"ไม่ได้มีแค่ที่จั่วหัวกระทู้หรอกค่ะ ... สัตหีบ เที่ยวยังไงก็เก็บไม่หมด รู้สึกว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ"


มีโอกาสหนีงาน (หรือ หนีร้อน อันนี้ไม่แน่ใจ) ไปใช้ชีวิตที่สัตหีบ ช่วงวันที่ 12-15 พค. 59 ที่ผ่านมาค่ะ

ด้วยกระแส "ไปทะเล ไม่หนีร้อนก็หนีรัก"...หนีร้อนก็ได้ค่ะ ... เสพกระทู้และบล็อกท่องเที่ยวต่างๆ ตามโลกโซเชียลแล้วรู้สึกว่า ยังไงก็ต้องไปนะ ... นาวววว

เคลียร์ชีวิต ว่าจะสามารถหนีไปได้ช่วงนี้ ทราบก็วันที่ 7-8 แล้วค่ะ ปกติมักจะชอบความแน่นอน ยกเว้น เวลาไปเที่ยวคนเดียว จะชอบไปตายเอาดาบหน้า ทั้งๆ ที่ควรจะทำการบ้านมาให้ดีๆ เลย รู้สึกประหลาดกับตรรกะของตัวเองเหมือนกันค่ะ แต่เราว่ามันเป็นเสน่ห์ของการเดินทาง เริ่มชอบการที่ไม่ต้องวางแผนใดๆ ... ไม่ได้ชอบการเดินทางคนเดียวหรอกนะคะ แต่ถ้าคิดว่ามันโอเค และไปได้ ก็ไปได้แหล่ะค่ะ


เอาหล่ะค่ะ กระแส เที่ยวทะเลมาแรง สัตหีบนี่ติดอันดับเลยค่ะ ทั้งเกาะขาม เกาะแสมสาร เคยช้ำใจจากเกาะแสมสารมาครั้งนึงละค่ะ ครั้งนี้ขอให้ได้ ขอให้โดน ....


เช้าตรู่หลังเคลียร์งานเสร็จ ซักเจ็ดโมงเช้าได้ รีบโทรไปจองที่พัก ... เอิ่ม เพิ่งคิดได้ค่ะ ว่าโทรไปเช้ามาก แต่เจ้าบ้านก็รับสายและรับจองห้อง หุหุ ลืมคืดไปว่า เธอไปวันธรรมดา เธอจะรีบเพื่อ? ... ไม่รู้หล่ะค่ะ ที่พักที่จะไปอยู่ในกระแสฮิปสเตอร์แยู่ กลัวพลาด ไปทั้งที ต้องล่า RC 555


เริ่มต้นวันเดินทาง ยังต้องเคลียร์งานจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน 555 กะจะไปเย็นๆ เจ้าบ้านแจ้งว่าจะมีนั่งเรือไปเกาะเล็กๆ แบบไปกันเองช่วงเย็น ... เหอะๆ ไม่พลาดค่ะ รีบพุ่งออกจาก กทม. As soon as possible เลยหล่ะค่ะ


การเดินทางครั้งนี้อาศัยขนส่งมวลชนค่ะ .. รถตู้ เราขึ้นที่อนุเสาวรีย์ค่ะ เดินทางประมาณ สองชั่วโมงครึ่งค่ะ ถึงปลายทาง ต่อวินไปที่พัก แอบมีอุปสรรค พี่วินคิวนี้ไม่รู้จักโฮสเทลค่ะ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เดาๆ จากภาพที่เห็นคือใกล้ทะเล เลยให้พี่วินวนๆ ไปแถวเลียบชายทะเล ก็ยังหาไม่เจอ ไปจบที่แถวๆ วัดหลวงปู่อี๋ .... คือแดดเป็นใจมากค่ะ ร้อนเชียว ทำไมถึงไม่โทรถามตั้งแต่แรก ... สุดท้ายก็โทรถามทาง คืออยู่ใกล้ๆ แหล่ะค่ะ ตรงข้ามซอย 11 เหอะๆ ถึงแล้วววววว




