สวัสดีค่ะ ...
เอาบรรยากาศสังขละบุรี ช่วงปลายเดือนพฤศจิกา มาให้ชมค่ะ .. อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ .. สังขละบุรี ก็เหมือนมีมนต์สะกดมากขึ้นเรื่อยๆ ...
ดูรูปยาวๆ ไปเลยนะคะ
อยากไปสังขละมานานละค่ะ แต่ว่าเดี๋ยวนี้รู้สึกจะบูมมาก เห็นกระทู้ในพันทิปเยอะมาก ยิ่งกระตุ้นต่อมค่ะ ต้านทานความอยากไม่ไหว
จัดเลยค่ะ 2 8 - 3 0 พ.ย. 5 7 นี้ค่ะ ทีแรกจะไปคอนเสริต์ที่วังน้ำเขียว แต่ว่ารู้สึกว่าอยากไปสังขละมากกว่า เลยตัดสินใจปุ๊ปปั๊ป
ทริปนี้มีเพื่อนร่วมก๊วนไปกันทั้งหมด สี่สาวค่ะ .. คุยกันว่าจะไปแค่สองวัน หนึ่งคืน แต่สำหรับเรา เรารู้สึกว่ามันไม่พอ เลยตัดสินใจหนีงานไปอีกก่อน 1 วันค่ะ แล้วให้เพื่อนตามไป .. มีแต่คนถามว่าจะเอาจริง? 555 วินาทีนี้ ห้ามทัพไม่ทันละค่ะ
เริ่มจากการหาข้อมูลตามรุ่นพี่ในห้องบลูนี่แหล่ะค่ะ .. แต่ปกติเป็นคนไม่ชอบควาไม่แน่นอนค่ะ มันจะวางแผนไป และโดยเฉพาะที่พัก ต้องมีก่อนออกเดินทาง แต่สำหรับทริปนี้ ไม่ค่ะ .. ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก เหมือนที่เคยเป็นมาจริงๆ ตุ้มๆ ต่อมๆ แต่ว่าก็ตื่นเต้นดีค่ะ
ด้วยความที่มีเวลามาก และไม่คิดว่าชีวิตจะแย่ขนาดนั้น .. ตัดสินใจ นั่ง ร ฟ ท. ไปค่ะ ..เริ่มต้นที่สถานีธนบุรีด้วยเรือข้ามฟากจากท่าพระจันทร์ค่ะ
ระหว่างทาง บรรยายไม่ถูกค่ะ ผ่านบ้านคน ผ่านป่า คือนั่งติดหน้าต่างนี่แอบเสียวค่ะ มีต้นไม้โผล่มาทักทายตลอดเวลา ฝุ่นเยอะมาก หน้านี่คันยิบๆ ค่ะ เอาทิชชู่ลองปาดดู ดำปี๋เลย .. ไว้อาลัยค่ะ กลับลำไม่ทันละค่ะ .. ยาวๆ ต่อไปค่ะ รู้ตัวอีกที สะพานข้ามแม่น้ำแควละ สวยค่ะ
สถานีรถไฟที่สวยที่สุดค่ะ สถานีถ้ำกระแซค่ะ .. สวยจริงๆ แต่นักท่องเที่ยวก็เยอะด้วย มุดออกไปถ่ายฝั่งแม่น้ำไทรโยคไม่ได้เลยอ่ะค่ะ ถ่ายอีกฝั่งไปก่อนละกัน
อื่ม นั่งไปยาวๆ ถึงสถานีน้ำตก ประมาณบ่ายสองค่ะ รีบต่อรถสองแถว ตอนนั้นก็เจอผู้ร่วมชะตาชีวิต ที่จะไปสังขละด้วยกันอีกประมาณ สามสี่กลุ่มค่ะ .. คือคิดในใจ ถ้าไม่มีที่นอน ขอมุดด้วยคนนะคะ .. ก็เกาะๆ กันไปค่ะ รอรถเมล์หวานเย็น ที่ใต้ต้นหูกวาง หน้าน้ำตกไทยโยค สักพักก็มา .. รถพัดลม คนแน่นๆ 555 ไม่ได้ควักกล้องออกมาถ่ายละค่ะ เนี่ยนๆ เป็นคนชิวๆ ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมไป ดูวิวอย่างเดวเบย .. นอนก็ไม่ได้ค่ะ ลมโต้มาแรงมาก .. มีเปลี่ยนรถตรงทองผาภูมิด้วยค่ะ เจอกลุ่มอาสาสมัครจากออสเตรเลีย เป็นนักเรียนอายุ 13 ปี กะคุณครูอีก 2 คน ร่วมเดินทางด้วย เม้ามอยกันจนเมื่อยมือเลยค่ะ ..
