงเลยทีเดียว

มารวมกันเช็คอินตรงนี้ครับ


บรรดาจีโอก็ทำความรู้จักกัน ผูกข้อมือกันครับ


แต่สายข้อมือนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของแขกที่มาพักที่นี่ครับ เพื่อไว้ตอนไปใช้บริการต่างๆในรีสอร์ต พนักงานจะได้รู้ว่าเป็นแขกที่สามารถกินดื่มฟรีได้ทั้งหมด จะได้ไม่ต้องมาคอยถามเช็คเบอร์ห้องให้เสียความรู้สึก

แล้วก็รับคีย์การ์ดไปเข้าห้องกันครับ


มาดูห้องที่เราพักกันครับ


ห้องก็กว้างขวางดีครับ


ที่นี่เค้าจะมีโชว์การแสดงทุกคืนเวลา 21.30 น.เป็นเวลา 1 ชั่วโมง การแสดงจะเปลี่ยนไปทุกวันไม่ซ้ำกัน เรามาถึงก็ยังทันได้ดู นักแสดงก็คือเหล่าบรรดาจีโอทั้งหลายละครับ


ดูโชว์ได้แป๊ปนึง ไปหาไรกินดีกว่า เมื่อกี้กินมาไม่อิ่มเท่าไหร่


ก็เลยมาอาศัยแก้หิวที่ห้องอาหาร The Deck นี้

ที่นี่เค้าจะเสริฟอาหารแบบเมนูตามสั่ง แต่ห้องอาหารนี้มื้อดินเนอร์ต้องจองล่วงหน้า 1 วันครับ เพราะเค้ามีที่จำกัด

ของเราทางนี้เค้าจองไว้ให้ก่อนแล้วครับ

อาหารแบบว่าอร่อยมากครับ นึกแล้วยังน้ำลายไหลอยู่เลยครับ


อิ่มแล้ว ไปหาไรจิบชิวๆริมหาดดีกว่าครับ


แล้วก็ไปต่อที่บาร์ดีกว่า เพราะพอชบโชว์ ก็จะมาปาร์ตี้กันที่บาร์นี้ครับ


เครื่องดื่ม เลือกสั่งได้เต็มที่เลยครับ น้องๆเค้าชงเต็มที่เลยครับ ฟรีตลอดๆ แต่เมนูพรีเมี่ยมบางอย่างที่ต้องเสียตังก็อย่าไปสั่งครับ


น้องจีโอคนสวยจัดให้ครับ


บรรดาเหล่าจีโอก็เรียงแถวรอต้อนรับแขกที่ดูโชว์จบ ซึ่งก็จะมาพร้อมๆกันครับ


มาดูปาร์ตี้กันครับว่าสนุกแค่ไหน


บรรดาเหล่าจีโอที่ทำความรู้จักกับเรา ก็จะมาชวนเต้นชวนสนุกด้วยครับ สนุกและเ้ป็นกันเองมากๆ


วันนี้มีคนไทยมากันเยอะ เค้าเลยเปิดเพลงด้านซ์เพลงไทยด้วย ซึ่งก็สนุกมากจริงๆ


มาดูคลิปกันว่าสนุกแค่ไหน


บาร์ตรงนี้ปาร์ตี้จบตอนเที่ยงคืนครับ แต่ไม่เป็นไรเราไปปาร์ตี้กันต่อที่บาร์ริมหาดครับ อันนั้นเค้าต่อถึงตี 2 ครับ

ตรงนี้เครื่องดื่มอาจไม่หลากหลายเท่าบาร์ใหญ่ แต่ความสนุกไม่ได้แตกต่างกันเลยครับ


ความฟินของแต่ละคนครับ


ตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้นครับ


วันนี้เรามีโปรแกรมทัวร์ออกไปเที่ยวเต็มวัน แต่ใจจริงๆไม่อยากออกไปไหนเลยครับบาหลีเราเที่ยวมาหมดแล้ว เพราะที่นี่มีกิจกรรมตลอดทั้งวัน

แต่เก็บไว้วันพรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้ไปกะทัวร์ก่อนก็ได้

