เรื่องเขาเราไม่รู้ แต่เรื่องเขียว ที่นี่ยืนหนึ่ง !!
มาหน้าฝนตอนนี้คือเขียวมากแม่ !!
เขียวทุกทิศทาง มองไปทางไหน ก็สดชื่นกันไปหมด
อากาศดีทุกช่วงเวลา เหมาะกับการเดินทางมาพักผ่อนหา(ภู)เขาอย่างมาก
นี่เป็นที่พักแห่งที่ 3 สุดท้ายของเราสำหรับทริปเชียงใหม่ที่ผ่านมาค่ะ
มาในช่วงกรีน-กรีน เขียวๆ แบบนี้ กับที่พักที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติร่มรื่นแบบนี้
บอกเลยว่าดีต่อใจอย่างมาก !!
Veranda High Resort Chiang Mai - MGallery
เราขอเรียกชื่อสั้นๆ ที่ติดปากว่า "วิรันดา เชียงใหม่"
ทำเลที่ตั้ง อยู่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ มีพื้นที่กว้างขวางมาก
จะแบ่งเป็น 2 โซน คือโซนคือ รีสอร์ทและฝั่งเรสซิเด้นท์ค่ะ
ตอนนี้เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนขยาย
ราคาเริ่มต้น 2147.- เองนะ หูยยย ราคาจับต้องได้แบบนี้
ขอพาไปดูรายละเอียดความคุ้มค่ากันหน่อยแล้ว
การเดินทางมายัง "วิรันดา เชียงใหม่" จากตัวเมือง เชียงใหม่
มายังรีสอร์ทระยะทางแค่ 15 กิโลเมตรเท่านั้น
ครั้งนี้เราเดินทางด้วยรถเช่า avis รับจากสนามบินเชียงใหม่แล้ว ขับมาเลยค่า
เจอป้ายรีสอร์ทแล้วเลี้ยวเข้ามากันได้เล้ย จะมีโซนที่จอดรถ
จากนั้นจะมีรถกอล์ฟมารับเราเช็คอินที่ Lobby ที่นี่ค่ะ
ยอมรับวา เมื่อก้าวย่างเข้ามาในเขต Lobby บอกเลยว่า อลังมาก !!
"วิรันดา เชียงใหม่" ที่นี่จะออกแบบแนวผสมผสาน
ระหว่างไทยล้านนาและดีไซน์ร่วมสมัยสไตล์ของเครือวิรันดา
มีกำแพงอิญมอญก่อสองฝั่งอย่างสวย ตรงกลาง จะเป็นสระน้ำเพื่อการตกแต่งเพื่อความสวยงาม
และเป็นมุมที่ถ่ายรูปสวยสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบถ่ายรูปเช็คอินแบบเรานะ อิอิ
เดินขึ้นมายัง Lobby ยิ่งเห็นความเป็นวัฒนธรรมของเชียงใหม่มากขึ้น
คือด่านบนเพดานประดับด้วยโคมไฟที่ออกแบบเป็นโคมยี่เป็ง
ที่เป้นประเพณีหนึ่งในเชียงใหม่่ที่สืบสานกันต่อมาอย่างยาวนาน
บริเวณตัว Lobby ก็ออกแบบได้แบบผสมผสาน
ระหว่างการนำวัสดุธรรมชาติมาใช้ร่วมแนวรักษ์โลกด้วย
และเป็นการออกแบบที่โดดเด่น เข้ากันได้อย่างมากจริงๆ นะคะ
รับน้ำ Welcome Drink เป็นน้ำลิ้นจี่เย็นๆ ชื่นใจๆ มาดื่มกันหน่อย
หลังจากเช็คอินกัน และกรอกเข้ามูลการเข้าพักที่นี่แล้ว
ความน่ารักที่เริ่มตั้งแต่การเช็คอินแล้วล่ะ ตัวหลอดดูดเนี่ยจะเป็นตัวก้านตะไคร้เลยนะ
ธรรมชาติอย่างมากจริงๆ อิอิ
เช็ตอินกันเสร็จแล้ว รถกอล์ฟจะพาเราไปยังห้องพักที่จองไว้ค่ะ
ซึ่งโซนรีสอร์ทจะมีห้องพัก 69 ห้อง
เราพักโซนฝั่งวิลล่าค่ะ ชื่อ Plunge Pool Pavilion
จะมี 2 ชั้น ชั้นบนจะเป็นห้อง Scenery Pavilion
ที่ออกแบบการตกแต่งคล้ายๆ กัน เพียงแต่อยู่ชั้นบนเท่านั้น
ไปดูกันว่า ห้องพักเราในวิรันดา เชียงใหม่ในครั้งนี้สวยงามแค่ไหนกันนะ
เปิดดข้าห้องพักมาเนี่ยถ่ายรูปเตียงนอนก่อนเลย ฮ่าๆ
จะบอกว่า ห้องฝั่งวิลล่า เป็นห้องที่กว้างมากๆ เลยนะคะ พื้นที่ใช้สอบ ขนาด 110 ตร.ม.