มีความเฉพาะตัวเองสูงมากค่ะ lobby on 2nd floor สุดยอด ไม่เคยเห็นโฮสเทลที่ไหนเป็นแบบนี้เลย (แอบถามมา เค้ามีเหตุผล)

(อ่านเพจในเฟสพี่เจ้าของเค้าบอกจะตื่นเต้นเวลาที่เจอแขกเดินขึ้นบันได 6 ขั้นก่อนที่จะพบกัน แต่เรา เจอกันอีกฝั่งของถนน 555 คนหลงทางก็ต้องทำใจ)

สิ่งที่เป็น hippoint ของที่นี่ เราชอบดาดฟ้าค่ะ หลัง check in ก็ขึ้นดาดฟ้าเลยหละค่ะนั่นแหล่ะค่ะ ที่พักสำหรับการเดินทางในครั้งนี้คือ satta_hiptale ....



สัตตะ ภาษาบาลี แปลว่า 7

หีบ คือ เกาะ


(เป็นข้อมูลแรกที่ได้รับขณะยืนรับลมเย็นๆ บนดาดฟ้าจากเจ้าบ้าน รู้สึกถึงความเป็นสัตหีบ ... อินมาก)


ที่พักสุดฮิปกลางตลาดเก่าสัตหีบ ห้องพักแบบ dorm/backpack หรือจะเป็นห้องเดี่ยว ตกแต่งสไตร์นาวิกโยธิน hippoint อยู่ตรงชั้นบนสุด ที่จะสามารถมองดูวิวทะเล และเกาะเล็กเกาะใหญ่ ... ลมแรง เย็น มันดีแค่ไหน ... ใจตอบว่า ดีมากกก ... ตอนกลางคืนมีบาร์ให้นั่งฟังเพลงอีก ชิวกว่านี้ไม่มีแล้ววว

ในคืนที่สาม มีน้องสาวคนหนึ่งนางใจกล้ามากเช่นเดียวกันมานอน dorm ด้วยกัน ไม่รู้เรียกว่ารู้จักกันรึยัง ตั้งแต่ตอนเจอจนถึงตอนจากกัน ความรู้สึกเหมือนเรารู้จักกันมาเป็นสิบปี

ขอบคุณเจ้าบ้านที่ตอนรับและดูแลเรา เดินทางครั้งนี้ ไม่มีโมเม้นท์ที่เหงาเลย ขอบคุณที่ทำให้นักเดินทางตัวน้อยได้มีความทรงจำที่ดีมากได้ขนาดนี้



(อวยจริง ไม่อิงนิยาย ... เค้าจ้างมา/ด้วย บัวลอยน้ำขิง)



บาร์บนดาดฟ้าค่ะ มีพี่เจ้าบ้านเป็นบาเทนเดอร์เองเลย คอกเทลดีมากกก



วิวเจ๋งๆ



เอาจริงๆ มาที่นี่เพราะเตียงผ้าใบสองตัวนี้



กลางคืนมบาร์นี้ก็กลายร่าง ... เป็นแบบนี้



มิตรภาพในห้อง backpacker/dorm ... นั่นแหล่ะ เหมือนรู้จักกันมานาน น้องคุยสนุกมาก_ไม่แน่ใจว่ารู้จักกันรึยัง ... เอาเถอะ ยินดีที่ไม่รู้จักค่ะ



Pause_รอเวลากด play อีกครั้ง สำหรับที่นี่ค่ะ



☺😊😀😁😂😃😄😅เย็นวันแรกที่ไปถึง ... ขอเอี่ยวค่ะ พอดีเพื่อนๆ ของเจ้าบ้านเค้าจะไปเที่ยวกันอยู่แล้ว เราก็เลยขอไปด้วย อิอิ ขอบคุณนะคะ