รู้ตัวอีกที ถึงสังขละละ พระอาทิตย์ตกดินไปเรียบร้อย ถึงเวลา 1 8 . 3 0 น. ถ้วนค่ะ .. งานนี้ หิวมาก .. ดุ่มๆ เข้าตลาดไปก่อนเลย แต่ก็ไม่รู้จะกินอะไร นึกถึงบ้านชื่นใจ ให้พี่วินไปส่ง ฝากท้องไว้ก่อนมื้อแรกที่นั่น แล้วพี่ที่บ้านก็พาไปส่งสะพานไม้ เพราะคิดว่าจะไปนอนโฮมเสตย์ฝั่งมอญค่ะ ..
ส ะ พ า น ไ ม้ ข้ามาเยือนแล้ว
เดินเล่นได้แป๊ปเดียว ชาวบ้านชาวช่องปิดไฟ ปิดร้านนอนกันหมดแล้วค่ะ เข้าบ้านดีกว่า พัก บ้านดอกบัวค่ะ .. นอนบ้านชาวมอญเลย ชิวมาก
ที่สังขละตอนกลางคืนอากาศแอบเย็นนะคะ พัดลมนี่เปิดนะคะ ระบายอากาศในห้องแต่ว่าหันหน้าไปทางไหนก็ได้ ให้ไม่โดนตัวเลยอ่ะ 55
ราตรีสวัสดิ์ สังขละฯ
ตอนเช้านี่แทบจะไม่อยากตื่นเลยค่ะ .. หกครึ่ง เริ่มตักบาตร? ลุกไม่ไหวค่ะ จนจะเจ็ดโมงแหล่ะ ถึงได้สติ ..
ตอนเช้าอากาศดีมาก ไม่หนาวจนต้องหาเครื่องให้ความอบอุ่น คือ ดีอ่ะ
เช้าวันเสาร์ คนบนสะพานไม่ค่อยเยอะหรอกค่ะ จะไปค่อนกันฝั่งมอญ เพื่อรอตักบาตรหมดละค่ะ
จะเห็นมองจางๆ ตามทิวเขา สวยมากอ่ะค่ะ ..
มาดูฝั่งมอญ กิจกรรมตักบาตรยามเช้าบ้าง คนแอบเยอะค่ะ เป็นกรุ๊ปทัวร์บ้าง มาส่วนตัวบ้าง เรามองหาแต่ชาวบ้านเลยอ่ะ อยากเห็นวิถีจริงๆ ของเค้า
อยู่หางแถวเลยค่ะ กว่าพระจะมาหาชาวบ้าน เค้าดูศรัทธาในศาสนานะคะ ดูแล้วให้ความรู้สึกนั้น
หลังจากนั้นก็เดินดูลักษณะบ้านของชาวมอญค่ะ มีเสห่น์มากๆ ด้วยความที่เราเป็นเด็ก ตจว. เคยเห็นภาพแบบนี้มาบ้างแล้ว แต่ทุกวันนี้แทบจะหาดูที่ไหนไม่ได้แล้ว ขนาดบ้านเกิดเรา ว่าชนบทละ บ้านแบบนี้ก็โดนรื้อ ทำเป็นบ้านปูนกันไปหมดแล้ว อดคิดไม่ได้ว่า
"ถ้าชาวบ้านไม่พากันรื้อบ้านไม้แบบนี้ แล้วแห่กันไปสร้างบ้านปูน .. ตอนนี้หมู่บ้านเราอาจจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชิคๆ ..
ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนกันไปทำไมเหมือนกัน เมื่อมันไม่ได้พังเอง ทำไมเราต้องพังน้ำไม้น้ำมือของบรรพบุรุษด้วย .. คนข้างบ้านเค้ามีผลกับเรามากกว่าบรรพบุรุษของเราเหรอ ?? อื่ม น่าคิด"
รั้ว.. ที่บ้านเคยมีรั้วแบบนี้สมัยข้ายังเด็กมาก .. ตอนนี้เปลี่ยนเป็นรั้วปูนไปแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน .. รัวไม้ทำยากกว่ารั้วปูน? หรือว่ารั้วไม้ไม่หนาเท่ากับความไว้ใจที่ลดลง
เดินไปเดินมาก้สายแล้วนะคะ ยังเห็นหมอกตามทิวเขาอยู่เลย อากาศดีเวอร์
ลงไปเดินสะพานลูกบวบบ้างดีกว่า
กว่าจะเห็นพระอาทิตย์ชัดๆ ปาเข้าไปเกือบสิบโมงค่ะ พระอาทิตย์ที่นี่ขี้อาย 55
ไปถ่ายอยู่ตรงใต้สะพานอยู่นาน จนคนถิ่นแถวนั้นมาถามว่า มาถ่ายอะไรตรงนี้ ไปยืนถ่ายบนสะพานลูกบวบโน่น คนถ่ายเยอะ เลยตอบพี่เค้าไปว่า ใต้สะพานอลังการดีค่ะ หนูอยากเห็นชัดๆ นาง อมยิ้ม นิดๆ แล้วเดินจากไป
เดินข้ามฝั่งไป ฝั่งไทย เช่ารถมอไซค์ที่ พี.เกสเฮ้าส์ เหมือนที่นี่จะมีที่เช่ามอไซค์ แค่ที่นี่นี่เดียวเลยอ่ะ .. ได้คันสุดท้ายพอดี เป็นรถเกียร์ที่ขับได้พอดี สารภาพค่ะ ไม่กล้าขับออโต้ เคยขี่ครั้งแรก แล้วกะจังหวะบิดไม่ถูก 55 เช่าได้ก็รีบไปติดต่อห้องพักที่บ้านชื่นใจเลย เดี๋ยวคืนนี้ไม่มีที่นอนอีก แล้วก็ต้องแว้นมอไซค์อ้อมสะพานซองกาเรีย เข้าหมู่บ้านมอญ ประมาณ 5 กิโล วิวที่สะพานซองกาเรียสวยมากอ่ะ
ข้ามไปเจดีย์พุทธคยา และวัดวังก์ฯ ก่อนที่จะร้อน แต่ว่า... ไม่ทันค่ะ ร้อนมาก แดดแรงมาก ... และนักท่องเที่ยวก็เยอะมาก อีกเช่นกัน
ที่จริงถ่ายรูปมาเยอะค่ะ แต่ว่า ติดคนแบบไม่ค่อยสวย ไม่ออกสื่อดีกว่า หุหุไม่ไหวละค่ะ ร้อนเกินกว่าจะแว้นเที่ยวได้ .. ไปเอากระเป๋าที่บ้านดอกบัว แล้วแว้นกลับฝั่งไทยค่ะ ขอไปหลบร้อนที่บ้านชื่นใจแป๊ป
วิวจากสะพานปูนซองกาเรีย อีกฝั่งค่ะ สวยเหมือนกัน
ลืมถ่ายรูปบ้านชื่นใจมาอวดค่ะ บ้านน่ารักมาก น่ารักไม่ต่างจากเจ้าของบ้าน อยู่บ้านนี่มีหนังสือให้อ่าน มีหนังให้ดู เยอะแยะเลยค่ะ แต่สำหรับเราเจอไอเท็มหายาก นอนอ่านทั้งวันเลย "นั่งรถไฟไปตู้เย็น" ของคุณนิ้วกลมค่ะ
