หากพูดถึงจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพและมีวัดวาอารามรวมถึงโบราณสถานที่เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทยแล้ว ทุกคนต้องนึกออกว่าคือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แน่นอน ซึ่งพระนครศรีอยุธยานั้นถือเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากทีเดียว จึงเป็นแหล่งรวมความรู้และวัฒนธรรมต่างๆ ไว้มากมาย
นอกจากสถานที่ทางประวัติศาสตร์แล้ว อยุธยายังเป็นจังหวัดที่มีวัดสำคัญๆอยู่หลายแห่ง เรียกได้ว่าเที่ยวครั้งเดียวนั้นไม่เพียงพอกันทีเดียว
ในด้านร้านอาหารร้านคาเฟ่ก็มีให้แวะชิมชมบรรยากาศกันอย่างมากมาย หากต้องการพักค้างคืนก็มีโรงแรมหรือโฮมสเตย์ไว้ให้เลือกพักได้ตามความต้องการ
ทริปอยุธยาของเรา คราวนี้ก็เป็นการไหว้พระทำบุญที่.....วัดใหญ่ชัยมงคล....
แวะเยี่ยมชมวัดแม่นางปลื้ม และ.....วัดพระงาม.......ที่มีประตูแห่งกาลเวลา
อันเกิดจากต้นโพธิ์ที่พันเลื้อยรอบซุ้มประตูวัดมาเนิ่นนาน
รวมถึงแวะชม....หมู่บ้านญี่ปุ่น ......แวะทานอาหารที่...ร้านอาหารบ้านสวนรอยจรัล...
และเข้าพักที่.....โรงแรมศาลาอยุธยา.....
เริ่มต้นการเดินทางในช่วงเช้าแบบสบายๆ .........แปดโมงกว่าๆ ขับรถโดยใช้เส้นทางพิเศษอุดรรัตยา ขับรถไม่ถึงชั่วโมงก็เข้าเขตจังหวัดอยุธยา มุ่งหน้าวัดใหญ่ชัยมงคลเป็นอันดับแรก ซึ่งถ้าหากไปช่วงเช้าผู้คนจะไม่พลุกพล่าน อากาศไม่ร้อนและหาที่จอดรถได้ไม่ยากเลย
วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทองปฐมกษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว และยังเป็นวัดที่ประดิษฐาน....เจดีย์ชัยมงคล......อันเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะและความมีน้ำพระทัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งพระนเรศวรโปรดให้สร้างขึ้นหลังจากมีชัยชนะเหนือมังกะยอชวา พระมหาอุปราชของหงสาวดี
นอกจากนี้ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคลซึ่งเป็นพระประธานในวิหารซึ่งมีอายุเก่าแก่ยาวนาน พระพุทธชินราชในบริเวณวิหารหลังปัจจุบันและพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนซึ่งสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งมีพุทธลักษณะที่งดงามในวิหารเดิมอีกด้วย
ภายในวัดมีความร่มรื่นเมื่อไหว้พระในบริเวณฝั่งวัดเรียบร้อยแล้วต้องไม่ลืมข้ามไปกราบสักการะรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งอยู่ฝั้งตรงข้ามกับบริเวณวัดโดยสามารถเดินข้ามสะพานจากวัดไปได้อย่างสะดวกกัน
Cr.machima.org
Cr. machima.org
หลังจากที่ใช้เวลาพอสมควร ก็เดินทางต่อโดยแวะทานอาหารกัน
..... บ้านสวนรอยจรัล.....