กันเลยทีเดียว มาพักผ่อนทีนี่ เหมาะกับการพักร่างกาย นั่งๆ นอนๆ ในห้องพักกว้างๆ แบบนี้ก็ดีต่อใจมากล่ะ
เตียงที่นี่มีขนาดใหญ่และกว้างมากด้วยนะ
ดูจากภาพได้เลยค่า ถ้ามาพักกันกับครอบครัว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มเตียงเสริมแต่อย่างใด
นอกจากเตียงที่เราบอกว่ากว้างมากแล้ว ปลายเตียง มองออกไป พื้นที่ก็กว้างไปอีก
บวกกับโซฟารูปตัว L กว้างนั่งเล่น นอนเล่นได้สบายมากจริงๆ มุมนี้
มุมนี้เป็นมุมนั่งเล่นเลยค่า เป้นมุมนั่งเล่นที่แสนสบายมากจริงๆ
มองไปตรงประดูกระจกใสตรงหน้านั้น จะมีสระว่ายน้ำขนาดเล็ก
พร้อมสวนป่าเขียวๆ คือเขียวร่มรื่น และเป็นส่วนตัวสุดๆ
นี่เป็นสระว่ายน้ำของห้อง Scenery Pavilion
ด้านนอกจะเป็นสระว่ายน้ำ ข้อดีของการนอน Pool Villa คือเราจะเล่นน้ำ
แช่น้ำเวลาไหนก็ได้ทั้งสิ้น เอาจริงๆ ที่นี่มีความเป็นส่วนตัวมากเลยนะคะ
เราถึงบอว่า ที่นี่อะ เหมาะกับการมาพักผ่อน นั่งๆ นอนๆอย่างมากจริงๆ
ถ้าให้เราแนะนำนะ 2 คืนจองไปเลยค่ะ ได้พักร่างแบบชาร์ตแบบอย่างสบายตัวกันแน่นอน
นอกจากโซนในห้องนอน และโซน Balcony ที่เราอวดไปแล้ว
สิ่งที่อยากอวดต่อคือโซนห้องน้ำเนี่ยแหละค่ะ ฮ่าๆ
ห้องน้ำที่นี่คือกว้างไปอีกกกก
ด้วยความกว้างของห้องน้ำที่นี่ ทำให้ได้จัดสรรปันส่วนพื้นที่กันได้อย่างเต็มที่
ตกแต่งแบบ Luxury กันสุดๆ เคาน์เตอร์ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้า
อ่างล้างหน้าแบ่งเป็นสองฝั่ง แบบ his and her
พร้อมกระจกที่ปรับหมุนได้ แยกโซนแห้งโซนเปียกออกจากกัน
พร้อมพื้นที่สำหรับเป็นห้องแต่งตัวได้ดีมาก รวมถึงมี Bathtub ให้นอนแช่ตัว
ดีงามมากจุดนี้เพราะตรงที่อ่างแช่ตัวนั้นเค้าดีไซน์เป็นกระจกใสมองออกภายนอกเป็นต้นไม้เขียวๆ สบาายตามาก
อ้อ ไม่ต้องกังวลจุดนี้นะคะ เพราะเค้าได้ออกแบบให้เป็นผนังสำหรับห้องพักนี้เลย
งั้นก็เปิดน้ำตีฟองกันได้อย่างสบายใจเลยไม่ต้องเอาโฟมบาธมาแล้วนะ เค้ามีบาธฟองแบบผงมาให้ด้วยล่ะ
ด้วยความที่เราบอกว่า ความเขียวยืนหนึ่ง ที่ "วิรันดา เชียงใหม่"
แบบนี้คือต้องไปดูกันต่อเลยค่า
มุมนี้จะเป็นโซนตรงกลางๆ พื้นที่รีสอร์ทนะคะ ที่เราสามารถเดินทะลุเข้ามาจากตัวอาคารห้องพัก Valley Deluxe Scenery
