กลับมาอีกครั้ง กับการ "รีวิวโรงแรม"
ในเมืองหลวงบ้าง นอกเมืองหลวงบ้าง แล้วแต่ว่าช่วงนั้นสะดวกไปไหน

รอบนี้กลับมาพักที่โรงแรมกลางกรุง ในเมือง ย่านธุรกิจอย่าง "เพลินจิต"
หากใครเคยขับรถผ่าน พอเดาได้ว่าถนนเส้นนี้มีความเป็นเมืองและความสงบในเวลาเดียวกัน
ซึ่งโรงแรมที่เลือกพักครั้งนี้ คือ Conrad Bangkok โรงแรมหรูห้าดาว ใจกลางเพลินจิต ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับตึก All seasons ใจกลางเมืองนั่นเอง

กล่าวถึงที่มาที่ไปนิดนึง..
ด้วยความจำเป็นต้องทำธุระประปราย เลยต้องการที่พักที่สามารถพักผ่อนได้เต็มที่ มีอ่างเพราะชอบแช่มาก ยิ่งเวลาเมื่อยๆและได้ลงอ่างน้ำอุ่น คือมีความสุขสุดๆ ต้องการที่ที่มีอาหารเช้า เพราะไม่ต้องการจะออกไปไหนเลย นอกจากอยู่ในโรงแรมยาวๆไปจนกว่าจะเช็คเอาท์

หาข้อมูลเรื่อยๆ มีโรงแรมเข้ามาในลิสต์ในหัวนั่นก็คือคอนราด ซึ่งก็จะรู้ๆกันอยู่แล้วว่าเป็นโรงแรมห้าดาว มาตรฐาน Hilton นั่นเอง.. อะ ไหนๆละ ลองซักหน่อยดีกว่า


  • booking

การจองโรงแรมครั้งนี้ jnmjny ใช้วิธีการจองตรงกับโรงแรม โดยการซื้อ e-voucher ผ่าน official LINE ของโรงแรม เนื่องจากเห็นราคาดีงาม และมีข้อเสนอที่น่าสนใจ 

ซึ่งการจองผ่านไลน์ของโรงแรมนั้น ได้ทำการซื้อ e-voucher ผ่าน LINE shopping จากนั้นทักข้อความไปยังไลน์ของโรงแรมเพื่อระบุวันที่เข้าพัก โดยสามารถทำได้ล่วงหน้า อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการเข้าพัก ซึ่งทางโรงแรมจะขอข้อมูลในการทำการจองห้องพัก ประกอบไปด้วย ชื่อ สกุล เป็นภาษาอังกฤษ อีเมลล์ ชนิดห้องพักที่ต้องการ ขนาดเตียง จำนวนแขกเข้าพัก วันที่ต้องการเช็คอินและเช็คเอาท์ และ h-hornor (ระบบสมาชิกของ Hilton, ถ้ามี) 

จากนั้น ทางโรงแรมจะแจ้งข้อมูลกลับมาในแชท และทางอีเมลล์เพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลในการเข้าพักของเรา .. แนะนำว่าหากต้องการอะไรเพิ่มเติม เช่น ระบุโซนห้องพัก เวลาเช็คอิน หรือต้องการอะไรเป็นพิเศษ ให้แจ้งได้เลยกับทางแชท อย่างเช่นเรา ต้องการเข้าพักในช่วงดึก เพราะติดธุระ ก็แจ้งกับทางโรงแรมไว้ตั้งแต่จองว่าเราจะเข้าเช็คอินเวลาดึกๆนะ .. จบ ง่ายๆ รอวันเข้าพัก

