เที่ยวชิลๆ ระยองฮิ พักที่Kantary Bay Rayong

รู้สึกได้ว่า ช่วงนี้ระยองกำลังมา

ใครๆ ก็ไประยองกัน จะหาด จะทุเรียน จะทุ่งโปรงทอง ดูน่าสนใจไปหมด

แถมระยะทางยังไม่ไกลจากกรุงเทพสักเท่าไหร่ด้วย

แล้วเราจะรออะไร รีบเก็บกระเป๋า แล้วไปซิ่งกันดีกว่า

การเดินทางครั้้งนี้เราเลือกใช้บริการรถเช่าของ AVIS

ราคาเช่าก็สบายๆ ค่ะ 980 บาท รวมประกันเรียบร้อยวงเงินมัดจำก็ไม่ได้สูงเว่อร์เหมือนบางบริษัท

เรารับรถที่สนามบินดอนเมือง เคาเตอร์จะอยู่ตรงหน้าประตูผู้โดยสารขาเข้าเทอร์มินอล 2 เห็นชัดเจนเลย

สำหรับใครมองหารถเช่า หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

ช่องทางนี้ได้เลยค๊า

http://www.avisthailand.com/TH/

https://www.facebook.com/avisthai

หรือโทร 02-2555300-4 / 081-3785697

รถที่เราใช้ครั้งนี้ Toyota Yaris คันไม่ใหญ่ขับง่าย ประหยัดน้ำมันสุดๆ

เรามุ่งหน้าไปที่พักก่อนเลยค่ะ เราพักที่ Kantary Bay Rayong Hotel

โรงแรมตั้งอยู่ที่หาดแสงจันทร์ จากดอนเมืองใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

มาถึงโรงแรมซะเกือบเย็นเลยค่ะ โชคดีที่ฟ้าฝนอากาศดีมาก

มาทะเลทั้งที เจอฟ้าแบบนี้ยิ้มแก้มปริ

ล็อบบี้ของแคนทารี เบย์ ระยอง กว้างและโล่งมาก เพดานสูง

มีโซฟานุ่ม ๆ ให้นั่งรอกันสบายๆ เยอะมาก แม้จะมาเช็คอินพร้อมๆ กันหลายคณะ ก็ไม่เป็นไร

ที่นี้จะไม่มี Welcome drink แต่เราจะได้รับเป็นคูปอง

เพื่อไปแลกรับเป็นเครื่องดื่มได้ที่ห้องอาหาร มีทั้งน้ำผลไม้ ค็อกเทล และเบียร์

ได้คนละแก้วนะคะ

มีความอยากอวดห้องมาก

เช็คอินเสร็จ เราเข้าห้องกันก่อนเลยคะ

ห้องที่เราพักเป็น One Bed Room (แคนทารีเบย์ระยองมีทั้ง 4 Type ได้แก่ Studio/ 1 bed room / 2 bed room /3 bed room

ห้องของเราอยู่ชั้น 10 ตอนนี้ยังเดินไม่ถึงห้อง แวะดูวิวระหว่างทาง

เจอฟ้าเจอทะก็ฟิน

เข้ามาถึงห้องปุ๊บ

วิ่งออกไปดูตรงระเบียงก่อนเลย ระเบียงห้องเราไม่กว้างมากนัก

มีโต๊ะและเก้าอี้วางอยู่ให้นั่งรับลมทะเลกันชิลๆ

แต่ประเด็นหลักมันอยู่ตรงนี้

วิวจากระเบียงห้อง รับไปเลยคะแนนเต็ม 10 สำหรับมุมนี้

เรามองเห็นหาดแสงจันทร์แบบ 180 องศาเลย มันสวยมาก มุมนี้สวย

ดูระเบียงกับมุมทำงาน ที่ใครๆ ต้องตกหลุมรัก

ดูห้องในมุมกว้างๆ กันบ้าง ว่าภายในห้อง One BedRoom มีอะไรบ้าง

เป็นห้องที่เพียบพร้อมมาก

มีทั้งโต๊ะอาหาร มุมนั่งเล่น มุมทำงาน และครัว


โซฟานุ่มๆ หน้าห้องนอน นั่งดูทีวี ดูทะเล

มาดูในครัวกันบ้าง มันเด็ด และครบจริงๆ

มีทั้งเครื่องครัวตู้เย็น เครื่องซักผ้า

เรียมอาหารมาทำทานเองได้สบาย แต่เราชอบตรงมีเครื่องซักผ้า

เราว่ามันเหมาะกับเรา บางทีเราเดินทางติดต่อกันหลายๆ วัน

ถ้าเราเจอที่พักที่มีเครื่องซักผ้านี่ คือดีใจมาก

ไปดูในห้องนอนกันต่อ

ภายในห้องนอนค่อนข้างโล่งๆ

ไม่ได้มีข้าวของมากมาย มีเพียงเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า