เอาจริงๆ โซนนี้เรามองเหมือนเป็นเขาวงกตอ่ะแหละ ที่มีทางขึ้นลงด้านบนล่างได้
แต่เราออกมาตอนบ่่ายแก่ๆ พื้นซีเมนต์โดนแดดเผา ก็ร้อนอยู่นะ ฮ่าๆ
แต่โดยรวมอ่ะ จุดนี้มุมถ่ายรูปเค้าแนวดี
และมุมถ่ายรูปเค้าเยอะด้วยนะ ได้มุมเก๋ๆ ไปอีก
เราเดินมาจนถึงตรงนี้อ่ะ เป็นการเดินย้อนมาจากตัวห้องพักเราที่เป็นแบบ Villa นะคะ
เห็นเป็นแบบกำแพงดิฐมอญเก่าๆ ขลังและสวยดี
ที่เค้าก่อขึ้นมาตกแต่งภายในรีสอร์ท ให้เสมือนว่าอยู่ในยุคล้านนา ก็ไม่ปาน
เดินย้อนเข้ามาอีกก็จะเป็นศาลาโบราณหลังเก่าหลังนี้
เป๋นศาลาหลังใหญ่มาก ที่รีสอร์ทบอกว่าเป็นส่วนขยายต่อจากสปา
ตอนนี้เปิดโล่งๆ ไว้ให้หญ้าขึ้นโดยรอบแบบเขียวครื้มไปหมด
เราขึ้นไปในส่วนอาคารหลักของห้องพัก Valley Deluxe Escape
ที่เป็นห้องเริ่มต้นของที่
ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ตรงชั้นดาดฟ้า จะมีสระว่ายน้ำแบบ infinity pool ที่สามารถมองเห็นวิวได้ 180 องศากันเลยทีเดียว
แว่วมาว่า หากมาในช่วงแสงสวยๆ พระอาทิตย์ตกมุมนี้จะสวยมาก
และหากมาในช่วงหน้าหนาว ที่มีหมอก เช้ามาก็จะเห็นมอกลอยมาแต่ไกลสวยไปคนละแบบ
ส่วนเรามาในช่วงหน้าฝนเขียวๆ แบบนี้ ก็มองไปทางไหน ก็เขียวสุดลูกหูลูกตากันเลยทีเดียวค่า
เดินมาต่อยัง Lobby ที่มองเห็นความอลังการใหญ่โต
กับภาพมุมสูงของ "วิรันดา เชียงใหม่"
เราเดินจนทะลุผ่านมายังตัว Lobby จุดนี้จะมีทางผ่าน
เป็นม่านน้ำตก อ้านล่างจะเป็น Library ห้องขนาดใหญ่มุมเงียบๆ
ไว้ให้ลูกค้าไปใช้บริการกันฟรีๆ ได้เลย
ซึ่งไฮไลท์ความเขียวของ "วิรันดา เชียงใหม่" จะอยู่ตรงไร่ชา
นาข้าวตรงกลางของรีสอร์ท กับการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัวสุดๆ
ไร่ชาที่มีการดูแล ตัดแต่งกิ่งไม้กันอยู่ตลอดเวลาได้ดีมาก ทั้งที่มีพื้นที่กว้างขวาง เราว่างานเหนื่อยอยู่นะเนี่ย
แต่เอาจริงๆ ก็เดินได้ง่ายและสะดวกเหมือนกันค่ะ
เพราะเค้าทาทางเดินยกระดับเป็นไม้ไว้สำหรับให้เราได้เดินเล่นตรงจุดนี้ด้วย
จะมีทางเดินที่เชื่อมต่อไปยัง ร้านอาหาร ระเบียงชา
ที่เป็นร้านอาหาายามเย็นของ "วิรันดา เชียงใหม่"
ที่มีบรรยากาศคือดีมากกก เป็นแบบยุ้งข้าวของชาวล้านนาสมัยก่อน