  • checking in

อย่างที่ได้บอกแล้ว ว่าเราระบุเวลาที่ต้องการเช็คอินไว้ช่วงดึกตั้งแต่ขั้นตอนของการจองแล้ว พอไปถึงที่พัก ก็ได้จัดการจอดรถ (สำหรับแขกที่มาพัก ต้องลงไปจอดในชั้น B2 ของตึก) และนำบัตรจอดรถขึ้นมาด้วยเพื่อทำการสแตมป์บัตรจอดรถ ซึ่งตรงนี้ ทางลงไปลานจอดรถค่อนข้างซับซ้อน จริงๆคือขับวนตามป้ายไปเลย ง่ายสุด แล้วหาทางขึ้นลิฟท์เดินไปล็อบบี้ หรือจะจอดหน้าประตูและให้สตาฟขับลงไปให้ก็ได้เช่นกัน

จากนั้นก็เช็คอินเหมือนโรงแรมทั่วไป ใช้บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางในการระบุตัวตน กรอกข้อมูลหรือเอกสารนิดหน่อย ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนเท่านั้นล่ะ (แต่ในการเข้าพักครั้งต่อไป ทางโรงแรมจะมีข้อมูลของแขกในระบบแล้ว) จากนั้นเราก็ได้คีย์การ์ดเพื่อใช้ในการเข้าห้องพัก ใช้ลิฟท์ และเข้าห้องอาหาร(ในตอนเช้า)กันแล้ว เรียบร้อยแล้ว ไปกันเล้ยยยย พร้อมทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆแล้วววว


  • inside room

ห้องที่เราจองโดยใช้ e-voucher นั้น เป็นห้องชนิด deluxe king room (ระบุไว้ตั้งแต่ตอนที่ซื้อผ่าน line shopping) ซึ่งจริงๆแล้ว ห้องพักของที่นี่มีหลากหลาย เลือกได้ตามชอบกันเลย

  • deluxe (41 sqm)
  • premium (41 sqm)
  • executive (41 sqm)
  • grand premium (53 sqm)
  • Executive Suite (71 sqm)
  • Conrad Suite
  • Terrace Suite
  • Presidential suite

เอาเป็นว่าเยอะแยะมากกกกก จริงๆต้องการแบบไหน ลองถามสตาฟของโรงแรมตอนที่จองได้อีกที
ห้องที่ได้ขนาดกว้างขวางแบบไม่อึดอัดเลย
กว้างทั้งส่วนที่เป็นห้องนอนและห้องน้ำเลยแหละ ตกแต่งด้วยไม้ มีกลิ่นอายความเป็นไทยเจือๆอยู่ ดูได้จากของที่ตกแต่งในห้องและกิมมิคเล็กๆ ก็คือตุ๊กตาน้องช้างในอ่างอาบน้ำนั่นเอง

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง ถือว่าครบครันตามมาตรฐานห้าดาวนั่นแหละ เริ่มด้วยก้าวเข้าห้องมาด้วยคีย์การ์ด เดินเข้ามาในห้องแล้วนั้นก็จะเจอของใช้ไว้เสร็จสรรพ มีทั้งสลิปเปอร์ ชุดคลุมอาบน้ำ หมอนเสริม กาชงชาหรือกาแฟ แก้วน้ำสามแบบ ถังน้ำแข็งพร้อมที่คีบ ทีวีจอขนาดใหญ่เต็มตา มีผลไม้ต้อนรับที่ถูก wrap ไว้ให้เพื่อความสะอาด น้ำเปล่า และอื่นๆอีกมากมาย

ในส่วนของห้องพัก ก็มีส่วนที่เป็นโต๊ะและโคมไฟสำหรับนั่งทำงานเพลินๆยาวๆได้ พร้อมเก้าอี้ทำงาน herman miller ที่ทำให้เราๆสามารถนั่งทำงานสบายหลังได้ทั้งวันเลยล่ะ โต๊ะที่มีก็กว้างขวางสำหรับวางของและเอกสารได้เต็มๆเลย อีกทั้งยังมีส่วนที่เป็นโต๊ะกลางและที่นั่งโซฟาตัวใหญ่สำหรับนั่งเอนหลังนั่งดูทีวี ฟังเพลง หรือดูวิวเพลินๆ ซึ่งแยกสัดส่วนชัดเจนจากโต๊ะทำงานเลย


  • bathroom.. bath time

ห้องน้ำของที่นี่ถูกใจเรามากมาย เนื่องจากเป็นห้องน้ำที่กว้างขวาง แยกสัดส่วนชัดเจน โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน โดยรวมคือเป็นห้องน้ำที่ไม่ได้หนาวมาก อาบน้ำแล้วแอร์จากห้องพักไม่พัดเข้ามาทำให้หนาวเหน็บ สามส่วนนี้เป็นยังไงบ้าง มาดูกัน..

