เมื่อเพื่อนๆในกลุ่มเกิดอาการอยากเที่ยว มักมีคำถามตามมาเสมอว่า ไปไหนดี ???
หัวหินมั๊ย ??...ไปบ่อยแล้ว พัทยาป้ะ ??....เพื่อนในกลุ่มบางคนบ้านอยู่นั่น ข้ามไปเลยย
ที่ไหนละเอาใกล้ๆกรุงเทพ เดินทางสะดวก ร้านชิคๆถ่ายรูปเยอะๆ ที่พักไม่แพง นอนด้วยกันได้ทั้งหมด
ภาระตกอยู่ที่เรา ด้วยความที่เที่ยวบ่อยสุด รู้ข้อมูลเยอะที่สุด...งั้นเอางี้ละกันไป " เขาใหญ่ "


ทุกคนโอเค...ตกลง ทริปจึงเกิดขึ้น ณ บัดนาวทริปนี้ทุกคนไม่ได้ฟิกว่าต้องถูกหรือแพง แต่ด้วยความที่มีเวลาเยอะ จึงมีเวลาหาข้อมูล

และคำนวณราคานู่นนี่นั่น หาที่พัก หาแล้วหาอีก จนในที่สุดสรุปงบประมาณให้เพื่อนๆ

เอางี้ละกันทริปนี้เราลองควักเงินกันคนละ 2000 ไม่พอค่อยว่ากันอีกที...

เราใส่ชุดเหมือนกันมั๊ย...น่ารักดีนะ ถ่ายรูปเก็บไว้ดูเก๋ๆ....โอเค ทุกคนปลื้มปริ่ม

จัดสิคะรออะไร ควานหาซื้อเสื้อผ้ากันจ้าละหวั่น โบฮีเมียนเนอะวันแรก

และแล้วก็ได้ตามภาพที่เห็น มาเต็มบ้างไม่เต็มบ้าง....แต่ใจมาเต็ม 1000



ทริปนี้เพื่อนๆออกเดินทางมาจาก กทม. 5 ชีวิต มาแวะหาเราก่อนที่บ้าน (สระบุรี)


ซึ่งเป็นทางผ่านไปเขาใหญ่อยู่แล้ว....มาถึงก็เที่ยง เจ้าบ้านจัดแจง ทำอาหารเลี้ยงชาวคณะ

สปาเก็ตตี้ไส้กรอกเบคอน อิ่มหนำสำราญ เตรียมออกเดินทาง เวลา 14.00 น.



ไปถึงเขาใหญ่ บ่ายสามนิดๆ จุดหมายแรกที่แพลนไว้คือร้าน " The Birder's Lodge Cafe"


บ้านไม้รูปทรงเก๋ไก๋ เหมาะแก่การมาถ่ายภาพที่สุด ในส่วนของด้านหลังคาเฟ่ยังมีที่พักอีกนะคะ



สีออกมืดๆ ขรึมๆ ได้อารมณ์แบบดิบ เท่ ดีจัง



การเดินทางมาไม่ยากค่ะ ถ้ามาจากถนนธนะรัชต์ เลยปาลิโอมา ขับตรงมาจะมีทางเลี้ยวขวา


เข้าถนนผ่านศึก-กุดคล้า หรือง่ายๆมาทาง Primo piazza ค่ะ



สปาเก็ตตี้ยังเต็มท้องอยู่เลย ฮ่าๆๆ แต่ทว่าจะมาแค่ถ่ายภาพคงจะน่าเกลียด


เดี๋ยวเราเข้าไปหาอะไรเย็นๆชิมกันดีกว่า...



บันไดตรงนี้มันน่าถ่ายภาพเนอะแกร....ขอสักแชะก่อนขึ้นละกัน หุหุ



เขาใหญ่วันนี้อากาศอึมครึมค่ะ...คิดไปในทางที่ดีก็คือ ไม่ร้อน แต่อยากจะได้ภาพฟ้าสวยๆก็คงหมดสิทธิ์


ด้านบน...ตกแต่งแบบเปิดโล่ง ถ้ามานั่งช่วงเช้าๆ หรือเย็นๆก็น่าจะเหมาะ



จริงๆเราเคยติดต่อที่นี่มาแล้วค่ะ เพื่อสอบถามเรื่องห้องพัก ซึ่งก็ตกแต่งสไตล์นี้


แต่เพื่อนสาวนางอยากได้อะไรก็ได้ที่นอนด้วยกัน ไม่แยกห้อง ไม่อบอุ่น ชอบเบียดกัน



เดินเข้าไปด้านในค่อยยังชั่วหน่อย มีแอร์เย็นๆคลายร้อนไปได้นิดนึง



ด้านในร้านไม่กว้างมากนะคะ...ด้วยความที่พวกเรามากันตั้ง 6 คน จะโหวกเหวกโวยวาย


อยู่ตรงนี้ก็เกรงใจแขกท่านอื่น...เลยหามุมที่มันส่วนตั๊ว ส่วนตัวกะแกงค์พวกเราดีกว่า

