อกหักจาก "เขา" ก็หนีไปเกาะ ... เกาะสีชัง

ความคิดชั่ววูป นำพาให้เราทำอะไรไปโดยที่ไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน บางครั้งอาจจะนำผลเสียมาให้ และบางครั้ง ผลลัพท์ที่ออกมา ก็ ดี จนขอบคุณใจตัวเองไม่ไหว ....

ครั้งนี้เหตุเกิดจาก หยุดติดกัน สามวัน ไปไหนหล่ะ ... ช่วงนี้ฝนตก อยากเห็นหมอกหลังฝนที่เขาค้อมานานละ ลุยเลยมั้ย ออกเดินทางแต่เช้า ซักแปดเก้าโมง ยาวๆ ไป .... อาบน้ำ กำลังจะเก็บกระเป๋า มีสายเข้าจากบุคคลท่านหนึ่งที่นับถือ่ มีประกาศิตให้เข้าไปหา นางบิลว์ให้ทำอะไรบางอย่าง ที่ต้องใช้เวลาทั้งวันนั้นไปกับสิ่งนั้น .... เอิ่ม กลับมาสองทุ่ม ไปทันมั้ย ... เหนื่อยค่ะ นอน

ตื่นมาอีกวัน เห้ย เราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้นะ สองวันหนึ่งคืน? ไม่ เราต้องหาเวลาไปให้ฟินได้ยาวนานกว่านั้น

"เกาะสีชัง" .... คือคำตอบ ณ ตอนนั้น คว้ากล้อง และเป๋าตังค์ ... ออกเลยค่ะ (มือถือด้วยเช่นกัน)

- ท่าเทียบเรือฝั่งศรีราชา เพิ่งโดนเปลี่ยนจาก ท่าเรือเกาะลอย เป็นท่าเรือจริณ ... เนื่องจากปรับปรุงท่าเรือ ตั้งแต่วันที่ 3/6/59 นับไปอีกประมาณ 2 ปี

- ซื้อตั๋วเรือ เที่ยวละ 50 บาท จะมีเจ๊นางหนึ่งถามรายละเอียดเรื่องเที่ยวที่เกาะ ค้างคืนมั้ย เช่ามอไซค์หรือเหมา SKYLAB เจ๊สามารถจัดหาให้ได้ทุกอย่าง เราจัดมอไซค์เจ๊หนึ่งคัน (พอลงเรือ มีชาวบ้านมาถามเช่ามอไซค์ บอกมีแล้ว ซึ่งมีแล้วซะส่วนใหญ่ นั่นคือเช่าของเจ๊ ไปแล้ว ชาวบ้านหลายๆ คน บ่นใหญ่เลยว่าโดนดักลูกค้า หาลูกค้าไม่ได้ .... แนะนำนะคะ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะไม่มีมอไซค์ ไปเช่าที่เกาะก็ได้ เราเผลอเป็นเหยื่อมาเฟียท้องที่ อิอิ สงสารชาวบ้านจัง (ความเห็นส่วนตัว)

- ระหว่างนั่งเรือไป ก็ชมเรือไปค่ะ ท้องฟ้าเป็นใจมาก สวยยยย ชอบฟ้าแบบนี้ มีนกสีขาวเจ้าเก่าแวะมาทักทายค่ะ โฉบเล่นน้ำไปมา น่ารักมาก หัวเราะกับนางไปตลอดทางเลย

- ถนนในเกาะเป็นถนนสายหลัก สายเดียว วนรอบเกาะ มีซอยแยกๆ ทะลุถึงกันเกือบหมด หลงค่อนข้างยาก ถ้าไม่มั่นใจ เจอใครถามได้เลย ทุกคนใจดี และยินดีช่วย ซึ่งก็เข้าใจ ว่าสตรี เป็นเพศที่สามารถหลงได้ทุกทิศทาง

- มอไซค์ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็น ออโต้ ใครขับไม่เป็น บอกคนรับเช่าได้ว่าขอเป็นเกียร์ แบบเราเป็นต้น มีแผนที่ส่วนตัวค่ะ งงๆ ว่าจะไปถูกมั้ยหาเจอมั้ย ... อย่างที่แจ้งค่ะ เกาะเล็กๆ น่ารักค่ะ หลง..

- วัดเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นจุดชมวิวรอบเกาะได้สวยงามมาก ชอบตรงวิวหน้าห้องน้ำ เป็นวิว PREMIUM

- รอยพระพุทธบาท ถูกอันเชิญขึ้นมาประดิษฐานโดย ร.5 มีชื่อเขาจารึกไว้ และมีกลอนเป็นพร ให้กับผู้ที่ขึ้นมาสักการะ วิวสูงขึ้นมาจากวัดเจ้าพ่อเขาใหญ่ เห็นวิว 270 องศา

- อ่าวอัษฏางค์ หรือหาดถ้ำพัง มีถ้ำพังจริงมั้ยไม่รู้ แต่ตรงหาดสามารถลงเล่นน้ำได้ ริมๆ ขาดสองด้าน มีโขดหินอยู่ ต้องระวังไม่ควรไปเล่นแถวนั้น มีป้ายบอก มีเตียงผ้าใบให้นั่ง จันทร์ถึงศุกร์ นั่งฟรี แต่เสาร์อาทิตย์ ไม่แน่ใจ ...อาหารการกินมากมาย ราคาย่อมเยาว์กว่าริมทะเลที่อื่นๆ รสชาติไม่แน่ใจ ไม่ได้ชิม

(จุดสีดำๆ นั้น คือฝุ่นค่ะ อิอิ ภาพจริง ไม่ได้ผ่านการตกแต่งเบย สดๆ )

- ระหว่างทาง ก็แว้นไป ชมวิวไป ท้องฟ้าก็สวย แดดรึ ทำไรเราไม่ได้หรอก เพราะเราไม่หลบ (หลบยังไงอ่ะ แว้นอยู่) 555

- วัง ร.5 (จำชื่อเต็มไม่ได้ เขียนไม่ถูก ไม่อยากหาในอากู๋) สวยงาม ร่มรื่น มีหลายอาคารให้เยี่ยมชม แต่ต้องอาศัยพลังขาที่แข็งแรง และความทนแดดระดับแปด เราไม่มี เลยอดไป ไปนั่งเล่นบ้านเขียว เป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ซึ่งจะเปิดบริการวัน เสาร์ อาทิตย์ครัช จันทร์ถึงศุกร์ก็สั่งน้ำในตู้เย็นกินไปก่อนละกัน .... จุดนี้นั่งพักยาวๆ ขอชาร์ตแบตมือถือ ไม่ได้เอา POWER BANK มาด้วย เพลียใจ นั่งเล่นกับลูกๆ ไป

(คนที่นี่เป็นคนตลกค่ะ ว่ามั้ย)

(สวยจริงๆ ป่ะหล่ะคะ ท้องฟ้าวันนี้)

("มีอะไรให้สั่งบ้างคะ" // "อ๋อ น้ำในตู้เย็น กับไอติมในตู้เลยครับ" // "อ่อ ค่ะ ขอบคุณค่ะ")

("เปิดขายเต็มรูปแบบวันเสาร์ อาทิตย์ครับ วันธรรมดาก็ขายแค่นี้ครับ" // "อ่อ ค่ะ ขอบคุณค่ะ")

(ระหว่างรอชาร์ตแบตมือถือ ก็นั่งเล่นกับลูกยาวๆ ไป)

- สะพานอัษฏางค์ จุดพีค สวยงาม โรเมนติก นี่ถ้าหอบใครมาถ่ายรูปคู่กลางสะพานได้นะ ฟินกันไป ...แต่สิ่งที่เจอคือมีคนมานอนหลับร้อน เพราะลมโกรกเย็นมาก ทำให้แม้แต่การ SELFIE ก็ยังแอบลำบาก

- แม้ว่าอากาศจะร้อนขนาดไหน ก็มีชาวบ้านเดินตามหาด ลงไปหาหอย ... เป็นวิถีของเขาเนอะ

- ออกมาจากวัง มีร้านอาหารตรงมุม ฝั่งซ้าย ขื่อร้านอะไรไม่รู้ พยายามจำละ พอมานึกอีกที ลืมไปแล้ว อาหารอร่อย เป็น open air

