เขาเล่าว่า …
ที่ใดมีรักของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ที่นั่นย่อมอบอวลไปด้วยพลังแห่งรัก ณ เกาะแห่งนี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวของ ความรัก
ว่ากันว่า…ใครที่อยากเติมความหวานให้ชีวิต ยามเช้าให้ชวนกันมาเติมพลังแห่งรักกับแสงแรกของวัน ณ ปลายสะพานแห่งรัก และยามพระอาทิตย์ตกให้ไปอธิษฐานขอพรกลางช่องเขา
นั่นคือที่มาของทริปนี้ครับ
.....เกาะสีชัง เป็นเกาะที่เราฝันอยากไปตั้งนานแล้วครับ แต่ติดที่ที่พักบนเกาะไม่ค่อยถูกใจเราเท่าไหร่แบบว่าเราเน้นกินดีอยู่ดีแบบไม่ค่อยแพงมาก พอมาเห็นว่ามีโรงแรมนี้มาเปิดใหม่บนเกาะเมื่อต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ก็เลยจองไปนอน 1 คืน ค่าห้องก็ไม่แพงมากตกคืนละไม่ถึงสองพันบาทรวมอาหารเช้าด้วย ก็เลยจองไปนอน 1 คืนเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่รีวิวเราขึ้นด้วย SR ก็เพราะว่าหลังจากที่เราทำจองไปเค้ามารู้ว่าเป็นแม่ประนอม และเราคงทำรีวิวด้วย ก็เลยแถมเวาเชอร์ห้องพักมาให้อีก 2 ใบ ซึ่งเราก็จะเอาไว้เล่นเกมส์แจกแฟนเพจเราละกันเนอะ
ลองตามไปดูรีวิวกันครับ ว่าเกาะสีชังนี้น่าเที่ยวแค่ไหน
ขอให้สนุกกับการชมรีวิวนะครับ
แม่ประนอม จ้าการเดินทางไปโรงแรมต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือที่ศรีราชา ก็ให้นำรถไปฝากจอดไว้ที่โรงแรม Kantary Bay Sriracha (เจ้าของเดียวกัน) แล้วเค้าจะมีรถไปส่งที่ท่าเรือให้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่
ก่อนถึงโรงแรม Kantary Bay Sriracha ก็ขอแวะหาไรรองท้องกันก่อนที่ร้าน Cafe' Kantary Sriracha (คาเฟ่ แคนทารี) ศรีราชา ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน
เมนูราคาครับ ร้านนี้อร่อยและราคาเหมาะสมครับ มีสาขาอยู่ทั้วไปครับ
พิชซ่าเค้าก็ดังครับ
บรรยากาศในร้านครับ นั่งชิลล์ดีเลยครับ
สั่งไรเบาๆรองท้องกันครับ เดี๋ยวตั้องนั่งเรือไปอีก 45 นาที
แล้วเราก็เอารถมาจอดที่โรงแรม Kantary Bay Sriracha แคนทารี เบย์ โฮเทล & เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ ศรีราชา
ก็มียามเฝ้าดูแลอย่างดีครับ
แล้วก็ไปติดต่อที่ฟร้อน เค้าก็จะให้แลกบัตรจอดรถเซ็นชื่อแล้วเอาป้ายไปติดไว้ในรถ แบบนี้ไม่ต้องกลัวรถหายเลยครับ
อุ่นใจตอนไปค้างที่เกาะเลยครับ
แล้วก็ขึ้นรถโรงแรมไปส่งที่ท่าเรือครับ
รอบเรือเข้าออกเกาะตามนี้เลยครับ
ซื้อตั๋วเรือกันครับ
เที่ยวละ 50 บาทต่อคนนะครับ
แล้วก็ลงเรือกันครับ เรือออกตามเวลาเป๊ะๆครับ ทุกชั่วโมง
ภายในครับ
ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงแล้วครับ เห็นประภาคารสวยๆแต่ไกลเลยครับ
ลำที่มาครับ ก็รอผู้โดยสารเที่ยวกลับต่อเลย
รถสามล้อพาเที่ยวรอบเกาะครับ เค้าคิด 250 บาทเหมือนกันทั้งเกาะ ถ้าอยากใช้บริการก็ให้ทางโรงแรมเรียกเจ้าประจำของโรงแรมดีกว่าราคาเดียวกัน และสะดวกปลอดภัยกว่า หรือจะเที่ยวก็เช่ามอเตอร์ไซด์ขี่เองก็ได้ วันละ 250 บาท บอกให้โรงแรมโทรเรียกมาส่งที่โรงแรมได้เลย
สำหรับเรา เราเช่ามอเตอร์ไซด์ขี่เองครับ แต่หลังจากที่ขี่เองแล้วขอแนะนำเพื่อนๆเรียก 3 ล้อเหมาดีกว่าครับ นั่งสบายๆชิวๆกว่าครับ