ส่วนแรก คือส่วนของหน้ากระจก ซึ่งมีการใช้ไฟที่สว่างและบริเวณซิงค์กว้างขวางในการใช้วางของใช้ในห้องน้ำ ซึ่งทางโรงแรมได้ให้สบู่ แชมพู โลชั่น คอนดิชั่นเนอร์ แปรงสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก มีโกนหนวด สบู่ก้อน และ vanity kit รวทถึงมีไดร์เป่าผม แก้วน้ำสำหรับแปรงฟัน และผ้าเช็ดมือวางไว้ตรงซิงค์ให้สามารถหยิบใช้ได้สะดวกๆ กระจกกว้างขวางสำหรับส่องหน้า และกระจกแบบขยายอีก เอาเป็นว่าเป็นซิงค์และกระจกที่กว้างขวางเห็นทุกมุมเลยทีเดียว

ส่วนที่สองของห้องน้ำ คือส่วนอาบน้ำ ซึ่งในที่นี้จะแยกส่วนที่เป็น shower กับ tub โดยสมบูรณ์ เอาเป็นว่าพูดถึงส่วนที่เป็นชาวเวอร์ก่อน มีที่เปิดปิดและปรับอุณหภูมิโดยมีที่ปรับสามอัน อันแรกสำหรับปรับเป็นชาวเวอร์ธรรมดา หรือแบบ rain shower ที่ปรับตรงกลางนั้นสำหรับการปรับอุณหภูมิของน้ำ และอันสุดท้ายเป็นการปรับระดับความแรงน้ำ ซึ่งจากการใช้งานจริงนั้น เป็นการหมุนที่คาดเดาไม่ยากนัก สามารถปรับให้อุ่นได้โดยที่ไม่หัวเสียแบบก๊อกน้ำแบบโยก เมื่อปรับระดับความอุ่นได้ตามต้องการ ครั้งต่อไปก็ปรับแค่ความแรงน้ำหรือรูปแบบการอาบน้ำได้เลย ..และในส่วนของอ่างอาบน้ำ ที่นี่อ่างค่อนข้างกว้าง กว้างแบบนั่งขวางอ่างได้สบายๆเลยแหละ ที่อ่างจะมีก๊อกอ่างและฝักบัวเช่นกัน ซึ่งสามารถเปิดม่านและนอนแช่อ่างดูทีวีได้ ปรับระดับความร้อนก็ไม่ยาก ซ้ายร้อน เย็นขวานั่นเอง

และส่วนสุดท้ายคือส่วนที่เป็นชักโครกขับถ่าย ซึ่งจะเป็นมุมใดมุมหนึ่งของห้องน้ำ เท่าที่สังเกต ห้องน้ำของโรงแรมเครือนี้ไม่มีสายฉีดชำระ นั่นก็ทำให้พื้นที่ตรงนี้แห้งตลอดเวลา แต่คนที่ไม่ชินก็อาจจะรู้สึกแปลกๆได้ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะที่นี่มีทิชชู่ไว้เพียงพอสำหรับการใช้ในห้องน้ำ


  • bed time

หลังจากแช่อ่างให้หายเมื่อยร่างจากการทำงาน เราก็ย้ายสสารมานั่งๆนอนๆบนเตียงนุ่มๆ ด้วยความที่เช็คอินดึก สตาฟเลย "เปิดเตียง" ให้เราไว้แล้ว นั่นก็คือการจัดเตียงแบบกลางคืน คือเปิดไฟหัวนอนไว้ ขวดและแก้วน้ำถูกวางไว้โต๊ะข้างหัวนอน และสลิปเปอร์วางไว้อยู่พื้นข้างเตียงแล้ว ด้วยความจัดเตียงแบบนี้ เราก็พร้อมทิ้งตัวนอน

