Welcome back กลับมาอีกครั้งหลังจากหยุดยาวไป 2 ปี +/- นิดหน่อย ออกจากหลุมหลบภัยได้ มองซ้ายขวาแล้วก็ขับรถออกมาเลย จากกรุงเทพมุ่งหน้าลงใต้ ใต้ไปได้ไม่ไกลเพราะไกลกว่านี้ได้ข่าวน้ำท่วม รถที่พาร่างเรามาวันนี้ไม่สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก เลยมาจอดจบอยู่ที่ปลายเพชรบุรี ต้นๆ ประจวบ เป็นทริปพักผ่อนกินและนอนอย่างแท้จริง บอกเลยใครอยากอัพเดตสถานที่ท่องเที่ยว ปิดกระทู้นี้รอกระทู้ถัดไปได้เลย เพราะเราจะรีวิวที่พักล้วนๆ พร้อมแล้ว เริ่มเลย
Rest Detail Hotel อยู่ในซอยหัวหิน 19 เลยสนามบินหัวหินมาหน่อยก็ชิดซ้ายมองหาป้ายทางเข้าได้ มีป้ายโรงแรมสีขาวๆ อยู่ เข้าซอยมาก็วิ่งยาวๆ สุดซอยเลี้ยวซ้าย ตรงทางแยกมีร้านอาหารญี่ปุ่นนะเผื่อใครสนใจ เลี้ยวปุ๊ปก็จะเห็นหมู่มวลอาคารสูงกี่ชั้นไม่รู้อยู่ทางขวามือ ที่จอดรถต้องขับเลยไปหน่อย มีลานจอดกว้างขวาง มีรถกอล์ฟวิ่งบริการระหว่างลานจอดรถกับตัวโรงแรม รอไม่นานเพราะเค้า ว.คุยกัน
สัญลักษณ์โรงแรมจำง่าย เป็นรูปลิงสามตัว
เชคอินกันก่อน เคาน์เตอร์อยู่โถงชั้นล่าง เปิดโล่ง มีจัดชุดเก้าอี้โซฟาให้นั่งตามมุมต่างๆ เน้นสีขาวฟ้า เชคอินประมาณทุ่มกว่าๆ รูปก็จะสลับกลางวันกับกลางคืนบ้างเล็กน้อย พนักงานบอกว่า
"คุณผู้หญิงเชคอินเป็นกรุ๊ปสุดท้ายของวันนี้ครับ" 5555+
จากโซนเชคอิน เดินตรงไปทางชายหาดจะเป็นร้านอาหารมื้อกลางวัน และเย็น มีชื่อร้านนะแต่จำไม่ได้ signature ช่วงนี้เป็นข้าวผัดสัปปะรด ส่วนเมนูอื่นๆ ถ่ายมาให้ดูครบทุกหน้า (ว่างมาก)
วิวร้านอาหาร คือ สระว่ายน้ำหลักของโรงแรม กว้างยาวไม่รู้ แต่ลึก 1.50 ม. ท่วมหลอดลมเราพอดิบพอดี เลยไม่ได้ออกมาบุ๋งๆ เล่น สระเด็กก็มีค่ะอยู่ข้างๆ กัน
ที่นี่มีห้องหลายแบบมากๆ ย้ำ มากๆ จะมากไปไหน อยากพักทุกแบบแต่เงินในบัญชีบอกไม่อนุมัติ
Rest Green – ห้องวิวสวน
Rest Spirit – ห้องวิวสวยกว่าเรสกรีนนิดนึงมั๊งนะ
Rest Horizon – ห้องแบบมีอ่างจากุชชี่ตรงระเบียง
Pool Village – บ้านมีระเบียงด้านหลังเป็น pool access เดินลงสระไปเลย
Beach Village – บ้านติดทะเล มีสระว่ายน้ำน้อยๆ เป็นของตัวเอง (แต่ไม่ส่วนตัวเท่าไหร่เพราะชายหาดหน้าบ้านเปิดโล่ง สระน้ำเปิดรับแดดเต็มๆ กว่าจะได้เล่นก็ช่วงเย็น คนเยอะไปอี๊ก)
Pavillion – บ้านหลังใหญ่ อันนี้ดีไม่ต้องพบเจอผู้คน มีให้เลือกหลายแบบ มา 2 มา 4 มา 6 หรือหมู่คณะ
