Road Trip อีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน ที่ห่างก็ไม่ใช่อะไรขับเองไม่ได้เลยต้องรอจังหวะคนขับว่างจะมีโอกาสได้นั่งรถเที่ยวทางไกลซักที หลังจากนั่งทางไกลล่าสุด คือ ลงใต้ไปกระบี่ (แบบหัวหินไม่นับแล้วกัน ไม่ไกลเท่าไหร่) คราวนี้เราขึ้นเหนือไปสัมผัสอากาศหนาวช่วงสิ้นปีกันที่แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ ทริปนี้เป็นการนอนเต็นท์ครั้งแรกด้วย นอกจากไม่เคยนอนแล้วเรื่องกางเต็นท์ก็ไม่ถนัด เรียกว่าทักษะติดลบ งานนี้รับบท นางภาระแล้ว 1 ตำแหน่ง
ความตั้งใจแรกจะให้รีวิวกระทู้เดียวจบ เขียนไปเขียนมายาวเกิน รูปก็เยอะเกินอีกเช่นกัน เลยขอแบ่งเป็น 2 Part
วันแรก :: กทม. – จอมทอง เชียงใหม่
ทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 5 คน ด้วยเอารถไปเองจะขนอะไรไปก็ด๊ายยย และนี่คือสัมภาระทั้งหมดในวันเริ่มเดินทาง
ตั้งหลักจากแถวดอนเมืองประมาณบ่ายโมง กะถึงเชียงใหม่ซักทุ่มหรือสองทุ่ม ได้พักให้คนขับนอนเก็บแรงสำหรับวันต่อไป แวะพักแถว อ.จอมทอง ก่อนทางขึ้นดอยอินทนนท์ ก่อนเข้าที่พักแวะหาของกินเลือกร้านจาก google map ไล่ๆ ดูร้านไหนมีชื่อโผล่มาระหว่างทางก็ร้านนั้น เจอเข้ากับร้านก๋วยเตี๋ยวปลาอยู่ในตึกขนาด 1 คูหาเล็ก ๆ ข้าง ๆ 7-11 ไม่ได้คาดหวังความอร่อย แต่แค่เปิดประตูรถก็รับรู้ได้ถึงความอร่อย น้ำซุปหอมลอยมาไกล ๆ (หรือจริงๆ คือหิว แต่ก็ไม่นะ อร่อยจริง)
อิ่มท้องแล้วก็เข้าที่พักกัน ที่พักนี่ก็หาจาก google map เน้นอยู่ติดถนนใหญ่ ชื่อที่พักน่ารัก ๆ “Papa’s Home and Rabbit Café” คิดเล่น ๆ ว่า เดิมพ่อคงเอาที่มาทำบ้านพัก แล้วลูกเลยขอเอาหน้าบ้านไปทำคาเฟ่ ที่พักอยู่ติดถนนใหญ่ จุดสังเกต คือ ปั๊ม ปตท. ป้ายที่พักใหญ่ชัดเจน ตอนกลางคืนติดไฟสว่างเห็นกระต่ายตัวโต ๆ เด่นมาแต่ไกล คาเฟ่อยู่ด้านหน้า ส่วนบ้านพักเป็นหลังอยู่ถัดเข้าไปด้านใน มีที่จอดรถพร้อม ราคาหลังละ 800 บาท (2 คน) คนที่สามถ้าไม่ขอเสริมเตียงเพิ่มก็ไม่คิดค่าใช้จ่าย คนที่มาต้อนรับน่าจะเจ้าของแหละ อัธยาศัยดี บ้านพักดูดีเกินราคาไปมาก อันนี้แนะนำ ใครที่จะขึ้นดอยอินทนนท์แต่หาที่พักแถวทางเข้าแล้วราคาไม่แพง ระยะทางจากบ้านพักไปดอยอินท์ฯ ประมาณ 40-45 กม.