เกาะหมู เป็นเกาะเล็กๆ ข้างๆ กับท่าเรือจิกทะเล (เหรอ จำชื่อไม่ได้ ขออภัยค่ะ) เป็นท่าเทียบเรือรบจักกรีฯ อ่ะค่ะ แต่ว่าไปทางฝั่งตลาดสัตหีบ นั่งเรือออกไปไม่ไกลค่ะ เกาะนี้ได้ข้อมูลมาว่าทหารเรือเพิ่งเข้ามาปรับปรุง มีแนวกั้นคลื่น ให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ ด้วยค่ะ หาดทรายละเอียด บนเกาะยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ แต่จะมีชาวประมงและพี่ทหารดูแลเกาะอยู่ครอบครัวนึงค่ะ เห็นว่าสามารถมาแคมปิ้ง ตกปลา ได้ด้วยนะคะ ... เดินเที่ยวรอบเกาะได้เลย มันจะมีชาวประมงไปหลบคลื่นอยู่บ้าง บางทีก็มีติดอวนหาปูทิ้งไว้ .....

มีเล่นซนกันค่ะ หาหอยนางรมสดๆ แบบว่ากระเทาะออกมาจากหิน ล้างน้ำทะเล แล้วกินไปเลยสดๆ หุย ได้ฟีลมากเลยค่ะ

ระหว่างนั่งเรือไป เจอคนมาเล่นพาราไกด์ดิ้งด้วย

(ได้เห็นเรือรบหลวงจากอีกมุมนึง ...)




เช้าของวันที่ 13 พค. ฝนตกตอนเช้า ซึ่งเป็นฝนแรกในรอบสี่เดือนของที่นี่ ... ในวันที่ชั้นจะไปเกาะ ยังไงหล่ะ จะได้ไปมั้ยคะ .... ไปสิคะ นัดกันไว้แล้วหนิคะ ...


จุดขายตั๋วข้ามเกาะแสมสาร เปิด 8 น. แต่ว่าจะให้บัตรคิวต่อซื้อตั๋วก่อน ไม่แน่ใจตั้งกี่โมง แต่เราไปเจ็ดโมง ได้คิว 126 เหมือนคนจะไม่เยอะมากเท่าไหร่นะคะ เกาะแสมสารเปิดให้เที่ยวทุกวันค่ะ หลังจากได้บัตรคิว ก็รอซื้อตั๋ว จะให้ขึ้นเรือไปเกาะ รอบละ 100 คน เราได้คิว 126 ใช่ป่ะ โดนตัดจากรอบ 9 น. เป็นให้ขึ้นเรือรอบ 10 น. เสียใจมาก รอนานเบย แต่มีที่ให้เดินเที่ยวรอนะคะ มีพิพิธภัณฑ์ทางทะเล แต่ว่า เดินขึ้นเขาไปอีกนิด เราไม่ได้ขึ้นไปอ่ะค่ะ ไปนั่งรอร้านกาแฟแถวๆ ท่าเรืออ่ะค่ะ รอไปเพลินๆ ก็เดินไปขึ้นเรือ นั่งเรือไม่นานก็ถึงค่ะ มีท่าเทียบเรือชัดเจน พอถึงเกาะแล้วก็จะให้ไปฟังการปฏิบัติตัวบนเกาะ และกิจกรรมต่างๆ ก่อนค่ะ ไม่นาน ฟังเพลินๆ


เราเดินเที่ยว ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ค่ะ แล้วก็ต่อคิวรอขึ้นเรือท้องกระจก ไปดูปลา ปะการัง แต่ว่าวันนี้พี่ทหารบอกน้ำลด น้ำจะขุ่น จะทำให้เห็นไม่ค่อยชัดมาก เสียดายเหมือนกันค่ะ แต่ก็เห็นปะการังหลายชนิดอยู่ค่ะ เห็นปลาการ์ตูนด้วย (ไม่โชว์รูปละกันค่ะ เมาเรืออยู่ อิอิ)