ที่นอนที่นี่ นุ่มและดูดวิญญาณสมคำร่ำรือจริงๆ หมอนใบใหญ่ ใหญ่จนสามารถวางสองใบติดและใช้ความยาวสุดขอบเตียงหกฟุตได้ และหมอนอีกแบบที่วางทับอยู่บนหมอนใบใหญ่อีก รวมทั้งสิ้นบนเตียงสี่ใบ ซึ่งเคยได้ยินมาว่าหมอนที่นี่มีความยวบยาบ ซึ่งจริง ยวบๆ นุ่มๆ วางหัวลงไปละแน่น แต่ด้วยความที่เราชอบหมอนที่ค่อนข้างแบนและยวบ เลยไม่มีปัญหากับการนอนหมอนที่ยวบแบบนี้ สามารถทำให้เรานอนได้ครึ่งค่อนวันเลย ในส่วนของผ้าห่มนั้นก็หนากำลังดี ไม่หนักแบบที่นอนละอึดอัด แต่ก็มีน้ำหนักพอที่ทำให้รู้สึกว่าห่มผ้าอยู่ อีกทั้งผิวของผ้าปูนุ่มและหนาได้พอที่จะกลิ้งไปมาแล้วไม่ทำให้เกิดเสียงเสียดสีของผ้าจนทำให้รำคาญเวลานอน

ม่านของที่นี่มีสองชั้น เป็นม่านโปร่งแสงและม่านทึบใช้ในการบังแสงเพื่อการนอนหลับพักผ่อนได้เต็มที่ เต็มตื่น ซึ่งเราปิดมืดหมดเช่นกัน นอนจนเพลินตื่นสายหลับอิ่มกันเลยทีเดียว และในกลางวันก็แง้มม่านทึบออกและใช้ม่านบังแสงเพื่อรับแสงจากภาพนอกเข้ามารับแสงธรรมชาติกันบ้าง

  • breakfast

เล่าย้อนไปตอนที่เช็คอิน ฟอนท์โรงแรมจะทำการสอบถามเวลาที่เราต้องการทานอาหารเช้า และต้องการไปทานที่ห้องอาหารหรือให้เสริฟที่ห้อง ซึ่งเราเลือกที่จะ "ไปทานที่ห้องอาหารเช้า" ซึ่งจะจัดเป็นรอบ รอบละ 1 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เช้าจนรอบสุดท้ายคือ 10.00

ห้องอาหารเช้าของคอนราด อยู่ที่ชั้น 29 ซึ่งใช้คีย์การ์ดในการขึ้นลงลิฟท์และเข้าห้องอาหาร เมื่อไปถึงก็หามุมที่ชอบใจเพื่อดูวิวกรุงเทพได้ตามอัธยาศัย สตาฟจะนำเมนู "อาลาคาทและไข่" มาให้ เรามีหน้าที่เลือกว่าต้องการอะไร เมนูอาหารก็จะมีพวก burrito, burger, eggs benedict , salad นั่นนี่ (ซึ่งจำได้ไม่หมด) และเมนูไข่ ก็พวก ไข่ต้ม ไข่ดาว omelette ราวๆนี้ และเราก็สั่งว่าต้องการชาหรือกาแฟ

ในส่วนอื่นๆ เราก็สามารถเดินไปเลือกได้ด้วยตนเอง โดยมีทั้งอาหารเอเซียน หรือทางตะวันตก เช่น ชีสสไลด์ แฮม แซลมอนรวมควัน คอนเฟลค และอื่นๆอีกมากมายเช่นกัน (เอาเป็นว่าทานไม่กี่อย่าง เลยไม่ครอบคลุมทุกเมนู) ส่วนน้ำดื่มนั้นสามารถกดได้ด้วยตนเอง ก็มีน้ำเปล่า น้ำผลไม้ และน้ำอัดลม

