พาข้ามไปเที่ยวเกาะล้านกันบ้าง ไปวันที่ 9 เมษายน 2565 ไปแบบเช้า-กลับเย็น เนื่องจากคุณพ่อบ้านอยากไปเราเองเคยไปเกาะล้านครั้งหนึ่งตอนไปทำงานโครงการปล่อยเต่าคืนสู่ทะเลตอนปีประมาณปี 50 หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย มัวแต่ชะล่าใจพอจัดการฝากรถไว้กับลานจอดรถเสร็จ (ค่ารับฝากรถแพงมาจอดแบบไปเช้าเย็นกลับ 200 บาท)มาดูเวลาลงเรือก็ไม่ทันเรือใหญ่แล้ว เลยต้องไปเรือสปีดโบ๊ทแทน ไปกับบริษัท C.T.G. ตั่วเรือไปกลับ 2 คน 600 บาท
วันที่เราไปคนลงเรือสปีดโบ๊ทหลายลำอยู่นะ นั้งชิวๆ ไปเกือบ 20-30 นาที ก็ถึงเกาะล้าน
เราเช่ามอไซต์ขี่เที่ยวรอบเกาะค่าเช่า 300 บาท เช่ากับบริษัท C.T.G. ที่ลงเรือสปีดโบ๊ทมานั่นแหละ เราแจ้งเจ้าหน้าที่เลยว่าต้องการเช่ามอไซต์เขาก็จะโทรบอกกันไว้เลย พอเราไปถึงท่าเรือหน้าบ้านที่เกาะล้าน เจ้าหน้าที่ก็จะจัดการหามารอให้แล้ว ตอนคืนรถก็ขับมาคืนที่ท่าเรือหน้าบ้านเหมือนเดิมไม่ต้องเติมน้ำมัน อยากไปหาดไหนก่อนก็ขี่ไปเลยจ้า
หาดนี้เป็นหาดแรกที่เราไป แดดตอน 10.00 น. กำลังมาเลย
ชุดว่ายน้ำก็ไม่ได้เตรียมมาเพราะคิดว่าจะไม่ลงเล่นน้ำ แต่...พอเห็นน้ำทะเลใสๆ เท่านั้นแหละ ถกขากางเกงขึ้นขอเดินลงไปเอาเท้าแตะน้ำหน่อยก็ชื่นใจ ชุดนี้กันแดด กันลม กันโควิดพร้อม 555
ไปต่อกันอีกหาด หาดแสมสวยและน้ำใสกว่าหาดที่แล้วมาก แต่..หินและเศษปะการังเยอะ เดินเท้าเปล่าไม่ได้เลย
เดินไปเดินมาเจอเศษขวดลิโพ กระทิงแดงด้วย หาดนี้คนเยอะพอสมควร บ้างก็มาถ่ายรูป บ้างก็มาลงเล่นน้ำตอนเกือบเที่ยง แดดร้อนมาก
มีคนแปลงร่างถ่ายวีดีโอ อยากเป็นกัปตัน แจ็ก สแปร์โรว์
ที่หาดแสมจะมีอาคารอาคารโซลาเซลล์รูปปลากระเบน
ขี่มอไซต์มาเที่ยวต่อที่จุดชมวิวของเกาะล้าน
อย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นหน้าตาของดิฉัน 555
แวะไปแถวท่าเรือท่าหน้าบ้านเพื่อหาของทาน ช่วงที่เราไปพวกหมึกช็อต หมึกซาชิมิกำลังฮิต ทำให้เราอยากลองบ้าง กะว่ามาทริปนี้ยังไงต้องหาลองกินหมึกซาชิมิให้ได้ แว๊นผ่านไปเจอร้านนี้กำลังเพิ่งเปิดร้านเลย
เห็นมีน้องหมึกว่ายอยู่ในตู้ 3 ตัว เลยเข้าไปถาม ปรากฎว่ามีจ้า ถามไปถามมาพี่เขามีกระชังปลาเอง ราคาปลาหมึกก็แล้วแต่ขนาด