(อ่อ ใครเมาเรือไม่ว่าจะเมาเป็นประจำหรือว่าเมาแบบเผลอๆ / เหมือนเรา / ... ให้มองไกลๆ อ่ะค่ะ ท้องฟ้า ภูเขา อย่าไปจ้องคลื่น จะยิ่งเมา ..... เคล็ดไม่ลับ ว่าตามๆ กันมาค่ะ)


เกาะแสมสาร ..... มีสองหาด ก็นั่งรถไปกลับ หาดลูกลม กะ หาดเทียน ซึ่งจุดที่ลงเรือ คือหาดเทียน ส่วนหาดที่สวย คือ หาดลูกลม อิอิ (ความเห็นส่วนตัวนะคะ)

เกาะเปิดทุกวัน แต่มันดีตรงที่ เกาะไม่โทรม ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ค่ะ ทำให้เกาะยังมีความสวยงามอยู่ค่ะ


หาดเทียนจุดลงเรือค่ะ



หาดลูกลม สวยนะคะ หาดนี้ มีโขดหินให้ถ่ายรูปเล่น มองออกไปดีๆ เห็นเกาะขามด้วยค่ะ แต่ตอนที่ไป นักท่องเที่ยวชาวจีน กะ ชาวเกาหลีใต้ เยอะเลยค่ะ







เกาะขาม ....



อีกวันนึงนี่ ตื่นเช้าเชียวค่ะ นัดรถไว้ หกครึ่ง กะจะ check out เลย เสียดายเวลา ยังไม่ได้เสพวิวบนดาดฟ้าของโฮสเทลเต็มที่เลย รีบแต่งตัว รีบวิ่งไปสูดลมบนดาดฟ้า ... ฟินค่ะ



วันนี้อากาศดีนะคะ ไม่ร้อนมาก แต่ฟ้าก็ไม่ได้ปิด



ที่ขายตั๋วไปเกาะขามอยู่ด้านนอกก่อนเข้าไปที่ขายตั๋วเกาะแสมสาร คนค่อนข้างเยอะค่ะ แต่ก็ได้ตั๋วอยู่ค่ะ รีบไปต่อแถว ลงเรือค่ะ รอบเรือจะออกเช้าค่ะ ประมาณ 7-8 น. นี่แหล่ะค่ะ นั่งเรือไกลกว่าแสมสาร ผ่านหาดเทียน หาดลูกลม เวลามองดูหาดต่างๆ จากในทะเล แล้วรู้สึกเหมือนเราเฝ้ามองคนที่อาศัยบนเกาะนั้น ใช้ชีวิต อิอิ ...



เราโชคดีมาก ที่ได้ไปเกาะขามก่อนที่จะปิดให้ธรรมชาติได้พักฟื้น เพื่อรอมอบความเป็นธรรมชาติให้จับต้องได้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ในปลายปี



เกาะเล็กค่ะ เดินแป๊ปเดียวทั่วเกาะละค่ะ แต่ความเจ๋งของเกาะนี้คือ แนวปะการังสวยงามสำหรับให้ดำน้ำตื้น อยู่รอบๆ เกาะ ไม่ต้องนั่งเรือออกไปไกลค่ะ มีหลายจุด แต่ละจุดก็สวยงาม ที่สำคัญ กิจกรรมทุกอย่างบนเกาะ ไม่ว่าจะ ดำน้ำ พายเรือ นั่งเรือท้องกระจก ฟรีค่ะ รวมอยู่ในค่าตั๋วข้ามเกาะแล้วค่ะ .... มีจุดชมวิว ด้วยนะคะ เดินขึ้นเขาซัก 300 เมตร ใครนึกไม่ออกนะคะ หนึ่งเหนื่อยโฮกใหญ่ๆ เหงืออีกเต็มหน้า เต็มหลัง ไหลเป็นสาย 555 นั่นแหล่ะค่ะ 300 เมตรค่ะ ....



