กลับมารอบนี้ คงต้องทักทายด้วยคำว่า "สวัสดีปีใหม่" 
ปีที่แล้วก็รีวิวโรงแรม ปีนี้ก็เช่นกัน
เพราะโควิดยังอยู่กับเรา และมีแววจะอัพ path กันให้เราปวดหัวกันอีกด้วย

แน่นอนว่าเราก็จะยังไปไหนไกลไม่ได้ แม้ว่าจะเปิดประเทศบินไปเที่ยวไหนต่อไหนกันได้แล้ว
แต่ด้วยภาระ นั่นนี่โน่น ยังไม่สามารถไปใช้ชีวิตไกลกรุงได้ เราก็จะทำงานจากที่บ้าน และนอนเล่นพักผ่อนในกรุงหรือใกล้กรุงก็แล้วกัน 

ครั้งนี้ก็อยู่แทบจะเป็นกิโลเมตรที่ 0 ของกรุงเทพฯ
ที่ซอยรางน้ำ ใกล้ๆกับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินี่เอง เอาเป็นว่า "กลางกรุงโดยแท้ทรู"
ซึ่งจุดนี้ก็รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหารแนว street food ร้านสะดวกซื้อ และรถไฟฟ้า
เอาเป็นว่าจะไปไหนก็ง่าย จะทานอาหารในโรงแรมก็ดี จะเดินไปหาอะไรกินเล่นข้างนอกก็ได้ เลือกตามที่ชอบที่ใช่ได้เลย..

มาเริ่มกันเลยดีกว่า..

  • reservation and check in 

ช่วงที่เราจองโรงแรม คือเราจองผ่านเว็บไซต์กลาง ไม่ได้จองตรงกับโรงแรม
เป็นแอพลิเคชั่นนึงอะเนอะ ช่วงนั้นมีโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" พอดี คือมีส่วนลดค่าห้องพัก 40%
นั่นหมายความว่า แขกนั้นต้องจ่ายค่าโรงแรม 60% จากค่าโรงแรมทั้งหมด 
ซึ่งก็ทำการจองล่วงหน้าก่อนการเข้าพัก อย่างน้อย 7 วัน และก็ทำการจ่ายนี่นั่นโน่นผ่าน application
เมื่อทางโรงแรมดำเนินการเสร็จ จะได้รับอีเมลล์ยืนยัน ถือว่าเป็นการคอนเฟิร์มจ้าาา

อ้อออ ก่อนเข้าพัก หากไม่ลำบากเกินไป โทรไปเช็คหรือแจ้งกับทางโรงแรมซักหน่อย ว่าจะเข้าไปเวลาไหน ช่วงไหน กี่คน อะไรยังไง เพื่อเป็นการเช็คเพื่อป้องกันการผิดพลาดและเตรียมความพร้อมของโรงแรมด้วย

เมื่อถึงวันที่จองไว้.. พาตัวเองไปที่โรงแรม 
และก็ทำการเช็คอินที่ lobby ของโรงแรมนั่นเองงงงง คือเช็คอินผ่านเว็บได้แค่ส่วนนึงนะ (ทางโรงแรมจะส่งลิงค์เข้าเมลล์ให้เราเอง) แต่ยังไงก็ต้องไปหน้าฟอนท์ เพื่อให้พนักงานเช็คอิน ลงข้อมูลอยู่ดี
ซึ่งระหว่างรอ ก็มี welcome drink มาให้แขกชื่นใจระหว่างขั้นตอนการเช็คอิน

เสร็จเรียบร้อย ก็พร้อมขึ้นไปบนห้องทิ้งตัวให้สบายใจแล้ววววว
(พนักงานเสนอว่าช่วยถือสัมภาระขึ้นไปบนห้องด้วยนะ อันนี้แล้วแต่คนเลย อย่างเราของไม่เยอะก็ถือไปเอง) 

  • inside room

ละเราก็นำพากายหยาบขึ้นมาบนห้อง พร้อมตีพุงนอนสบายๆละจ้าาาาา
ห้องของเรา เป็นห้องเริ่มต้น ซึ่งก็คือ superior room มากับขนาด 32 sqm ห้องน้ำแยกสัดส่วนเปียกส่วนแห้ง 
มาพูดทีละส่วนกันดีกว่า.. 