ดูบรรยากาศในคลับเมดซักนิดเนอะ เมื่อคืนมาดึกไป ไม่เห็นอะไร

มาทานอาหารเช้าก่อนออกไปทัวร์ที่นี่ครับ


อันนี้เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม Agung_Main Restaurant ให้บริการอาหารแบบบุฟเฟ่ทั้ง 3 มื้อครับ จุคึนได้ประมาณ 650 คน

หาที่นั่งกันก่อนครับ


ไลน์อาหารที่นี่ใหญ่โตมากครับ เพราะให้บริการกับแขกทุกคนที่เข้าพัก อาหารก็เลยหลากหลายมาก


อิ่มข้าวเช้าแล้ว ก็ออกตะลุยเที่ยวบาหลีมั่งครับ



จุดแรกที่จะไปกันคือ ปุรากัวกาจาห์ (Pura Goa Gajah) หรือ วัดถ้ำช้าง

ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวดัตช์ เมื่อปี ค.ศ.1923 มีสิ่งที่โดดเด่นคือแผ่นหินแกะสลักหน้าปากทางเข้าถ้ำ ลักษณะเป็นการเจาะจากด้านหน้าของหินผา มองดูคล้ายใบหน้าช้าง บางก็ว่าคล้ายยักษ์อ้าปากกว้าง

ชาวบาหลีเชื่อว่าคือปากของปีศาจร้าย ภายในถ้ามีรูปปั้นศิวลึงค์ 3 แท่ง แทนเทพ 3 องค์ คือ พระศิวะ พระนารายณ์ พระวิษณุ ตามความเชื่อของฮินดู ด้านหน้าปากถ้าเป็นสระศักดิ์สิทธิ์ มีน้าไหลพุ่งจากปากปล่อง

ค่าเข้าคนละ 15000 รูเปีย


ต้องใส่สโหร่งก่อนเข้าไปนะครับ มีให้ยืมฟรี


ไปดูกันครับ


ต่อไปเราก็ไปชม บ่อน้ำศักดิ์ ธีร์ตะอัมปุล (เทมภัคศิริงค์) สร้างในศตวรรษที่ 13


ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาในราชวงศ์กษัตริย์เท่านั้น บ่อน้าศักดิ์สิทธิ์นี้มีต้นน้ามาจากภูเขาไฟ ซึ่งชาวบาหลีปัจจุบันก็ยังมีความเชื่อว่า เมื่อใครได้อาบน้าศักดิ์สิทธิ์นี้จะสามารถรักษาโรคภัยและจะทาให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

ค่าเข้าคนละ 15000 รูเปียอีกเหมือนกัน


อย่าลืมนุ่งสโหร่งเหมือนเดิมนะครับ


แล้วก็เข้าไปชมกันครับ


ขากลับเดินออกอีกทาง ขาช๊อปน่าจะชอบนะ เพราะมีของให้เลือกซื้อมากมายแถมถูกมาก แต่ต้องต่อแรงๆหน่อยนะ


ชุดนี้ต่อมาจนได้ที่ 75000 รูเปีย ก็ไม่ถึง 200 บาทดีนะ


มื้อเที่ยง เรามาทานอาหารกันที่ หมู่บ้านคินตามณี (Kintamani)


ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ปากปล่องภูเขาไฟ กุนุง บาตูร์ และทะเลสาบบาตูร์ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของบาหลี

ที่หมู่บ้านนี้จะมีร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต้งอยู่หลายร้าน มาทานบุฟเฟ่แล้วมีฉากภูเขาไฟสวยๆให้ดู ก็ฟินไปอีกแบบครับ

ราคาบุฟเฟ่ไม่แพงครับ แต่รสชาติก็ธรรมดาๆอาศัยวิวสวยๆก็โอเหมือนกันครับ

ต่อไปก่อนกลับโรงแรม เราไปเที่ยววัด ปูราเบซากีห์ (Pura Besakih) วัดฮินดูที่สาคัญที่สุดและใหญ่ที่สุดบนเกาะบาหลี