ภายในบ้านพักค่อนข้างกว้าง ชอบที่มีเคาน์เตอร์วางของยาวตลอดผนังห้องไว้วางของได้เยอะเลย ไม่เกะกะ
ผ้าขนหนู ครีมอาบน้ำ แชมพู ไดร์เป่าผม มีครบ ห้องน้ำกว้างมาก แบ่งผนังด้านหนึ่งในห้องน้ำเป็นตู้เก็บเสื้อผ้า น้ำอุ่นไหลแรง
บอกทางที่พักไว้ว่าพรุ่งนี้จะเชคเอ้าออกเช้ามาก ตีสี่หรือตีห้าให้คืนห้องพักยังไง วิธีเชคเอ้าท์ก็ง่ายดี คือ ให้คากุญแจบ้านพักไว้ที่ประตูได้เลย
วันที่สอง :: จอมทอง เชียงใหม่ – ดอยแม่อูคอ – ปางอุ๋ง – บ้านรักไทย
เริ่มเดินทางกันตอนตีห้า (วันทำงานตื่นเจ็ดโมง พอมาเที่ยวตื่นตีสี่จ้า....) เที่ยววันแรกก็ทางยาวเลย จุดหมายแรก คือ ดอยแม่อูคอแวะดูดอกบัวตอง ไม่รู้ว่าจะโรยไปหรือยัง เดินทางยาว ๆ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ ตั้งใจเก็บหมอกระหว่างทางแต่หาจังหวะจอดไม่ได้
ถึงแล้ว ดอยแม่อูคอ
ดอกบัวตองเริ่มโรยราแต่ยังพอทันให้ถ่ายเหลือง ๆ แดดแรงเลย แต่มีลมเย็นก็ไม่ร้อนเท่าไหร่
อยู่ตรงนี้กันพักใหญ่ ๆ แล้วเดินทางต่อ ก่อนไปแวะเติมพลังด้วยก๋วยเตี๋ยวดอยที่ร้านตรงทางลงดอยแม่อูคอ เป็นร้านของชาวเขาแถวนั้น ตัวร้านเป็นเพิงไม่ไผ่เล็ก ๆ
อิ่มท้องแล้วเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไป “ปางอุ๋ง” นั่งรถยาวอีกแล้ว 3 ชั่วโมงกว่า ๆ นิ่งเป็นหลับ พอขยับก็กินขนม ถึงปางอุ๋งประมาณบ่ายสามโมง เลยกำหนดเดิมไว้นิดหน่อย
ทำเรื่องจองพื้นที่กางเต็นท์ไว้แล้วในเว็บ เอาหลักฐานไปติดต่อตรงทางเข้าก็รีบเอาของลงกางเต็นท์ อย่างที่บอกตั้งแต่ตอนแรกว่ารับบทนางภาระ กางเต็นท์ไม่เป็นขอเป็นแผนกดูและแลอยู่ห่าง ๆ
ที่นอนพร้อมแล้ว ออกเที่ยวต่อไป แวะออกไปดูบรรยากาศที่บ้านรักไทย จากปางอุ๋งไปไม่ไกล นักท่องเที่ยวเยอะมาก รถก็เยอะ ไปตอนเย็นก็ไม่เจอหมอกไปเก็บบรรยากาศริมน้ำเพลิน ๆ
เห็นควันขาวๆ ฝั่งนู้นมั๊ย คนที่นั่นบอก "ควันอันนั้นไม่ใช่หมอก แต่เป็นควันจากหมูกะทะ"
อยู่ที่บ้านรักไทยถึงเกือบ 6 โมงเย็นก็กลับเพราะ 1 ทุ่มประตูทางเข้าปิด กลับมากินหมูกระทะทางร้านจัดที่นั่งกินเป็นซุ้มไว้หลังร้าน ราคาหมูกะทะ ชุดละ 300 บาท มีผักบุ้ง ผักกาดขาว เห็ดเข็มทอง วุ้นเส้น ไข่ 1 ฟอง หมูนิดหน่อย ขนาดพอดี 2-3 คน
เล่าเรื่องห้องน้ำนิดนึง ต้องเดินออกมาจากลานกางเต็นท์พอสมควร แยกระหว่างห้องอาบน้ำ กับห้องส้วม ไม่มีน้ำอุ่น มีไฟตรงถนนตลอดเส้นทางแต่ก็น้อย หน้าหนาวช่วยรัฐประหยัดน้ำ ซักแห้งไป แต่เห็นคนเดินไปอาบน้ำตอนเที่ยงคืน ที่อุณหภูมิ 14 องศา