หิวก็สั่งอาหารเครื่องดื่มที่บ้านได้เลยค่ะ อาหารที่นี่อร่อยมาก .. พี่เจ้าของร้านผู้หญิงทำเองด้วย หน้าตาดีมากๆ แนะนำนะคะ ซักมื้อ แล้วคุณจะติดใจ 55 อวยก่อน เดี๋ยวว่าจะกลับไปฝากท้องอีก
บ่ายแก่ๆ ก็แอบเนียน ไปนั่งเล่นกับลูกชายคนเล็กของบ้าน นางอาร์ตมากอ่ะ นางเล่นดินน้ำมัน แต่ว่าสิ่งที่นางปั้น นี่เกิดเด็ก ป.1 ป่ะ นี่คือเรือโจรสลัดนะคะ อลังการอ่ะ เราไม่เคยจิตนาการได้ขนาดนี้อ่ะ ..
บ่ายสี่โมงเกือบครึ่งละค่ะ เพื่อนอีกสามนางที่จะตามมา นางใกล้ถึงละ แดดเริ่มเบาลงละ ไปสะพานไม้ดีกว่า อ่อ สะพานไม้เนี่ย มีเข้าได้หลายซอยค่ะ ซอยข้างวัดศรีสุวรรณ ทางเข้าเข็มทองโฮมสเตย์ ก็จะชันหน่อย เข้าฝั่งแพมิตรสัมพันธ์ ก็จะไม่ชันมาก แล้วฝั่ง รร.สามประสบนี่ขาโหดค่ะ ทั้งชันทั้งโค้ง .. เข้าซอยไปไกลด้วยอ่ะ แต่ถ้าเข้าฝั่งวัดศรีสุวรรณ จะต้องเดินผ่านสะพานปูนใหม่ๆ ที่ตีเนียนคู่กับสะพานไม้อีกทีค่ะ
พอออกแดดปุ๊ป แดดไม่เบาอย่างที่คิด เล่นแนวซีลูเอทกันไปเลย
ช่วงบ่ายสี่โมงกว่า สะพานไม้ไม่มีคนนะคะ .. แนะนำค่ะ ช่วงเวลาดี ทากันแดดแล้วออกแดดโลดค่ะ ...
เย้ๆ เพื่อนมาถึงแล้ว ไปรับนางๆ เข้าบ้าน แล้วรีบออกมาให้ทันพระอาทิตย์ค่ะ ที่นี่พระอาทิตย์ตกไวมาก ..
แนะนำมุมค่ะ ถ่ายภาพสะพานไม้จากสะพานลูกบวบ โดยมีพระอาทิตย์เป็นฉาก สวยมากอ่ะ
เพื่อนพาลงน้ำไปวัดเก่า วัดจมน้ำกันค่ะ แสงยามเย็น โรแมนติกมาก ..
ดอกไม้ ธูป เทียน ไกด์ พร้อมทันทีเมื่อลงเรือค่ะ .. เด็กๆ ที่นี่ขยันทำมาหากินมาก ๆ น่ารักค่ะ
กลับไปถนนคนเดินกันดีกว่าค่ะ มืดละ บอกพี่ที่ชื่นใจไว้ว่าจะไปช่วยลูกชายเค้าขายโป๊ดสะก๊าด .. ตีเนียนเป็นคนถิ่น อีกละ
เดินเพลิน ลืมถ่ายรูปอย่างอืนมาอ่ะค่ะ มีของขายพวก handmade ผ้าซิ่น ชุดมอญ ชุดกระเหรี่ยง เครื่องแก้ว หยก หินสี เยอะแยะเลย
ตาลาย.. หิว โฟกัสหาแต่ของกิน 555
พลาดไม่ได้ค่ะ .. ตามล่า RC "หมูจิ้มพม่า" 55 จัดไปเลยค่ะ คนละยี่สิบไม้ 55 เลี่ยนกันไปเลย ...