เจอบันได เฮ๊ยแก มันมีชั้น 2 ไปกันเถอะ



น่ารักอ่ะ มีโต๊ะใหญ่ๆให้พวกเรานั่งพอดีเลย...ส่องผ่านกระจกไปด้านนอก มีเก้าอี้นั่งหลากหลาย



งั้นเราออกไปถ่ายรูปกัน ตอนที่ยังไม่มีใครขึ้นมา....เริ่มปฏิบัติการ วิญญาณนางแบบเข้าสิงทันที



เครื่องดื่มที่เราสั่งได้แล้ว อิตาเลี่ยนโซดา คลายร้อน


เมื่อทุกคนเห็นก็ร้องว้าวววว เฮ๊ยมีอะไรอยู่ข้างบน !!!




มันคือสายไหม....หวานนนนนนจริงไรจริง เหมาะแก่การเพิ่มน้ำตาลในเลือดมากค่ะ



ice caramel macchiato กับ น้ำผึ้งมะนาวก็รสชาติดีค่ะ



นั่งเมาท์มอยซอยเก้าเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาหามุมแอคชั่นกันต่อ


ด้านหน้าของร้านจะมีบ้านหลังใหญ่ๆอยู่ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าด้านในมีอะไร แต่ใหญ่มากกกค่ะ



ขนาดยืนเทียบกับประตู ยังสูงแค่ครึ่งเอง



ลั้ลลาอโลฮ่ากันพอสมควรได้เวลาเข้าที่พักแล้วจ้าาาาา



หลังจากที่สืบหาข้อมูลมาสักพัก ความต้องการคืออยากนอนด้วยกัน มีสระว่ายน้ำ ไม่แพง


ตกลงปลงใจเลือกที่นี่ค่ะ 23 องศาดอนโด ของแสนสิริ อยู่ภายในบริเวณเดียวกับ Escape Kao Yai

การเดินทางก็เส้นเดิมค่ะ ถ.ผ่านศึก-กุดคล้า ออกจากร้าน The Birder's Lodge มาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง



เลี้ยวเข้ามาเราก็จะเจอในส่วนของ โรงแรมเอสเคป เขาใหญ่ก่อนค่ะ


ขับตรงเข้าไปเลย มี รปภ.คอยแแลกบัตรอยู่ เราแค่พร้อมแจ้งชื่อ ห้องที่เข้าพัก




จอดรถเสร็จสรรพ เดินไปที่นิติบุคคลเพื่อรับกุญแจห้องค่ะ เดี๋ยวมีรอกอล์ฟไปส่งถึงตึกที่พักเลย



จักรยานก็มีให้ยืมนะคะ...ได้ครั้งละ 2 ชม. ค่ะ



คอนโดที่เราพักวันนี้ จองกับทางเวบ favstay ค่ะ มีหลายแห่งเหมือนกันนะคะที่เขาใหญ่


ด้วยห้องพักสวย ราคาน่าคบหา พักได้หลายท่าน มีให้เลือกหลายรูปแบบตามที่ต้องการ



ตึกที่เราพักวันนี้อยู่ตึก 5 หลังสุดเลยค่ะ เราเลือกชั้น 1 ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นห้อง Pool Access


เปิดประตูห้องพัก ก็สามารถโดดลงสระได้เลย...ภายในห้องพักเป็นห้องชุดค่ะ มี 2 ห้องนอน

2 ห้องน้ำ ส่วนกลางจะเป็นห้องนั่งเล่น และส่วนของครัว เดี๋ยวเรามาดูห้องพักห้องแรกกันก่อน



มีตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำนะคะ ส่วนกระจกที่กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น


เป็นกระจกใสบานใหญ่ เลื่อนเปิด ปิดได้ หรือถ้าอยากส่วนตัวหน่อย ก็มีผ้าม่านด้วยค่ะ



ต่อไปห้องนอนอีกห้องนะคะ ตกแต่งคนละแบบค่ะ แอบชอบกรอบภาพตรงหัวเตียง



ห้องนี้พิเศษนิดนึงคือ มีทีวีค่ะ และห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำด้วย



ห้องพักสวย เหมือนในเวบเลย...ไม่ผิดหวังค่ะ ตกแต่งห้องสวยมาก สไตล์อิตาลี่ ( ข้อมูลจากเวบ )