เห็นแล้วนึกถึงสมัยเด็กๆ เลยค่ะ มียุ้งข้าวที่บ้านแบบนี้ด้วยนะ
ร้านระเบียงชา ทีตั้งอยู่ตรงไร่ชา จะมีที่นั่งให้เราเลือกหลายจุดหลายมุม
ทั้งชั้นบน และชั้นล่าง หากมาในตอนช่วงเย็นๆ ที่เราไป จะมียุงและแมลงมากวนใจบ้างประปราย 55
มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมากทั้งอาหารไทย อาหารเหนือ พร้อมเครื่องดื่มอีกหลากหลาย
นี่ขนาดเลือกเมนูอาหารทานเย็นนี้ ยังต้องสวยเลย คิดดูอ่ะ อิอิ
ตอนเราเลือกเมนูเสร็จนะ เราก็เห็นว่าตรงไร่ชาตรงนั้นมีมุมโค้งตามแนวสวยมาก
แนะนำให้สั่งอาหารไว้แล้ว เดินไปถ่ายรูปกันเพลินๆ เลยค่า
เนี่ยๆ ดูกันเลยค่า แนวโค้งไร่ชา เป็น Curve สวยมาก ยิ่งมีการตัดแต่งกิ่งก้าน
ยิ่งเห็นเป็นเส้นแนวได้ชัดเจน ถ่ายรูปได้สวยกันหลายมุมเลยนะเอาจริง
เมื่อมีไร่ชาสวยๆ แล้ว ยังมีแปลงนาข้าวเล็กๆ อีกด้วย
เป็นการใช้พื้นที่ความเขียวได้ครอบคลุมทุกจุดจริงๆ สำหรับ "วิรันดา เชียงใหม่" ที่นี่นะคะ
นี่แค่สั่งอาหารแล้วแล้วเดินมาถ่ายรูปเล่นหน่อย ยังได้ภาพกลับไปเป็นกระบุงเลยอ่ะ
คิดดู เพราะเจอมุมดีดีๆ เอาไว้อัพโซเชียลกันได้เล้ย
เมนูอาหารเย็นนี้มาแล้วค่าาา นี่เป็นรายการที่เราเลือกมาเองทั้งหมดเลย
เอาจริงๆ คือแต่ละรายการเนี่ยได้มาแบบถาดใหญ่ จานใหญ่มากแลยนะ
ขอประเดิมด้วยชุดออเดิฟเมืองเหนือที่จะมีทั้งแคปหมู ไข่ต้ม น้ำพริกหนุ่ม หมูยอทอด
ยิ่งได้มาร้อนๆ ตอนนี้คืออร่อยมากกก ตามด้วยลาบคั่ว (ลาบหมู) แบบคนเหนือแท้ๆ จะรู้ในรสชาติดี ทำได้อร่อยดีค่า
และเมนูอื่นๆที่เราสั่งเป็นเมนูเบาๆนะ ทั้งต้มจืด และไข่เจียวหมูสับ เบสิคๆ แต่อร่อยทุกรายการค่ะ
ร้านอาหารระเบียงชา กับอีกหนึ่งความอร่อยที่เราอยากบอกต่อ
ถ้ามาพักที่นี่ แนะนำให้ทานอาหารที่นี่เลยค่ะ ไม่ต้องออกไปข้างนอก
ด้วยเหตุผลคือ ที่นี่จะเป็นพื้นที่โซนภูเขา และทางออกไปค่อนข้างเปลี่ยว
ร้านอาหารด้านนอกจะเป็นร้านเล็กๆในพื้นที่ของชาวบ้านที่ตั้งกระจายกันไป
ขนาดเซเว่น ยังอยู่ห่างจากรีสอร์ทถึง 7 กิโลเมตรอ่ะ คิดดู
หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จ เราเดินย้อนกลับมาที่ Lobby อีกครั้ง
เพราะมีแสงสวยๆ จาก Lobby เป็นตัวนำทาง