ตีสามครึ่ง หนึ่งในสมาชิกปลุกให้เปิดเต็นท์มาดูว่าหมอกมาหรือยัง ถามคำเดียว ตีสามครึ่งถึงหมอกจะมาแล้วจะมองเห็นมั๊ย ปลุกแล้วก็ต้องเลยตามเลย รอหมอกมาจนถึงตีห้า ถ่ายตอนมืด ๆ ภาพก็จะมัว ๆ หน่อย
อุณหภูมิเช้านี้ที่ 12 องศา ถามว่าน้ำท่าควรจะโดนมั๊ย ... ไม่น่าถาม
ประมาณ 7 โมงเช้า ได้คิวปล่อยหงส์ขาวออกมาทักทายนักท่องเที่ยว
ปล่องหงส์ไปตามทาง กลับมาสนใจเรื่องปากท้องจะดีกว่า มื้อเช้าฝากท้องกับร้านเดิม ร้านเดียวกับมื้อเย็น คราวนี้หลายเมนูหน่อย สั่งมาลองให้ครบ สรุปเค้าว่ากันว่า ข้าวเหนียวหมูปิ้งอร่อย ซึ่ง....ไม่ได้สั่งมากิน เอวัง จบไป
กลับมาเก็บเต็นท์ตอนเก้าโมงกว่า ๆ ตอนกางว่าเยอะแล้ว ตอนเก็บขึ้นหลังคารถนานกว่าจ้า.... ออกจากปางอุ๋งประมาณสิบโมงกว่า ๆ จุดหมายต่อไป แม่ฮ่องสอน
วันที่สาม :: ปางอุ๋ง – แม่ฮ่องสอน – พระธาตุดอยกองมู
วันนี้เดินทางแบบเบา ๆ สบาย ๆ จากปางอุ๋ง ไปแม่ฮ่องสอน ใช้เวลาชั่วโมงนิด ๆ สิบเอ็ดโมงกว่า ๆ ก็มาถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน แวะกินมื้อกลางวันที่ร้านดังของจังหวัดกับร้าน “ใบเฟิร์น” ไปถึงแทบจะเป็นลูกค้ากลุ่มแรกของร้านเลย
บางส่วนของรายการอาหาร
เมนูที่ขาดไม่ได้เลยคือ “ผักกาดจอ” รสชาติที่คุ้นเคยยังอร่อยเหมือนเดิม
ยำหมูย่างมะเขือเปราะ อยากได้รสชาติเข้มข้นกว่านี้อีกหน่อย
ออเดิร์ฟเมืองน้ำพริกหนุ่ม เครื่องเคียงเยอะดี
ผัดผักรวม รสชาติดี
ไก่คั่วเกลือ อร่อยยันกระเทียม กินทีละน้อยเพราะเค็มอยู่
ทุกเมนูปริมาณเยอะ แนะนำให้ลองสั่งมาดูก่อน ถ้าน้อยก็ค่อยสั่งเพิ่ม มื้อนี้ 925 บาท
ออกจากร้านใบเฟิร์น แวะร้านกาแฟแปปนึง ที่ร้าน coffee morning ร้านเงียบๆ มีลูกค้าในร้านอยู่ 1 คน ถ้วน
บ่ายสองได้เวลาเชคอินที่พักที่ “โรงแรมอิมพีเรียล แม่ฮ่องสอน” ตั้งอยู่นอกตัวเมืองมานิดหน่อยเอาเป็นว่าแค่ออกมาจากถนนเส้นหลักของจังหวัดนิดเดียว เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ รับกรุ๊ปทัวร์เยอะสังเกตจากรถตู้ที่แวะเวียนเข้ามา หัองพักที่เลือกไว้เป็นไทป์ต่ำสุด ห้องสแตนดาร์ด ราคาห้องละ 1,700 บาท ได้ส่วนลดจากโปรเที่ยวด้วยกัน 40% เลยจ่ายไป 1,020 บาท
ห้องพักอยู่ชั้น 2 ข้อเสียของที่นี่ คือ มีสเตปเยอะไปหน่อย บันไดทางขึ้นลอบบี้ ยกพื้นทางไปห้องพัก เดินลงบันไดไปห้องพักอีกรอบ และบันไดขึ้นห้องพักอีกสองชั้น กระเป๋าหนัก ๆ ก็ยกไปจ้า.... คงมีลิฟท์แหละ แต่พอดีถามทางจากพนักงานแล้วบอกทางบันไดมา ชั้น 2 ไง เดินขึ้นเหอะ