เตียงนอน หมอนนุ่มสบาย ชุดเครื่องนอนใช้แบบอย่างดีค่ะ นุ่น ลื่น ฟินมากๆ

เราก็นอนกันห้องละ 3 คนสบายๆ..ถ้าเกิดไม่อยากนอนเบียดกัน ก็มีฟูกสำหรับปูนอน และผ้าห่มอีก 1 ชุดให้ด้วยค่ะ



ส่วนกลางของห้อง โซฟาตัวใหญ่นั่งได้หลายคน สะดวกสบายมี wifi ให้ใช้


ครัวเล็กๆประกอบอาหารได้ ถ้วยชาม จาน แก้ว มีครบค่ะ สะดวกสุดๆไปเลย



ที่ระเบียงยังมีโต๊ะอีก 1 ชุดไว้นั่งเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์



ประตูเล็กๆ เปิดลงสระหน้าห้องได้เลยค่ะ...เพื่อนๆชอบมากตรงนี้



เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วกะว่าจะโดดน้ำคลายร้อน แต่ท้องก็ดันร้องหิวข้าวซะนี่


งั้นเราไปหาอะไรทานก่อนดีกว่า จะได้เข้าที่พักยาวๆ

เย็นนี้เราฝากท้องไว้ที่ร้าน " เป็นลาว " อยู่ตรงข้ามกับ The Birder's Lodge เลย ขับรถมาแป๊บๆ



หาที่นั่งเรียบร้อยแล้วก็จัดการสั่งอาหาร วันนี้ที่เราไปเป็นวันเสาร์ค่ะ


ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ ทางร้านจะมีเมนูพิเศษมาให้ได้ลิ้มลองกันมากมาย



นี่คือหน้าตาอาหารของพวกเรามื้อนี้ ที่เด็ด และนำเสนอคือ ไก่ทอดเกลือค่ะ มีความกลมกล่อม อร่อยจริงๆ


ราคาอาหารมื้อนี้ทั้งหมด 1200 ถือว่าโอเคค่ะมากันหลายคน เกือบทานไม่หมดซะด้วยนี่




กลับเข้าที่พักดีกว่า ได้เวลาว่ายน้ำ อิอิ....ข้อดีของห้องประเภทนี้ก็คือ จะเล่นน้ำตอนไหนก็ได้

ดึกแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า แต่สระนี้ก็มีห้องที่อยู่ติดๆกันใช้บริการด้วย โชคดีของแกงค์เราวันนี้คือ

ทั้งแถว 5 ห้อง มีห้องเรามาพักเพียงห้องเดียว เพราะฉะนั้น เต็มที่ละค่ะค่ำคืนนี้ ถึงจะเป็นวันเสาร์

แต่แขกก็ไม่เยอะมาก มีความเป็นส่วนตัวดีค่ะ...แต่สระไม่ลึกมากนะคะ พอได้เล่นสนุกสนาน แช่ตัวกันไป



3 ทุ่มแล้ว สมควรแก่เวลา...แต่ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล


เมนูเย็นนี้ กุ้งแช่น้ำปลาวาซาบิ ที่เตรียมมา 1 กล่องใหญ่ๆ พร้อมทั้งเครื่องดื่มเพื่อความบันเทิงค่ำคืนนี้

ขนมขบเคี้ยวมีพร้อม....



ตื่นเช้ามาวันนี้พร้อมกับความอึน หุหุ....หนักไปหน่อยนะคะเมื่อคืน


ก่อนเชคเอาท์เราก็ขอกระโดดน้ำอีกสักรอบ แต่เช้านี้ขอเล่นที่ Main pool นะคะ

อยู่ตรงหน้าห้องเราอีกแล้วค่าาาา....เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว



จะเที่ยงแล้วค้าาาา หิวก็หิว...รีบบึ่งรถไปหาอะไรทาน จุดหมายปลายทางอยู่ที่ร้าน " Ribs Mannn "


น่าจะยังเปิดได้ไม่นานเท่าไหร่นะคะร้านนี้ ตกแต่งสวยงาม เดี๋ยววันนี้ขอลองร้านใหม่กันมั่ง



ฟ้าวันนี้ช่างต่างจากเมื่อวาน....ฟ้าโปร่ง โล่ง แดดเต็มๆเลย หุหุ



เดินเข้าไปด้านใน ดูแล้วน่าจะตกแต่งสไตล์ลอฟท์ โปร่ง โล่ง สบาย ไม่อึดอัดดีค่ะ



ตรงนี้เป็นส่วนของด้านนอกค่ะ เหมาะที่จะมานั่งช่วงเย็น




ในระหว่างรออาหาร พนักงานนำขนมปังมาเสิร์ฟ 1 ตะกร้า พร้อมเนยคนละ 1 ถ้วยเล็กๆ



จานแรกมาแล้วค่ะ " แซลม่อนแช่น้ำปลา พร้อมผักร็อคเก็ต" รสชาติอร่อยค่ะ ครบเครื่องดีมาก