ร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศบ้านสวนร่มรื่น มีบ่อน้ำท่ามกลางต้นไม้นานาชนิด ลูกค้าสามารถนั่งเล่นจิบเครื่องดื่ม ทานขนมเค้กหรือรับประทานอาหารรสชาติอร่อยให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนในบ้านเราเอง ทางร้านยังจัดมุมถ่ายรูปไว้หลากหลายสไตล์ทั้งภายในอาคารหรือบริเวณสวนภายนอก
หากต้องการจะสั่งเครื่องดื่มหรือเค้กสามารถสั่งได้จากจุดรับออเดอร์ได้เลย หรือต้องการนั่งรับประทานอาหารก็สามารถนั่งได้ทั้งบริเวณภายนอกที่เป็นสวนหรือในห้องแอร์เย็นฉ่ำที่ตกแต่งสไตล์มินิมอลได้เช่นกัน
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว......ก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยัง วัดแม่นางปลื้ม ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอีกเช่นกัน วัดแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของค่ายทหารพม่าก่อนที่ไทยจะเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ทำให้วัดและโบราณสถานแห่งนี้ไม่ถูกเผาทำลายไป
.........ภายในวิหารอันเก่าแก่ของวัดแม่นางปลืัมนี้เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อขาว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์สีขาวบริสุทธิ์มีความงดงามอ่อนช้อยมาก
ออกจากเขตพุทธาวาส ......ตรงบริเวณวัดด้านนอกนั้นเราสามารถสักการะ เพื่อเป็นสิริมงคลได้ด้วยเช่นกัน โดย ท้าวเวสสุวรรณ นั้นเป็นเทพที่คอยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และยังช่วยบันดาลโชคลาภ ความสำเร็จมาให้อีกด้วย
หลังจากนั้นไม่ไกลจากวัดแม่นางปลื้ม เราเดินทางต่อไปยัง.....วัดพระงาม...ซึ่งมีซุ้มประตูที่ถูกรากต้นโพธิ์เกาะเกี่ยวจนทำให้มีความน่าพิศวงบ่งบอกถึงกาลเวลาจากอดีตถึงปัจจุบัน
เมื่อมาถึงแล้วอย่าลืมลอดซุ้มประตูแห่งกาลเวลา เพื่อเข้าไปกราบพระเจดีย์แปดเหลี่ยมซึ่งเป็นประธานภายในวัดแห่งนี้ด้วย จะทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปในยุคอยุธยากันเลยทีเดียว
พระนครศรีอยุธยาเมืองเก่า นี้เมื่อครั้งเป็นราชธานีของอาณาจักณอยุธยานั้นมีต่างชาติเดินทางเข้ามาค้าขายกันเป็นอย่างมาก ผู้คนมากมายจนตั้งเป็นหมู่บ้านของชนชาติต่างๆอย่างชัดเจน เช่น หมู่บ้านญี่ปุ่น หมู่บ้านฮอลันดา หมู่บ้านโปรตุเกส หมู่บ้านจีน
ซึ่งหมู่บ้านที่เราได้ไปเยี่ยมชมครั้งนี้เป็นบริเวณที่ตั้งดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นเรียกว่า.... หมู่บ้านญี่ปุ่น.... .........ภายในจะมีอาคารพิพิธภัณฑ์อยู่ 2 อาคารและบริเวณภายนอกมีการตกแต่งให้คล้ายคลึงกับบรรยากาศประเทศญี่ปุ่น
..........ที่นี่ยังมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของท้าวทองกีบม้าหรือมารี กีมาร์ ซึ่งมีเชื้อสายโปรตุเกส ญี่ปุ่น และเบงกอล ผู้ประดิษฐ์ขนมไทยประเภท ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองม้อนและหม้อแกง ให้ชมด้วยเช่นกัน
ที่หมู่บ้านญี่ปุ่นเราสามารถเช่าชุดยูกาตะและกิโมโนใส่เพื่อถ่ายรูปกันได้อีกด้วย
............ใช้เวลาอยู่ที่หมู่บ้านญี่ปุ่นพอประมาณ ก็ถึงเวลาที่จะเข้าที่พัก ซึ่งเป็นเวลาเย็นพอดี
โรงแรมศาลาอยุธยา.... เป็นโรงแรมริมแม่น้ำ ฝั่งตรงข้ามกับวัดพุทธไธศวรรย์ โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองอยุธยา มีความสะดวกสบายในการเดินทาง ผู้เข้าพักสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศริมแม่น้ำอยุธยาและวิวสวยๆของพระปรางค์วัดพุทธไธศวรรย์ได้ตลอดเวลา