ที่พักที่รีวิววันนี้ เป็นแบบ Pool Village จะแยกออกมาจากที่พักแบบห้อง 3 type แรก แต่เดินไม่ไกลค่ะ บ้านพักหมายเลข 515
เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับห้องที่เย็นพอดีแล้ว (เริ่ด่อยู่นะ) เลย์เอ้าท์จะคล้ายๆ ที่พักทั่วไป คือ ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นชั้นเก็บของ ตู้เสื้อผ้า ถัดเข้าไปกลางห้องเป็นเตียงใหญ่ขนาดนอน 3 คน ได้สบายๆ
อีกด้านทำเป็น bay window ตรงนี้ใช้เป็นเตียงเสริมสำหรับคนที่ 3 ได้สบายๆ แค่หาที่รองนอนกับชุดเครื่องนอนมา ไม่ต้องยกเตียงลากไปมาให้ลำบาก
ตู้เย็นบริการน้ำดื่มเท่ากับจำนวนคนเข้าพัก แต่ไม่พอขอเพิ่มได้ตลอด ชา กาแฟมีบริการ
ของน่ารักๆ อีก 2 อย่าง คือ เชือกถักเป็นกำไลข้อมูลเล็กๆ มีชื่อโรงแรมอันนี้ให้กับแขกทุกคน และอีกอย่าง คือ จะมีขนมมาเสิร์ฟที่ห้องพักช่วงเย็น เราพัก 2 คืน เลยได้ขนม 2 อย่าง ขนมอร่อย กินเหอะ
ระบบแอร์ปรับได้ตรงข้างเตียงค่ะ ปรับไม่ยาก แต่กลางคืนมีแอบตัดตัวเองอัตโนมัติ
อย่างที่บอกไว้ว่าห้องลักษณะนี้มีข้อแตกต่างตรงระเบียงหลังห้องยื่นออกไปสระว่ายน้ำ แต่จะเป็นสระต่างหากแยกออกมาจากสระใหญ่ ตรงระเบียงหลังห้องตั้งชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ ไว้ เผื่ออยากออกมา ตอนกลางคืนมียุงบ้างเล็กน้อย เพราะรอบๆ ปลูกต้นไม้ไว้เยอะเลยค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลทางโรงแรมคงรู้แหละว่ายุงมาแน่ มียากันยุงไว้ตรงระเบียบพร้อมจุด
ถัดจากระเบียงการลงสู่น้ำยังไม่จบ เพราะมีระเบียงยื่นลงไปอีก ไปนั่งไปนอนเล่นได้
สระนี้ลึก 0.8 เมตร เปิด 7.00 ปิด 19.00 น. ตอนเราไปสระปิดแล้วเลยได้แต่ยืนมอง
กลับเข้าห้องมาก่อน มารีวิวห้องน้ำให้ดูกัน ห้องน้ำแยกสัดส่วนชัดเจน ไม่ใหญ่มาก แต่ไม่เล็กจนดูอึดอัด มีทั้งชาวเวอร์ เรนชาวเวอร์ และอ่าง ประตูเป็นแบบกระจกฝ้า ไม่มีตัวล๊อค
ครีมอาบน้ำ กับแชมพูหอมมาก ลืมถามว่าใช้ของยี่ห้ออะไร
ส่องของใช้ในตู้เสื้อผ้าดูบ้าง
มีโอกาสได้กินมื้อเย็นที่ห้องอาหาร 1 มื้อ พอดีจองห้องพักในช่วงโปรแถมเซตซีฟู๊ด size s มา 1 ที่ และเครื่องดื่ม 2 แก้ว เลยถือโอกาสสั่งอย่างอื่นมาลองด้วย ลองผัดไทยกุ้งสด กับปอเปี๊ยะปู ค่ะ โดยรวมรสชาติค่อนไปทางจืด ราคาสูงใช้ได้เลยแต่ปริมาณก็เยอะ ทั้งหมดนี้ กินไม่หมดค่ะ