จากท่าเรือไปโรงแรมไม่ไกลครับ แต่เดินไปก็เหนื่อยเหมือนกัน นั่งสามล้อไปคิด 60 บาทครับ
แป๊ปนึงก็มาถึงโรงแรมแล้ว
เช็คอินกันที่ตึกนี้ครับ ห้องอาหารก็อยู่ติดๆกัน
โรงแรมนี้เป็นโรงแรมเปิดใหม่ซิงๆ เล็กๆมีห้องทั้งหมดแค่ 20 ห้อง ก็เงียบสงบดีครับ
อันนี้ละครับที่เค้าแจกให้ ไว้ตามไปเล่นเกมส์ที่เพจนะครับ ขอไม่ใส่ลิงค์นะครับเดี๋ยวโดนแบน ไปเซิรท์ๆเอานะครับ
แล้วก็ไปดูห้องพักกันครับ
โรงแรมนี้มีทั้งหมด 2 ชั้นครับ เราได้ห้องชั้น 2
วันที่เรามาพักห้องเตียงใหญ่เต็มหมด ก็เลยเอาห้องแบบ 2 เตียงมาชนกัน แล้วเค้าก็ผ้าปูเตียงแบบใหญ่ใส่เข้าไปก็เลยกลายเป็นเตียง 7 ฟุตเลย
ไม่จำเป็นที่ต้องเอาเตียงมาชนกันเองนะครับ บอกน้องๆให้เค้าทำให้เลยครับ
ห้องใหญ่กว้างขวางดีครับ มีโซฟาชุดใหญ่ๆในห้องเลย
ระเบียงใหญ่ๆ เห็นวิวทะเลด้วยครับ
สระว่ายน้ำขนาดพอประมาณครับ
แล้วเราก็ให้ทางโรงแรมเรียกมอเตอร์ไซด์เช่ามา 1 คัน วันละ 250 บาท
แต่ถ้าเอามาค้างคืน ก็เพิ่มอีก 50 บาท โดยคืนรถเมื่อครบ 24 ชั่วโมง
และเราก็ขับรถไปเที่ยวสะพาน สะพานอัษฎางค์ ตามตำนานเขาเล่าว่า ให้มาเติมพลังแห่งรัก ณ ปลายสะพานแห่งรัก ที่ พระจุฑาธุชราชฐาน
พระจุฑาธุชราชฐาน สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน ภายในบริเวณมีสภาพภูมิทัศน์ที่งดงาม ด้านหน้าเป็นชายหาดท่าวัง ถัดขึ้นไปเป็นตึกวัฒนา พระตำหนักทรงปั้นหยา เรือนไม้ลวดลายขนมปังขิง ตึกผ่องศรีหรือศาลาแปดเหลี่ยม ตึกอภิรมย์ และวัดอัษฎางค์นิมิตรบนยอดเขาซึ่งก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมตะวันตก ส่วนพระราชวังซึ่งทำด้วยไม้สักได้รื้อไปก่อสร้างเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆ ที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ได้แก่ สระน้ำ บ่อน้ำ สะพานท่าเทียบเรือ
สถานที่เที่ยวชมบริเวณนี้เยอะมาก แต่เรามาถึงเลยเวลาปิดไปแล้วครับ ก็ได้แค่มาชมสะพานครับ
มอเตอร์ไซด์ที่เช่ามาครับ
12 ก.ม.นี่คือห่างจากศรีราชานะครับ
นั่งชิวๆตรงนี้ซักพักก็เพลินเหมือนกันนะ
ไปเติมพลังรักกันที่ปลายสะพานกันครับ
หลายจุดหลายมุมให้นั่งชิวกันเพลินๆครับ
เมื่ออิ่มตาอิ่มใจกับบรรยากาศสวยๆแล้ว ก็กลับมาพักผ่อนที่โรงแรมละครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยออกเที่ยวต่อ
อยากบอกว่าบรรยากาศที่โรงแรมตอนกลางคืนสวยงามมากครับ
ไม่เชื่อก็ดูเลยครับ
โรงแรมใหม่กิ๊กๆ สวยๆบรรยากาศดีมากครับ
ดูอีกสักโพสนึงนะครับ เดี๋ยวจะไปทานอาหารอร่อยๆกันครับ
ไปหาที่นั่งทานอาหารเย็นกันดีกว่าครับ
เราว่านั่งนอกรับลมทะเลแบบโรแมนติกดีกว่านะ
เอาเมนูมาให้ดูครับ
มื้อนี้ใจป้ำหน่อยป๋ามาเอง สั่งเมนูที่แพงที่สุดให้สุดที่รักกินดีกว่าเนอะ เป็นสเต๊คเนื้อจานละ 250 บาท อิ อิ
ราคาอาหารดีงามเลย ไม่แพงไม่ต้องกลัวกระเป๋าทะลุ
มาแล้วครับ จานที่แพงที่สุดในเมนู อร่อยด้วยนะ เพราะที่นี่อาหารสูตรเดียวกับ คาเฟ่แคนทารี
อันนี้ 180 บาทกอดอนเบลอ อร่อยๆนะ
เครื่องดื่มราคาไม่แพง สั่งแบบไม่กลัวเป๋าฉีกเลย สบายๆ
บอกแล้วไงว่า วันนี้ป๋าจัดเต็ม อิ อิ