หมูไม้ละบาท หมูไม้ละหนึ่งชิ้น นั่นก็คือ ชิ้นละบาท เราว่าชิ้นมันเล็กไปนะ แต่ก็เอาเหอะค่ะ สนุกตอนกิน .. ใครอยากได้ส่วนไหนเพิ่ม บอกพี่เค้าได้เลยนะคะ กลุ่มเราเน้นหูหมู 55
หาของกิน อิ่มแปล้ .. เข้าบ้าน นอน zzzz 555 เจอกันพรุ่งนี้เช้าจ้า สังขละฯ
รีบตื่นแต่เช้า ไปตักบาตรที่หมู่บ่านมอญค่ะ สองคนแว้นมอไซค์ไป อีกสองคนเดินจากบ้านข้ามสะพานไปเจอกันที่ฝั่งมอญค่ะ ..
ไม่มีภาพบรรยากาศการตักบาตรที่ดูดีเลย 55 รกๆ ยังไงไม่รู้ ขออนุญาตไม่ออกสื่อค่ะ .. คนเยอะมาาก บอกเลย ไม่รู้ว่าการตักบาตรนี่จะสร้างภาระให้กับพระท่านรึเปล่า ... เย้ย บาปกรรมละ
อันนี้ อาหารถิ่นค่ะ แนะนำ ... "้ข้าวเหนียวดำ"
ตักบาตรแล้วก้เข้าวัดเข้าวาค่ะ เป็นไก่พาเพื่อนเที่ยว ..
คุยกันไว้ว่า จะขึ้นรถไฟจากน้ำตกเข้ากาญฯ อยากผ่านทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ .. ดังนั้นจะต้องออกจากสังขละฯ ตอนเที่ยง หลังจากเที่ยววัดกันแล้ว ปล่อยให้เพื่อนๆ เดินซึมซับบรรยากาศสะพานไม้กันไป เราเสียสละ แว้นรถกลับฝั่งไทย มาถามคิวรถตู้ แล้วนัดเจอกันที่ฝั่งไทยค่ะ .. แต่ที่เสียดายที่สุด ..
เพื่อนเจอแม่ชีน้อยจากพม่าด้วยอ่ะ เราไม่เจออ่ะ ไปถึง นางก็อวดๆ กัน แล้วบอกว่าแม่ชีกลับไปแล้ว .. นั่นไง .. ชีวิต !!!
รีบเข้าบ้านขื่นใจ อาบน้ำ เก็บของ กินข้าวที่บ้านอีกหนึ่งมื้อ แล้วก็รีบออกจากบ้านเลยตามเวลาค่ะ แป๊ะมาก .. ตอนคิดลืมขั้นตอนการคืนรถ .. คือเลยเวลาเช่าละ โดนปรับละ แล้วที่สำคัญ ปั้มไม่มี ตู้เติมน้ำมันอยู่ตรงไหนไม่รู้ 55 ...
ขออนุญาตผ่านมาถึงสถานีน้ำตกเลย 55 ..
หลับอ่ะ ขึ้นรถตู้ได้กลับหลับยาวเลย สองชั่วโมงกว่า 55 ไปถึงสถานีน้ำตกตามเวลารถไฟออกอีก .. โอ้ว พระเจ้าเป็นใจ 55
ตีตั๋วรถไฟ ยิงยาวเข้ากาญ ฯ พร้อมกับชาวต่างชาติจำนวนนึง .. ที่ไม่มีคนไทย อีกแล้ว
โล่งค่ะ ทั้งขบวนมี 4 โบกี้ เป็นไม้ขัดมัน 3 โบกี้ แล้วก็เป็นเบาะแบบนี้ ชิวๆ อีก 1 โบกี้ค่ะ ..