ห้องน้ำ มีทั้งอ่าง ฝักบัว และเรนโชว์เวอร์ มีกระจกกั้นแบ่งส่วนเปียกแห้งเรียบร้อยเลย

หลังจากสำรวจห้องเสร็จ

เรายังเลือกที่จะไม่ออกไปไหน บอกแล้วว่าเน้นชิลล์

ของใช้ Facility ในโรงแรมให้คุ้มก่อนดีกว่า

ที่นี้มีสระว่ายน้ำถึง 2 สระ ลงไปเล่่นมันทั้ง 2 สระเลย

สระนี้จะอยู่บริเวณด้านในโรงแรม

มีสระจากุซซี่ด้วยนะ

เหนื่อยๆ มา ลงไปนอนแช่ ฟินน่าดูเลยละ

อีกสระอยู่บริวเณด้านโรงแรม สระนี้ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว

ใกล้ๆ กันมีฟิตเนสด้วย ถ้าใครที่ออกกำลังกายที่ฟิตเนสก่อน แล้วลงว่ายน้ำต่อได้เลย

มาถึงโต๊ะสนุก เป็นอีกอย่างที่ให้บริการฟรี ห้องนี้มีไฟมีแอร์พร้อมนะ

หากจะเล่น ให้เดินไปบอกพนักงาน จะมีคนมาเปิดประตูให้

ใกล้ๆ กันมีโต๊ะปิงปอง … โต๊ะนี้เราถนัด (ถนัดเก็บลูกค่ะ )

เทนนิสก็มีนะคุณ กีฬาจะเยอะไปไหน

สนามนี้ขอผ่าน ไม่ถนัด ร้อนด้วย กลัวดำ (มากกว่าที่เป็นอยู่)

แต่ก็ยังไม่หนำใจ เดินมาเจอห้องเกมส์

สงสัยที่นี้อยากให้คนมาพักได้พักอยู่ในที่พักแบบเต็มที่ไม่ต้องออกไปไหน

เพราะมีกิจกรรมให้เยอะมากจริงๆ

แต่ของที่อยู่ในห้องเกมส์ จะมีค่าใช้จ่ายนะ ค่ะ

และสิ่งที่น่าสนใจที่สุดอยู่ที่โบว์ลิ่ง

กรุณาอย่าถามว่าเล่นเป็นใหม่ อายที่จะต้องตอบว่าไม่เป็น

แต่ราคาต่อเกมส์ไม่แพง ลองเล่นซะหน่อย ล้างท่อกันสะอาดเลยทีเดียว

จบจากกิจกรรมสนุกๆ ได้เวลาอาหารเย็น ตอนแรกตั้งใจจะออกไปอาหารทะเลทานข้างนอก

แต่จู่ๆ นายต้น ก็บอกว่าเหนื่อย ไม่อยากขับรถ ค่อยตะลุยกันพรุ่งนี้ดีกว่า

เราจึงได้จัดการมื้อเย็นกันที่โรงแรม ที่ห้องอาหาร No.43

ห้องค่อนข้างโรง โทนสีขาวครีม ทำให้ดูสว่าง สะอาด น่านั่งเลยทีเดียว

ระหว่างรออาหารหม่ำขนมปังรอไปก่อนน๊า

พอไม่ได้กินซีฟู๊ดตามใจยาก

ก็จัดมันซะอาหารชีสๆ ซะเลย

เริ่มจากผักโขมอบชีส เมนูโปรด ถ้าหากมาที่นี้แนะนำเลยค่ะ จานใหญ่ และอร่อยมาก


จานที่สองก็ยังมีความชีส เพราะเป็นพิซซ่า แป้งบางกรอบ

สุดท้ายจัดหนักตามสไตส์นายต้น

จานนี้อร่อยดีนะไม่มีกลิ่นคาว ไม่เหนียว เราแอบชิมไปคำนึง

ทานเสร็จก็เริ่มมืดพอดี ช่วงเวลากลางคืนเงียบสงบดีค่ะ

บริเวณหน้าโรงแรมจะมีร้านอาหารมาวางบริเวณ หาดแสงจันทร์ด้วยไปนั่งดื่มชิลไม่น้อยเลยละ