ในตอนเช็คอินเข้าที่พักทางโรงแรมมีบริการ Welcom Drink เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรพร้อมกับท้อฟฟี่รสมะพร้าวเคี้ยวหนึบๆ ต้อนรับผู้เข้าพักให้สดชื่นหลังจากการเดินทางอีกด้วย
โรงแรมศาลาอยุธยามีห้องหลายรูปแบบให้เลือกพัก ซึ่งคราวนี้ เราเข้าพักใน
................ห้องแบบ Two Bedroom Duplex ซึ่งเป็นห้องพัก 2 ห้องนอนแบบ 2 ชั้น
โดยห้องที่เราเข้าพักเป็น........ห้องหมายเลข 1 ของโรงแรม....... ภายในห้องตกแต่งโดยเน้นความโปร่งมีแสงเข้าผ่านทางกระจกและช่องแสงทำให้ดูไม่อึดอัด
ห้องพักด้านล่าง ...... เป็นแบบสองเตียงแยกกัน สามารถมองเห็นแม่น้ำได้ในระดับสายตาให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับน้ำกว่า จากชั้นล่างสามารถออกไปบริเวณระเบียงที่มีที่นั่งพักผ่อนส่วนตัวรวมถึงเดินไปที่ริมน้ำได้อีกด้วย และจะมีบันไดวนเพื่อเชื่อมต่อขึ้นสู่ชั้นบน ห้องพักชั้นบน ......จะเห็นวิวในลักษณะมุมสูง กว้างไกล
เมื่อขึ้นบันไดวนไปชั้นบนจะเป็นห้องนอนประเภทเตียงคิงส์ มีอ่างอาบน้ำและห้องน้ำแยกกัน มีห้องแต่งตัวอยู่อีกด้าน การตกแต่งเป็นแบบเปิดโล่งเน้นกระจกและผ้าม่านทำให้ดูไม่อึดอัด
เมื่อเข้าพักในโรงแรมแล้วก็อยากพักผ่อนดื่มด่ำบรรยากาศที่สงบสวยงามอย่างเต็มที่ ซึ่งในโรงแรมก็มีห้องอาหาร อีทเทอรีย์ แอนด์ บาร์ไว้คอยบริการ หากสมัครเป็นสมาชิกกับทางโรงแรม Sala Book Direct Savings ก็จะได้ส่วนลดค่าห้องพักและค่าอาหารอีกด้วย
การที่รับประทานอาหารไปชมวิวไปด้วย ชื่นชมพระปรางค์วัดพุทธไธศวรรย์ยามค่ำคืนที่เปิดไฟส่องสว่างสะท้อนลงบนผิวน้ำ รวมถึงสัมผัสบรรยากาศริมน้ำ.......เป็นการเพิ่มเติมพลังความนึกคิด เป็นการย้อนนึกถึงอดีตที่รุ่งเรืองและยังคงอยู่ถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
.....Good Morning.....อรุณสวัสดิ์ เช้าวันสดใส.....
ยามเช้า...ค่อนข้างเงียบผู้คนยังพักผ่อนกันอยู่ จึงเดินสำรวจบริเวณส่วนอื่นของทางโรงแรมซึ่งเป็นส่วนของสระว่ายน้ำส่วนกลาง และที่นั่งพักผ่อน โดยรอบๆจะเป็นบริเวณห้องพักรูปแบบวิวสวนหรือสระว่ายน้ำซึ่งให้บรรยากาศอีกแบบหนึ่งต่างออกไป
Breakfast..... จะมีบริการที่.....ห้องอาหาร อีทเทอร์รี่ แอนด์ บาร์.... มีทั้งที่เป็นบริเวณกลางแจ้งและห้องปรับอากาศ โดยจะเปิดบริการตั้งแต่ 7.00-10.30 น.
อาหารเช้า จะเสริฟอาหารเป็นเซต ตามเมนูอาหารเช้าซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแบบทั้งไทย จีน หรืออเมริกัน เบรคฟาสต์
ในส่วนสลัด ผลไม้ ชากาแฟจะจัดมาบริการให้ที่โต๊ะเลย แต่ทั้งหมดนี้หากต้องการทานเพิ่มสามารถแจ้งกับพนักงานได้เรื่อยๆ
เรื่องคุณภาพและรสชาติของอาหารและความพิถีพิถันในการจัดแต่งให้สวยงามต้องยกให้
ทางห้องอาหารดูแลได้เป็นอย่างดี มีความหลากหลายของเมนูอาหารเหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ซึ่งผู้เขียนเองก็ไม่สามารถชิมได้หมดทุกเมนู ถึงแม้ว่าจะมีเมนูที่น่าสนใจอยู่
......ถือได้ว่าเป็นอาหารเช้าแบบเซตที่ทานแล้วอิ่มได้ทั้งวันทีเดียว....
การมาท่องเที่ยวที่อยุธยาครั้งนี้......ถือได้ว่าเป็นการเก็บเกี่ยวความสุขกายและสุขใจ กลับไปอีกครั้งหนึ่ง
.......ไม่มีการเดินทางครั้งใดไม่มีจุดสิ้นสุด แต่ก่อนจะเดินทางกลับก็ไม่ลืมที่จะซื้อของฝากประจำถิ่นอยุธยากลับไปด้วย ซึ่งก็คือ กุ้งแม่น้ำเผาและโรตีสายไหม นั่นเอง
..........พระนครศรีอยุธยา.....กรุงเก่าที่คงความมีเสน่ห์
มนต์ขลังแห่งประวัติศาสตร์ ที่ชวนให้ศึกษา.........มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
Take@Break
วันพฤหัสที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 21.30 น.