นี่เป็นโคมไฟที่เราเห็นตอนเช็คอิน
พอตกกลางคืนมาเปิดไฟ เสมือนเป็นโคมยี่เป็ง ที่สวยงามมากจริงๆ
แนะนำให้มาถ่ายรูปเก็บไว้กันเลยค่า สวยๆ แบบนี้วัยรุ่นชอบนาา
ตัดภาพมาที่ยามเช้ากันเลยค่า หากเลือกพักแบบ Pool Villa แบบเรา
ที่อยู่ไกลจากโซนห้องอาหารไปนิดสามารถสั่ง Floating Breakfast มาทานที่ห้องได้นะคะ
แต่เราไม่ล่ะ เช้านี้ เลือกตื่นสายๆ หน่อย เดินรับแดดอ่อนๆ ขึ้นมาทานอาหารที่ THE HIGHER ROOM กันดีกว่า
อากาศยามสายๆ วันนี้กับมุมสระว่ายน้ำสวยๆ ของ "วิรันดา เชียงใหม่" ค่ะ
เขียวๆ สวยๆ มุมถ่ายรูปคือดีเลยแหละ
THE HIGHER ROOM
ที่มีบริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ตั้งแต่ 06.30 น. เป็นต้นไป
มีที่นั่งให้เราเลือกแบบ indoor และ Outdoor กันได้เลยค่ะ
ส่วนเราเลือกนั่งด้านนอกนะ อากาศดีดีแบบนี้ ได้หมดถ้าสดชื่น
อาหารเช้ามีไลน์บุฟเฟต์ที่มีให้เลือกแบบมาตรฐานโรงแรมนะคะ
ไม่ได้มีอะไรดึงดูดสายตาเราเป็นพิเศษ เพราะส่วนมากจะทานซ้ำๆ กัน
ทั้งข้าวต้ม หรือสเตชั่นไข่ ผลไม้ กาแฟ และเมนูอาหารจานร้อน เราจึงเลือกตักมื้อเช้าทานกันแบบนี้ในหลายๆ ที่ค่ะ อิอิ
กับอีหนึ่งวันพักผ่อนของเราที่ "วิรันดา เชียงใหม่" ที่นี่ ในพื้นที่แห่งความเขียวๆ
ในพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ได้ผ่อนคลาย
ในยามนี้คือถอดแมสออกเลยนะ อากาศดีขนาดนี้ ไม่ควรเอาอะไรมากั้นอากาศดีดีแบบนี้แล้วล่ะ
เป็นอีกหนึ่งที่ๆ เราแนะนำให้มาพักผ่อนแบบสบายๆ ไม่ต้องลุยๆ ให้เหนื่อย
เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย เดินทางง่ายจากตัวเมืองเชียงใหม่แค่ 15 กิโลเมตรเท่านั้น
"วิรันดา เชียงใหม่" ลองจองมาพักกันดูนะคะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่พักได้ที่
Veranda High Resort Chiang Mai - MGallery
เพจ รร. https://www.facebook.com/verandachiangmaithehighresort
ที่อยู่. 192 ม2 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่
โทร. 053-365007 ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ
Rinsa Yoyolive
RinSa YoyoLive
วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 12.55 น.