- เลยมาอีกนิด ฝั่งขวามือเป็นเกสต์เฮาส์ต่างๆ ส่วนฝั่งซ้ายมือ มืร้านกาแฟน่ารักๆ ร้านหนึ่งพอให้ได้เข้าไปหลบร้อน ไม่ได้แวะ ติดกิจพิชิตปารีฮัท .... อิอิ ตามมาเลยค่ะ ถามทางเจ้าถิ่น บอกให้ไปทางเดียวกับที่จะไปหาดถ้ำพังก่อน แล้วจะเจอป้าย ตรงๆ ไปตามป้าย ผ่านโรงกลั่นน้ำมัน ก็เข้าไปตามป้าย มีป้ายเรื่อยๆ ไม่ยาก... นี่คือสารที่ได้รับนะคะ

(นี่ค่ะ ตรงมาเรื่อยๆ มาโผล่หาดอะไรก็ไม่รู้ 555 ยังไงหล่ะคะ ตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทางอ่ะค่ะ)

(ขับย้อนกลับไป เจอป้าย ถึงจะอ๋อ ... ตรงนี้ ใครจะคิดว่าเป็นทางเข้า รีสอร์ทสุดสวยหล่ะคะ มองผ่านกระจกไปค่ะ นั่นแหล่ะค่ะ ทางเข้ารีสอร์ท แว้นเก่งมาก เกือบสะดุดหิน แต่เก่งไงคะ ไม่ล้ม อิอิ)

(โอ้ยๆ ถึงแล้วค่ะ ที่นี่จะมีขอบเขตของผู้เข้าเยี่ยมชมชัดเจนนะคะ)

- ปารีฮัท รีสอร์ท คือภาระกิจที่ต้องเก็บก่อนกลับ.... ทางเข้าโหดพอควร แต่พอเข้าไปถึงแล้ว ว้าว ... น่ารักจริงๆ เลย กระท่อมไม้ใผ่สุด cool ผู้เยี่ยมชมเข้าไปชมได้ในพื้นที่ ที่เค้าจำกัดให้ แต่แค่นั้นก็เกือบ overview แหล่ะ สามารถเห็นได้ทุกจุด น่ารักจริงๆ วิวติดทะเลเลย อ่อ จะมีร้านอาหาร วันธรรมดามีอาหารทั่วไปและน้ำขวดขาย วันเสาร์อาทิตย์ถึงจะเปิดเป็นร้านกาแฟ ... คือไรคะ มาผิดวันมั้ย ไม่เป็นไร .... เข้าไปสั่งแป๊ปซี่ชมวิวที่สวยระดับสิบ ... กินเวลาไปเกือบชั่วโมงกว่าๆ แบบไม่รู้ตัว มองนาฬิกา คือ ควรกลับไปขึ้นเรือละ เดี่ยวเย็นไป รถติด

(ส่วนของห้องอาหารและคาเฟ่ที่ปารีฮัทค่ะ วันธรรมดาไม่ได้เปิด full ค่ะ เลยไม่มีของกินมารีวิว อิอิ)

(จะฟินแค่ไหน ถามใจตัวเองดู)

(ภาพเยอะไปหน่อย คัดไม่ออกจริงๆ ค่ะ)

- แว้นมอไซค์ รอบเกาะอีกซักรอบ เข้าซอยนั้นออกซอยนี้ แหม่ะ ตอนนี้ไม่กลัวหลงละ เพราะยังไงก็โผล่ถนนสายหลัก อิอิ ตลาดสดเค้าอยู่ใกล้ๆ ท่าเทียบเรือแหละ เล็กๆ น่ารักๆ มี 7-11 หนึ่งจุดถ้วน ร้านขายของชำตามบ้านมีให้เห็นตลอด ค่อนข้างเยอะ เกสต์เเฮาส์มีอยู่ตามจุดสำคัญๆ ในเกาะ รีสอร์ทใหญ่ๆ ส่วนใหญ่อยู่ตามแหลมต่างๆ หรือเลียบผาตามแนวหาดทะเล เพื่อเน้น sea view