ห้องพักค่อนข้างกว้าง ตกแต่งด้วยไม้โทนสีน้ำตาลอ่อน เฟอร์นิเจอร์อาจดูเก่าไปหน่อย แต่ห้องสะอาดดี
ระเบียงหลังห้องกว้างกว่าที่พักอื่น ๆ เลย วิวด้านหลังเป็นสระว่ายน้ำแต่ปลายปีอากาศหนาว ๆ แบบนี้ไม่น่ามีแขกมาใช้นะ
จากระเบียงหลังห้องมองไปทางขวามือ ตรงระเบียงที่เห็นไกล ๆ นั้นเป็นโซนนั่งกินอาหารเช้า
ห้องน้ำเป็นแบบอ่างพร้อมฝักบัว อันนี้ไม่ค่อยชอบ น้ำร้อนเย็นเปิดให้บาลานซ์ยากนิดนึง
ของที่กินฟรีมีชา กาแฟ และน้ำเปล่าขวดที่อยู่นอกตู้เย็นเท่านั้น ถ้าเผลอกินในตู้เย็น คิดตังค์นะ
ประมาณห้าโมงเย็นขึ้นพระธาตุดอยกองมู ไปรอชมพระอาทิตย์ตก กับวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
เมื่อหลายปีก่อน ร้านกาแฟหลักของที่นี่ยังมีอยู่ร้านเดียว คือด้านหลังฝั่งพระอาทิตย์ตก ปิดค่อนข้างไวตอนเราไปก็เตรียมตัวปิดร้านแล้ว
มาคราวนี้มีเพิ่มอีกร้าน ฝั่งตัวเมือง ร้านได้พื้นที่ค่อนข้างกว้างเลย นั่งชมวิวได้สบายๆ ถ้าช่วงเย็นก็มียุงบ้างนิดหน่อย ปีนี้พิเศษกว่าทุก ๆ ปี เพราะเป็นปีแรกที่น้ำในหนองจองคำแห้งหมด (ในรูปที่วงสีแดงไว้) คนพื้นที่บอกว่าตั้งแต่อยู่มาก็เพิ่งมีปีนี้แหล่ะ สูบน้ำออกแล้วปิดซ่อม
ลงจากพระธาตุแวะหาอะไรกินเป็นมื้อเย็น ตั้งใจไปร้านไข่มุกแต่พิเศษอีกละ ร้านเปิดทุกวันยกเว้นวันที่จะไปกิน เลยเปลี่ยนแผนกินเบา ๆ จัดก๋วยเตี๋ยวคนละชามกับร้านเจ้ออน เป็นก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูตุ๋น ให้เยอะอีกละ แต่กินหมดนะ ซี่โครงเปื่อยดี น้ำซุปตุ๋นหอมเครื่อง
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยเวลาดี ตีห้า มาเที่ยวตื่นเช้าได้ทุกวัน ขึ้นพระธาตุอีกครั้งไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่เสียดายที่คราวนี้หมอกฟุ้งกระจุยกระจายเยอะไปหน่อย รอยังไงก็ไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นซะที รอถึงเจ็ดโมงกว่า ๆ ก็เลยลง เตรียมตัวเดินทางกันต่อ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจนจบน้า...
ฝากติดตามต่อในเพจ “ไปกินไปเที่ยว” >>> https://bit.ly/2HzuAyK
แล้วติดตามต่อกับการเดินทาง PART II : แม่ฮ่องสอน - ปาย – ดอยอินทนนท์
ไปกินไปเที่ยว - หญิงเฮเทกระจาด
วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15.45 น.