วันนี้มารีวิวที่พักแถบทะเลใต้ค่ะ เคยไปใต้จริงๆ แค่ 2 ครั้ง 2 จังหวัด ภูเก็ต กับ สุราษฯ คราวนี้ไปกระบี่ค่ะ

ที่พักนำเสนอวันนี้อยู่อ่าวทับแขก ชื่อ อัญญาวี ทับแขก รีสอร์ท เพื่อนจองให้โดยให้ข้อแม้ไปว่า ห้องดี วิวสวย ติดทะเล ไม่มีหัวเตียง/ตู้ไม้แกะสลัก (เหตุผลสั้นๆ ง่ายๆ และไร้สาระที่สุดเลยนะ กลัวผีสึนามิค่ะ)

อัญญาวี ทับแขก รีสอร์ท ตั้งอยู่หาดทับแขก ใน ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ติดกับโรงแรม Amari Vogue ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 27 กิโลเมตร (30 นาที) แผนที่จากเว็บไซต์ค่ะ

ให้พิกัดไว้เผื่อใครใช้กูเกิลแมพ 8.093526, 98.747691

ถ้าไม่เจอ ให้ตั้งค่ามาโรงแรมอมารี ค่ะ ถึงหน้าอมารี แปลว่าเลย !!! ให้ถอยกลับเล็กน้อย

ด้านในสุดถนน ซ้ายมือเป็นอมารี ค่ะ

สำหรับที่จอดรถมีพอประมาณ ไม่น่าเกิน 20 คัน สามารถจอดได้ริมถนน มีรปภ.ดูแลค่ะ โรงแรมแถวๆ นั้นเท่าที่สังเกตที่จอดรถค่อนข้างน้อย จอดริมถนนเป็นส่วนใหญ่

ที่พักมีทั้งหมด 11 แบบ ทั้งแบบห้องพัก และบ้านพัก มาแบบเดี่ยว คู่ หมู่คณะ พักได้หมด

1. Superior

2. Deluxe sea view

3. Deluxe pool access

4. Deluxe family

5. Deluxe Jacuzzi sea view

6. Deluxe connecting

7. Jacuzzi villa aqua bath

8. One bedroom Jacuzzi villa

9. Beachfront pool villa

10. Two bedroom beachfront pool villa

11. Five bedroom

การตกแต่งด้านหน้าโรงแรม

ไปสำรวจด้านในกันค่ะ ลัดเลาะบนสะพานไม้เล็กน้อย

ส่วนเชคอินเป็นโถงเล็กๆ มีเคาน์เตอร์ยาวขนาด 3 คน ยืน ไม่มีแอร์แต่มีพัดลม

มีโซฟาสำหรับแขกไว้พอประมาณ

เวลคัมดริ๊งค์เป็นน้ำสัปปะรด รสชาติถูกคอ ชื่นใจ

ถัดจากเคาน์เตอร์เชคอินเข้าไป เป็นทางเดินไปสู่ห้องพักประเภทต่างๆ ด้านซ้ายมือเป็นมินิมาร์ทขายของกิน ของใช้ และของที่ระลึก

ผ่านห้องพักอีกแบบ ทางเดินติดป่านิดหน่อย (กลางคืนเดินกลับแอบหลอน)

เชคอินเรียบร้อย ไปชมห้องกันค่ะ ระหว่างทางสังเกตเห็นสัญลักษณ์วงกลม 6 อัน แปะไว้ตรงทางขึ้นลงบันได ไปสำรวจมาก็เจออยู่ทุกบันไดค่ะ สอบถามได้ความว่าเป็นฮวงจุ้ยเชื่อว่าวงกลม 6 วงนี้ แขกที่เข้าพักแล้วจะกลับมาใช้บริการกับโรงแรมอีก (นางกวักไทยๆ นี่หละค่ะ)

ห้องพักที่เราเลือกเป็นแบบที่ 5 ค่ะ Deluxe Jacuzzi sea view มาทะเลทั้งทีก็ขอมองเห็นทะเลได้จากห้องพัก แล้วไหนๆ จะมองทะเลแล้ว จะนั่งเฉยๆ ก็ดูไม่มีอะไร เอาจากุดจี่ไปด้วยเลยแล้วกัน จองไว้ 2 ห้องค่ะ ห้องหนึ่งตกแต่งด้วยโทนสีฟ้า ส่วนห้องเราโทนสีเหลือง

แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน ติดประตูทางเข้าออกเป็นส่วนแต่งตัว และมินิบาร์ กลางห้องเป็นส่วนพักผ่อน และไกลๆ นั่นเป็นระเบียงที่มองเห็นทะเลได้ชัดเจน

พาดูทีละส่วนค่ะ เริ่มที่ใกล้ประตูก่อน ส่วนแต่งตัว

ด้านซ้ายมือ เป็นห้องน้ำที่แยกกันระหว่างส่วนชักโครก และโซนอาบน้ำ ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้าแยกออกมาต่างหาก ส่วนขวามือ เป็นตู้เสื้อผ้า และมินิบาร์

อ่างล้างหน้าขนาดพอดี พื้นที่วางของเยอะ จัดเตรียมของไว้พร้อม ยกเว้นแปรงและยาสีฟัน (มีโฟมบาธด้วย บางที่มีอ่างแต่ไม่ให้โฟม)

อีกด้านติดกระจกแบบเต็มตัว

ด้านซ้ายเป็นโซนอาบน้ำ และชักโครก กั้นด้วยกระจกฝ้า ทดสอบความใสแล้วพอเห็นวับๆ แวมๆ

โซนอาบน้ำมีทั้งฝักบัว และเรนชาวเวอร์ น้ำแรง น้ำเย็น ไม่ได้ทดสอบน้ำอุ่นเลยเพราะตอนไปอากาศร้อนมากอยู่แล้ว แต่ถูกใจเรนชาวเวอร์มาก

ส่วนตู้เสื้อผ้ามีเสื้อคลุม รองเท้าแตะ และร่มไว้บริการ มินิบาร์อาจต้องระวังนิดนึงค่ะ เพราะน้ำเปล่าในตู้เย็นนั่นเสียเงิน ส่วนที่ฟรีนั่นอยู่กับชา กาแฟ แอบอยู่ในตู้ดำข้างๆ กัน

สำรวจด้านในต่อค่ะ กลางห้องแบ่งส่วนที่ติดกับหลังตู้เสื้อผ้าเป็นมุมโต๊ะทำงาน ถัดเข้าไปด้านในจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งไว้สำหรับแต่งตัว

เตียงเป็นแบบ Double Bed หนานุ่มพอประมาณ

ติดกับระเบียงจัดวางชุดโซฟาเล็กๆ มี welcome fruit ให้นิดหน่อย (ไม่ได้กินอ่ะ แช่ตู้เย็นแล้วก็ลืมไปเลย) อีกด้านเป็นทีวี

ไฮไลท์อยู่ที่ระเบียง

แถ่น...แท๊น...จากุดจี่ที่ระเบียง

แช่ไป มองวิวไป

ด้านล่าง เป็นห้องพักแบบวิลล่า

อีกด้านจัดวางชุดเก้าอี้ไม้

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรม ตามใบสีเหลืองและแผ่นพับค่ะ

พาไปชมมุมอื่นๆ ภายในโรงแรมกันค่ะ ด้านหน้าห้องพักของเราเปิดออกมาได้วิวสระว่ายน้ำเลย ที่นี่มี 2 สระค่ะ

อีกสระจะอยู่ในโซนห้องพักแบบห้าห้องนอน ช่วงที่ไปไม่มีแขกเข้าพักโซนนี้ค่ะ

ทางเดินภายในโรงแรมขึ้นๆ ลงๆ พางงนิดหน่อยค่ะ เนื่องจากมีห้องพักหลายแบบ หลายโซน เลยมีทางเดินสลับซับซ้อน

ห้องอาหารเช้าอยู่ด้านบน ขึ้นบันไดด้านข้างเคาน์เตอร์เชคอิน ขึ้นเจอของกิน ถ้าลงเจอสปา

ส่วนห้องอาหารกลางวันและเย็นจะอยู่หน้าหาดค่ะ

ช่วง Happy Hour

ราคาเครื่องดื่มแรงตามปกติสถานที่ท่องเที่ยว

มีเรือคายักให้บริการ แต่ป้ายที่ถ่ายมาเล็กเกิ๊น รายละเอียดเลยไม่มี

เก็บบรรยากาศช่วงเย็นมาฝากจากระเบียงห้องพักค่ะ

บรรยากาศช่วงเย็นจากชายหาดหน้าโรงแรมค่ะ

อาหารเย็นเราออกไปทานในตัวเมือง ที่นี่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 27 กม. ไม่ไกล (เพราะเราไม่ใช่คนขับ) มีโอกาสได้กินอาหารจากทางโรงแรมจริงจังมื้อเดียว (ไม่รวมอาหารเช้า) คือ มื้อกลางวันค่ะ สั่งเบาๆ เพราะกลุ่มเราเน้นหนักอาหารเย็น กลางวันสั่งเป็นพิซซ่า ครึ่งฮาวายเอี้ยน กับครึ่งหน้าอัญญาวี ไรซักอย่าง รสชาติดี (หรือเราหิว ไม่ใช่ละ อร่อยจริงๆ ค่ะ) เครื่องแน่น หน้านุ่ม ชีสตู๊มๆ