หมึกหอมตัวนี้ 800 บาท ร้านนี้พี่เขาใจดีถามไรตอบหมด แถมเราขอลองสัมผัสผิวปลาหมึกพี่เขาก็ให้จับ ไม่มีหงุดหงิดใส่ลูกค้า เรารู้ว่าน้องหมึกบอบบางมา จับขึ้นมาบนบกแป๊ปเดียวก็ตาย แถมไวต่อสิ่งสัมผัสต่างๆ ปลาหมึกตายง่ายว่างั้น
ในตู้ตัวละ 100-150 บาท
พี่เขาบอกว่าตัวนี้เพิ่งตายสดๆ สีที่ตัวหมึกยังใสและมีประกายระยิบระยับอยู่เลย
ในตะกร้านี้ตัวใหญ่ 500 ตัวเล็ก 300
ตัวนี้ 700 บาท
เราเลือกน้องหมึกหอมราคา 600 มาทำเป็นหมึกซาซิมิ ขอลองครั้งหนึ่งให้มันรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง (ขออภัยแทนน้องหมึก)
ขั้นตอนระหว่างแล่จะไม่มีการล้างน้ำจืด เพราะจะทำให้เสียรสชาติ
เนื้อปลาหมึกสดๆ ใสกิ้ง เด้งๆ หนึบๆ กรุบๆ หวานนิดๆ ไม่คาว ตาปลาหมึกอร่อยมาก กัดเข้าไปมีน้ำเค็มๆ กลิ่นทะเลพุ่งเต็มปาก แทบไม่ต้องเคี้ยว ไม่มีความคาวเลย
ตอนแรกคิดว่าตัวเล็กไป แต่กินไปกินมาไม่หมดสักที เนื้อเยอะมาก กินเยอะไปก็เหมือนจะเลี่ยนนะ ดูไปดูมานึกถึงเนื้อลูกตาลอ่อนสีเหมือนเลย
ล้วงไปในถังเจอหอยกระโจงโดงตัวละ 150 บาท เราให้เขาต้มให้ เพราะอยากลองชิมเนื้อมันว่าจะเป็นอย่างไร
ไม่มีกลิ่นคาว หนึบๆ กรุบๆ ไม่มีรสชาติ ลองให้รู้ครั้งเดียวพอ แบบว่ามันจืดอะ ต้องกินคู่กับน้ำจิ้ม
หอยนางรมสด ตัวละ 100 บาท
สั่งหอยนางรม 2 ตัว
อยากตะโกนบอกว่าสุดยอด หอยนางรมเนื้อหวานมาก แค่กินคู่น้ำจิ้มไม่ต้องกินกระถินตามก็อร่อยหวานฉ่ำ
ระหว่างนั่งกินไปเพลินๆ ปลาหมึกหอมก็ตายลงอีก 1 ตัว พี่เจ้าของร้านเลยมาเสนอขายให้เรา 200 บาท แถมบอกว่าตัวนี้มีไข่ด้วยนะ (เราผู้ซึ่งตอนนั้นอิ่มแล้วแต่ก็ยังไปของดูว่าสดจริงไหม)
ตัวใหญ่อยู่นะเนี่ย ขายแค่ 200 จัดไปเลยค่ะ รอบนี้สั่งเป็นปลาหมึกย่าง
ตรงที่เราเขียนว่าไข่ปลาหมึกจริงๆ แล้วมันคืออวัยวะสืบพันธุ์ของปลาหมึก
ตัวนี้คือหมึกตัวเมีย เพราะมีก้อนสีใสเหลืองเป็นรังไข่ของหมึกตัวเมีย ส่วนปลาหมึกตัวผู้จะมีก้อนยาวๆ สีขาวขุ่น นั่นคืออัณฑะของหมึกตัวผู้
กลิ่นปลาหมึกย่างหอมมาก
เราอิ่มจนขอห่อกลับมา เนื้อหมึกย่างหอม หวาน ซื้อทิ้งไว้กินตอนเย็นยังคงรสชาติดี
ในถ้วยคือไข่หมึกหรืออัวยวะภายในของหมึก 555
ค่าเสียหายทั้งหมด 1,170 บาท
Emmy Journey
วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.54 น.