ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปพักผ่อนกันที่เกาะกูด 3 วัน 2 คืน

งบคนละ 3,000 ไปดูกันว่าเราพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง


สถานที่มาเกาะกูดไม่ควรพลาด !

01 ที่พัก Koh Kood Resort ที่พักริมทะเล สุดโรแมนติก มีชายหาดส่วนตัว มุมถ่ายรูปสุดปัง
02 หมู่บ้านชาวประมงอ่าวใหญ่ หมู่บ้านสุดท้ายปลายสุดทะเลตะวันออก
03 นุชชี่ซีฟู้ดเกาะกูด เจ้าของร้านน่ารัก รับประกันความสดทุกตัว เพราะชาวบ้านเค้าออกเรือไปหากันมาเอง
04 น้ำตกคลองเจ้า หนึ่งใน Landmark ที่หนึ่งของเกาะกูด เหมาะสำหรับเล่นน้ำ
05 Escape life koh kood ที่พักติดริมน้ำ ล้อมรอบด้วยป่าโกงกาง ที่มีแอดมินสุดกวน หมูกระทะอร่อย


คลิปวีดีโอรายละเอียดการเดินทาง
เกาะกูดรีสอร์ท EP.1

🛵 การเดินทางบนเกาะ : สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ขับ ฟิลดีมาก แต่ทางชัน เสียว ๆ หน่อย
📍 การเดินทางข้ามเกาะ :
- ขาไป เราไปถึงประมาณ 13.00 น. โดยใช้บริการของ เกาะกูดเอ็กซ์เพรส ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อไปถึงท่าเรือจะมีรถสองแถวมารับเราไปส่งถึงที่พักเลย ค่าใช้จ่าย 400/คน (เราฝากที่พักจองให้)
- ขากลับ โดยบุญศิริเรือเร็ว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อไปถึงท่าเรือจะมีรถสองแถวมารับเราไปส่งถึงที่จอดรถบอกเค้าว่าลงเกาะกูดเอ็กซ์เพรส ค่าใช้จ่าย 500/คน (เราฝากที่พักจองให้)


การเดินทางเราเลือกใช้ koh kood express เพราะเรามาถึงเที่ยง เลยต้องขึ้นเรือรอบ 13.00 น.

หลังจากซื้อตั๋วเรือเสร็จเราก็ต้องนั่งรถไปที่ท่าเรือที่อยู่ไกลออกไป (มีรถรับส่งให้)

บรรยากาศภายในเรือโอเคเลยน้า เบาะปรับได้

และทริปนี้เราเลือกพักที่ เกาะกูดรีสอร์ท จากท่าเรือเราใช้เวลานั่งรถมาประมาณเกือบ 15 นาที

มาถึงก็ลงไปเช็คอินเข้าห้องพัก ระหว่างรอ สายตาเราก็มองไปรอบๆ แต่ !!! สิ่งที่เราเห็นคือทางเดินไปสะพานที่ถ่ายรูปสวยๆ มันขาดเว้ยแกรร๊ สระว่ายน้ำที่อยู่กลางทะเลมันหายไป

ส่วนหนึ่งเราว่ามันคงเพราะพายุที่โหมกระหน่ำไม่ยอมหยุด เพราะตอนนี้ที่เราอยู่ฝนยังตกไม่หยุด
#ฉันมาทำอะไรที่นี่ อยู่ดีๆ เพลงพี่เบิร์ดก็เข้ามาในหัว สิ่งที่คิดกับสิ่งที่เจอ 5555

หลังจากเช็คอินเสร็จก็เอาของเก็บเข้าห้องพัก เราพักโซน deluxe garden view

 มีเปลให้นอนชิวๆ หน้าห้องด้วย

ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เตรียมเสื้อผ้ามาก็พอ

จากห้องของเราเดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเลแล้วแกรร๊

เดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ คลื่นลมยังคงแรงต่อเนื่อง ได้แต่ถ่ายรูปริมชายหาด ถ่ายรูปเล่นชิวๆ ริมสะพาน ได้ไม่ถึง 20 นาที ฝนก็กระหน่ำลงมา

เราว่าถึงจะเป็นวันที่พายุเข้า ทำให้สะพานขาด แต่ความสวยของท้องทะเล น้ำก็ยังคงใสเหมือนเดิม นี่แหละเนอะธรรมชาติ เอาแน่นอนไม่ได้ พนักงานรีบออกมาเก็บของกันไม่ให้เปียกฝน