  • overview

จากการที่เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ ที่ได้มาในราคาดีลที่ดีงามคุ้มค่าจากไลน์ของโรงแรม ถือว่าเป็นโรงแรมที่ทำดีลได้คุ้มค่าเหมาะแก่การทั้งพักผ่อนหรือนั่งทำงานเพลินๆ ก็คุ้ม สามารถใช้ชีวิตในโรงแรมยาวๆตั้งแต่เช็คอินยันเช็คเอ้าท์โดยที่ไม่ต้องออกไปไหน มีอาหารครบครันทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวันก็สามารถลงมาทานได้หรือสั่งจากรูมเซอร์วิสขึ้นไปทานบนห้องก็ได้ รวมถึงมีข้าวของเครื่องใช้ที่คุณภาพดี รู้สึกพรีเมียม อย่างเก้าอี้นี่คือดีมาก นั่งทำงานได้โดยไม่ปวดหรือเมื่อยใดๆ ส่วนหมอนและที่นอนนี่ดูดวิญญาณ นอนกันเพลินนอนชาร์ตแบตได้เต็มตื่นจริงๆ ย่อยๆเป็นข้อๆ ตามนี้

  • ห้องพักมีหลายแบบ หลายโปรโมชั่นให้เลือก ดีลดีงามมาก มีทั้งแบบรวมอาหารเช้า มื้อกลางวัน หรือ executive lounge สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของโรงแรมเลย
  • promotion ราคาดี และสามารถรีเควส เช็คอินก่อนหรือเช็คเอาท์หลังเวลาได้ (แล้วแต่ห้องในวันนั้นๆด้วย)
  • วันธรรมดาสามารถอยู่ยาวๆได้ถึง 24 ชั่วโมง (อาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดถามโรงแรมอีกที)
  • ที่จอดรถมีเยอะและเพียงพอ ที่จอดของโรงแรมอยู่ชั้น B2 แต่ทางเข้าออกค่อนข้างซักซ้อนเนื่องจากที่จอดรถใต้ตึกต้องวนเป็นวงกลม แต่สามารถจอดที่ทางเข้าและให้สตาฟขับไปจอดหรือรับรถให้ได้ หากจอดเองก็เดินข้ามตึกหรือขึ้นลิฟท์มา ซึ่งทางเดินค่อนข้างซับซ้อน
  • อาหารเช้าค่อนข้างจัดเต็ม แต่ไม่ได้ปุ๊บปั๊บมาก อาจต้องนั่งรอนิดนึง
  • รีวิวข้างบนนี้ ภาพในห้องอาจจะไม่ค่อยมีตอนกลางวัน
  • สระว่ายน้ำและฟิตเนสที่นี่ อยู่ที่ชั้น 7 ต้องจองก่อนการเข้าใช้ มีเวลาหนึ่งชั่วโมงในการเข้าใจ ซึ่งสามารถแจ้งทางสตาฟได้เลยตอนช่วงเช็คอิน
  • relevant information
    • การจอง
    • มี promotion ในแต่ละเดือน และสามารถสะสม h-hornors ได้
    • ห้องพักเริ่มต้นที่ 1,9XX ต่อห้อง (ราคาเปลี่ยนแปลงแล้วแต่โปรโมชั่น)
    • สามารถขอ early check in/late check out แต่ขึ้นอยู่กับห้องว่างในวันนั้นๆ
    • มีที่จอดรถชั้นใต้ดิน
    • BTS เพลินจิต

แข็งแรง ปลอดภัย จะได้อยู่เที่ยวกันไปยาว ๆ
ด้วยความปารถนาดีจาก JNMJNY

JOURNEYMEJOURNEYYOU on Facebook
JOURNEYMEJOURNEYYOU on Instagram

Journeyme Journeyyou

 วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.49 น.

ความคิดเห็น