วัดเบซากีห์ ถือเป็นวัดแม่ Mother Temple ของทุกวัดบนเกาะบาหลี เป็นวัดที่มีความงดงามและมี เอกลักษณ์โดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม มีวัดอื่นรายรอบ 23 วัดตั้งลดหลันกันไปตามไหล่เขา โดยมี วัดเปนาทารัน (Pura PenataranAgung) ตั้งเป็นประธานอยู่ตรงกลาง ทุกๆวันจะมีศาสนิกชนมาประกอบพิธีกรรมและทุกๆคนจะต้องแต่งกายตามธรรมเนียมปฏิบัติของชาวบาหลี



แล้วเราก็กลับมาทานมื้อเย็นกันที่โรงแรมครับ ก็มาทานกันที่ห้องอาหารเดิมที่มีจัดบุฟเฟ่ครับ


บรรดาเหล่าจีโอก็มาคอยต้อนรับกันที่หน้าห้องอาหารครับ

หาที่นั่งเหมาะๆนั่งกันครับ


ไลน์อาหารอลังกาลสุดๆครับ


ต่ออาหารอีกซักโพสนะครับ แบบว่าสถานีอาหารเยอะจริงๆ


แล้วก็ไม่ต้องตกใจนะครับ ถ้ามีหนุ่มหล่อๆหรือสาวสวยๆมาขอนั่งร่วมโต๊ะด้วยนะครับ


เพราะเป็นกฏของคลับเมดครับ ที่จีโอทุกคนต้องมาทานอาหารร่วมกับแขก โดยต้องขออนุญาติแขกก่อนครับ

ซึ่งเราก็ได้เพื่อนใหม่ๆต่างเชื้อชาติก็ตรงนี้แหละครับ ตกดึกก็ได้ไปปาร์ตี้สนุกกันเลยครับ



สาวร่วมทริปเรา ก็ได้จีโอรูปหล่อมานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนด้วย ยันไปถึงปาร์ตี้ดึกๆเลยครับ


พออิ่มแล้ว ก็เข้ากิจวัตรเดิมครับ


จะลงสระซักหน่อย หรือหาอะไรดื่มตามชายหาด หรือดูโชว์แล้วต่อปาร์ตี้ยันตี 2 เลยก็ได้นะ อิ อิ

ตื่นเช้ามาอีกวัน วันนี้เราตื่นสายหน่อย เพราะไม่ต้องออกไปไหนกินเล่นอยู่ในโรงแรมทั้งวันเลยวันนี้


ไปทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ไม่ทัน 10 โมง ก็เลยมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารนี้แทน

ซึ่งเสริฟเป็นแบบตามสั่ง ห้องอาหารนี้จะเปิดหลัง 10 โมงถึงเที่ยง

ให้บริการอาหารเช้าสำหรับแขกที่ทานไม่ทันห้องอาหารหลัก

+



ดูเมนูแล้วเลือกสั่งกันเต็มที่เลยครับ


สั่งกันแบบไม่เกรงใจเลยครับ อิ อิ


บรรยากาศครับ ชิวมากเลยครับ


อิ่มแล้วไปดูตารางกิจกรรมกันครับ


แต่ว่าขอนั่งดื่มชิวๆย่อยอาหารก่อนแป๊ปนะครับ


อันนี้ทางโรงแรมเค้าพาไปชมห้องพักแบบอื่นๆครับ เลยเอามาให้ชมกันครับ


เป็นห้องแบบดีลักซ์ครับ

ห้องก็คล้ายๆกับห้องที่เรานอน แต่มีระเบียงเปิดออกไปข้างนอกได้


อันนี้เป็นห้องดีลักซ์แบบที่เค้ารีโนเวทใหม่ครับ ซึ่งเค้าก็คงจะทยอยๆปรับปรุงไปจนครบทุกห้องครับ


อันนี้คือศูนย์กิจกรรมทางทะเลครับ ใครเล่นไม่เป็นเค้ามีจีโอคอยสอนตามเวลาครับ สนใจมาลงชื่อไว้ก่อน และมีไปดำน้ำด้วยนะ