เราไม่รู้จะทำอะไร เลือกเดินเข้าห้องอาหารสั่งอาหารมาทานแบบจัดเต็ม

เมนูที่เราสั่ง :-

- ต้มยำทะเล

- ผัดเม็ดมะม่วงรวมทะเล

- ผัดโป๊ะทะเล

- ผัดพริกแกงทะเล

- สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานทะเล

- ข้าวเปล่า

อาหารที่เกาะกูดรีสอร์ทเราแนะนำเลยนะ อร่อยมากๆ ราคาไม่แรงด้วยแหละ เรียกได้ว่ากินอิ่มนอนหลับสบายกระเป๋าเลยแหละแกรร๊

ทานเสร็จ กะจะมานั่งชิวๆ ที่ the deck bar แต่ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง 

เราเลยเลือกเดินกลับเข้าที่พัก สายฝนก็ยังคงตกลงมาแผ่วเบาแต่ต่อเนื่อง คาดว่าน่าจะตกทั้งคืน บรรยากาศยามค่ำคืน ชิวมากๆเลยแกรร๊ ถือโอกาสได้พักผ่อนเต็มที่

ภายในห้องพักของเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบเลยนะ เรียกว่าเตรียมแค่เสื้อผ้ามาก็พอ 555 เข้าห้องพักได้ เราก็เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ เอารูปจากกล้องลงโทรศัพท์ นั่งปรับแสงแต่งรูปได้สักพัก ก็หลับไม่รู้ตัว

ตื่นมาเช้าวันที่สอง เกือบแปดโมงเช้า ลุกขึ้น ล้างหน้า อาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปทานอาหารเช้า 

บรรยากาศยามเช้าวันนี้ อากาศดี ฝนไม่ตก แต่คลื่นลมในทะเลก็ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง มองไปรอบๆ เห็นพี่พนักงานก็พยายามปรับปรุงในส่วนที่เสียหายจากพายุกันอย่างเร่งด่วน เพื่อรอรับนักท่องเที่ยวแบบเราในวันถัดไป

ที่เกาะกูดรีสอร์ทมีมุมให้ถ่ายรูปแบบชิคๆ เยอะเลยน้า ถ้าไม่ติดว่าพายุเข้าและคลื่นแรงเราคงมีรูปพายเรือคายัคสวยๆ แบบที่คนอื่นเค้าถ่ายกันแน่ๆ แค่ภาพมุมสูงนอนบนสะพานที่คิดว่าจะมาถ่าย เรายังไม่มีเลย 555

อาหารเช้าของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารไทย ข้าวต้ม หรือจะทานเป็น breakfast salad แล้วแต่จะเลือกทานเพราะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์

เราใช้เวลานั่งทานอาหารอยู่เกือบชั่วโมง ก็ไปเก็บภาพบรรยากาศยามเช้าในมุมที่ยังไม่ได้ถ่าย เพราะฝนที่ตกต่อเนื่อง

ออกไปเก็บภาพบรรยากาศบนสะพานที่เมื่อวานยังไม่ได้ถ่าย แสงแดดอ่อน ๆ กับลมทะเลที่พัดมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้คลายร้อนไปได้  มุมนี้ใครมาก็ต้องถ่ายน้า แต่ของเราน้ำลง 5555

มานั่งชิลๆ ปล่อยใจริมทะเล กับเปลตาข่าย ดีจุงเบย

สำหรับเรา ถึงจะมาในวันที่พายุโหมกระหน่ำไม่หยุด ตอนแรกอาจะเฟลๆ แต่พอมาคิดดูแล้ว มันทำให้เราได้พักผ่อนแบบจริงๆ เลยแหละ

เก็บภาพบรรยากาศได้สักพัก เราก็เข้าไปเก็บของเตรียมตัวเช็คเอาท์ เราพักที่นี่แค่คืนเดียว แต่ถ้าให้เราแนะนำ เราว่ามาทั้งที ควรพักสัก 2 คืนนะ จะได้ไม่ต้องเร่งรีบ ให้มันเหนื่อยจนเกินไป ส่วนเราเก็บของเสร็จ ก็นั่งรถต่อไปยังที่พัก Escape Life Kohkood


.. เพราะการเที่ยวเยอะๆ มันช่วยทำให้เราลืมเรื่องไม่สบายใจได้ระยะหนึ่ง 🙂

ช่องทางการติดตาม อัปเดตข่าวสารกันได้ที่

Fanpage : https://www.facebook.com/EnvyJ...

Website : https://envyjourney.com/

YouTube : เที่ยวให้คนอิจฉา

Tiktok : @envyjourney

เ ที่ ย ว ใ ห้ ค น อิ จ ฉ า

 วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 13.41 น.

ความคิดเห็น