เตียงในห้อง เป็นเตียงขนาด 6 ฟุต มากับหมอน 4 ใบ แบบนุ่มกำลังดี ไม่ได้ยวบมาก แต่ไม่ได้แข็งหรือสูงมาก (แต่คิดว่าถ้าคนชอบหมอนสูงอาจจะไม่ปลื้ม) ผ้าห่มหนาและหนักกำลังดำ ไม่ได้นุ่มฟูจัดดด เราว่ากำลังดี นอนสบายมากมายยยย แต่ไม่ได้ดูดวิญญาณมากนะ 
ก็ตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว มีโคมไฟ นาฬิกาปลุก และโทรศัพท์อยู่ข้างเตียงในระยะเอื้อมถึง ไฟบอกไว้ก่อนว่าโรงแรมนี้ แม้ว่าไฟจะมีหลายจุดในห้องพัก แต่.. ก็ไม่ได้สว่างมากมาย และเป็นไฟสี cool white ก็จะให้บรรยากาศสบายๆ cozy อบอุ่น เหมาะแก่การพักผ่อน

ในส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากเตียงนอน ก็มีโซฟาเล็กที่นั่งสองคนดูทีวีได้สบายๆ พร้อมโต๊ะขนาดเข้ากับโซฟาอยู่ริมกระจก รับแสงข้างนอกสาดมาได้ หากใครชอบแสงธรรมชาติก็เปิดม่านไปเลยซิคะ
ฝั่งตรงข้ามโซฟาหรือข้างๆทีวีนั้น ก็คือส่วนของโต๊ะทำงานขนาดกำลังดี ซึ่งเจ้าโต๊ะนี้สามารถหมุนไปมาได้เผื่อว่าอยากนั่งทำงานและดูทีวี จะได้ไม่ต้องหัน 90 องศาให้ปวดคอกัน อีกทั้งบนโต๊ะนั้นก็มีโคมไฟที่ให้ความสว่างมากพอในการสู้กับแสงหน้าจอไว้ทำงานได้อย่างไม่ต้องคอยนั่งงม ส่วนของเก้าอี้นั้น ก็เป็นเก้าอี้โลหะมีล้อเลื่อน และมีวัสดุเป็นผ้าสำหรับที่นั่ง ดังนั้น ไม่ต้องกลัวเย็นสะท้านบั้นท้ายหรือร้อนหลังเปียกหากต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน

ส่วนเรื่องของอุปกรณ์ต่างๆในห้อง ก็ตามมาตรฐานโรงแรม เช่น เสื้อคลุมอาบน้ำ สลิปเปอร์ ร่ม เตารีด โต๊ะรองรีด กาน้ำร้อน ชา กาแฟ ในส่วนของห้องน้ำ ก็มีของใช้ให้ตามสมควร ไดร์เป่าผม และเนื่องจากเราแว๊บไปที่แห่งนี้มาสองครั้ง รอบแรกได้ผลไม้มาหนึ่งจาน ส่วนรอบสองนั้นได้เป็นขนมหวาน 

มาพูดถึงในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง
ห้องน้ำที่นี่กว้างขวาง มีฉากกั้นที่สามารถเปิดได้ เผื่อต้องการแช่น้ำอุ่นละดูหนังไปเพลินๆ ซึ่งแบ่งเป็นสามส่วนชัดเจน คือในสุดมีชักโครก (และสายชำระ) ตรงกลางเป็น shower ซึ่งมีทั้งฝักบัวและส่วนที่เป็น rain shower หากใครที่ชอบอาบแบบเรนชาวเวอร์แฮปปี้มาก เราเองก็ชอบ ยิ่งตอนเช้าที่ต้องอาบน้ำและสระผม อาบด้วยเรนชาวเวอร์คือสดชื่นนนนนน ถัดมาเป็นส่วนของอ่างอาบน้ำ (ที่มีทั้งฝักบัวและก๊อกของอ่าง) และข้างๆอ่างอาบน้ำ คือส่วนของอ่างล้างมือและกระจก ... น้ำที่นี่ก็ไหลแรง อุ่นเร็ว ควบคุมไม่ยาก รอดดดดไป ไม่ต้องลุ้นว่าเมื่อไรน้ำจะอุ่น .. ไหนๆมาถึงตรงนี้ แวะแช่น้ำให้ชื่นนนนกายสบายใจละกัน 

  • breakfast

พักผ่อนลั้ลลาให้สบายใจ เช้ามาลงไปทานมื้อเช้ากันดีกว่า 
ห้องอาหารเช้า จะอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรม "cuisine unplugged" เริ่มตั้งแต่ 6.00-10.30 และเป็น 11.00 ในวันเสาร์-อาทิตย์ 