ห้องที่นี่ที่จองมาจะรวมอาหารเช้าครับ
เรามาดูอาหารเช้ากันครับว่าเป็นไง
วันนี้แขกเข้าพักเต็มทั้งหมดเลย เค้าก็เลยมีจัดบุฟเฟ่ต์เล็กๆ แล้วให้สั่งเมนูไข่อย่างเดียว
แต่ถ้าวันไหนแขกน้อย ก็จะให้สั่งตามเมนูทุกรายการครับ
อาหารก็พอได้ครับ ไลน์ไม่ได้เยอะมาก แต่คุณภาพโอครับ ถึอว่าใช้ได้สำหรับโรงแรมค่าห้องแบบนี้
อิ่มแล้วก็ขี่มอไซด์ไปเที่ยวรอบๆเกาะกันครับ
จุดแรกที่แวะไปถ่ายรูปเล่นก็คือชุดชมวิวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสีชัง
แล้วก็ไปถ่ายรูปที่ประภาคารกันครับ
ที่นี่ถ้าจะให้ดีมาช่วงเย็นๆจะสวยกว่าครับ แสงจะส่งมาด้านซ้ายข้างๆ ตัวประภาคารจะสวยงามมาก
ต่อด้วยไปไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่กันครับ
มีรถรางขึ้นไปด้วยครับ ไม่ต้องเดินขึ้นไปร้อยกว่าขั้น ขึ้นฟรีไม่เสียตัง แต่ใส่ตู้ทำบุญช่วยค่าไฟแทนครับ
วิวบนนี้สวยดีครับ
มาดูประวัติกันหน่อยครับ
รูปเจ้าพ่อ เกิดเองตามธรรมชาติครับ
ก็มาไหว้ขอพรกันครับ พอกลับมาแล้วรู้สึกอะไรๆดีๆขึ้นจริงครับ
อิ อิ โปรดใช้วิจารณะยนต์ครับ
จุดหมายต่อไปเราไปที่ ช่องเขาขาด มาอธิฐานขอพรตามตำนานครับ
ช่องเขาขาด ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา ในบริเวณมีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์ สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม มีหาดหินกลม ซึ่งเต็มไปด้วยหินกลม ๆ ขนาดต่าง ๆ มากมาย ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5
อันนี้คือ หาดถ้ำพัง ครับ
หาดถ้ำเขาพัง ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะ เป็นชายหาดกว้าง สะอาดและสวยงาม มีทรายละเอียด น้ำใสสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ
การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอยู่ห่างกันพอสมควร จะสะดวกมากหากจะเช่ารถสามล้อเครื่องจากท่าเทียบเรือไปชมสถานที่ต่าง ๆ ค่าเช่ารถสามล้อเครื่อง คิดเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 150-250 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและระยะทาง
แล้วก็กลับมาทานข้าวเที่ยงกันที่โรงแรมครับ
ราคาดีงามมากครับ ป๋าจัดเต็มเลย ดูราคาจากที่โพสละกันครับ
กุ้งสดในผัดไท ให้ตัวขนาดนี้มา 4 ตัวครับ
พักผ่อนแป๊ปแล้วเก็บของ ทานขนมอร่อยก่อนไปขึ้นเรือกลับครับ
แล้วก็เรียกสามล้อมารับไปส่งที่ท่าเรือ 60 บาทครับ
ประภาคารตอนเย็นๆ แสงส่องทางด้านข้างสวยงามมากครับ
แล้วก็ขึ้นเรือกลับคนละ 50 บาทครับ แล้วเราจะมาอีกนะ
ก็คงจบแล้วครับ
หวังว่าเพื่อนๆคงชอบนะครับ อยากชวนไปเที่ยวเกาะสีชังซักครั้งกันครับ เมืองไทยมีสถานที่น่าท่องเที่ยวสวยๆงามๆมากจริงๆ
ที่นี่เราก็มาครั้งแรก และประทับใจมาก เหมาะแก่การมาถ่ายรูป บรรยากาศรอบๆเกาะสวยงามและโรแมนติกมาก
มาเที่ยวเกาะสีชังกันครับ เกาะที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก และอบอวลไปด้วยกลิ่นไอของความรัก
ขอบคุณที่รับชมและติดตามกันมา
แม่ประนอม ครับผม
แม่ประนอม
วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 20.03 น.