ฟรีทุกรายการครับ

กฏกติกามารยาทครับ


สำหรับใครที่ไม่ชอบกิจกรรม ก็หามุมชิวๆดื่มกันตามสบายเลยครับ


ที่หน้าหาดก็มีซุ้มบาร์ไว้บริการเครื่องดื่มฟรีตลอดๆครับ

อันนี้ครับ บาร์หน้าชายหาด สั่งคอกเทลจิบหน้าหาดได้ทั้งวันเลย


สายๆหน่อย ตรงสระน้ำก็มีกิจกรรมเต้นแอโรบิกในสระครับ


มื้อเที่ยง เราหิวเอาตอนบ่าย 2 ซึ่งก็ต้องมากินที่ห้องอาหารนี้เหมือนเคยครับ


เพราะบุฟเฟ่ที่ห้องอาหารหลักเค้าปิดตอนบ่าย 2 และที่นี่เปิดหลังจากที่ที่โน่นปิด

ซึ่งเราก็ชอบทานที่นี่มากกว่า ดูหรูดี และบรรยากาศดีด้วยอะซิครับ


มาดูเมนูกันครับ


อาหารอร่อยถูกปากอีกตามเคยครับ


อิ่มละ ไปหาอะไรเล่นกันดีกว่าครับ


ไปยิงธนูกันดีไม๊ครับ เล่นได้ไม่จะกัดเลยครับ แต่ยิงแล้วต้องไปเก็บลูกธนูเองนะครับ แล้วเอามายิงต่อได้ตลอดๆครับ


หรือจะตีสคว๊อตดีครับ


หรือจะเต๊ะบอลดี


เทนนิสก็ได้นะ


ขาตีกบคงจะชอบครับ ที่นี่มีอุปกรณ์ให้ยืมครบเลยครับ แต่ไม่มีถุงมือและรองเท้าให้ยืมนะ อย่าลืมพกมาด้วยนะครับ


มีที่ให้ซ้อมระเบิดทรายก่อนออกรอบด้วยนะ


เป็นสนามพาร์ 3 ทั้งหมด 6 หลุมก็สนุกพอแก้ขัดได้ มีจัดกิจกรรมตามเวลาครับ


สนามสวยใช้ได้เลยครับ


ฟิตเนสกับโยคะครับ


ใครชอบเต้นแอโรบิกก็มาให้ตรงตามเวลานะจ๊ะ


ใครชอบห้อยโหนก็ตรงนี้เลย มีอาจาร์ยสอนซึ่งก็เป็นจีโอที่สอนละครับ


4 โมงครึ่งหน้าหาดก็มีบาร์บีคิวครับ


เหล่าจีโอบางส่วนก็แปลงร่างเป็นพี่เลี้ยงเด็ก มาเล่นเป็นเพื่อนเด็กๆกันครับ


รับใส่กรอกย่างกับจีโอหนุ่ล่ำบึกซักไม้ไม๊ครับ


สำหรับใครที่ชอบความสงบเงียบ ก็มีสระน้ำอีกแห่งที่ห้ามเด็กมาเล่น ตั้งอยู่ด้านในของรีสอร์ตครับ


ที่นี่มีเรทราคาสำหรับบุคคลภายนอกที่อยากมาใช้บริการโดยที่ไม่ได้พักที่นี่ ตามนี้เลยครับ


ก็เลือกจ่ายตามช่วงเวลาเลยครับ สิทธิประโยชน์ก็เหมือนแขกที่เข้าพักเลยครับ กินดื่มฟรีตามช่วงเวลาที่เข้ามาใช้บริการครับ


วันกลับครับ เหล่าจีโอที่เปี่ยมด้วยพลัง(ชุดขาว)ก้มาส่งกันหน้าดรงแรมครับ


ก็ล่ำลากันด้วยความอาลัยอาวรณ์ เพราะตลอดเวลาของการเข้าพัก เราได้ทำความรู้จักกันสนิทสนมกันเหมือนเพื่อน เหมือนมาเข้าค่ายด้วยกันเลย เฮฮาปาร์ตี้กันตลอดเวลา


ขากลับ ก็แน่นอนว่าบินกะมาเลย์เซียแอร์ไลน์


ขากลับอาหารบนเครื่องอร่อยแถมมีไอศครีมมาให้ด้วยครับ


แล้วก็จบแล้วครับ รีวิวซะยาวยืดเลย หวังว่าคงไม่เบื่อกันนะครับ


ขอบคุณที่ติดตามครับ



แม่ประนอม ครับผมG.O ย่อมาจาก Gentle Organizer ครับ

แม่ประนอม

 วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 00.17 น.

ความคิดเห็น