Good Morning

เช้าอีกวัน ตื่นสาย ลืมตาขึ้นมาอีกทีตะวันโด่ง

รีบอาบน้ำอาบท่า..ลงไปกินอาหารเช้า ที่ห้องอหาร No.43 เหมือนเดิม

บรรยากาศตอนเช้าดูหวานเช้า แสงอ่อนๆ ลอดผ่านมาทางหน้าต่างบานกระจก

อาหารเช้าที่นี้จะเป็น บัฟเฟ่ต์

ซึ่งเยอะมาก และมีความหลากหลาย

และแปลกที่สุดคือมีข้าวญุี่ปุ่น เราพึ่งเคยเจอที่นี้เป็นที่แรกสำหรับข้าวญี่ปุ่นเป็นอาหารเช้า


สำหรับคนรักสุขภาพมีน้ำเต้าหู้ด้วยนะเออ .. เก๋สุดๆ

ไม่ว่าจะรักสุขภาพขนาดไหน … สิ่งที่เราขาดไม่ได้คือกาแฟ

ทานข้าวเช้าเรียบร้อย เดินให้ย่อยกันสักหน่อย

เดินผ่านห้องจัดเลี้ยง มันสวยมาก แว๊บเข้าไปแชะภาพมาสัก 2 แชะ

ห้องสวย คลาสสิคใหม่เอี่ยมเลย

เรามานั่งแบรคช่วงสายๆ อยู่ที่ห้องอ่านหนังสือ

อันที่จริงไม่ได้อ่านหรอกหนังสงหนังสือ แค่เราเราชะเง้อหน้าไปเห็น

ก็เลยลองขึ้นไปดู แต่ปรากฎห้องสวยมาก

เราว่าห้องนี้เหมาะสำหรับจัด afternoon tea ได้เลย

แถมยังมองเห็นวิวทะเลไกลๆ ด้วยนะ

ในห้องนอกจากมีหนังสือให้อ่านแล้ว ยังมีเครื่องดื่ม ชากาแฟ คุ๊กกี้ และผลไม้บริการฟรีด้วยนะ

เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ได้ใจ เราไปเลย

ต่อจากนั้นเราขอไปดูห้องพัก Type อื่นๆ

เริ่มกันที่ Type เริ่มต้นคือ Studio

ห้องค่อนข้างกว้าง และโล่งค่ะ มีระเบียงที่กว้างและยาวมาก

มีมุมโซฟาน่ารักๆ มีโต๊ะเครื่องแป้ง และมุมทำงานเล็ก

แต่ห้อง Type นี้จะไม่มีเครื่องครัว เครื่องซักผ้านะคะ

ต่อมาเป็น Two Bed Room

ตามชื่อเลยคะ เป็นห้องที่มี 2 ห้องนอน มาเป็นก๊วนนี่สนุกเลยนะ

หรือมากับครอบครัว เราว่ามันเจ๋งเลย

จะมีห้องโถ่งอยู่ตรงกลาง

มีโต๊ะวางทีวี วางกั้นระหว่าง ห้องนั่งเล่น และห้องทานอาหาร

มีครัวแยกออกชัดเจน เครื่องครัวครบครัน

อย่างที่บอกว่ามาเป็นก๊วน เหมาะมาก เพราะมีครัว ให้เราอะไรกันกันสนุก ๆ จอยกันได้เต็มที่