สำหรับรีวิวอาหารตลอดทริปเราแยกไปอีกกระทู้นะคะ

เอาบรรยากาศยามเช้ามาฝากกันค่ะ พระอาทิตย์ขึ้นทางไหนก็ไม่รู้ เลยไม่ได้ถ่ายมา

เดินไปเก็บภาพชายหาดยามเช้านิดหน่อย รอเวลากินมื้อเช้า

พระอาทิตย์ไม่มา แต่เราพาไปชมไลน์อาหารเช้ากัน หลายหลายพอสมควรเน้นที่เมนูไก่ (ข้าวต้ม ยังข้าวต้มไก่เลย)

เปิดด้วยของเบาๆ ก่อน กับสลัด ผลไม้ ชีสต่างๆ

อีกด้านเป็นโซนโยเกิร์ต และซีเรียล

ขนมปัง และเค้กมีพอประมาณ

ส่วนของซุป วันแรกเป็นซุปมันฝรั่ง กับแกงจืด วันที่สองเป็นซุปอะไรจำไม่ได้ กับข้าวต้มไก่

ไลน์ด้านแรกผ่านไป ข้ามมาอีกฝั่งเป็นโซนอาหารร้อน เริ่มที่ขนมจีบ ซาลาเปา

แผนกไข่ และแพนเค้ก อยู่ชิดฝาผนังฝั่งไกลๆ มีช๊อคโกแลต น้ำผึ้ง และไซรัปคาราเมล

จังหวะไม่มีแขก เปิดทุกหม้อ (เดี๋ยวๆ เค้าเรียกเป็นหม้อมั๊ย หรือถาด)

ถัดเข้าไปด้านหน้าติดกับทะเล กลางทางเดินจัดวางรูปปั้นซักอย่าง เค้าว่าเป็นฮวงจุ้ยไรนี่หละ

ตรงกลางโซนรับประทานอาหาร เป็นแผนกน้ำดื่ม น้ำส้ม น้ำสัปปะรถ น้ำเปล่า ชา กาแฟ

คำแนะนำ ให้ผสมน้ำส้มกับน้ำสัปปะรถแล้วกินจะอร่อยกว่ากินอย่างเดียวเพียวๆ

ส่วนโต๊ะรับประทานอาหาร ไม่กว้างมากนัก มี 3 โซน ด้านในแบ่งเป็นห้องแอร์ กับลมธรรมชาติ (เช้าๆ นี่ใบไม้ไม่กระดิกเลย)

โซนหน้าสุดทำเป็นรูปหัวเรือ แบบโอเพ๊น โอเพ่น สวย วิวดี แต่กะทิศทางแดดกันนิดนึง

สองวันก็กินกันไปเบาๆ

ปิดจบรีวิว อัญญาวี ทับแขก บีช รีสอร์ท กระบี่ค่ะ

ข้อดี

1. เป็นโรงแรมติดหาด ราคาไม่แพง

2. มีห้องพักให้เลือกหลากหลาย (มีแบบ 5 ห้องนอน ทัวร์ลงซัก 1 รถตู้ก็เหมาไปเลยหนึ่งหลัง)

3. ครีมทาผิวกลิ่นตะไคร้หอมมาก (ลืมหยิบกลับ) แต่ขวดแอบเทยากนิดนึง

ข้อเสีย

1. จากุดจี่ที่ระเบียงไม่ค่อยส่วนตัว เจอห้องตรงทางเดินที่อยู่ชั้นล่าง เค้าแช่ไป เราก็เดินไปเจอ (เฮล โหลลล)

2. สระว่ายน้ำค่อนข้างเล็ก (ถ้าเป็นแบบแนวยาวขนานไปกับทะเลนะ สวยเลย)

3. ไม่มีป้ายบอกทางไปโรงแรมตามถนน มีแต่โรงแรมอื่น จริงๆ ใช้ GPS ไปก็เจอแหละ แต่ก็นะ GPS ก็อย่าไว้ใจมากเจอป้ายชื่อโรงแรมบ้างก็ได้อุ่นใจ