ชาวเรา ของเลือกโบกี้ไม้ขัดมัน โบกี้ที่ 1 ค่ะ แล้วชาวต่างชาติส่วนใหญ่ นั่งโบกี้ที่ 3 กะ 4 .. โบกี้ที่เป็นเบาะนุ่มตามภาพ ก็เลยว่างให้ข้าได้ถ่ายรูปแนวๆ แบบนี้ได้ค่ะ ..
อ่อ .. จะบอกว่า โบกี้แรก ทั้งโบกี้ มีแต่พวกเรา 4 คน 555 ครองเลยจ้า นั่งกันคนละมุมเลย
นี่ค่ะ ถึงแล้ว ถ้ำกระแซ ... สวนไทรโยค สวยมาก ....
ผ่านจุดนั้นมาอีกนิด สถานวังเย็น สถานีที่ทำให้เรารู้สึกสนิทกับ รฟท. ได้ดูเค้าทิ้งหัว หัวทิ้งขบวน แล้วก็มีหัวใหม่มาเสียบ 5555
ระหว่างรออีกขบวนมาแลกหัวกัน .. ก็ถ่ายรูปเล่นเพลินเลยคะ สวยนะ โชว์ๆ
ตอนนั้นกังวลอยู่เรื่องเดียว 55 กลับกลับไม่ทันรถตู้เข้า กทม .. แต่ด้วยความที่พระเจ้า ช่วยอยู่ ทันพอดีอีกแล้วค่ะ เป๊ะ
อ่อ มีงานประจำปี งานสะพานพอดี .. อยากแวะนะคะ แต่เวลาไม่เอื้อจริงๆ .. ไว้โอกาสหน้าค่ะ
สุดท้าย ขอขอบคุณ รฟท. ที่เป็นผู้สนับสนุนหลัก อย่างไม่เป็นทางการ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ค่ะ
ขอบคุณคุณน้า ที่นั่งข้างๆ บนรถไฟ และคอยตอบคำถามโน่นนี่ .. แต่หนูไม่กล้าถามอย่างนึงค่ะ ต้นไม้ที่ปลุกรายทางเยอะ ๆ คือต้นอะไร หนูกลัวคุณน้าช็อคค่ะ หนูเก็บไว้ถามเพื่อนหนูค่ะ .. นั่นคือ ต้นมันสำปะหลัง .. 55 เกิดมาเพิ่งเคยเห็นจริงๆ คะ
ขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่ดีค่ะ น้องๆ สามคนที่เรานั่งรถสองแถวไปด้วย น่าจะน้องนะ
ขอบคุณคุณผู้หญิง คุณผู้ชาย สองคู่ ที่ร่วมเดินทางทุกรูปแบบด้วยกัน ทักทายกันระหว่างสวนกันไปมา ที่สังขละฯ ขอให้รักมั่นคงค่ะ
ขอบคุณ คุณครูและนักเรียนอาสาสมัครจากออสซี่ .. เป็นการเม้ามอยกับชาวต่างชาติที่สนุกมากจริงๆ
ขอบคุณ บ้านดอกบัว บ้านชื่นใจที่เป็นที่พักพิงค่ะ
ขอบคุณ พี.เกสเฮ้าส์ สำหรับมอไซค์ค่ะ
ขอบคุณมิตรภาพใหม่ ระหว่างการเดินทางค่ะ ....
และขอบคุณเพื่อนร่วมก๊วนค่ะ .. โหด มัน ฮา จริงๆ ค่ะ
ขอให้สังขละฯ น่ารักสำหรับทุกคนนะคะ
anniXam
วันพฤหัสที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 04.32 น.