จานที่ 2 " หมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว พร้อมข้าวจี่ " เนื้อหมูนุ่มดีค่ะ น้ำจิ้มแจ่วรสชาติโอเคเลยอร่อย



จานที่ 3 ไก่ทอดราดซอส.... จำชื่อซอสไม่ได้ อิอิ เสิร์ฟคู่กับหัวไชเท้าดอง


รสชาติคล้ายๆกับไก่บอนชอนค่ะ



สุดท้าย สเต๊กหมู จานใหญ่บึ้ม ....เกือบจะไม่หมดแล้วเชียวเมนูสุดท้าย ^^



อย่าแย่งกันค่ะเพื่อนๆ ใจเย็นๆ



อิ่มแล้ว....เราจะไปปิดท้ายกันที่ร้าน " Yellow Submarine"


ร้านที่เราคิดว่าเก๋สุดในเขาใหญ่ในตอนนี้ ควรค่าแก่การมาถ่ายรูปแบบฮิปๆ



คอนเซปของร้านคือ ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในเรือดำน้ำ สีดำขรึม ท่ามกลางธรรมชาติรายล้อม



สั่งเครื่องดื่มแล้ว เดินเข้าไปด้านในหามุมนั่งกันค่ะ




ตรงนี้จะเป็นแบบ Out door แต่ก็พอมีร่มไม้มาบดบังความร้อนได้อยู่



ในส่วนของห้องแอร์ก็มีนะคะ แต่วันนี้แขกค่อนข้างเยอะ เราเลยนั่งเล่นถ่ายรูปกันข้างนอกดีกว่า



เมนูแรกที่พวกเราสั่งวันนี้คือ " Hokkaido coffee " กาแฟเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมนมฮอกไกโด


รสชาติขมอย่างเดียวค่ะ ไม่มีไซรับ หุหุ...ให้มาหน้าตาแบบนี้ เราก็จัดการชงเองเลย



ชงเรียบร้อยแล้ว พร้อมดื่มค้าาาา



แก้วนี้เป็น " Matcha latte " ชาเขียวเย็นๆ



ต่อไปเป็นเครื่องดื่มแนะนำ " Honey lemon & Ice pop " น้ำผึ้งมะนาว พร้อมไอศครีม น่ารักดีค่ะ



ของหวานที่เราลองชิมวันนี้คือ " Black Honey Toast " โทสสีดำพร้อมไอศครีม


เป็น Signature ของทางร้านค่ะ



ทั้งหมดนี้ สนนราคาที่ 590 บาท...ราคาสูงนิดนึงค่ะ



โปรโมชั่น ซื้อครบ 400 บาท แถมร่ม 1 คัน ...แต่ละวันมีจำนวนจำกัดนะคะ



จบสิ้นแต่เพียงเท่านี้ค่ะ ทริปเขาใหญ่แบบมีธีม



ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 6 ชีวิต...เดี๋ยวจะชี้แจงรายละเอียดนะคะแบบคร่าวๆ



1. ที่พัก 23 องศา คอนโด 4,450 บาท ( พักได้ 6 คนเฉลี่ยแล้วแค่คนละ 742 นี่คือราคาวันเสาร์นะคะ )

2. ร้าน Birder Lodge's cafe 350

3. ร้านเป็นลาว 1200 บาท

4. Ribs Mannn 2200 บาท

5.Yellow Submarine 590 บาท

6.ค่าน้ำมัน 1500 บาท ( รอบนี้เปลี่ยนรถไปมา เลยเฉลี่ยให้ซะเลย 3 คัน )

7.ค่าสแนค ขนม นมเนย เครื่องดื่มที่ซื้อไปคอนโด จิปาถะ 1100 บาท



ทั้งหมด 11,390 บาท ....ยิ่งไปเยอะยิ่งหารน้อยลง อิอิ

สรุปแล้วทริปนี้สำเร็จค่างบคนละ 2000 แถมได้เงินทอนคนละ 100 อิอิ



พบกันใหม่ทริปหน้า....รักกันชอบกัน ตามไปพูดคุยกันได้ที่เพจ ลาเต้ปั่นเย็นๆนะค้าาาาา สวัสดีค่ะ

https://www.facebook.com/lattepunyenyen/

ลาเต้ปั่นเย็นๆ

 วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 16.04 น.

ความคิดเห็น