สุดท้าย Three Bed Room เป็น Type ที่ใหญ่ที่สุด และสวยที่สุด

วิวห้องนอนหลักล้านเลยทีเดี่ยว

ห้องโถง ใหญ่ กว้างโล่ง

ระเบียงอลังการสุดๆ มีห้องนอนถึง 3 ห้องด้วยกัน

โดยมีห้องนอนใหญ่ วิวอลัง 2 ห้อง และห้องนอนเล็ก อีก 1 ห้อง

เดินดูห้องจนครบ ตั้งใจจะออกไปเที่ยว

ไม่ว่าจะตลาดบ้านเพ เขาแหลมหญ้า ทุ่งโปรงทอง นั่งชิลร้านกาแฟ

แต่ก่อนออกพนักงานแจ้งว่า วันนี้มีบัฟเฟ่อาหารญี่ปุ่น

เท่านั้นแหละค๊าา ตาลุกวาว

แต่พอมาดูจริงๆ ไม่ได้มีแค่อาหารญี่ปุ่นอย่างเดียวน๊า

มีสารพัดอาหารเลย

สายยำก็มี อิตาเลี่ยนก็มา อาหารไทย อย่างหอยทอดยังมีเลย คุ้มจริงๆ

แต่ของจริงอยู่นี่ ซาซิมิ ถูกใจนายต้นเขาล่ะ เพราะขานั้น

กินปลาดิบเป็นว่าเล่น

พวกซูชิ อูด่งก็มีนะ

แต่สำหรับเราสายของหวาน

และกล้าบอกได้เลยว่า ตั้งแต่กินขนมหวานในไลน์อาหารพวกบัฟเฟ่ต์

ขนมของที่นี้ฟินสุด อร่อยสุด (รสชาติอาหารเป็นรสชาติเฉพาะคนน๊า)

มื้อเที่ยงเสร็จ ก็รีบออกไปเที่ยวกันเลยค่ะ กลัวเวลาไม่พอแต่ขอไปเดินเล่นโรงแรมอีกสักนิด เพราะสวยจริงๆ

เขาว่ากันว่า มาถึงระยองต้องกินทุเรียน แถมยังเป็นช่วงฤดูกาลของทุเรียนพอดิบพอดี

เราอยากไปกินแบบบัฟเฟ่ต์มาก แต่นายต้นเป็นคนที่ไม่กินทุเรียน

ความอดเลยมาเยือน

เราจึงไปเลือกซื้อที่ตลาดตะพง เพราะอยู่ติดถนนใหญ่เลย

เป็นคนใจง่ายมาก ไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่ศึกษาอะไรทั้งนั้น แค่เห็นทุเรียนเจ้าแรกเราวิ่งเข้าไปเลย

จะซื้อทั้งลูกก็กินไม่หมด เอาขึ้นรถก็ไม่ได้ เอากลับโรงแรมก็ไม่ได้ เลยได้มาแพคนี้

ราคา 150 บาท รสชาติอร่อยถูกใจ หอมหวานมัน สุกกำลังดีในแบบที่เราชอบ คือไม่แข็ง และไม่เละ

ซื้อปุ๊บเดินกินปั๊บ (ลืมเรื่องมารยาทไปชั่วขณะ)

แต่หลังจากเรากินเสร็จ เราได้รู้ว่า มาถึงระยองเขาต้องกินทุเรียนนกกระจิบนะคุณ

แอบเศร้ามากที่เราอดกิน และไม่สามารถซื้อกลับได้ ปีหน้าเราจะกลับไปหาเธอใหม่นะนกกระจิบ

ที่ตลอดตะพง นอกจากพวกผลไม้แล้วยังมีพวกอาหารทะเลอีกเพียบเลยค่ะ

ราคาถูกกว่าบ้านเราด้วย

กินทุเรียนกันเสร็จก็ไปต่อที่เขาแหลมหญ้ากันเลยค่ะ

ตอนแรกเราไม่ได้มีที่นี้อยู่ในแพลนเลย คิดถึงแต่ทุ่งโปร่งทอง

แต่มีเพื่อนแนะนำว่าที่นี้สวย…ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก แต่พอไปเจอเท่านั้น

มันสวยมัน และเด็ดจริงๆ

เรามาทำความรู้จักกับเขาแหลมหญ้ากันสักนิด

เขาแหลมหญ้า เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง

การเดินทาง

รถถส่วนตัว – แนะนำทางง่ายๆ วิ่งถนนสุขุมวิท ไปทางจันทบุรี จนเจอสี่แยกตะพง ให้เลี้ยวขวาตามป้ายไป หาดแมรำพึง จากนั้นก็วิ่งตามถนนเลียบหาดไปจนสุดหาด จะเจอโค้งบังคับซ้าย พอโค้งมาแล้ว ให้ชะลอรถ แล้วสังเกตด้านขวามือ จะเจอทางเข้า อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด

รถโดยสาร เริ่มที่บ้านเพ – ถ้าเดินทางจาก กรุงเทพฯ ให้ขึ้นรถที่เอกมัย มาลงบ้านเพ จากนั้นเหมารถสองแถวไปอุทยาน ขออภัยอย่างยิ่งที่ตัวกระผมนั้นไม่ทราบราคารถเหมา

รถโดยสาร เริ่มที่ขนส่งระยองทางแรก ให้มองหา รถสองแถวสีฟ้าที่เขียนว่า ระยอง-หาดแม่รำพึง รถคันนี้จะวิ่งถนนเลียบหาดแม่รำพึง แล้วผ่านหน้าอุทยานพอดี แต่วันเสาร์-อาทิตย์ จะมีรถวิ่งน้อยหน่อยนะครับ

รายละเอียด
เบอร์โทร อุทยาน: 038-653034, 085-8129366
Facebook: อุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด
เวลาเปิด – ปิด: 08:30-16:30 น.
ค่าเข้าอุทยาน: ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท
เวลาเปิด – ปิด ร้านอาหารในอุทยาน: 07:00-20:00น.
ห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำ: มีบริการ
GPS: 12.593925, 101.417317

เรามาถึงเขาแหลมหญ้า ประมาณ บ่าย 3 โมง ตอนแรกแค่ตั้งใจจะถ่ายรูปนิดหน่อยเท่านั้น

ทุ่งโปร่งทองยังคงอยู่ในหัว แต่พอเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

…ความรู้สึกบอกว่า วันนี้คงไปทุ่งโปร่งทองไม่ทันแล้วหล่ะ โอกาสหน้าแล้วกันเนอะ

เขาแหลมหญ้ามีแลนด์มาร์ค ให้เราได้ถ่ายรูปกันเยอะมาก

แนะนำว่าให้มากันช่วงเย็นนี่แหละค่ะ พระอาทิตย์ตกจะสวยมาก ๆ

บางคนก็มากางเต้นท์ นอนฟังเสียงคืน แหนหน้าดูดาว ฟินไม่ใช่เล่นเลย

เขาแหลมหญ้า มีลักษณะเป็นแหลมที่ยืนออกไปในทะเล

โขดหินช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ที่นี้เยอะมาก

ทุกโขดมีความสวยที่ต่างกัน

และเสน่ห์เล็กๆ ที่เราว่ามันสวย เจ๋ง และเก๋มาก

คือสะพานไม้ธรรมดา ๆ มีเชือกเป็นราวจับ

แต่มันดูเป็นอะไรที่เข้ากันกับทางเดินที่เราเดินเลาะไปยังยอดเขา

กลายเป็นมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ

งานนี้พร็อพต้องมากค่ะ

คนไม่พร้อม ชุดไม่พร้อม เอาน้องแพนด้าเปนพร็อพไปก่อนละกัน

แม้ว่าระยะทางจากจุดจอดรถไปยังยอดเขาแหลมหญ้า จะสั้นนิดเดียว

แต่เราใช้เวลาเดินเป็นชั่วโมง

ไม่ใช่เพราะทางลำบาก …แต่เป็นเพราะทางมันสวยมาก

เดินไปก็หยุดไปถ่ายไป ชื่นชมไป


อีกไม่นานก็คงมือด ตะวันเริ่มคล้อยลงต่ำแล้ว

จุดนี้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

อากาศดีมาก ลมแรง กลิ่นไอทะเลมาเต็ม

สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปให้เต็มปอด ก่อนกลับเข้าสู่โลกความเป็นจริง


สำหรับมื้อค่ำวันนี้เรากลับมาแวะที่ร้าน Cafe Kantary Rayong ร้านจะอยู่ในเมือง

ริมถนนสุขุมวิท ด้านหน้าโรงแรม Kameo

ดูจากด้านหน้า.. ร้านเป็นเพียงร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์