Adventure ค่ะ ดีที่หาข้อมูลมาว่ารองเท้าแตะขึ้นนี่ ลงไม่ได้แน่ๆ หินคมค่ะ ทางลงนี่โรยเชือกลง (เหมือนจะเวอร์ไป)



ลืม climax ของที่นี่ สะพานไม้ค่ะ ... มีกระท่อมที่ทีมงานละครสร้างเป็นฉาก เห็นบอกว่าเรื่องพลับพรึงสีชมพู ตอนไปนี่ เกือบย่อยสลายละค่ะ แต่ก็ยังสามารถนำเตียงผ้าไปขึ้นไปนอนชิวๆ ได้อยู่ค่ะ



☺😊😀😁😂😃😄



กลับจากเกาะ มาช่วงบ่ายๆ แวะเดินเล่นเลียบ หาดเทียน หาดดงตาล เจอเด็กน้อยฝึกเล่นเรือใบกันอยู่ มันดีมากอ่ะค่ะ แต่ว่าวิ่งไปถ่ายใกล้ๆ ไม่ทัน ขึ้นพักกันกหมดแล้ว เสียดายมากค่ะ


พอดีเพื่อนที่เป็นนายทหารที่นั่น เค้าก็พาเที่ยวต่อค่ะ ไปทัศนศึกษาเรือรบ และ ไปจุดชมวิวศาลเสด็จเตี่ย ... เราชอบมาก วิวสวย เห็นอ่าวสัตหีบ มีเกาะเล็ก เกาะน้อย เต็มไปหมด ... แอบซูมดูเกาะที่ทหารมนุษย์กบอยู่ด้วย อิอิ ไม่เห็นอะไรเลย



ตกเย็น เดิมทีตั้งใจจะ check out กลับ กทม. ปรากฏว่า ติดลมบนค่ะ อยู่ต่ออีกคืน 5555 ตลกตัวเอง เย็นวันนั้นเลยเดินเล่นที่ตลาดโต้รุ่งหลังโฮสเทลค่ะ ชอบของหวานร้านบัวลอยไข่หวานค่ะ แต่เรากินเป็นพวกรวมมิตร สะหริ่ม ประมาณนั้นค่ะ เย็น สดชื่นดี กินทุกเย็นที่ไปอยู่เลย 3 วันติด 555 ของกินเยอะค่ะ ถนนสายนั้น ไม่รู้จะเลือกกินอะไรเลย



ตอนกลางคืนของวันที่ 3 ก็ขึ้นไปชิวบนบาร์ของโฮสเทลแหล่ะค่ะ ซึมซับเอาให้เต็มที่ ได้มีโอกาสพูดคุยกัน พบเจอคนใหม่ๆ ก็ทำให้เปิดโลก ลืมความเป็นตัวตนไปซักพักค่ะ .... เราชอบเวลาเดินทางคนเดียวอยู่อีกแบบคือ มีความคล่องตัวสูงค่ะ ไปไหน อยากทำอะไร ไปได้เลย ทำได้เลยค่ะ และ เราจะได้รู้จักตัวเองในอีกมุม ที่เราอาจจะไม่รู้ว่าเราทำได้ ..... เราจะมีเวลาอยู่กับตัวเอง อยู่กับความคิดตัวเอง เพลินดีเหมือนกันค่ะ



แต่สำหรับเรา ... ถ้าการเดินทางครั้งนี้ไม่มีหนังสือ หรือ กล้องถ่ายรูป เราก็ไม่รู้ว่าเราจะรู้สึกยังไง ... จะได้คุยกับคนอื่นเยอะขึ้น หรือจะแค่เปลี่ยนที่นอน.... แล้วสำหรับคุณหล่ะ การเดินทางของคุณเป็นแบบไหน ???



แค่ ออกเดินทางค่ะ ... ยังไม่ต้องคิดอะไรมาก เดี๋ยวการเดินทางจะให้คำตอบกับเราเองค่ะ



ขอบคุณค่ะ

-สัตตะ_ฮิป_ทริป-

☺😊😀😁😂😃😆

ความคิดเห็น