ภายในส่วนของห้องอาหาร ก็มีหลากหลายเมนู พวกเมนูไข่ทั้งหลาย แฮม เบคอน ขนมปัง บาแก็ต ครัวซองท์  หรือจะแนวสลัดรักสุขภาพ มีผัก ผลไม้สด ในส่วนของอาหารเอเซียน ก็มีพวกก๋วยเตี๋ยว ขนมจีบ ซาลาเปา ซูชิ อีกทั้งพวกชีสหรือ cold cuts ต่างๆ 

ในส่วนของเครื่องดื่ม สามารถกดกาแฟสดจากเครื่องอัตโนมัติได้เอง เมนูก็ อเมริกาโน ลาเต้ นมร้อน มอคค่า นั่นนี่โน่น มีน้ำผลไม้เยอะแยะ และที่พิเศษคือมีน้ำผลไม้ปั่นสดๆ โดยที่พวกเราสามารถหยิบผลไม้ได้เอง และให้พนักงานปั่นแยกกากให้ น่าจะสดชื่นสุดๆไปเลยยย..

  • overview
    • เป็นโรงแรมที่อยู่ใจกลางเมือง แต่ภายในค่อนข้างเป็นส่วนตัว มีพื้นที่สีเขียวเป็นคอร์ทกลางให้สบายตา สระว่ายน้ำค่อนข้างใหญ่ และเป็นส่วนตัวมากมายยย เหมาะแก่การพักผ่อน แต่จะนั่งทำงานยาวๆ ก็ได้เช่นกัน
    • ชนิดห้องเริ่มต้นก็มีอ่างอาบน้ำ ขนาดห้องกว้างขวางแบบโปร่งๆ (ห้องบางชนิดมีระเบียงด้วย) ห้องน้ำ ห้องนอนแบบไม่อึดอัด เก็บเสียงได้ค่อนข้างดี
    • แต่.. ไฟในห้องค่อนข้างสลัว เหมาะแก่การพักผ่อนมากกว่า ต่อให้เปิดครบทุกดวงก็ยังสลัวววว 
    • ที่จอดรถ สามารถจอดได้ใช้ใต้ดิน มีป้ายบอกเป็นระยะ ว่าโซนจอดของแขกโรงแรม และของห้าง จอดง่าย เดินมาลิฟท์ก็ง่ายยย
    • เดินทางสะดวกแม้ไม่มีรถ อาหารในโรงแรมมีเยอะเช่นกัน แต่รอบนอกก็เป็นตัวเลือกเผื่อชอบทาน street food 
    • มี promotion ของส่วนห้องพักและห้องอาหารอยู่เรื่อยๆ (โปรดดูในเว็บของโรงแรม หรือ line official)
    • ชอบบรรยากาศอาหารเช้า ที่สามารถนั่งทานได้แบบไม่ต้องรีบร้อน นั่งยาวๆ และบริการตัวเอง สบายๆ 
    • ด้วยความที่โรงแรมเป็น business hotel ดังนั้น บริเวณล็อบบี้ก็จะมีลูกค้ามานั่งคุยงาน หากเดินลงมาทานอาหารเช้าจะเจอบรรยากาศค่อนข้างคึกครื้นนนน
  • relevant information
    • การจอง สามารถจองผ่านเว็บไซต์โรงแรม สอบถามในไลน์ โทรไปที่โรงแรมได้เลย หรือจะจองผ่านเว็บไซต์กลาง
    • สมาชิก Accor สามารถสะสม points ได้ 
    • สามารถขอ early check in/ late check out ได้ (แล้วแต่จำนวนห้องว่างในวันนั้นๆด้วย)
    • มีโปรโมชั่นทั้งห้องพักและห้องอาหาร (เช็คจากทางเว็บไซต์อีกที)
    • มีที่จอดรถเพียงพอ
    • เดินทางสะดวกด้วย BTS อนุสาวรีย์ฯ

แข็งแรง ปลอดภัย จะได้อยู่เที่ยวกันไปยาว ๆ
ด้วยความปารถนาดีจาก JNMJNY

JOURNEYMEJOURNEYYOU on Facebook
JOURNEYMEJOURNEYYOU on Instagram

Journeyme Journeyyou

 วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 00.00 น.

ความคิดเห็น