แต่พออผ่านประตูเข้ามาเท่านั้น อึ้งเลยค่ะ

ร้านสวยมาก มีแบ่งออกเป็นโซนด้านหน้า มีตู้เบเกอรี่ ที่ทำให้เราตาลุกวาวเลย

น่าหม่ำทุกอย่างจริงๆ และมีโซนที่นั่งด้านในสวยคลาสสิค หรูหรามาก

มาดูเมนูที่เราเลือกทานกันบ้าง

เครื่องดื่มมาก่อนเลยค่ะ มาถึงที่ต้องลองค่ะ Coffee kantary เข้มข้นดีงาม

เซ็ตนี้คือ Hot Chocolate Soft

เป็นเมนูเก๋ๆ ที่อร่อยมาก ในเซ้ตจะมีนมร้อน 1 แก้ว ช็อคโกแลตสุดอร่อย 1 แท่ง มาพร้อมวิปปี้งครีม

เวลาทานให้เรานำแท่งไอศครีมจุ่มในวิปปิ้งครีมค่ะ หวานมันเข้มข้นมาก แล้วดื่มนมร้านตาม

เป็นเมนูที่ดูกินยาก แต่สนุกกับการกิน และอร่อยมากค่ะ

อาหารอร่อยแบบอิ่มท้องกันบ้าง เครปแฮมไข่

เป็นเมนูที่อร่อยอีกเมนูเลยค่ะ แป้งเครปนิ่มมาก ไม่หนักท้องจนเกินไปด้วย

ด้านนมีไส้ผักโขม แฮม และชีส ถูกใจคนรักชีสมาก

จานนี้เกี๊ยวซ่าชีส … ถ้าใครเห็นนุ้ยไม่ผอมลง ไม่ต้องแปลกใจ

ดูเมนูที่เราเลือกกินซะกิน จานนี้มีความอร่อย และกลมกล่อมมาก

เวลาทานแนะนำให้หันครึ่ง แล้วตักให้ติดชีสด้วยนะ ฟินเลย

เอาละมาถึงเมนูนี้ลืมชื่อเมนูค่ะ แต่ถ้าจำไม่ผิดคือข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง

เป็นเมนูที่ต้องบอกว่าหนักท้องเอาการเลย แต่นั่นหมายถึงการอิ่มและอร่อย

ต้มยำกุ้งที่ราดมาเข้มข้นและอร่อยมากๆ แนะนำต้องลอง

เมนูนี้ก็อร่อยไม่แพ้กัน สปาเก็ตตี้กุ้งชุปแป้งทอดโรยด้วยไข่กุ้งและสาหร่าย

รสชาติเหมือนคาโบนาร่าค่ะ แต่ท็อปด้วยกุ้งทอดและไข่กุ้งนั่นเอง

ปิดท้ายด้วยของหวาน เอ็กโซติก ฟรุ๊ต เครป

สำหรับหลายคนที่เคยทานอาหารที คาเฟ่แคนทารี ต้องรู้แน่นอนว่าเครปของที่นี้เด็ดสุด

ชิ้นใหญ่มาก ใส่วิปครีมมาให้แบบไม่ยั้งกันเลยทีเดียว มาพร้อมผลไม้หลายชนิดมาก

ลูกพลับ ลูกแพร กีวี่ เชอร์รี่ ราดด้วยซอสส้ม หวานอมเปรี้ยว อร่อยสุดๆ

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับทริปนี้ ….

กินอิ่ม พักสบาย เที่ยวแบบชิคๆ ชิลๆ เหนื่อยก็พัก หิวก็ทาน

ว่างๆ เราจะกลับมาหาเธอใหม่นะระยอง …ขอติดค้างทุ่งโปรงทอง และนกกระจิบเอาไว้ก่อน

จะได้มีข้ออ้างในการกลับมาเที่ยวระยองอีกครั้ง

——————————————–

ลิงค์ VDO

https://goo.gl/NqaYQI

http://goo.gl/fre89c

——————————————–

ข้อมูลโรงแรม

Kantary Rayong Hotel & Service Apartment

ที่ตั้ง : 50 ถ.เลียบชายฝั่ง ต.ปากน้ำ, ตัวเมืองระยอง เมืองระยอง ระยอง 21000

โทร : 0-3880 – 4844, 0-3861 – 9025

เว็บไซต์ : http://www.kantarycollection.com/kantarybay-rayong/

————————————————-

ขอบคุณเพื่อนๆ สำหรับการติดตามกันนะค่ะ

ทักทายกันได้ที่ช่องทางเล่านี้

Facebook : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels/

Instagram : https://www.instagram.com/mylifemytravel/

Website : http://www.mylifemytravels.com/

YouTube : https://goo.gl/Gync7Y

ความคิดเห็น