ส่วนมื้อเย็นอีกมื้อ เราแวะซื้อจากข้างนอกมา แต่ก็ยังได้โปรซีฟู๊ด และเครื่องดื่ม 2 แก้วอยู่ แต่เราว่าของกินซื้อมาเยอะแล้วเลยขอไม่รับชุดซีฟู๊ด ขอเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่ม 3 แก้วแทน
แวะไปส่องอาหารเช้ากัน ไม่แน่ใจว่าเพราะโควิดยังระบาดอยู่ หรือห้องอาหารไม่ใหญ่ ทางโรงแรมให้เลือกว่าจะมากินอาหารเช้าช่วงเวลาไหนเพื่อลดความแออัด มีให้เลือก 4 ช่วงค่ะ 7.00, 8.00, 9.00 และ 9.45 น. เราเลือกรอบแรกเลย ตอนมาถึงไม่มีคนอื่นนอกจากพนักงานจัดเตรียมอาหารเลยขอเข้าไปถ่ายรูปได้สบายๆ ชอบสุด ให้ก๋วยเตี๋ยว ไข่พะโล้ ผัดพริกแกงหมูใส่ถั่ว และปาท่องโก๋ ส่วนคนอื่นลงความเห็นให้ไข่เบเนดิกส์ชนะไป ใครอยากกินก๋วยเตี๋ยวลองสอบถามกับทางโรงแรมดูว่าวันที่เข้าพักมีเมนูนี้มั๊ย เพราะวันที่สองก๋วยเตี๋ยวเปลี่ยนเป็นราดหน้า ไปละ
ที่นั่งมีให้เลือกทั้งห้องแอร์ และด้านนอก
พาไปดูบรรยากาศรอบๆ กันบ้างค่ะ ตอนแรกว่าจะเดินเล่นชายหาดให้เท้าได้สัมผัสน้ำทะเลซักหน่อย ปรากฎว่าน้ำขึ้นเต็มพื้นที่ เลยไม่ได้ลง สีของน้ำทะเลไม่สวยเท่าไหร่ด้วย
พามาดูวิวสระว่ายน้ำหลังห้องพักดีกว่า สระนี้เหมาะมากสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กค่ะ ไม่ลึกเกินไป
จบละ ข้อดีเลยของที่นี่ สถานที่ ห้องพักสวยอันนี้แน่นอน แต่ที่ต้องชื่นชมคือ พนักงานบริการดี ดีตั้งแต่พนักงานประจำลานจอดรถ ยกกระเป๋า เชคอิน ห้องอาหาร คนทำความสะอาด น่าร้ากกกกหมดทุกตำแหน่ง ข้อเสียเหรอมีเรื่องเดียว ราคาสูงไปนิดนึง แต่ถ้ามีโอกาสอีกจะไปพักอีกนะ จะเปลี่ยนไปพัก Rest Horizon
สำหรับใครที่อยากมาพักห้องพักแบบ Pool Village เราแนะนำห้องหมายเลข 511 ดีสุด รองลงมา คือ 515
เชคเอ้าท์แล้วแวะหาอะไรกินก่อนเข้ากรุงเทพค่ะ มื้อกลางวันมาฝากท้องกันกับ “ก๋วยเตี๋ยวเพ็ญพริกเผ็ด” คราวก่อนโน้นนนน เราก็มากินนะแล้วติดใจ คราวนี้บอกเลยว่ามา 2 วัน กิน 2 วันจ้า....หลายคนบอกว่าร้านนี้ติดหวาน ก็..ใช่หวานจริง หวานนำ ถ้าใครไม่ชอบหวานต้องบอกให้ผ่านไปเลย ที่ร้านก็ยังคงคอนเซปท์เดิม คือ ยืนรอให้เรียกไปนั่งที่โต๊ะ นั่งแล้วก็รอเงียบๆ จนกว่าจะมีคนมารับออเดอร์ ได้ก๋วยเตี๋ยวแล้วก็อย่ามั่วแต่เล่นมือถือ รีบกินแล้วก็รีบไป โต๊ะน้อย คนเยอะ แล้วสั่งกลับบ้าน คือ ล่วงหน้า 1 วัน ไม่ได้ถ่ายรูปร้านมาเพราะคนเยอะมาก เอาแต่หน้าตาก๋วยเตี๋ยวไปชม
ไปกินไปเที่ยว - หญิงเฮเทกระจาด
วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15.39 น.